เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2057 ความตายของเทพปีศาจ
‘เร็ว เราต้องเร็วกว่านี้!’ เทพธิดาจื่อเว่ยกระตุ้นตัวเองอยู่ภายใน
นางเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาเพียงผู้เดียวที่อยู่ที่นี่ หน้าที่ในการคลี่คลายเขตแดนอมตะจบลงบนบ่าของนาง
ดวงวิญญาณของเทพธิดาจื่อเว่ยถูกดัดแปลงโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ นางภักดีต่อเขา นางพยายามอย่างหนักเพื่อคลี่คลายเขตแดนอมตะ
อย่างไรก็ตามสนามรบทรายลวงตาของลั่วเว่ยหยินไม่ใช่เขตแดนธรรมดา
‘เขตแดนนี้แข็งแกร่งมาก นอกจากนี้มันยังมีหลายชั้น ข้าเกรงว่ามันจะใช้เขตแดนอมตะของ
เทพอมตะสวรรค์พิภพเป็นรากฐานและถูกดัดแปลงให้ซับซ้อนมากขึ้น!’
เทพธิดาจื่อเว่ยขมวดคิ้วลึก ด้วยความพยายามอย่างเต็มที่ นางสามารถอนุมานข้อมูลบางอย่าง
แต่นางมีความคืบหน้าน้อยมาก
ประการแรก เขตแดนอมตะจะหดตัวเป็นจุดเล็กๆเมื่อถูกกระตุ้นใช้งาน มันแยกพื้นที่ภายในออกจากโลกภายนอก ไม่ว่าภายในหรือภายนอก มันก็เป็นเรื่องยากที่จะคลี่คลาย
ก่อนหน้านี้เทพธิดาจื่อเว่ยเคยทําลายสนามรบราชันภูตของฟางหยวนในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา แต่นั่นเป็นเพราะนางใช้ประโยชน์จากเกราะโชคชะตาของฟงจิวเก้อ ด้วยการเชื่อมต่อดังกล่าว
นางจึงประสบความสําเร็จในการคลี่คลายเขตแดน
ประการที่สอง สนามรบทรายลวงตาไม่ใช่เขตแดนธรรมดาแต่เป็นผลงานของเทพอมตะสวรรค์
พิภพที่ได้รับการพัฒนามาจากรุ่นสู่รุ่น
มันยอดเยี่ยมมากแล้วที่เทพธิดาจื่อเว่ยสามารถค้นหาตําแหน่งของมันได้ในระยะเวลาสั้นๆ นางยังใช้วิธีต่างๆมากมาย บางครั้งนางกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะ บางครั้งนางใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา บางครั้งนางขอให้ผู้อมตะของถ้ําสวรรค์นิรันดรหรือวังสวรรค์ตรวจสอบบางอย่าง
ทั้งสามกองกําลังทํางานร่วมกันอย่างใกล้ชิด
ที่ขอบด้านนอก ฝูงค้างคาวดํายังโจมตีพวกเขาอย่างต่อเนื่อง คฤหาสน์วิญญาณอมตะของวังสวรรค์กลายเป็นแนวป้องกันของพวกเขา
พื้นที่ด้านใน เฒ่าเจิ้งหยวน ไป่หนิงปิง และเทพธิดาเมี่ยวหยินปกป้องเทพธิดาจื่อเวยอยู่รอบๆคฤหาสน์วิญญาณอมตะสองหลังตั้งอยู่ติดกัน พวกมันคือแท่นบูชาแห่งโชคของถ้ําสวรรค์นิรันดรและหอพิพากษาปีศาจของวังสวรรค์ ทุกครั้งที่เทพธิดาจื่อเว่ยแนะนํา คฤหาสน์วิญญาณ อมตะทั้งสองหลังจะร่วมมือกันโจมตีไปที่มุมหนึ่งของเขตแดน
ฉินติงหลิงและปิงชายฉวนไม่สงสัยเทพธิดาจื่อเว่ย พวกเขาขาดผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่บนเส้นทางแห่งปัญญา พวกเขาต้องเชื่อนางเท่านั้น
หลังจากทั้งหมดพวกเขามีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือฟางหยวน!
