ตอนที่ 1434

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หลิวจวินเทียนจำได้ทันทีว่าคนคนนี้คือผู้ติดตามของเขา เขารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากอะไรทำให้ผู้ติดตามของเขาผลีผลามขึ้นเขามาอย่างไม่คิดชีวิตเช่นนี้

เขาเดินเข้าไปช่วยพยุงจางชิง

หลิงฮันไม่แม้แต่จะหันมองทั้งสองคน เขาเอ่ยชื่อของเขาและตามด้วยจักรพรรดิพิรุณAnchorสวีเหลิน เซียนหวู่เซียง แน่นอนว่าเซียนหวู่เซียงไม่ได้กล่าวว่าตนเองเป็นเซียนอีกต่อไป ไม่เช่นนั้นเขาคงถูกรุมทุบตีเพราะดันไปแสร้งว่าตนเองเป็นเซียน

Anchor

จักรพรรดินีหล่วนซิงกับสตรีนกอมตะไม่กล่าวอะไร พวกนางนำเก้าอี้ออกมาจากอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์และนั่งลงอย่างสง่างาม

“น้องชายหลิง พวกเจ้ามาจากเขตดวงดาวไหนรึ?” ใครบางคนถาม

ทุกคนที่นี่จะถามกันก่อนว่าใครมาจากเขตดวงดาวใด ซึ่งหากเป็นราชาที่มาจากเขตดวงดาวเดียวกันพวกเขาก็จะสนิทกันง่ายยิ่งขึ้น

พวกหลิงฮันมองหน้ากันก่อนจะกล่าว “เขตดวงดาวบูรพาจรัสแสง”

ดวงเหอหนิงตั้งอยู่ในเขตดวงดาวบูรพาจรัสแสง

ในเมื่อทวีปฮงเทียนตั้งถิ่นฐานอยู่บนดาวเหอหนิงพวกเขาจึงเป็นคนของเขตดวงดาวบูรพาจรัสแสงไปโดยปริยาย

“เขตดวงดาวบูรพาจรัสแสง?” ราชาทุกคนแสดงสีหน้าสับสนเนื่องจากพวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อเขตดวงดาวแห่งนี้มาก่อน เขตดวงดาวแห่งนี้ต้องเป็นเขตดวงดาวที่ยิ่งใหญ่เป็นแน่ถึงได้ให้กำเนิดราชาได้ถึงหกคน

“บูรพาจรัสแสง… บูรพาจรัสแสง อ้า ข้านึกออกแล้ว!” ราชาคนหนึ่งปรบมือและแสดงสีหน้าตกตะลึง

“เป็นเขตดวงดาวใหญ่แห่งไหน?” ทุกคนเอ่ยถาม

ราชาคนนั้นแสดงสีหน้าแปลกประหลาดพร้อมกับส่ายหัว

“หรือเป็นเขตดวงดาวมหึมา?”

บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เขตดวงดาวที่มีตัวตนระดับวารีนิรันดร์อย่างน้อยสิบคนขึ้นไปถึงจะสามารถเรียกได้ว่าเป็นเขตดวงใหญ่ โดยที่ตัวตนระดับวารีนิรันดร์หนึ่งในสิบคนนั้นจำเป็นต้องบรรลุขั้นสูงสุดหนึ่งคน และหากเขตดวงดาวใดที่มีตัวตนระดับเซียน เขตดวงดาวนั้นจะถูกเรียกว่าเขตดวงดาวมหึมา เซียนที่ว่านั้นไม่มีข้อจำกัดว่าต้องเป็นเซียนระดับใด

“ไม่ใช่ทั้งสอง!” ราชาคนนั้นยังคงส่ายหัว “เขตดวงดาวบูรพาจรัสแสงเป็นเพียงเขตดวงดาวเล็ก”

เขตดวงดาวเล็ก?

ไม่ใช่เขตดวงดาวใหญ่แต่เป็นเพียงเขตดวงดาวเล็ก?

