โดยการนำของหลิงตู้ฉิง คนอื่น ๆ ก็เริ่มเดินตามเข้าไปในประตูมิติที่จางจิงหงสร้างขึ้นเพื่อเดินทางออกจากสำนักเที่ยงธรรม

อย่างไรก็ตามยังมีศิษย์ของถังชี่หยุนบางส่วนที่ตัดสินใจจะอยู่ที่นี่ต่อ

ก่อนที่จะเดินเข้าไปยังประตูมิติ หลิงยี่เทียนหันกลับไปพูดกับจางจิงหงว่า “มหาปราชญ์จาง หากท่านมีเวลาข้าขอเชิญท่านไปที่อาณาจักรจันทราของข้าบ้าง ข้าในฐานะตัวแทนของเผ่ามนุษย์ทั้งหมดขอเรียนเชิญท่าน”

จางจิงหงยิ้มและพยักหน้า “หากมีเวลา จิงหง ผู้นี้จะต้องไปเยือนฝ่าบาทราชันแห่งมวลมนุษย์แน่นอน อย่างไรก็ตามข้าต้องขอประทานอภัยต่อฝ่าบาทด้วยที่ก่อนหน้านี้ข้าไม่ได้ทักทายท่านอย่างสมพระเกียรติ เพราะข้าไม่นึกเลยว่าฝ่าบาทจะเสด็จมาเยือนสำนักของข้าด้วยตัวของพระองค์เองเช่นนี้”

หลิงยี่เทียนยิ้มและพยักหน้า จากนั้นเขาจึงเดินเข้าไปในประตูมิติตามหลิงตู้ฉิงไป

เมื่อเห็นว่าหลิงยี่เทียนจากไปแล้ว จางจิงหงอดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเอง “ไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าปราชญ์ถังจะมีศิษย์เป็นราชันแห่งมวลมนุษย์เช่นนี้ มิน่าล่ะนางถึงได้รับการเกื้อหนุนจากสวรรค์มากขนาดนั้น!”

เมื่อเขาทะลวงระดับกลายเป็นผู้สำเร็จเต๋าแล้ว เขาจึงสามารถมองเห็นกลิ่นอายราชันแห่งมวลมนุษย์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าหลิงยี่เทียนแท้จริงแล้วเป็นใคร

เมื่อส่งกลุ่มของหลิงตู้ฉิงออกไปจนหมดแล้ว จางจิงหงจึงปิดประตูมิติลงและพูดกับทุกคนที่ยังคงอยู่ที่เดิมไม่ไปไหนว่า “ทุกท่านหลังจากนี้ข้า จิงหง จะบรรยายหลักการที่ข้าเข้าใจมาให้พวกท่านได้ฟังทั้งหมด และเมื่อจบการบรรยายแล้วข้าจะขอตัวออกไปท่องโลกใบนี้ก่อนที่ข้าจะต้องขึ้นไปสู่โลกเบื้องบน!”

“ขอบคุณท่านมหาปราชญ์!” ทุก ๆ คนต่างโค้งคารวะด้วยท่าทีเคารพและตื่นเต้น เพราะพวกเขากำลังจะได้มีโอกาสฟังคำสอนจากมหาปราชญ์โดยตรง!

ส่วนทางด้านของกลุ่มหลิงตู้ฉิงในเวลานี้ได้มาปรากฏกายที่ชายฝั่งของทะเลแห่งความรู้แล้วเช่นกัน ซึ่งบรรดาผู้คนของเขาที่อยู่ในค่ายพักแรมก็รีบเดินออกมาหา

“เป็นยังไงบ้างใครได้เป็นมหาปราชญ์ของยุคนี้?” ฟู่เซียนและคนอื่น ๆ รีบเอ่ยถามขึ้น

พวกเขาสัมผัสถึงปรากฏการณ์การปรากฏตัวของมหาปราชญ์คนใหม่เช่นกัน แต่พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นใครกันแน่ที่กลายเป็นมหาปราชญ์