เดิมทีทั้งสามกองกําลังยังต่อต้านและระวังกันระหว่างไล่ล่าฟางหยวน
แต่ตอนนี้พวกเขาต้องทํางานร่วมกันอย่างเต็มที่เพื่อคลี่คลายเขตแดนอมตะ
ความเจ้าเล่ห์และความชั่วร้ายของฟางหยวนฝังลึกอยู่ในหัวใจของทุกคน เมื่อเขาซุ่มโจมตีที่นี่
เขาย่อมมีเจตนาชั่วร้ายบางอย่าง
ผู้อมตะของทั้งสามกองกําลังรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องร่วมมือกันและพยายามขัดขวางแผนการของฟางหยวน
นี่เป็นการตัดสินใจที่ฉลาด
แต่…
“พรวด!”
เทพธิดาจื่อเว่ยกระอักเลือดคําาโตออกมา
“โอ้?” เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ ทุกคนก็หันหน้าไปทางเทพธิดาจื่อเว่ย
นางเช็ดเลือดที่มุมปากและกัดฟันทํางานต่อไปด้วยใบหน้าซีดขาว
“วังสวรรค์สามารถสร้างผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่ เพื่อเจ้านายของนาง นางทุ่มเททุกสิ่งจริงๆ” ปิงชาย ฉวยเย้ยหยันและพยายามโจมตีกองกําลังทั้งสองด้วยคําพูด
ฉินติงหลิงขมวดคิ้ว ‘เหตุใดโชคของข้าถึงสั่นคลอนถึงเพียงนี้?
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาเทพธิดาจื่อเว่ยกับเฒ่าเจิ้งหยวนกลับเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน
แสงสว่างส่องประกายขึ้นบนร่างของสมาชิกนิกายเงาและนําพวกเขาพุ่งออกไปราวกับอุกกาบาต!
หัวใจของปิงชายฉวนและฉินติงหลิงแทบกระโดดออกมาจากหน้าอก พวกเขารีบนําคฤหาสน์
วิญญาณอมตะของตนติดตามเทพธิดาจื่อเว่ยไปอย่างรวดเร็ว
“บึม!”
การระเบิดที่น่าสะพรึงกลัวปะทุขึ้น
แท่นบูชาแห่งโชคถูกโจมตีจากด้านหลัง
ปิงชายฉวนคําราม “จื่อเวยทําร้ายพวกเรา!”
แท่นบูชาแห่งโชคได้รับความเสียหายอย่างหนักแต่มันยังพุ่งเข้าหาเทพธิดาจื่อเว่ยด้วยเจตนาสังหาร
ฟางเจิ้งที่อยู่ในหอพิพากษาปีศาจยังขาดประสบการณ์ เมื่อการระเบิดปะทุขึ้น หอพิพากษา
ปีศาจยังหยุดนิ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ
ดังนั้นหอพิพากษาปีศาจจึงได้รับความเสียหายมากกว่าแท่นบูชาแห่งโชค
ฟางเจิ้งรู้สึกราวกับกําลังเผชิญหน้ากับคลื่นยักษ์ เขาถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว หอพิพากษา
ปีศาจถูกแรงระเบิดส่งออกไปอย่างรุนแรง
การระเบิดครั้งนี้เกิดจากการระเบิดตัวเองของเทพปีศาจจิตวิญญาณ
มันสามารถทําลายสนามรบทรายลวงตา ผู้อมตะของสามกองกําลังที่อยู่ภายนอกไม่รู้เรื่องราว
และได้รับผลกระทบอย่างมาก
คฤหาสน์วิญญาณอมตะของพวกเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก แม้เทพธิดาจื่อเว่ยจะสามารถอนุมานการระเบิดได้ล่วงหน้าเล็กน้อย แต่นางมีเวลาน้อยเกินไป กลุ่มของนางถูกส่ง
กระจัดกระจายออกไปทุกทิศทุกทาง
คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลายหลังของวังสวรรค์ราวกับว่าวที่ถูกพัดไปตามสายลม
ฝูงค้างคาวหลายแสงตัวถูกกวาดล้างในครั้งเดียว
พื้นดินสั่นสะเทือน โลกดูเหมือนกําลังจะพังทลาย
ป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขปรากฏขึ้นกลางอากาศ มันได้รับความเสียหายร้ายแรงเช่นกัน
ชิงโจวถูกแยกร่างออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและร่วงลงบนพื้น
แดนซี่ได้รับความเสียหายอย่างมาก ตอนนี้มันเหลืออยู่ไม่ถึงสามสิบส่วน
ปีศาจอมตะฉีเจียบินออกจากแดนซี่ด้วยร่างกายที่อาบย้อมไปด้วยเลือด เขามองป้อมปราการ
บนภูเขาที่สงบสุขด้วยสายตาแหลมคม
คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหลังนี้ยังอยู่ แม้มันจะได้รับความเสียหาย แต่มันสามารถ
ป้องกันการระเบิดตัวเองของเทพปีศาจจิตวิญญาณ!
