คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1621

หลังจากที่ดื่มและทานอาหารไปได้สักพัก มื้อเย็นก็กำลังจะจบลง ออโรร่าและเอร่าก็ต้องออกจากพระราชวัง

แอมโบรสพาพวกเขาไปที่ทางเข้าพระราชวังก่อนจะหยุดลงและโบกมือร่ำลาเอร่า “เอร่า ในวันข้างหน้า ถ้าเธอมีเวลา ก็มาหาฉันที่วังนะ!”

“ได้เลย พี่แอมโบรส!” เอร่าตอบพร้อมกับรอยยิ้ม ถึงแม้ว่าการหมั้นหมายของพวกเขาจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อจิตใจของเธอ

นี่ก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว แต่ถนนสายหลักในเมืองหลวงยังคงพลุกพล่านเช่นเคย ผู้คนมากมายกำลังเดินไปตามท้องถนน และบนถนนก็มีแผงร้านขายของที่หลากหลาย บางร้านมีงานศิลปะจากดินเผา บางร้านขายขนม และบางร้านก็ขายลูกอมซานจา

ออโรร่ารู้สึกตื่นตาตื่นใจเมื่อเห็นเช่นนั้น

มันช่างน่าประทับใจที่เมืองหลวงของโลกใหม่ยังคงครึกครื้นอยู่แม้ว่าจะเป็นเวลาที่ดึกมากแล้วก็ตาม

เอร่ารู้สึกตื่นเต้นมาก เธออยากจะหยุดดูทุกแผงร้าน มองไปให้ทั่ว และสัมผัสทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเห็น เธอช่างดูน่ารักน่าเอ็นดู

ทันใดนั้นเอง เอร่าก็นึกอะไรบางขึ้นมาได้และถามว่า “คุณแม่! ทำไมแม่ถึงต่อต้านการหมั้นหมายของหนูกับพี่แอมโบรสล่ะคะ?”

ในฐานะลูกสาว เอร่ารู้จักออโรร่าเป็นอย่างดี แม้ว่าออโรร่าจะเป็นคนเย็นชา แต่เธอก็มีหลักการของตัวเอง มันต้องมีเหตุผลว่าทำไมเธอถึงไม่เห็นด้วยกับการหมั้นหมายนี้

“ลูกจะแต่งงานกับเขาไม่ได้” ออโรร่าตอบอย่างไม่ลังเล

“ทำไมล่ะ?” เอร่ารู้สึกติดใจ

“ก็เพราะว่า…” ออโรร่าหน้าแดงและกำลังจะอธิบาย แต่ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเอะอะโวยวายมาจากตรอกข้างหน้าของพวกเขา ตามมาด้วยเสียงเด็กร้อง

เสียงร้องของเด็กนั้นช่างบีบหัวใจและน่าโศกเศร้าอย่างมาก

เอร่าผู้แสนใจดีรู้สึกสะเทือนใจทันทีที่ได้ยินเสียงร้อง เธอดึงแขนของออโรร่าไว้ “คุณแม่ เราไปดูกันเถอะ”

ออโรร่าพยักหน้าและเดินไปยังตรอกนั้น

ออโรร่าและลูกสาวของเธอรู้สึกโกรธมากเมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในตรอกและเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น

ภายในตรอกนั้น พวกเขาเห็นชายคนหนึ่งสวมชุดคลุมผ้าไหมกำลังสั่งให้คนรับใช้ของเขาทุบตีครอบครัวที่มีกันสามคน พวกเขานั้นสวมใส่เสื้อผ้าที่ขาดวิ่นและเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาเป็นขอทานเพื่อหาเลี้ยงชีพ

ชายผู้นี้คือแอนโทนี่ แลนด์ และพ่อของเขาก็เป็นรองแม่ทัพแห่งทัพหลวง เขาเป็นคนที่ชอบรังแกคนอื่น เหตุมาจากพื้นเพครอบครัวของเขาและเป็นเด็กเหลือขอที่แสนจะไร้ประโยชน์

ตอนที่แอนโทนี่เดินเล่นอยู่ในเมื่องหลวง เขาเดินเข้าไปหาครอบครัวนี้ที่กำลังขออาหารอยู่ พวกเขาบังเอิญเอาชามขออาหารของพวกเขาไปแตะโดนแอนโธนี่โดยไม่ได้ตั้งใจจึงทำให้เขาโกรธมาก เขาเลยสั่งให้คนรับใช้ทุบตีครอบครัวนั้นทันที

แอนโทนี่ยังคงโกรธและยังไม่หยุดตะโกนต่อว่า “ไอ้บัดซบเอ๊ย ไอ้หมาโสโครก ชามขอทานของพวกแกเปื้อนเสื้อของฉันหมดแล้ว! พวกแกจะต้องชดใช้ฉันด้วยชีวิต ต่อยมัน ทุบตีพวกมันให้ตายไปเลย!”

คนรับใช้จึงได้ต่อยหนักขึ้นเมื่อเขาพูดเช่นนั้น

ครอบครัวนั้นกลิ้งลงไปกับพื้นด้วยความเจ็บปวด พวกเขาไม่สามารถหยุดกรีดร้องได้และขอร้องออกมาอย่างทรมานว่า “คุณชาย พวกเราผิดไปแล้ว ครอบครัวของฉันไม่ได้กินข้าวมาหลายวันแล้ว พวกเราต้องขอโทษที่เราทำให้เสื้อของคุณเปื้อน ขอโทษ ขอโทษจริง ๆ …”

ใบหน้าของเอร่าแดงก่ำด้วยความโกรธ “คุณแม่! คนชั่วพวกนี้กำลังทำเรื่องไม่ดี!”

ออโรร่ายิ้ม แล้วถามเธอว่า “ถ้าอย่างนั้น ลูกคิดว่าเราควรทำยังไงดีล่ะ?”

“มันแน่อยู่แล้ว หนูจะลงโทษคนชั่วและสนับสนุนคนดีเพื่อคืนความยุติธรรมมาสู่มนุษยชาติ!” เอร่ากำมือของเธออย่างภาคภูมิใจ “คุณแม่ แม่สอนเสมอว่าให้แสวงหาความยุติธรรม หนูจะสอนบทเรียนให้กับคนพวกนี้เอง! หนูจะไปสู้กับเขา”

“ได้สิ” ออโรร่าพยักหน้า เธอเคยบอกลูกสาวของเธอว่าในฐานะผู้บ่มเพาะ เธอจะต้องแสวงหาความยุติธรรมและช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ แต่ออโรร่าก็รู้สึกตกตะลึง ตอนที่เอร่าบอกว่าเธออยากจะลงโทษพวกคนชั่วและผดุงไว้ซึ่งความดีเพื่อนำความยุติธรรมมาสู่มนุษยชาติ เมื่อได้ยินคำพูดของเอร่าเช่นนั้นหัวใจของผู้เป็นแม่ก็สั่นไหว

นั่นคือคติประจำของสำนักประตูสุราลัย แดร์ริลเป็นประมุขของสำนักประตูสุราลัย แล้วก็เป็นเวลาหลายปีที่ออโรร่าพยายามที่จะลืมเขา แต่ทว่าเขาก็มักจะโผล่เข้ามาในใจของเธอเสมอ

“เอร่า อย่าพูดว่า ‘ลงโทษพวกคนชั่วและสนับสนุนคนดีเพื่อคืนความยุติธรรมมาสู่มนุษยชาติ’ แบบนั้นสิ” ออโรร่าพูดอย่างใจเย็น จากนั้นเธอก็โบกมือให้เอร่า “ไปสู้กับพวกมันสิ”