“จางจิงหง!” หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้น

“แล้วท่านยายของข้าล่ะ ท่านปู่?” หลิงเจิ้นฮุย ลูกชายของหลิงยู่ชานอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้น

เมื่อได้ยินคำถามนี้สีหน้าของหมิงจู้และหมิงซิ่วก็เปลี่ยนเป็นสลดลงอีกครั้ง

หลิงตู้ฉิงหันไปจ้องคนทั้งคู่ทันทีและพูดว่า “พวกเจ้าจะเศร้ากันไปทำไม? หากพวกเจ้าฝึกฝนกันหนักมากพอในอนาคตพวกเจ้าจะได้เจอนางอีกครั้งแน่ ๆ แต่ถ้าหากพวกเจ้าไม่ตั้งใจบ่มเพาะพวกเจ้าจะไม่มีคุณสมบัติได้เจอนางอีกครั้ง ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นพวกเจ้าก็คงต้องโทษตัวเองแล้ว”

“ท่านพ่อ ท่านไปพาท่านแม่กลับมาหาพวกเราไม่ได้เหรอ?” หมิงจู้รีบเอ่ยถามขึ้น

ตามความเข้าใจของนาง นางคิดอยู่เสมอว่าหลิงตู้ฉิงนั้นเก่งกาจเหนือใคร ดังนั้นมันก็ไม่น่าจะใช่ปัญหาถ้าหากหลิงตู้ฉิงจะตามหาตัวแม่ของนางที่ไปเกิดใหม่ได้

หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “หยุดพูดอะไรไร้สาระได้แล้ว เจ้าจำเป็นต้องตั้งใจบ่มเพาะให้ดีตามที่ข้าบอกเท่านั้น เจิ้นฮุย เจ้าเข้ามาหาปู่ตรงนี้ ปู่จะมอบหนังสือเล่มนี้ให้เจ้า จงรับไปและตั้งใจอ่านมันให้ดี!”

จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็มอบหนังสือความเที่ยงธรรมที่น่าหวั่นเกรงให้กับหลิงเจิ้นฮุย

หมิงจู้ เมื่อเห็นเช่นนี้สีหน้าของนางเปลี่ยนเป็นตกตะลึงทันทีและรีบถามขึ้นว่า “ท่านพ่อ เจิ้นฮุยอ่านมันได้งั้นเหรอ?”

ขนาดปราชญ์แท้ ๆ เพียงแค่เปิดหน้าแรกของหนังสือเล่มนี้อ่านยังตายภายในชั่วพริบตา แล้วลูกของนางจะไปมีคุณสมบัติพอที่จะอ่านมันได้ยังไง?

หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบกลับ “คนอื่นอ่านไม่ได้ แต่เขาสามารถอ่านได้”

“ขอบคุณท่านปู่!” หลิงเจิ้นฮุย เมื่อรับหนังสือมาแล้วเขาก็เปิดมันอ่านในทันที แต่แล้วเพียงแค่เขาเปิดหน้าแรกสีหน้าของเขาก็กลายเป็นงุนงงและถามหลิงตู้ฉิงว่า “ท่านปู่ข้าไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรเขียนอยู่เลย!”

“ใช้หัวใจของเจ้าตั้งใจอ่านมันให้ดี ๆ!” หลิงตู้ฉิงชี้แนะ

หลังจากนั้นหลิงตู้ฉิงก็ไม่สนใจอะไรกับหลิงเจิ้นฮุยอีก เขาหันไปพูดกับคนอื่น ๆ ว่า “พวกเรากลับไปที่ทำเนียบราชันมนุษย์กันก่อน จากนั้นพวกเราจะใช้ประตูเคลื่อนย้ายของที่นั่นเพื่อกลับไปที่อาณาจักรจันทราของพวกเรา!”

