บทที่ 2047 ความประมาท

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

นิยาย เทพปีศาจหวนคืน เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2047 ความประมาท

 

เมื่อเทพธิดาจื่อเว่ยและคนอื่นๆมาถึง พวกเขามองเห็นเพียงค้างคาวสีดําจํานวนนับไม่ถ้วนเท่านั้น

 

ค้างคาวดําเป็นผู้ปกครองของนรกชั้นนี้ ตอนนี้พวกมันรู้สึกเหมือนถูกยั่วยุและกําลังโกรธมาก

 

ค้างคาวดําแรกกําเนิดสั่งค้างคาวดําบรรพกาลขณะที่ค้างคาวดําบรรพกาลสั่งค้างคาวดําเดียว ดาย ฝูงค้าวคาวดําจํานวนมหาศาลพุ่งเข้าโจมตีนิกายเงา ถ้ําสวรรค์นิรันดร และวังสวรรค์อย่างบ้าคลั่ง

 

แม้ทั้งสามฝ่ายจะเป็นกองกําลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน แต่การเคลื่อนไหวของพวก เขายังหยุดชะงัก

 

“เหตุใดจึงมีค้างคาวมากมายนัก!?”

 

“เราต้องกําจัดค้างคาวเหล่านี้”

 

“พวกมันมีมากเกินไป เราไม่สามารถเสียเวลาที่นี้ เป้าหมายหลักของเราคือฟางหยวน!”

 

ทั้งสามฝ่ายพุ่งเข้าหาฝูงค้างคาวและพยายามทะลวงผ่านพวกมัน

 

ผู้อมตะทั้งหมดล้วนเป็นผู้อมตะระดับแปดที่แข็งแกร่ง แม้ค้างคาวจะมีจํานวนนับไม่ถ้วน แต่พวกมันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา

 

อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาสามารถหลบหนีจากฝูงค้างคาว พวกเขากลับไม่พบเรือรบหมื่นปีเทพปีศาจจิตวิญญาณ ชิงโจว หรือบรรพชนทะเลปราณ

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

“พวกเขาอยู่ที่ใด ไม่มีเบาะแสเหลืออยู่เลย!”

 

“เป็นไปไม่ได้ เราติดตามร่องรอยการต่อสู้ของพวกเขามาตลอด”

 

กลุ่มผู้อมตะรู้สึกไม่มีนงง

 

แท่นบูชาแห่งโชคระเบิดแสงสีทองออกไปทําให้ค้างคาวที่อยู่รอบๆสลายตัวและเปิดพื้นที่โล่ง ขนาดใหญ่

 

เสียงของปิงช่ายฉวนดังขึ้นอย่างไม่สามารถอดทน “เทพธิดาจื่อเว่ย บอกข้า ฟางหยวนอยู่ที่ใด?”

 

เฒ่าเพิ่งหยวนก่นเสียงเย็น “เราจะรู้ได้อย่างไร?

 

ฉินติงหลิงเย้ยหยัน “นิกายเงา พวกเจ้าคิดว่าเราไม่รู้อุบายของพวกเจ้าจริงๆงั้นหรือ? พวกเจ้าไม่ไล่ล่าพวกเขาเพราะพวกเจ้าต้องการขัดขวางพวกเรา!”

 

ฉินติงหลิงพยายามหว่านความไม่ลงรอย

 

ฟางหยวน เทพปีศาจจิตวิญญาณ ชิงโจว และบรรพชนทะเลปราณหายตัวไปทั้งหมด มันแปลกเกินไป กองกําลังทั้งสามฝ่ายที่ไล่ตามพวกเขารู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก

 

เทพธิดาจื่อเว่ยขมวดคิ้วกล่าว “เราขาดการติดต่อกับเจ้านายของเรา ข้าคิดว่ามีกองกําลังอื่นเข้าแทรกแซง สิ่งสําคัญในเวลานี้คือการค้นหาพวกเขา หากเราต่อสู้กันเอง มันจะเป็นประโยชน์ต่อกองกําลังภายนอก”

 

ปิงชายฉวนกล่าวเสียงเย็นโดยไม่ปิดบังเจตนาสังหาร “เช่นนั้นก็แสดงความสามารถของผู้ เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาให้ข้าดู

 

“ฮีม คอยดู เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวขณะที่นางเริ่มใช้ท่าไม้ตายอมตะเพื่ออนุมาน

 

ฉินติงหลิงไม่พูดแต่นางก็ไม่ปิดบังเจตนาสังหาร หากนางพบกลอุบายใดๆ ทั้งสวรรค์จะโจมตีนิกายเงาทันที

 

“ก็ซ..”