ทุกคนตกตะลึง ต้องเป็นเขตดวงดาวเล็กแบบใดกันถึงสามารถให้กำเนิดราชาได้ถึงหกคน เรื่องแบบนี้มันน่าเหลือเชื่อเกินไป ต้องรู้ก่อนว่าต่อให้เป็นเขตดวงดาวใหญ่ก็ยังให้กำเนิดราชาในยุคสมัยเดียวกันได้เพียงสองถึงสามคนเท่านั้น

แล้วเขตดวงดาวเล็กล่ะ? เขตดวงดาวที่ว่าไม่เคยมีราชาแม้แต่คนเดียว

“แล้วก็…” ราชาคนนั้นแสร้งทำเป็นเอ่ยช้าๆเพื่อเรียกความสนใจจากเหล่าฝูงชน “ที่เขตดวงดาวบูรพาจรัสแสงมีตัวตนระดับวารีนิรันดร์เพียงหนึ่งคนเท่านั้น แถมยังเป็นเพียงขั้นต้นอีกด้วย”

พรวด! ราชาหลายคนสำลักออกมาอย่างไม่ยอมรับได้

ที่จริง เขตดวงดาวบูรพาจรัสแสงก็ไม่ได้มีตัวตนระดับวารีนิรันดร์อยู่มาตั้งแต่เมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนหน้า เขตดวงดาวที่อยู่ต่ำสุดของเขตดวงดาวเล็กกลับสามารถให้กำเนิดราชาได้ถึงหกคน… แบบนี้จะให้เหล่าราชาที่มาจากเขตดวงดาวใหญ่ยอมรับได้อย่างไร?

“เรื่องจริงหรือเปล่า?”

“เป็นไปได้งั้นรึ?”

“พี่ชายเหอ ท่านจำผิดรึเปล่า?”

เหล่าราชาทุกคนไม่อาจยอมรับเรื่องที่ดูเกินจริงเช่นนี้ได้

ราชาคนนั้นยิ้มและเอ่ย “พวกเจ้าถามน้องชายหลิงเองจะดีกว่า”

หลิงฮันไม่ปฏิเสธว่าพวกเขามาจากเขตดวงดาวบูรพาจรัสแสงและตัวตนระดับวารินีรันดร์หนึ่งคนที่เคยมีได้ตกตายไปแล้ว

เหล่าราชาเริ่มสนทนาถกเถียงกันด้วยเสียงดัง

“ฮึ่ม!” แต่ทันใดนั้นเอง ออร่าอันเย็นชาก็กวาดผ่านไปทั่วบริเวณพร้อมกับร่างของหลิวจวินเทียนได้เดินเข้ามา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอารมณ์ต้องการเข่นฆ่า เขาจ้องมองมายังหลิงฮันและคำราม “หลิงฮัน!”

ถึงแม้จางชิงจะไม่รู้ชื่อของหลิงฮันแต่เมื่อครู่เป็นหลิงฮันเองก็เพิ่งแนะนำตัวไป

“ทำไมต้องตะโกนเสียงดังด้วย หูข้าไม่ได้หนวกเสียหน่อย” หลิงฮันทำท่าแขะหู

“เจ้าสังหารน้องชายข้า!” หลิวจวินเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยม ใบหน้าของเขาปรากฏร่องรอยของความเศร้าโศกเนื่องจากบิดาของเขาเสียชีวิตไปแต่ยังอายุไม่มากทำให้เขาเหลือน้องชายอยู่เพียงคนเดียว ด้วยเหตุนั้นแล้วต่อให้หลิวซื่อเหวียนจะเป็นคนที่ไม่ได้ความแค่ไหนเขาก็ยังรักน้องชายของเขาอยู่ดี

แต่น้องชายเพียงคนเดียวของเขากลับถูกหลิงฮันสังหาร!

“ใช่แล้ว” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ

“เจ้า!” หลิวจวินเทียนเกรี้ยวกราด หลังจากสังหารน้องชายของเขาไปแล้วอีกฝ่ายยังมีหน้ามีแสดงท่าทีเช่นนั้นอยู่อีก?

