ตอนที่ 983: กลับตระกูลเจียงหยาง

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 983: กลับตระกูลเจียงหยาง

เจี้ยนเฉินเห็นฮุสตัน เทียนเจี้ยน และผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเจียงหยาง เขาเลิกคิดและมองไปที่คนของตระกูลเจียงหยาง ก่อนที่จะมองไปที่เทียนเจี้ยนและฮุสตัน เขาบินไปที่พวกเขาทันทีและโค้งคำนับอย่างเคารพไปที่เทียนเจี้ยนและฮุสตัน “ข้าขอคารวะผู้อาวุโสเทียนเจี้ยนและลุงเซียว ! “

เจี้ยนเฉินเป็นจอมยุทธที่น่าประทับใจในตอนนี้ แต่เขาก็ยังมีความเคารพจากก้นบึ้งของหัวใจให้กับเทียนเจี้ยนและฮุสตัน ความเคารพนี้ไม่เกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเขา

เทียนเจี้ยนมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยอารมณ์ที่ผสมปนเปกันไปและถอนหายใจออกมาเบา ๆ “นึกถึงตอนที่ข้าพบกับเจ้าครั้งแรก มันเป็นช่วงเวลาในการชุมนุมทหารรับจ้างช่วงสุดท้าย เจ้ายังเป็นเซียนปฐพีตัวเล็ก ๆ แต่ความแข็งแกร่งของเจ้าก็ถึงระดับที่เหนือจินตนาการในเวลาไม่กี่สิบปี มันช่างเหลือเชื่อจริง ๆ ” เทียนเจี้ยนเต็มไปด้วยอารมณ์ในขณะที่ความเศร้าโศกเต็มอยู่บนใบหน้าของเขา เขาดูเหมือนจะคิดกลับไปถึงตอนที่เขาเจอกับเจี้ยนเฉินในครั้งแรก

เจี้ยนเฉินใจลอยทันทีเมื่อเขาได้ยินแบบนี้ เหมือนว่าเขากำลังคิดถึงทุกอย่างทีเกิดขึ้นตอนนั้นเช่นเดียวกัน

ฮุสตันมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างมีความสุขและพูดด้วยน้ำเสียงชราของเขา “เจี้ยนเฉิน เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริง ๆ ” มันเป็นแค่ประโยคธรรมดา แต่มันก็ส่งผ่านความยินดีและความยอมรับในตัวเจี้ยนเฉินออกไป

เจี้ยนเฉินสนทนากับฮุสตันมากกว่านี้สักนิด ก่อนที่เทียนเจี้ยนจะพูดออกมา “เจี้ยนเฉิน ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยางอยู่ที่อีกด้านหนึ่ง พวกเขายังเป็นสมาชิกของตระกูลเจียงหยางที่ขยายตัวออกมาด้วย ดังนั้น เจ้าก็ควรจะไปพบพวกเขา”

เจี้ยนเฉินหันไปและจ้องไปผู้อาวุโสสูงสุดเมื่อเขาได้ยินแบบนั้น ตาของเขาเป็นประกายด้วยความไม่สบายใจ แต่เขาก็ไม่ได้ไปหาในตอนสุดท้ายหลังจากที่เขาลังเล

“เจี้ยนเฉิน เจ้าเพิ่งกลับมาจากอาณาจักรทะเล ดังนั้นยังมีบางสิ่งที่กำลังรอเจ้าอยู่ ไปทำสิ่งที่เจ้าจำเป็นต้องทำเถอะ หลังจากที่เจ้าเสร็จเรื่องแล้ว มาที่หุบเขายั่งยืน ข้ามีบางอย่างที่จะถามเจ้า” ลุงซุยพูด เขาสงสัยเรื่องโถงศักดิ์สิทธิ์ของเจี้ยนเฉิน แต่เขาก็เลือกที่จะไม่พูดถึงเรื่องนี้ในตอนนี้

“ขอรับ ลุงเซียว ! ” เจี้ยนเฉินตอบกลับ

หลังจากนั้น ฮุสตันก็ผ่านประตูมิติออกไป และกลับไปที่หุบเขายั่งยืนพร้อมกับจอบที่อยู่บนไหล่ของเขาเพื่อที่กลับไปขุดดินต่อ

“เจี้ยนเฉิน หมิงตงและเถี่ยต้ากำลังฝึกฝนอยู่ในเมืองทหารรับจ้างของข้า ตัวตนของเถี่ยต้าค่อนข้างเป็นเรื่องเปราะบาง ดังนั้นมาเยี่ยมที่เมืองทหารรับจ้างของข้าตอนที่เจ้ามีเวลา” เทียนเจี้ยนพูด

เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องร่างกายของพ่อแม่ของเขาที่เขาฝากไว้ที่เมืองทหารรับจ้างทันทีที่เขาได้ยินชื่อเมือง หัวใจที่เหมือนเหล็กของเขาเริ่มที่จะเจ็บปวดเล็กน้อย

“ผู้อาวุโสเทียนเจี้ยน ข้าจะไปที่เมืองทหารรับจ้างทันทีหลังจากที่ข้าจัดการเรื่องของข้าแล้ว” เจี้ยนเฉินประกาศออกมา

ในตอนแรก สิ่งแรกที่เขาต้องการที่จะทำทันทีที่เขากลับมาที่ทวีปก็คือการชุบชีวิตพ่อแม่ของเขา อย่างไรก็ตาม เขาจากไปนานและก็มีเรื่องเกิดขึ้นกับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี นี่ทำให้เขาคิดถึงไป๋เหลียนและคนอื่น ๆ มาก ดังนั้นเขาจึงต้องการที่จะกลับมาและพบพวกเขา

เทียนเจี้ยนจ้องเขม็งไปที่ดวงตาของเจี้ยนเฉินก่อนที่จะจากไปเช่นกัน เขากลับไปที่เมืองทหารรับจ้าง

พวกที่ลอยอยู่กลางอากาศในตอนนี้ก็คือรุยจิน เฮยยู่ และเจี้ยนเฉิน เช่นเดียวกันกับผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเจียงหยาง

ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยสายตาที่แตกต่างกัน ในตอนแรกพวกเขาต้องการที่จะดูเจี้ยนเฉินมากกว่านี้ แต่จากนั้นพวกเขาก็คิดเกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขาพูดและทางเลือกที่พวกเขาให้ไว้กับเจี้ยนเฉินเมื่อเจี้ยนเฉินเผชิญหน้ากับตระกูลผู้พิทักษ์อื่น ความคิดเหล่านี้ทำให้พวกเขาหยุดพูดไปในเวลาเดียวกัน

ในตอนนั้น พวกเขากลัวที่จะยืนอยู่ข้างเดียวกับเจี้ยนเฉินและช่วยเขาในการต่อต้านตระกูลผู้พิทักษ์อื่น แต่พวกเขาก็เต็มไปด้วยความเสียดายในตอนนี้ ถ้าพวกเขารู้ว่าเจี้ยนเฉินจะได้รับการช่วยเหลือจากรุยจินและเฮยยู่ สองจอมยุทธที่สามารถสู้กับเซียนจักรพรรดิได้ พวกเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวตระกูลผู้พิทักษ์อื่น

เจี้ยนเฉินมาถึงตรงหน้ารุยจินและเฮยยู่และขอบคุณพวกเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นเขาจึงพูดออกมา “ผู้อาวุโสรุยจิน ท่านสามารถสร้างประตูมิติเพื่อพาข้าไปที่อาณาจักรเกอซุนได้หรือไม่ ? “

ตั้งแต่แรกรุยจินคงไม่ตกลงเพราะสถานะของเขาที่เป็นถึงราชามังกร แต่มันก็แตกต่างกันแล้วในตอนนี้ เขาตกลงอย่างไม่ลังเลและแหวกมิติออกเพื่อเปิดประตูมิติ

เจี้ยนเฉินผ่านประตูมิติไปและไปถึงนอกเมืองลอร์ ในขณะที่รุยจินและเฮยยู่ก็ตามไปด้วย พวกเขาตามเจี้ยนเฉินเข้าไปในเมือง

ผู้อาวุโสสูงสุดมองเจี้ยนเฉินจากไปโดยไม่ได้พูดอะไร พวกเขารู้ดีว่าเจี้ยนเฉินไม่ต้องการที่จะยอมรับว่าตัวเองเป็นสมาชิกของตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยาง

สักพักใหญ่ต่อมา เจียงหยาง ซู เซียวถอนหายใจยาวและพูดออกมา “การขับไล่เจียงหยาง ซู หยุนคงไปเมื่อหลายปีก่อนหน้านั้นเป็นการตัดสินใจที่ผิดจริง ๆ และดูเหมือนพวกเราจะตัดสินใจผิดอีกครั้งแล้วในตอนนี้”

ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดยืนอยู่อย่างเงียบ ๆ เจียงหยาง ชิง หยุนพูดออกมาหลังจากนั้นสักพัก “พวกเราไปที่ตระกูลเจียงหยางที่เมืองลอร์กัน ! “

