แม้จะเป็นนายพลหงเวยของเผ่ามังกร แม้จะต่อสู้มาหลายปีและมีประสบในสงครามนับไม่ถ้วนทั้งเล็กและใหญ่ แต่ก็ยังเป็นชายอายุร้อยปีที่เจอกับความเจ็บปวดจากการสูญเสียหลานชาย แถมยังถูกลูกชายของเขาทรยศ บวกกับอาการบาดเจ็บสาหัสและถูกโจมตีซ้ำหลายครั้ง ท้ายที่สุดอดีตจอมพลเฒ่าก็ทนต่อไปไม่ได้และกระอักเลือดสดๆออกมาจากปาก

ไม่นึกเลยว่าไอ้ลูกเนรคุณนั่นจะทรยศพ่อของตัวเองและทำให้เผ่ามังกรตกอยู่ในอันตรายเพื่ออำนาจ เนรคุณ เนรคุณจริงๆ!

หงเวยมองหยางซวี่กับหลี่เฟยหงที่อยู่ตรงหน้า จู่ๆก็คำรามออกมาเสียงดัง: “ถึงวันนี้หงเวยอย่างฉันจะตาย ฉันก็ต้องลากโจรป่าอย่างพวกแกสองคนลงนรกไปด้วยให้ได้!”

หงเวยพุ่งเข้ามาอย่างรุนแรง เขาต่อออกไปกลางอากาศจนเกิดเสียงดัง หยางซวี่ถูกความโกรธของหงเวยทำให้ตกใจจนขวัญหนีและยกแขนขึ้นมาไขว้เพื่อป้องกันตามสัญชาตญาณ

ตึง!

ร่างของหยางซวี่กระเดินไปข้างหลังสิบกว่าเมตร ที่แขนของเขามีเสียงกระดูกแตกดังขึ้นสองครั้ง ไม่นึกเลยว่าจะถูกหงเวยหักแขนทีเดียวสองแขนภายในหมัดเดียว!

“หลี่เฟยหง!” หงเวยตะโกนออกมาอีกครั้ง พาตัวเองกระโดดขึ้นสูง ใช้เท้าใหญ่เพียงข้างเดียวเหยียบลงมาอย่างรุนแรงจากบนฟ้า

ไหล่ของหลี่เฟยหงถูกหงเวยเหยียบ แรงที่ไม่อาจต้านทานได้ส่งตรงมาจากไหล่ของเขาจนทำให้เข่าทั้งสองข้างของเขาทรุดลงคุกเข่ากับพื้นและมีเสียงกระดูกแตกดังขึ้นอีกสองครั้ง

“อ๊าก!” หยางซวี่กับหลี่เฟยหงตะโกนอย่างน่าสมเพชแทบจะในเวลาเดียวกัน คนหนึ่งถูกหักแขนทั้งสองข้างด้วยหมัดเดียว อีกคนถูกเหยียบขาจนแตกเป็นผุยผงทั้งสองข้างด้วยการเหยียบครั้งเดียว

จนถึงตอนนี้มือของหยางซวี่กับหลี่เฟยหลงถึงได้ตอบสนอง

พวกเขาพุ่งเข้าไปหาหงเวย เสียงปืนดัง “ปังๆๆ” ดังขึ้น ดาบก็แทงเข้าไปในเนื้อดัง “สวบๆ”

หงเวยมองขึ้นไปบนฟ้าและคำรามออกมา: “พวกโจรต้องตาย แต่เผ่ามังกรจะอยู่ตลอดไป!”

พูดจบ อดีตจอมพลหงเวยแห่งเผ่ามังกรก็โกรธจัดจนถึงแก่ความตาย!

……

……

“ศิษย์น้องหญิงลั่วหลี วางใจเถอะ อีกเดี๋ยวฉันจะไปตำหนักเทพหิมะนะ”

เฉินโม่ฆ่าไป๋ซิวแล้ว เขาได้ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้งของตำหนักเทพหิมะที่จะปรากฏในครั้งนี้จากไป๋ซิวแล้ว จากนั้นก็จากไป

ตอนนี้เขาต้องกลับไปจัดการเรื่องต่างๆที่โลก หลังจากที่ไม่มีอะไรให้ห่วงแล้ว เขาก็จะออกเดินทางไปยังโลกผู้บำเพ็ญแท้ทันที

แต่หลังจากที่เฉินโม่กลับมาถึงยานจิงกลับพบเรื่องผิดปกติ แสงไฟของยานจิงในตอนนี้สว่างต่างจากปกติ เผยให้เห็นความอลังการไปทั่วทุกหนทุกแห่ง

บนถนนที่ปกติคึกคักว่างเปล่าไร้ผู้คน แม้แต่ตลาดกลางคืนก็ไม่มีพ่อค้าหาบเร่ออกมาตั้งแผงขายของ

เขาผลักประตูเข้าไปในบาร์แห่งหนึ่ง ในบาร์ก็ว่างเปล่า นอกจากบาร์เทนเดอร์ก็ไม่มีใครเลยสักคน

“อยากดื่มอะไรหน่อยมั้ยครับ?” บาร์เทนเดอร์เอ่ย: “ไม่คิดเลยว่าตอนนี้จะยังมีคนกล้าออกมาดื่มเหล้าอีก”

เฉินโม่นั่งลงที่บาร์ อยากดื่มไวน์แดงสักแก้ว ก็เลยเอ่ยถาม: “ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ? ช่วงนี้เกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นเหรอ?”

“ไม่รู้เหรอครับ?” บาร์เทนเดอร์มองเฉินโม่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจและเอ่ย: “ล้อเล่นรึเปล่าครับเนี่ย?”

“หืม?” เฉินโม่ทำสีหน้าท่าทางที่ไม่เข้าใจออกมา

“การปกครองเผ่ามังกรเปลี่ยนไปแล้ว ไม่รู้เหรอครับ? แม้แต่ผู้บังคับบัญชาก็ถูกคุมขัง คนอื่นๆที่ภักดีต่อผู้บังคับบัญชาก็ถูกจับกุม เจียงเหอซานถูกฆ่าตาย ตอนนี้ผู้คนตื่นตระหนกกันไปหมด พี่ใจกล้ามาก แม้แต่เรื่องนี้ยังไม่รู้เลย หรือว่าคุณจะเป็นสุดยอดคนติดบ้านที่สิบปีจะออกจากบ้านแค่ครั้งเดียว?”บาร์เทนเดอร์รู้สึกว่าชายหนุ่มตรงหน้าแปลกมากเลยจริงๆ

“อะไรนะ!” เฉินโม่ตกใจจนหน้าซีดและเอ่ยถาม : “ทำไมจู่ๆถึงเปลี่ยนการปกครอง? ยังรู้เรื่องอะไรอีก รีบบอกฉันมาให้หมด!”

บาร์เทนเดอร์ยิ้มอย่างขมขื่นและเอ่ย: “เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้แน่ชัดนะ ไม่กี่วันมานี้ในข่าวเขาว่ากันแบบนี้ มีแต่การประกาศไม่ให้ทุกคนเดินเหินตามใจชอบ แต่ไม่บอกว่ามีอะไรเกิดขึ้น”