คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1614
แอมโบรสและเอร่าต่างมองหน้ากันและกันในขณะนั้น หลังบรรยากาศรอบ ๆ วังเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“พี่แอมโบรส!”
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเอร่าก็ได้สติกลับคืนมา และถามอย่างนุ่มนวลว่า “ทำ…ทำไมท่านพี่ถึงได้ปล่อยสำนักเหล่านั้นไปล่ะ?”
เอ่อ…
แอมโบรสเกาหัวและมีท่าทีอึกอัก
เขารู้ดีว่าเขาไม่ควรเอ่ยถึงเมแกนต่อหน้าเอร่า แล้วเขาจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไรดีล่ะ?
“ฝ่าบาทเสด็จแล้ว!”
อย่างไรก็ดี ในจังหวะที่แอมโบรสกำลังอึกอักอยู่ ทันใดนั้นเองขันทีก็ตะโกนเสียงดังมาจากด้านนอกโถงหลวง ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่กำลังก้าวเข้ามาหาพวกเขา
‘องค์จักรพรรดิมาที่นี่!’
แอมโบรสสะดุ้งตัวยืนขึ้นด้วยความตื่นตระหนกทันทีทันใด
พระราชวังมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดโดยเฉพาะยามกลางคืน ไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะเข้ามาได้เองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากจักรพรรดิ แม้แต่เจ้าชายเองก็ไม่สามารถพาใครเข้ามาได้
เอร่าไม่ใช่คนในราชวงศ์ เพราะฉะนั้นเธอจะต้องเดือดร้อนเป็นแน่หากจักรพรรดิเห็นเธอเข้า
‘จักรพรรดิมาที่นี่งั้นเหรอ?’
เอร่าตัวแข็งทื่อ พร้อมกับยืนขึ้นอย่างรวดเร็วและพูดว่าแอมโบรสว่า “พี่แอมโบรส เราจะทำยังไงกันดี?”
แอมโบรสพยายามข่มใจให้สงบแล้วตอบกลับไปว่า “อย่าตกใจไป พี่จะหาที่ให้เธอซ่อนตัว”
เอร่าตอบรับและกำลังจะหาที่ซ่อน
“ฮ่า ๆ แอมโบรส เจ้าหลับหรือยัง?”
ในตอนนั้นเอง ก็ได้มีเสียงหัวเราะดังมาจากทางเข้าโถงหลวง พร้อม ๆ กับที่เจ้าศักดินาเคนนี่ค่อย ๆ เดินเข้ามา ด้วยชุดคลุมลายมังกรสีทองที่เปร่งประกายอร่าม เขาช่างสง่างามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
‘หืมม?’
เมื่อเจ้าศักดินาเคนนี่ได้เข้ามา เขาสังเกตเห็นเอร่าที่ลุกลี้ลุกลน เขาจึงหุบยิ้มลง และชี้ไปที่เอร่าแล้วถามแอมโบรส “แอมโบรส เธอคนนี้คือใคร?”
ในขณะเดียวกัน เจ้าศักดินาเคนนี่ก็อดไม่ได้ที่จะเพ่งพินิจเอร่าและแอบนึกชื่นชมเธอในใจ ‘เด็กสาวคนนี้ยังคงอยู่ในช่วงวัยรุ่น แต่เธอก็งดงามมากราวกับนางฟ้า เมื่อเธอเติบโตขึ้น เธอจะเป็นผู้หญิงที่สวยล้ำเลิศอย่างมาก’
‘ซวยแล้ว! จักรพรรดิจับได้แล้ว’
เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ แอมโบรสก็เก็บความรู้สึกอึดอัดไว้ในใจและพูดเบา ๆ ว่า “ฝ่าบาท ชื่อของเธอคือเอร่า แฮนเซ่น และเธอเป็นเพื่อนของกระหม่อม พวกเราไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว คืนนี้เธอตั้งใจมาหาเพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ”
แอมโบรสตัดสินใจพูดความจริง ในเมื่อจักรพรรดิทรงทราบแล้ว
แอมโบรสแอบบอกใบ้กับเอร่าด้วยสายตาของเขาในขณะที่พูดเช่นนั้น
เอร่าเป็นเด็กฉลาดและเข้าใจได้ในทันที ก่อนที่จะรีบถอนสายบัวคำนับให้กับเจ้าศักดินาเคนนี่ “เอร่า แฮนเซ่นเพคะฝ่าบาท…”
ใบหน้าของเธอสงบเสงี่ยมเมื่อครั้นเธอพูด แต่ทว่าในใจของเธอกลับกังวลอย่างมาก
กลิ่นอายของเจ้าศักดินาเคนนี่ที่แผ่ออกมานั้นช่างทรงพลังเหลือเกิน
“ลุกขึ้น! ลุกขึ้น!”
เจ้าศักดินาเคนนี่ขำเบา ๆ และโบกมือให้กับเอร่า “เธอไม่จำเป็นต้องประหม่าไปหรอก ในเมื่อเธอคือเพื่อนของแอมโบรส”
แล้วเจ้าศักดินาเคนนี่ก็พูดกับแอมโบรสว่า “เข้าใจล่ะ เธอคือเพื่อนของเจ้าสินะ”
เขาดูแลแอมโบรสราวกับว่าเป็นลูกของเขาเอง และพร้อมเป็นพ่อที่เมตตาเสมอ ยิ่งไปกว่านั้น เอร่าก็งดงามมาก พวกเขาดูเป็นคู่ที่เหมาะสมเมื่อเธอยืนเคียงข้างแอมโบรส! เขาจะโกรธได้อย่างไรกันล่ะ?
“โอ้!”
แอมโบรสและเอร่ามองหน้ากันเมื่อได้ยินเสียงนั้น และแอบถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
เจ้าศักดินาเคนนี่เดินผ่านไป ก่อนที่จะนั่งลงและถามแอมโบรสว่า “แอมโบรส ฉันได้ยินมาว่า เมื่อตอนกลางวัน สำนักบู๊ตึ๊ง สำนักเส้าหลิน และสำนักอื่น ๆ ได้บุกเข้าไปในคุก แล้วเจ้าก็จับพวกเขาไว้ ตอนนี้เหตุการณ์เป็นยังไงบ้างล่ะ?”
เอ่อ…
แอมโบรสเกาหัวและรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ก่อนพูดออกไปอย่างระมัดระวังว่า “องค์จักรพรรดิ กระหม่อมได้จับกุมสำนักเหล่านั้น แต่ทว่ากระหม่อม… ก็ได้ปล่อยพวกเขาไปแล้ว”
สีหน้าของเจ้าศักดินาเคนนี่เปลี่ยนไป พร้อมกับลุกขึ้นทันที ขมวดคิ้ว และถามว่า “ทำไมล่ะ?”
สำนักบู๊ตึ๊ง สำนักเส้าหลิน และสำนักอื่น ๆ ได้ตกหลุมพรางแล้ว มันเป็นโอกาสที่ดีที่จะริดทอนอำนาจของโลกจักรวาล แต่ทว่า แอมโบรสกลับตัดสินใจปล่อยพวกเขาไป
“โอ้!”