เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1386
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ลู่ฝานใช้พลังวิญญาณปล่อยวิชาดับวิญญาณออกมา เพียงกระบวนท่าเดียวสามารถเอาชนะจ้าวหมิงหยู่ ศิษย์ของอสูรศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรอสูรซีเหลียง
พูดตามตรงว่าพลานุภาพของกระบวนท่านี้ แม้แต่ตัวลู่ฝานก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน เขารู้ว่าหลังจากวิญญาณตัวเองแข็งแกร่ง พลังวิญญาณจะยกระดับขึ้น แต่ใครจะคิดล่ะว่าพลังวิญญาณจะยกระดับขึ้นจนน่ากลัวขนาดนี้
ฟาดใส่ด้วยกระบวนท่าเดียว คิดไม่ถึงว่าขนาดจ้าวหมิงหยู่ที่เกือบเข้าสู่แดนปราณฟ้ายังต้านไม่ไหว
แต่ตอนสู้กับธิดาเทพคงไม่สามารถใช้กระบวนท่านี้ได้ ตอนสู้กับจ้าวหมิงหยู่อยู่หน้าตระกูลหาน คนที่มุงดูอยู่ด้านนอกเป็นแค่ประชาชนที่ไม่ค่อยมีความรู้อะไรนัก แน่นอนว่าพวกเขาดูไม่ออกว่าวิชาดับวิญญาณมาจากจิตใจเต๋าสำนักมาร
แต่สถานที่ที่ต่อสู้กับธิดาเทพคือสนามต่อสู้แปดทิศ ถึงตอนนั้นตระกูลใหญ่ต่างๆ นักบู๊แทบทั้งหมดในเมืองหลวง ต้องมาชมการต่อสู้แน่นอน
แม้โอกาสถูกจับได้ไม่มาก แต่ก็มีอยู่บ้าง ลู่ฝานคิดว่ามีเรื่องน้อยก็ทุกข์น้อย ตัดสินใจเก็บวิชาดับวิญญาณเอาไว้ใช้ตอนท้ายที่สุด ต่อไปถ้าไม่ถึงช่วงเป็นตายจริงๆ ไม่ใช้จะดีที่สุด
อีกทั้งแค่วิชาชิงวิญญาณก็ยังใช้ได้อยู่
หนึ่งคือวิชาชิงวิญญาณดูออกยากเหมือนกัน สองคือถึงดูออก เขาสามารถบอกปัดได้ว่าเรียนกับหลินหย่า ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางคิดไปถึงผู้ฝึกชั่วร้าย
ในใจลู่ฝานมีความคิดต่างๆ นานา ในเวลาเดียวกันยังแยกสมาธินำวิญญาณเคลื่อนไหวในตัว แค่โลกใบเล็กในตัวสัมผัสกับวิญญาณเขา จะเคลื่อนไหวไม่มากก็น้อย ทำให้ลู่ฝานแอบรู้สึกว่าสามารถควบคุมได้
นี่คือการค้นพบยิ่งใหญ่ของเขา เขาลองควบคุมพลังแห่งโลกส่วนหนึ่ง
แม้เป็นเรื่องยากลำบากมาก แต่ลู่ฝานคิดว่าตัวเองต้องหาวิธีทำได้แน่นอน
ถึงควบคุมได้ไม่มาก ถึงเป็นแค่มวลแสงเล็กๆ เขาก็ต้องทำให้ได้ นี่อาจกลายเป็นท่าไม้ตายของเขาก็ได้
การเคลื่อนไหวของวิญญาณเริ่มเร็วขึ้น เหมือนเด็กน้อยกลิ้งอยู่ในแสงดวงดาวสว่างไสว ประกายแสงกระจัดกระจายไปทั่ว สิ่งที่ลู่ฝานต้องทำคือหาส่วนที่เล็กที่สุดในประกายแสงที่กระจัดกระจายออกมา หาวิธีเอามันผสานเข้ามาในปราณชี่ของตัวเอง
พยายามหลายต่อหลายครั้ง ล้มเหลวหลายต่อหลายครั้ง
ลู่ฝานใจนิ่งดังน้ำ ไม่ได้ท้อแท้เพราะล้มเหลว แต่จิตใจเขากลับฮึกเหิมขึ้น
ไม่นานวิญญาณเขาเร็วเหมือนลมที่โหมพัดอย่างบ้าคลั่ง ทำให้โลกใบเล็กในตัวแกว่งไปมา
ลู่ฝานนั่งอยู่ตรงนั้น รอบตัวเกิดความเคลื่อนไหวขึ้นมาเอง ทำให้พื้นด้านล่างเท้าเริ่มแตกร้าวตามไปด้วย
เจ้าดำที่นอนหมอบอยู่หน้าประตูเห็นภาพนี้ เห่าไม่หยุดแล้วถอยหลังไป
พลังบนตัวลู่ฝานเริ่มเคลื่อนไหว ใบหน้าก็เริ่มเคร่งขรึมขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดพลานุภาพบนตัวลู่ฝานพุ่งจนถึงขีดสูงสุด
ตู้ม!
กระแสลมพัดออกไป ห้องด้านหลังสั่นสะเทือนอยู่ครู่หนึ่ง เกือบจะพังลงมา
ด้านหลังเขาได้ยินเสียงดังสนั่นกันทั้งหมด
ทุกคนหันมามองทางที่ลู่ฝานอยู่ ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ตอนนี้ลู่ฝานพรูลมหายใจออกมา จากนั้นยื่นมือตัวเองออกมา
ปราณชี่รวมตัวอยู่ในมือ จากนั้นค่อยๆ รวมตัวเป็นแสงสว่างไสวอยู่ที่ฝ่ามือ
จู่ๆ พลังฟ้าดินรอบตัวเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ลู่ฝานสัมผัสได้ว่าพวกมันไม่ได้ถอยออกไป และไม่ได้รวมตัวกัน แต่หยุดนิ่งอยู่ที่เดิมเหมือนยอมจำนน
ลมไม่พัด ต้นไม้ไม่ไหวติง สายน้ำไม่เคลื่อนไหว ฟ้าดินไม่เปลี่ยนแปลง
ลู่ฝานยกยิ้มมุมปาก เหมือนเขาคิดวิชาสุดเจ๋งออกมาได้อีกแล้ว
ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ แล้วพึมพำว่า “ฉันนี่มันอัจฉริยะจริงๆ!”