ในเวลาต่อมาป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขก็ถูกเก็บเข้าไปในมิติช่องว่างของฟางหยวน
คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ช้าเกินไป เขาไม่สามารถพึ่งพามันในทุกสถานการณ์
ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นและดึงดูดความสนใจของผู้อมตะทั้งหมด
แต่ฟางหยวนไม่ได้อยู่เพียงลําพัง ลั่วเว่ยหยินและอู๋ส่วยอยู่ด้านข้างเขา
“ไปฆ่าฟางหยวนกันเถอะ!” ปิงช่ายฉวยปล่อยให้คนอื่นๆซ่อมแซมแท่นบูชาแห่งโชคขณะที่เขา
บินออกไปด้วยตนเอง
ผู้อมตะระดับแปดผู้นี้เคยต่อสู้เคียงข้างฟางหยวนแต่ตอนนี้เขาไม่ปิดบังเจตนาสังหารอันล้ําลึก
ที่มีต่อฝ่ายตางข้าม
“ฟางหยวน เจ้าทําสิ่งใดกับนายท่าน!?” เทพธิดาจื่อเว่ยหยุดหลบหนี นางกรีดร้องขณะที่เลือด
ไหลออกมาจากจมูกและปากของนาง
ปีศาจอมตะฉีเจียเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน “เจ้าไม่รู้สึกถึงความรุนแรงของการระเบิดก่อนหน้านี้งั้นหรือ? เทพปีศาจจิตวิญญาณระเบิดตัวเองตายไปแล้ว”
“อันใด!?”
ผู้อมตะทั้งหมดตกตะลึง
“เทพปีศาจจิตวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ตายจริงๆงั้นหรือ?”
“การระเบิดก่อนหน้านี้น่ากลัวเกินไป เห็นได้ชัดว่ามันเป็นท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งจิต
วิญญาณ มันเป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายของเทพปีศาจจิตวิญญาณก่อนตายงั้นหรือ?”
“แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร! เขาคือเทพปีศาจผู้ยิ่งใหญ่!”
“ไม่ เขาไม่ใช่เทพปีศาจอีกต่อไป!
“ถึงกระนั้นพลังการต่อสู้ของเขาก็อยู่บนจุดสูงสุดของโลกใบนี้ ผู้ใดจะคิดว่าเขาจะตายด้วยน้ำมือของฟางหยวน!”
“ฟางหยวนฆ่าเทพปีศาจจิตวิญญาณจริงๆงั้นหรือ?”
การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะเปลี่ยนแปลงไป รูม่านตาของพวกเขาหดเล็กลงขณะจ้องมองไปที่ฟางหยวน
แม้การตายของเทพปีศาจจิตวิญญาณจะเกิดจากความร่วมมือของทุกคน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าฟางหยวนเป็นตัวการหลัก
“เราประเมินฟางหยวนต่ําเกินไป เขาสามารถสังหารเทพปีศาจจิตวิญญาณได้จริงๆ นั่นคือเทพปีศาจ!”
“เขาทําลายวิญญาณชะตากรรม ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะสามารถทําสิ่งนี้”
“ฆ่าเขา เราจะปล่อยเขาหนีไปไม่ได้ ปีศาจตนนี้จะนําภัยพิบัติมาสู่โลกใบนี้!” “ถูกต้อง แม้เขาจะสามารถสังหารเทพปีศาจจิตวิญญาณแต่ตอนนี้เขาต้องอยู่ในสภาพที่เลว ร้ายที่สุด หากเราไม่ฆ่าเขาตอนนี้ แล้วเราจะฆ่าเขาเมื่อใด?”
กลุ่มผู้อมตะตะโกน
“ฟางหยวน แม้ข้าจะตายที่นี่ ข้าก็จะฆ่าเจ้า!” ใบหน้าของเทพธิดาจื่อเว่ยกลายเป็นบิดเบี้ยว
นางกัดฟันและเริ่มโจมตี
เทพธิดาจื่อเวยภักดีต่อเทพปีศาจจิตวิญญาณมาก การตายของเขาทําให้นางโกรธจัด อีกด้านหนึ่ง นางพ่ายแพ้ฟางหยวนมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งครั้งนี้นางก็ยังพ่ายแพ้ นี่ทําให้นางต้องการกําจัดฟางหยวนมากขึ้นไปอีก
“ฆ่าเขา หากฟางหยวนไม่ตาย คนที่ต้องทุกข์ทรมานก็คือทุกคนที่อยู่ที่นี่!” ปีศาจอมตะฉีเจีย ตะโกนและพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนเช่นกัน
ในเวลาเดียวกันเขาลอบถ่ายทอดเสียงไปหาฟางหยวนอย่างลับๆ “ฟางหยวน เมื่อเทพปีศาจจิตวิญญาณระเบิดตัวเองก่อนหน้านี้ เจ้าไม่ให้ข้าเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณอมตะของเจ้า ตอนนี้ หากเจ้าต้องการหลบหนี เจ้าต้องขอความช่วยเหลือจากข้า นำมรดกของเทพออกมาเพื่อแสดงความจริงใจ!”
แดนซี่ของปีศาจอมตะฉีเจียได้รับความเสียหายร้ายแรงแต่พลังการต่อสู้บางส่วนของเขายังอยู่ ปีศาจเฒ่าผู้นี้ทํางานร่วมกับฟางหยวนเพื่อต่อสู้กับเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ชั่วครู่ แต่หลังจากนั้นเขากลับเปลี่ยนข้างเพื่อรีดไถฟางหยวนอีกครั้ง
ฟางหยวนอยู่ในสภาพที่เลวร้ายจริงๆ ภัยพิบัติในมิติช่องว่างของเขายังไม่สิ้นสุด
ด้านข้างเขา ใบหน้าของลั่วเว่ยหยินซีดขาว ร่างกายของเขาไม่มั่นคง ไม่ใช่เรื่องแปลกหากเขาจะหมดสติในวินาทีถัดไป
อู๋ส่วยอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างแย่เช่นกัน กลิ่นอายของเขาอ่อนแอมาก สิ่งที่เขาทําได้ตอนนี้มีเพียงการเสียสละตนเองเพื่อถ่วงเวลา แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่สามารถรับประกันว่าเขาจะซื้อเวลาได้นานเท่าใด
สําหรับบรรพชนทะเลปราณ เขาถูกนําเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ ราชาอสูรหมดสติและไม่สามารถต่อสู้ ฟางหยวนต้องการผู้อมตะระดับแปดเพื่อจัดการสถานการณ์
นอกจากนั้นหากบรรพชนทะเลปราณยังอยู่ด้านนอก เขาจะถูกบังคับโดยสถานการณ์ให้ปกป้องฟางหยวน ตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผย
‘ตอนนี้ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเสียสละร่างแยกบรรพชนทะเลปราณและร่างแยกอู๋ส่วยเพื่อถ่วงเวลา’ ฟางหยวนคิด
เขาถ่ายทอดเสียงไปหาลั่วเว่ยหยิน “วิธีหลบหนีที่เจ้ากล่าวถึงก่อนหน้านี้คือสิ่งใด?”
ก่อนที่เทพปีศาจจิตวิญญาณจะระเบิดตัวเอง ลั่วเว่ยหยินกระตุ้นใช้งานสนามรบทรายลวงตา เพื่อสะกดข่มพลังอํานาจของการระเบิด มันประสบความสําเร็จบางส่วนและสามารถซื้อเวลาได้เล็กน้อย
ในช่วงเวลานั้นบรรพชนทะเลปราณและอู๋ส่วยสามารถเข้าไปในป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุข
ขณะที่ลั่วเว่ยหยินบอกฟางหยวนว่าเขามีวิธีหลบหนีออกจากภาคกลางอย่างปลอดภัย ดังนั้นฟางหยวนจึงอนุญาตให้ลั่วเว่ยหยินเข้าไปในป้องปราการบนภูเขาที่สงบสุขเช่นกัน
ประการแรก ลั่วเว่ยหยินช่วยชีวิตร่างแยกทั้งสองของฟางหยวน นี่เป็นการแสดงความจริงใจ ประการที่สอง เนื่องจากท่าไม้ตายเขตแดนอมตะของลั่วเว่ยหยินถูกทําลาย เขาจึงได้รับผลกระทบย้อนกลับที่รุนแรง เมื่อพลังการต่อสู้ของเขาลดลง ภัยคุกคามจากเขาก็ลดลงเช่นกัน ฟางหยวนไม่กลัวเขาในสภาพนี้