การกลับมาที่ตระกูลของเจี้ยนเฉินทำให้เกิดความยินดีไปทั่วบริเวณ คนเฒ่าคนแก่และสมาชิกคนสำคัญออกมาต้อนรับเขา ไม่แปลกใจเลย คนที่นำพวกเขามาคือ เจียงหยาง ซู อวี้หยวนและเจียงหยาง ซู หยุนคง เจียงหยาง ซู อวี้หยวน รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเจี้ยนเฉินมาก ทันทีที่นางพบเขา นางก็ไม่พยายามที่จะทำตัวเหนือกว่าเนื่องจากความอาวุโสเลย นางคว้ามือของเจี้ยนเฉินเอาไว้อย่างกระตือรือร้นและพร่ำขอบคุณเขาไม่หยุด นางเข้าใจว่าถ้าไม่เป็นเพราะเจี้ยนเฉิน นางก็คงไม่ได้เจอกับลูกของนางอีกเลย

เจี้ยนเฉินรู้จักหญิงคนนี้จากเจียงหยาง ซู หยุนคง นางเป็นแม่ของทวดเขา เขาตกใจและคำนับไปที่หญิงคนนี้ทันที เจี้ยนเฉินไม่ได้มีความประทับใจอะไรกับตระกูลผู้พิทักษ์ แต่นางก็เป็นแม่ของทวดเขาอยู่ดี

“ในที่สุดเหลนของข้าก็กลับมาแล้ว สมาชิกที่สุดยอดที่สุดของตระกูลไป๋ของข้าได้กลับมาอย่างปลอดภัยแล้วในที่สุด” ไป๋ไฮยิ้มออกมาแต่ไกลในขณะที่เขาดูอยู่ น้ำตาแห่งความยินดีไหลลงมาที่ใบหน้าของเขา

ป้าใหญ่ของเจี้ยนเฉิน หลิงหลง และป้ารองของเขา หยูเฟิงหยานก็มองดูพร้อมรอยยิ้ม พวกเขาเห็นว่าเจี้ยนเฉินเป็นเหมือนลูกของพวกเขามานานแล้ว มีเพียงป้าสาม ไป๋ยู่ซวง เท่านั้นที่มีอารมณ์ที่ต่างออกไปในขณะที่ความริษยาเต็มอยู่ในดวงตาของนาง เมื่อนางเห็นเจี้ยนเฉิน นางก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงลูกชายของตัวเอง เจี้ยนเฉินในตอนนี้เป็นจอมยุทธที่อยู่ในจุดสูงสุดของทวีปและได้ทำเรื่องที่โด่งดังไปในทวีป ในขณะเดียวกัน ลูกของนางเองดูเหมือนจะไม่ได้แข็งแกร่งหรือประสบความสำเร็จอะไร เขาในตอนนี้มีอายุสามสิบกว่ากว่า แต่เขายังเป็นแค่เซียนเท่านั้น เขายังไม่ได้ถึงระดับเซียนปฐพีเลย

เจี้ยนเฉินพูดกับทุกคนในตระกูลนิดหน่อย ก่อนที่จะเรียกโหยวเยว่ ไป๋เหลียน และสมาชิกระดับสูงของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีมายังที่พักชั่วคราวของเขา หลังจากที่พัฒนาองค์กรมาหลายปี องค์กรก็มีสมาชิกระดับสูงและสมาชิกที่จงรักภักดีบางคน มีคนมากกว่าสี่สิบคนในที่นี้ ไม่รวมโหยวเยว่และไป๋เหลียน ตั้งแต่ที่เมืองอัคนีถูกยึดไป คนเหล่านี้ก็นำคนกลุ่มเล็กของทหารรับจ้างเดินเท้ามาพร้อมกับม้ามาเป็นแสนกิโลเมตรและมาถึงที่เมืองลอร์ จากนั้นพวกเขาก็ตั้งหลักปักฐานอยู่ที่ตระกูล

เจี้ยนเฉินพยักหน้าเมื่อเขาเห็นสมาชิกระดับสูง เขาพูดออกมา “เมืองอัคนีซึ่งได้ถูกยึดไปโดยพันธมิตรพิชิตอัคนีได้ถูกเอาคืนกลับมาแล้ว ข้าอยากรู้ว่าสถานการณ์ของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีเป็นอย่างไรในตอนนี้”