 

ฝูงค้างคาวที่อยู่รอบๆพุ่งเข้าโจมตีพวกเขาอีกครั้ง กลุ่มผู้อมตะลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเริ่มต่อสู้กับพวกมันเพื่อปกป้องเทพธิดาจื่อเว่ย

 

ร่างของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องแสงสีม่วงทองออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

ใบหน้าของนางกลายเป็นซีดขาว พลังงานอมตะของนางถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเวลาผ่านไป นางก็เปิดเปลือกตาขึ้น

 

ภายใต้การจ้องมองของทุกคน นางถอนหายใจ “ข้าอนุมานได้ว่าพวกเขาอยู่ในเขตแดนอมตะนั่นทําให้พวกเราไม่สามารถสัมผัสถึงพวกเขา”

 

“เขตแดนอมตะงั้นหรือ?”

 

“ผู้ใดจะซุ่มโจมตีอยู่ที่นี่?”

 

“ฮีม เจ้ามีหลักฐานหรือไม่?”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยเย้ยหยัน ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่บนเส้นทางแห่งปัญญา นางจะไม่พูดโดยไร้หลักฐาน นางแยกฝูงค้างคาวออกและนํากลุ่มผู้อมตะไปพบกับกลิ่นอายของเส้นทางปฐพีที่กําลังจะสลายไป

 

“มันเป็นกลิ่นอายของเส้นทางแห่งปฐพี!”

 

“มันเป็นเขตแดนอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพี่จริงๆ!

 

“ข้าจะค้นหามัน!”

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์เคลื่อนไหวทันทีด้วยความมั่นใจ แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็กลับมามือเปล่า

กลิ่นอายของเส้นทางแห่งปฐพี่หายไปในที่สุด มีเพียงฝูงค้าวคาวเท่านั้นที่ยังโจมตีพวกเขาอย่างไม่หยุดยั้ง

 

การแสดงออกของทุกคนกลายเป็นน่าเกลียด

 

บางคนเริ่มสงสัยนิกายเงา บางคนกําลังคิดวิธีค้นหาเขตแดนอมตะ บางคนถูกบังคับให้ต่อสู้กับฝูงค้างคาว

 

ปิงช่ายฉวนรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง

 

เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกหนักใจเช่นกัน นางจัดการฝูงค้างคาวก่อนจะเปิดปากถามวงสวรรค์ “พวกเจ้าน่าจะคุ้นเคยกับวิธีการบนเส้นทางแห่งปฐพีนี้มากที่สุด วังสวรรค์ พวกเจ้าคิดอย่างไร?”

 

ฉินติงหลิงเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะตอบกลับ “แท้จริงแล้วมันคล้ายกับวิธีการของเทพอมตะสวรรค์พิภพ ตอนนี้เราทําได้เพียงค้นหาและทําลายมัน!”

 

“ดังนั้นมันก็คือกองกําลังของเทพอมตะสวรรค์พิภพ ไม่แปลกใจเลย…” ปิงช่ายฉวนเข้าใจทันที

 

ท่ามกลางผู้อมตะระดับเก้าในประวัติศาสตร์ เทพอมตะสวรรค์พิภพมีความเชี่ยวชาญด้านเขตแดนอมตะมากที่สุด สนามรบกลับชาติมาเกิดของเขาอยู่ในภาคกลางและถูกใช้งานโดยสิบนิกายโบราณมาจนถึงปัจจุบัน

 

แต่เหตุใดกองกําลังของเทพอมตะสวรรค์พิภพจึงเคลื่อนไหว?

 

ไม่มีผู้อมตะคนใดรู้สึกประหลาดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

เทพอมตะสวรรค์พิภพและเทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นขั้วตรงข้าม นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ดี ย้อนกลับไปเทพปีศาจจิตวิญญาณเข่นฆ่าสิ่งมีชีวิตทําให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ ผู้คนทั้งห้าภูมิภาคใช้ชีวิตอยู่ในความหวาดกลัว ฝ่ายธรรมะอ่อนแอขณะที่ฝ่ายปีศาจพุ่งทยาน อย่างไรก็ตามตั้งแต่เทพอมตะสวรรค์พิภพเริ่มบ่มเพาะ เขาทํางานอย่างหนักเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ สุดท้ายเขาสามารถนําความสงบสุขกลับคืนสู่โลกใบนี้และหยุดฝ่ายปีศาจ

 