“ข้าเกรงว่าข้าคงตามไปไม่ได้เพราะข้าจำเป็นต้องพาเทียนหยุนกลับไปหาพี่สาว!” ราชาเทพมารหกปรารถนาพูดขึ้น

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “เจ้ากลับไปใช้ประตูเคลื่อนย้ายที่อาณาจักรจันทราเพื่อเดินทางเข้าเขตแดนอุดรทมิฬโดยตรงเลยจะดีกว่า แบบนั้นมันจะเร็วกว่ามาก”

“ถ้าอย่างนั้นข้ากลับไปที่อาณาจักรจันทรากับท่านก่อนก็ได้!” ราชาเทพมารหกปรารถนายิ้มและพยักหน้า

หลังจากนั้นทุกคนจึงเก็บข้าวของและออกเดินทางมุ่งหน้ากลับไปที่ทำเนียบราชันมนุษย์ทันที

ในระหว่างทางกลับ หลิงตู้ฉิงพูดกับลูก ๆ ของเขาว่า “หลังจากกลับไป พวกเจ้าจำเป็นต้องตั้งใจบ่มเพาะกันอย่างเต็มที่เพื่อทะลวงระดับการบ่มเพาะให้เร็วที่สุด เพราะเมื่อถึงเวลาพ่อจำเป็นต้องให้พวกเจ้าช่วยแย่งรางวัลจากสวรรค์ที่ผู้สำเร็จเต๋าคนอื่น ๆ จะได้รับ”

หลิงยู่ชานหัวเราะ “ไม่มีปัญหาท่านพ่อ! พวกเราจะช่วยท่านชิงพวกมันมาแน่นอน ว่าแต่ท่านพ่อมีความเห็นอย่างไรในเรื่องของเทียนเก๋อ เพราะมันคงอีกไม่นานที่ข้าคงต้องเผชิญหน้ากับเขา?”

“เจ้าสามารถทำอะไรกับเขาก็ได้ตามที่ใจเจ้าปรารถนา!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น “แต่ว่าเจ้าต้องแน่ใจว่าตัวของเจ้าพร้อมจริง ๆเ จ้าถึงค่อยจัดการสะสางเรื่องของเจ้ากับเขา”

“ทราบแล้วท่านพ่อ!” หลิงยู่ชานพยักหน้า

อย่างไรก็ตาม เรื่องเวลาพร้อมหรือไม่พร้อมนั้นอันที่จริงมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขาแค่คนเดียว เพราะถ้าหากเทียนเก๋อท้าทายเขาขึ้นมาก่อน เขาเองก็จำเป็นต้องยอมรับคำท้าไม่ว่าเขาจะพร้อมหรือไม่

จากนั้นในเวลาไม่นาน พวกเขาทุกคนก็เดินทางถึงทำเนียบราชันมนุษย์และจากนั้นพวกเขาก็ใช้ประตูเคลื่อนย้ายเดินทางกลับไปที่อาณาจักรจันทราทันที

ทางด้านของฟู่เซียนเมื่อเขาตัดสินใจแล้วว่าจะสนับสนุนหลิงยี่เทียนอย่างเต็มตัว ดังนั้นเขาจึงตามหลิงยี่เทียนไปที่อาณาจักรจันทราด้วย ซึ่งเมื่อเขาไปถึงเขาก็ต้องประหลาดใจกับความอุดมสมบูรณ์ของพลังวิญญาณที่สถิตอยู่ในอาณาจักรจันทรา

ทางด้านของหลิงยี่เทียน เมื่อกลับไปถึงอาณาจักรจันทราเขาก็สั่งให้คนของเขาลงมือยึดอาณาเขตรอบ ๆ ทันที

ในระหว่างที่หลิงยี่เทียนกำลังยุ่งอยู่กับการยึดอาณาเขตรอบ ๆ หลิงตู้ฉิงก็ส่งหวงซีและราชาเทพมารหกปรารถนากลับไปยังสถานที่ของพวกนาง