“ข้าสังหารเขาไม่ได้รึไง?” หลิงฮันยิ้ม “น้องชายของเขามีนิสัยเช่นไร? ข้าว่าเจ้าน่าจะเป็นคนที่รู้ดีที่สุด หากปล่อยไว้เขาก็มีแต่จะไปสร้างความลำบากให้คนอื่น นับว่าดีแล้วที่ข้าสังหารเขาให้เจ้า”

“ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ!” หลิวจวินเทียนกล่าวย้ำคำเดิมถึงสามครั้ง ทุกครั้งที่กล่าวบนศีรษะได้มีเปลวเพลิงปะทุออกมาและเปลี่ยนรูปร่างเป็นมังกรเพลิง เขาคำรามปลดปล่อยสัมผัสสวรรค์ออกไปจนราชาทุกคนจิตใจสั่นสะท้าน

แข็งแกร่ง!

สัมผัสสวรรค์ของหลิวจวินเทียนอัดแน่นไว้ด้วยแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัว เหล่าราชาเกิดวคามคิดว่าหากไม่จำเป็นจะไม่มีทางเป็นศัตรูกับหลิวจวินเทียนเด็ดขาด

แข็งแกร่งสมกับเป็นราชาระดับสอง

“ไม่ต้องพล่ามอะไรแล้ว ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต” หลิวจวินเทียนกล่าวอย่างเย็นชา เขาจ้องมองหลิงฮัยและเตรียมพร้อมจะลงมือ

หลิงฮันยิ้ม ที่จริงแล้วเขารังเกียจที่จะลงมือกับคนเช่นหลิวซื่อเหวียนอย่างมาก แต่เขาจำเป็นต้องทำเพื่อขจัดความสกปรกให้หายไปจากโลก หากหลิวจวินเทียนเข้าใจในเรื่องนี้อีกฝ่ายจะไม่ปล่อยให้หลิวซื่อเหวียนทำตัวไร้กฎเกณฑ์เช่นนี้

ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกันแล้ว และตัดสินกับด้วยการต่อสู้

“ฮ่าๆ พวกเขาจะสู้กันแล้ว”

“เจ้าคิดว่าใครจะชนะ?”

“แน่นอนว่าต้องเป็นราชาระดับสองอย่างหลิวจวินเทียน ข้ายอมรับก็จริงว่าครั้งนี้เขตดวงดาวบูรพาจรัสแสงถือว่าฝืนสวรรค์อย่างแท้จริงที่ให้กำเนิดราชาได้ถึงหกคน แต่หากจะบอกว่าในหกคนนี้มีราชาระดับสองอยู่ล่ะก็ ข้ายอมกินหินเลย”

“ฮ่าๆ ข้าก็ไม่เชื่อเหมือนกัน”

เหล่าราชาส่ายหัว ไม่มีใครเลยที่คิดว่าหลิงฮันจะเป็นฝ่ายชนะ

ล้อเล่นรึเปล่า เขตดวงดาวเล็กที่ไม่มีแม้แต่ตัวตนระดับวารีนิรันดร์จะมีราชาระดับสองปรากฏตัวขึ้นได้อย่างไร?

จักรพรรดินีลุกขึ้นยืนและกล่าว “หากสามีข้าชนะ พวกเจ้าจะยอมกินก้อนหิน?” เสน่ห์ของนางน่าพรึงกลัวจนผ้าที่คลุมเอาไว้ไม่สามารถปกปิดความงามของนางเอาไว้ได้

ต่อให้เหล่ารุ่นเยาว์ที่อยู่ที่นี่จะเป็นราชา แต่ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจลึกและมีสีหน้าชะงัก

แม้จะไม่เผยโฉมหน้าออกมาก็ยังทำให้เหล่าราชาแทบจะบ้าคลั่ง นี่คือเสน่ห์อันหาผู้ใดเปรียบของจักพรรดินี!