เนื่องจากอุดมการณ์ที่แตกต่างของเทพอมตะสวรรค์พิภพและเทพปีศาจจิตวิญญาณ กองกําลังที่ศรัทธาในตัวพวกเขาจึงมีความขัดแย้งกันอยู่เสมอ

 

“การค้นหาและทําลายเขตแดนอมตะของเทพอมตะสวรรค์พิภพไม่ใช่เรื่องง่าย…” ปิงช่ายฉวยรู้สึกลําบากใจ

 

“เหตุใดกองกําลังของเทพอมตะสวรรค์พิภพจึงเคลื่อนไหวและเหตุใดพวกเขาถึงมาซุ่มโจมตีอยู่ที่นี่?” บางคนถาม

 

คําถามนี้ทําให้ใบหน้าของเทพธิดาจื่อเว่ยกลายเป็นมืดครึม

 

“ต้องเป็นฟางหยวน!” แม้จะไม่มีหลักฐาน แต่เทพธิดาจื่อเว่ยก็ยังกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ

 

นางต่อสู้กับฟางหยวนมาหลายครั้ง นางมีประสบการณ์ของความพ่ายแพ้มานับครั้งไม่ถ้วน

 

ทุกครั้งที่นางคิดว่าชัยชนะใกล้เข้ามา ฟางหยวนจะพลิกสถานการณ์เสมอ

 

สถานการณ์ปัจจุบันก็เช่นกัน เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างมาก

 

ฉินติงหลิงเห็นด้วยกับการอนุมานของเทพธิดาจื่อเว่ย “เราไล่ล่าฟางหยวน แต่จากมุมมองอื่น เขานําเรามาที่นี่ เขาวางแผนไว้แล้ว หากเขาร่วมมือกับกองกําลังของเทพอมตะสวรรค์พิภพ สถานการณ์นี้ก็สามารถเข้าใจได้ แต่เหตุใดกองกําลังของเทพอมตะสวรรค์พิภพถึงร่วมมือกับปีศาจเช่นฟางหยวน นอกจากนั้นเราก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นกองกําลังใดของเทพอมตะ สวรรค์พิภพ”

 

เทพอมตะสวรรค์พิภพเป็นเทพอมตะคนสุดท้ายในประวัติศาสตร์ เป็นธรรมดาที่เขาจะทิ้งกองกําลังมากมายเอาไว้เบื้องหลัง

 

นอกจากนี้ยังมีกองกําลังที่ศรัทธาในตัวของเทพอมตะสวรรค์พิภพอยู่ด้วย

 

วังสวรรค์มีต้นกําเนิดมาจากเทพอมตะแรกกําเนิด เทพอมตะกลุ่มดาว และเทพอมตะบัวสวรรค์ ถ้ําสวรรค์นิรันดรมีเทพอมตะตะวันเดือด นิกายเงาและกองกําลังพันธมิตรผีดิบถูกควบคุมโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

อย่างไรก็ตามเทพอมตะสวรรค์พิภพแตกต่างจากกองกําลังเหล่านั้น เขาช่วยเหลือกองกําลังต่างๆเอาไว้มากมาย ตัวอย่างเช่นเผ่ามนุษย์เงือกของทะเลตะวันออกหรือเผ่ามนุษย์เห็ดของภาคใต้

 

เทพอมตะสวรรค์พิภพช่วยเหลือผู้อมตะจํานวนนับไม่ถ้วน เขาสร้างถ้ําสวรรค์และแดน ศักดิ์สิทธิ์มากมาย

 

เขายังช่วยเหลือสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานเอาไว้ไม่น้อย ตัวอย่างเช่นวาฬมังกรฟ้า

 

เทพอมตะสวรรค์พิภพไม่เพียงช่วยเหลือมนุษย์แต่เขายังช่วยมนุษย์กลายพันธุ์และสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

 

เขาเป็นเทพอมตะที่มีความเมตตามากที่สุด แม้เทพอมตะบัวสวรรค์ของวังสวรรค์จะช่วยเหลือผู้คนมากมายเช่นกันแต่เขาช่วยเพียงมนุษย์ เขาไม่สนใจมนุษย์กลายพันธุ์ นอกจากนี้เขายังมุ่งเน้นที่การช่วยเหลือผู้คนจากภัยธรรมชาติและการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยเท่านั้น

 

ผู้อมตะระดับเก้าคนอื่นๆล้วนมีวิธีการโจมตีของตนเองแต่เทพอมตะสวรรค์พิภพเป็นคนเดียวที่ไม่มีวิธีการโจมตีเป็นของตนเอง

 