คนที่อยู่ที่นี่ยินดีทันทีเมื่อพวกเขาได้ยินว่าเมืองอัคนีกลับมาอยู่ในความครอบครองของพวกเขาแล้ว โหยวเยว่พูดออกมา “เจี้ยนเฉิน หลังจากที่ผ่านมาหลายปี ทหารรับจ้างของพวกเราได้มีสมาชิกเป็นแสนคนแล้ว มีเซียนสวรรค์หลายคนได้เข้าร่วมกับพวกเราและความแข็งแกร่งของพวกเราก็เพิ่มขึ้นทุกวัน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่มีการต่อสู้กับพันธมิตรพิชิตอัคนี กลุ่มของพวกเราก็ล่มสลายลง ผู้คนแตกกระสานซ่านเซ็น มีเพียงไม่กี่หมื่นคนเท่านั้นที่ตามพวกเรามา”

“หลายหมื่นคน” เจี้ยนเฉินขมวดคิ้ว จำนวนคนน้อยกว่าที่เขาคาดหวังเอาไว้ มันดูเหมือนว่าพันธมิตรพิชิตอัคนีได้สร้างความเสียหายที่เหลือเชื่อให้กับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี

เจี้ยนเฉินยืนขึ้นจากที่นั่งของเขาและพูดออกมา “เมื่อมีผู้คนมากมายที่จงรักภักดีและตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ทำให้พวกเขาเป็นยอดจอมยุทธ อีกอย่าง พาสมาชิกที่ยังเหลือของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีกลับไปที่เมืองอัคนีในวันพรุ่งนี้ พวกเราจะกลับไปที่เมืองอัคนีและฟื้นฟูกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีขึ้นมา”

ในตอนที่เจี้ยนเฉินกำลังพูดคุยเกี่ยวกับแผนที่จะพัฒนาพวกเขา กลุ่มผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยางก็มาถึง พวกเขาเรียกเจียงหยาง ซู หยุนคงเข้าไปในห้องและพูดคุยเรื่องลับกับเขา ทั้งห้องถูกปกคลุมไปด้วยม่านพลังที่ทรงพลัง ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรด้านใน

เจี้ยนเฉินสัมผัสได้ถึงการมาถึงของพวกเขา ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่หยุดพูดเกี่ยวกับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ตาของเขาเริ่มเป็นประกายไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ผู้อาวุโสสูงสุดไม่ได้พูดคุยกับเจียงหยาง ซู หยุนคงนานนักก่อนที่พวกเขาจะออกมาจากห้อง พวกเขาไม่ได้อยู่ต่อและเปิดประตูมิติเพื่อกลับไปที่ตระกูลผู้พิทักษ์ เจียงหยาง ซู หยวนเซียว อยู่ต่อที่นี่ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความช่วยไม่ได้

เจี้ยนเฉินพูดคุยกับสมาชิกระดับสูงทั้งหมด 1 ชั่วยามก่อนที่จะแจกจ่ายเรื่องการพัฒนาในอนาคตของทหารรับจ้างออกไป จากนั้น เขาก็ออกไปจากห้อง

ด้านนอก เจียงหยาง ซู หยวนเซียวและเจียงหยาง ซู อวี้หยวน รออยู่ด้านนอกนานแล้ว ในตอนที่พวกเขาเห็นเจี้ยนเฉินเดินออกมา สายตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยอารมณ์

เจี้ยนเฉินไม่ได้มองเจียงหยาง ซู หยวนเซียวอย่างเย็นชาเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว เขารู้ว่าอะไรเกิดขึ้นหลายปีก่อนในตอนที่พันธมิตรพิชิตอัคนีเอาเมืองอัคนีไปจากโหยวเยว่และไป๋เหลียน เขารู้ว่าทั้งหมดเป็นเพราะเจียงหยาง ซู หยวนเซียว พวกเขาถึงได้กลับมาที่เมืองลอร์ได้อย่างปลอดภัย ถ้าไม่ได้เขา พวกเขาอาจจะไม่สามารถผ่านไป่เจี้ยนมาได้

“เจี้ยนเฉิน พวกเราต้องการที่จะพูดกับเจ้าเป็นการส่วนตัว” เจียงหยาง ซู หยุนเซียวพูดอย่างนุ่มนวล

“มันเกี่ยวกับตัวตนของข้าหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้น มันก็ไม่จำเป็นหรอก” เจี้ยนเฉินตอบกลับ

เจียงหยาง ซู หยวนเซียวถอนหายใจเบา ๆ และพูดต่อ “เจี้ยนเฉิน เจ้าเดาถูกเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เรื่องนี่ไม่ได้ส่งผลต่อตัวตนของเจ้าเท่านั้น มันยังมีผลกับทวดของเจ้าเช่นเดียวกัน มันมีผลกระทบกับอนาคตของเขา”