หวงซีจำเป็นต้องรีบกลับไปที่ภูเขาฟีนิกซ์เพื่อเพิ่มระดับการบ่มเพาะของนางให้เร็วที่สุดเพื่อเตรียมตัวที่จะจัดการกับแดนกระดูกขาว ไม่เช่นนั้นกองทัพของภูเขาฟีนิกซ์ก็ไม่สามารถออกไปรบให้กับหลิงตู้ฉิงได้สักที

ส่วนราชาเทพมารหกปรารถนาก็พาหลิงเทียนหยุนกลับไปบ่มเพาะต่อที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของหยิงหยิง

ทางด้านของหยิงหยิง เมื่อนางได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากหลิงเทียนหยุน และได้รับการถ่ายทอดเต๋ามิติและเต๋าเวลามาแล้วนางจึงพูดว่า “แม่กำลังกังวลอยู่พอดีว่าเจ้าน่าจะมีเวลาไม่เพียงพอ แต่ตอนนี้ด้วยเต๋าที่พ่อเจ้าถ่ายทอดมาให้ แม่มั่นใจว่าเจ้าจะมีไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน!”

หลังจากนั้นเมื่อนางบรรลุเต๋าแห่งเวลาเรียบร้อยแล้ว เวลาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดก็เดินช้ากว่าโลกภายนอกหลายสิบเท่า

“เอาล่ะ ตอนนี้เจ้ารีบหลอมรวมกับเต๋าที่เหลือได้แล้ว!” หยิงหยิงพูดกับหลิงเทียนหยุน “ตอนนี้เวลาที่ผ่านไป 80 ปีในนี้จะเท่ากับ 1 ปีของโลกภายนอก ดังนั้นต่อให้เจ้าบ่มเพาะที่นี่สัก 8,000 ปี เมื่อเจ้าออกไปสู่โลกภายนอกเวลามันก็ผ่านไปแค่ 100 ปีเท่านั้น แต่ตอนนี้แม่ยังไม่ได้บรรลุเต๋าแห่งกาลเวลาจนสมบูรณ์ เอาไว้แม่บรรลุมันจนสมบูรณ์เมื่อไหร่แม่น่าจะทำให้เวลาที่นี่ช้าลงกว่าข้างนอกได้นับร้อยเท่าและเมื่อเจ้าบ่มเพาะไปถึงขอบเขตจักรพรรดิ เจ้าค่อยออกไปจากที่นี่เพื่อหาประสบการณ์ต่อ!”

เมื่อพูดจบ หยิงหยิงก็ปล่อยให้หลิงเทียนหยุนหลอมรวมกับเต๋าที่เหลือต่อ ส่วนนางก็ถามคำถามอื่น ๆ เพิ่มจากราชาเทพมารหกปรารถนา

ทางด้านของหลิงตู้ฉิง เมื่อเขากลับมาที่อาณาจักรจันทรารอบนี้เขาก็มุ่งความสนใจไปที่การชี้แนะคนรอบข้างของเขาให้บ่มเพาะได้อย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเหล่าภรรยาของเขา และอุลบากับตงฟางจุน ซึ่งถูกเขาเรียกตัวให้มาอยู่ในสายตา

ในเวลานี้ระดับการบ่มเพาะของอุลบา และตงฟางจุนนั้นได้พัฒนามาถึงระดับนภาครามเรียบร้อย

ตอนนี้อุลบาสามารถควบคุมร่างกายอันแปลกประหลาดของเขาได้อย่างใจนึกแล้ว ส่วนตงฟางจุนก็ได้รับการถ่ายทอดกระบี่ที่หกของวิชาดาราโลหิตประสานกระบี่ กระบี่แห่งแสง เรียบร้อย และทัศนคติของเขาก็ไม่ใช่คนขี้ขลาดอีกต่อไปแล้วเช่นกัน!

หลิงตู้ฉิงใช้ชีวิตอยู่ในอาณาจักรจันทราอย่างสุขสงบถึง 15 ปี แต่จากนั้นความสงบสุขของเขาก็ถูกพังทลายลง!