เทพอมตะสวรรค์พิภพทิ้งมรดกที่แท้จริงของเขาไว้ในสถานที่ต่างๆ ถ้ําสวรรค์ของเผ่ามนุษย์เห็ดแห่งภาคใต้เป็นหนึ่งในนั้น ด้วยเหตุนี้ลั่วเว่ยหยินที่เป็นผู้ปกครองและผู้ดูแลถ้ําสวรรค์แห่งนั้นจึงถูกเรียกว่าผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพ

 

เนื่องจากเทพอมตะสวรรค์พิภพมีกองกําลังกระจัดกระจายอยู่มากเกินไป ดังนั้นทุกคนจึงไม่สามารถคาดเดาว่ากองกําลังใดที่เคลื่อนไหวในครั้งนี้

 

“เทพอมตะสวรรค์พิภพให้ความสําคัญกับการกําจัดอิทธิพลของเทพปีศาจจิตวิญญาณมาตลอด เขาเป็นคนที่มีความเมตตาและนําความสงบสุขมาสู่โลกใบนี้ เหตุใดกองกําลังของเขาจะไม่สามารถร่วมมือกับฟางหยวน? หลังจากทั้งหมดตอนนี้วังสวรรค์ของเจ้าไม่ได้ร่วมมือกับนิกายเงาของข้างั้นหรือ?” เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าว

 

ยิ่งนางคิดมากเท่าใด นางก็ยิ่งตระหนักถึงสถานการณ์เลวร้ายมากเท่านั้น

 

เหตุผลที่วังสวรรค์ร่วมมือกับนิกายเงาเพื่อบังคับให้ฟางหยวนต่อสู้กับเทพปีศาจจิตวิญญาณ ในความคิดของวังสวรรค์ มันจะดีมากหากทั้งสองตกตายไปพร้อมกัน

 

มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้หากกองกําลังของเทพอมตะสวรรค์พิภพจะต้องการสร้างความร่วมมือกับฟางหยวนเป็นการชั่วคราว

 

โดยธรรมชาติของเทพอมตะสวรรค์พิภพ เขาจะไม่กระทําการเช่นการซุ่มโจมตี แต่เทพอมตะสวรรค์พิภพเสียชีวิตไปนานแล้ว ไม่มีผู้ใดรู้ว่ากองกําลังที่เขาทิ้งไว้หรือผู้สืบทอดของเขาจะเป็นคนเช่นไร

 

สถานการณ์นี้ต้องอยู่นอกเหนือความคาดหมายของนายท่าน

 

“แต่มันอาจเลวร้ายกว่านั้น นั่นคือฟางหยวนวางแผนทั้งหมดมาตั้งแต่แรก เขายอมเสียสละวัง มังกรและเรือรบหมื่นปีเพื่อล่อลวงให้นายท่านเข้าสู่เขตแดนอมตะ!”

 

“ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร ข้าก็ต้องทําให้ดีที่สุดเพื่อช่วยนายท่าน!”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ นางกังวลมาก ในฐานะผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา นาง ต้องให้ความสําคัญกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณเหนือกว่าฟางหยวนอย่างไม่ต้องสงสัย แต่สถานการณ์จะเปลี่ยนแปลง ไปหากฟางหยวนได้รับความช่วยเหลือจากกองกําลังของเทพอมตะโดยเฉพาะเทพอมตะสวรรค์ พิภพ

 

ขณะเดียวกันในเขตแดนอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพี

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณมองไปรอบๆด้วยการแสดงออกที่เย็นชา “ดีมาก ดีมาก ดังนั้นเจ้าก็คือ ลัวเว่ยหยิน ผู้สืบทอดรุ่นปัจจุบันของเทพอมตะสวรรค์พิภพ”

 

ผู้อมตะที่ยืนอยู่บนก้อนเมฆสีเหลืองป้องหมัดกล่าว “ท่านเทพปีศาจช่างฉลาดนัก ข้ารออยู่ที่นี่มานานแล้ว”

 

ฟางหยวนกระตุ้นมาจากด้านข้าง “ลั่วเว่ยหยิน ข้าล่อเขามาที่นี่แล้ว ตอนนี้แสดงความจริงใจของเจ้า…หือ!”

 

ฟางหยวนหยุดพูดอย่างกะทันหันและเร่งล่าถอย

 

แต่มันสายเกินไป

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณพุ่งเข้ามาตรงหน้าเขาแล้ว

 

“ฟางหยวน เจ้าประมาทเกินไป น่าเสียดายที่เจ้ามาได้เพียงเท่านี้ ตายซะ!” เทพปีศาจจิตวิญญาณยื่นมือออกมาคว้าล่าคอของฟางหยวน

 

ฟางหยวนจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง