“อะไรนะ?”
คำพูดสองคำนี้ออกมา ผู้ชายที่คุกเข่า แขนสองข้างที่แข็งแรงที่กำลังโอบตัวเด็กๆ อยู่ สายตาเฉียบคมกวาดมองไป ถูกปกคลุมด้วยความเย็นยะเยือกทันที
“นั่นไง ผู้หญิงคนนั้น เธอพูดว่าหม่ามี๊ไม่มีเงิน ไม่มีปัญญาซื้อชุดดีๆ จากนั้นก็ทำชุดปลอมรุ่นที่แด๊ดดี้มอบให้หม่ามี๊ในตอนนั้นขึ้นมา แล้วมาดูถูกหม่ามี๊”
ไม่ยอมรับไม่ได้ว่า คำพูดของคิวคิวค่อนข้างเฉลียดฉลาด เพียงแค่สองสามประโยคก็บอกเรื่องนี้จนชัดเจน
ชุดนี้ยังเป็นรุ่นที่แด๊ดดี้ของพวกเขามอบให้หม่ามี๊?!!
ภายในห้องจัดเลี้ยงตื่นตะลึงยิ่งกว่าเดิม
และ นิษาคนนี้ หลังจากที่สีหน้าเปลี่ยนไป ในที่สุดเธอก็ยืนหน้าซีดอยู่ตรงนั้น
แสนรักอุ้มลูกๆ เดินมา
“…สามีคะ”
“บอกว่าไม่ให้เธอมาที่แบบนี้ไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่คนชั้นเดียวกัน เธอวิ่งแจ้นมาทำอะไรที่นี่? มาหาเรื่องใส่ตัวเหรอ?”
เขาไม่ได้มองรอบๆ ด้วยซ้ำ หลังจากที่ผู้ชายคนนี้เดินเข้ามา ก็ปล่อยเด็กๆ ลงตรงหน้าเส้นหมี่ จากนั้นก็ตำหนิด้วยใบหน้าหล่อเหล่าเย็นชา
เส้นหมี่ได้ยิน ก็รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย
และคนโดยรอบที่ฟังอยู่ ก็สูดหายใจเข้าในลำคอ สายตาจ้องมองไปทางผู้ชายคนนี้!
รวมทั้ง ท่านสมเกียรติที่นั่งอยู่ข้างไชยันต์
ไม่ใช่คนชั้นเดียวกัน
เขาหมายความว่ายังไง?
กำลังพูดว่า พวกเขาเหล่านี้ ไม่ใช่คนโลกเดียวกันกับภรรยาของเขาเหรอ?
นี่ต้องบ้าขนาดไหน?
ชายชราคนนี้โมโหจนหนวดกระตุก
“…ไม่ ไม่ใช่ค่ะ นี่ไม่ใช่ว่าเป็นงานเลี้ยงที่คุณท่านตั้งใจจัดขึ้นเพื่อพวกเราหรอกเหรอ แถมยังตั้งใจจัดเตรียมให้พวกเราสองแม่ลูกเยอะขนาดนั้น ฉัน…ฉันไปค่อยกล้าปฏิเสธ…”
เส้นหมี่อธิบายกับชายคนนี้อย่างตะกุกตะกัก
ผลปรากฏว่า เธอเพิ่งพูดจบ ความถากถางบนใบหน้าหล่อเหลาที่สัดส่วนเด่นชัดของผู้ชายคนนี้รุนแรงยิ่งกว่าเดิม
“มีอะไรให้ไม่กล้าปฏิเสธ แม้แต่พื้นฐานความสะอาดของงานเขาก็ยังรักษาไม่ได้ ยังให้เธอมายุ่งวุ่นวายอะไรด้วย? ให้มาแสดงละครให้คนอื่นดูเหรอ?”
“!!!”
เชี่ย!
คราวนี้แม้แต่เส้นหมี่ก็ไม่รู้ว่าจะตอบกลับอย่างไร
เพราะว่าผู้ชายคนนี้ปากร้ายจริงๆ!
“คุณแสนรัก นายหมายคความว่ายังไง? อะไรที่เรียกว่าความสะอาดของงาน? นายหมายถึงพวกเราเหรอ?”
ผู้เฒ่าตระกูลโชคศักดาอดทนไม่ไหวแล้ว หน้าแก่ชราถามขึ้นอย่างหน้าเขียวหน้าดำอยู่ตรงที่นั่งในทันที
แสนรักสีหน้าไร้อารมณ์: “ดูแล้วก็ไม่ได้โง่!”
“…”
ทั้งห้องจัดเลี้ยง ในที่สุดก็ปะทุอีกครั้ง
สำหรับหลานชายที่ไชยันต์เพิ่งค้นพบ อันที่จริงเขาปกป้องเป็นอย่างดี คนภายนอกพวกนี้ไม่เคยเจอหน้าเขามาโดยตลอด แม้แต่เหตุการณ์ใหญ่ที่น่าตกใจหลายเรื่อง ก็ถูกเขาปิดข่าวไว้ได้
ดังนั้นในสายตาของคนนอกพวกนี้ เขาเป็นเพียงลูกชายของผู้หญิงบ้านนอกที่ขุนนายคบหา
ในเมื่อเป็นคนที่เกิดจากผู้หญิงบ้านนอก เขาจะดีเลิศได้สักแค่ไหน?
ดังนั้นหลายๆ คนไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตา
จนกระทั่งตอนนี้!
ท่านสมเกียรติโมโหจนแทบจะเป็นลม: “ไชยันต์ นี่คือหลานชายคนดีของนายเหรอ! เขาต้อนรับแขกแบบนี้เหรอ? ห๊ะ?!!”
เขาเคาะไม้เท้าลงบนพื้นเสียงดัง
ไชยันต์ก็หน้าผากกระตุก
เมื่อเห็นว่าคนในห้องจัดเลี้ยง จะถูกไอ้สารเลวนี่ทำให้โมโหจนกระทืบเท้า เขาทำได้เพียงจ้องมองไปทางเขา: “ไอรัก แกพูดอะไรน่ะ? คนเหล่านี้คือคนในตระกูลกับญาติและเพื่อนพ้อง ห้ามเสียมารยาทขนาดนี้!”
“เสียมารยาท?”
แสนรักยิ้มเยาะ: “ผมให้เกียรติเขามากแล้ว ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน เขาคงถูกผมไล่ออกไปตั้งนานแล้ว!”
เขายังคงไม่เกรงใจ
เสียงของเขา เต็มไปด้วยความเย็นเยือกจนทำให้คนรู้สึกขนหัวลุก
ยังจะไล่ออกไป? เขากำเริบเสิบสานขนาดนี้เลยเหรอ?
ภายในห้องจัดเลี้ยงในที่สุดคนจำนวนไม่น้อยก็ทนฟังต่อไปไม่ไหว พวกเขายืนขึ้นด้วยความขุ่นเคือง จะเข้ามาช่วย ผู้เฒ่าตระกูลโชคศักดาคนนี้
แต่ตอนนี้เอง จู่ๆ ม็อกโกก็ยืนขึ้น
“พวกคุณอยากจะทำอะไร? คิดว่าเขาไม่กล้าทำแบบนั้นจริงๆ เหรอ? ผมบอกพวกคุณให้ เพียงแค่เขากระดิกนิ้ว ก็สามารถทำให้พวกคุณตายไม่เหลือซาก!”
“…”
คำพูดนี้น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ฝีเท้าของคนพวกนี้แทบจะหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นในทันที
ตายไม่เหลือซาก?
เขามีความสามารถมากขนาดนี้?
พวกเขาไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ แต่ว่าคำพูดพวกนี้ออกมาจากปากม็อกโก ทำให้พวกเขาไม่กล้าผลีผลามอีกต่อไป แต่ละคนมองไปทางม็อกโก
รวมทั้ง นิษาที่อยู่ทางนี้
“ตายไม่เหลือซาก? ม็อกโก คุณเว่อร์หน่อยไหม?”
“เว่อร์” ม็อกโกหัวเราะเยาะ “แค่สิ่งที่คุณเพิ่งทำไปเมื่อสักครู่ คุณเชื่อไหมว่าคนที่ทำชุดตัวนี้ให้คุณ ตอนนี้ก็ได้หายไปจากโลกนี้แล้ว?”
“…”
“ยังมีอีก อย่าหาว่าผมไม่เตือนคุณ ถ้าหากตอนนี้คุณยังไม่รีบไปขอโทษหมี่ คุณอาจจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติครั้งใหญ่ รวมทั้งอนาคตพังพินาศชื่อเสียงปี้ป่น แม้กระทั่งยังมีความหายนะที่จะต้องติดคุก”
ม็อกโกเตือนอย่างหวังดีอีกครั้ง
เพราะว่าน้องชายของเขา เขารู้นิสัยของแสนรักดี
นิษาตกตะลึง!
ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอเหลือบมองผู้คนโดยรอบที่งงเป็นไก่ตาแตกอยู่เหมือนกัน ถึงได้ถามขึ้นประโยคหนึ่ง: “มีสิทธิ์อะไร?”
“สิทธิ์ที่เขาคือเจ้าพ่อแห่งวงการธุรกิจอันดับหนึ่งของเอเซีย สิทธิ์ที่เงินของเขา เพียงพอที่จะส่ง ตระกูลโชคศักดาของพวกคุณทั้งหมดเข้าหลุมศพไปได้โดยตรง เหตุผลนี้เพียงพอไหม?”
ม็อกโกพูดความจริงที่น่าอนาถแต่ละคำบอกกับเธอด้วยความเสียดสีอย่างรุนแรง