ตอนที่ 2,233 : กลืนกิน! กลืนกิน!
“หนวกหู!”
แทบจะพร้อมกันกับที่ปีศาจวัยกลางคนกล่าวจบ ลูกตาต้วนหลิงเทียนก็หดหยีเผยประกายเย็นชา ตะคอกคำออกมาด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
กล่าวจบคำ ก็ไม่เห็นว่าต้วนหลิงเทียนลงมืออย่างไร
ครืน! ครืน! ครืน! ครืน!
……
บังเกิดเสียงอากาศระเบิดดังครืนๆปานฟ้าคำราม เป็นพลังไร้สภาพขุมหนึ่งระเบิดปะทุออกจากร่างต้วนหลิงเทียน โถมถันออกมาอย่างเกรี้ยวกราดปานคลื่นในทะเลคลั่ง มวลพลังคุ้มคลั่งยังให้ความรู้สึกเสมือนขุนเขาถล่ม!
และเป้าหมายของขุนเขาถล่มครานี้ ก็คือปีศาจวัยกลางคนเบื้องหน้าต้วนหลิงเทียน!
พลังที่มองไม่เห็นขุมนี้ โถมมาว่องไวสุดที่ปีศาจวัยกลางคนจะทันได้ตอบสนองสิ่งใด!
กว่าที่มันจะทันได้ตอบสนอง มันก็ถูกมวลพลังมหาศาลที่โถมมาดั่งคลื่นกลืนกิน!
วินาทีนี้ปีศาจชายวัยกลางคนประหนึ่งเรือลำน้องลอยคอในสมุทรคลั่งก็ไม่ปาน สุดท้ายก็ถูกคลื่นยักษ์กกลืนหายไปไม่เหลือแม้แต่ซาก…
กระบวนการทั้งหมดยังเงียบงันนักไร้เสียงระเบิดใด
ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม!
…
แทบจะพร้อมกันกับที่ชายวังกลางคนหายไปต่อหน้าต่อตาทุกคน อากาศเบาบางก็แปรเปลี่ยนไปคล้ายมรสุมลมแรง!พัดสาดออกไปให้ชุดเหล่าปีศาจมนุษย์ในถ้ำกระพือสะบัด!
บางคนที่ด่านพลังฝึกปรืออ่อนด้อยยังไม่อาจต้านทานแรงลมได้ไหว ถึงกับหงายหลังล้มก้นจ้ำเบ้า
สายลมกรรโชกรุนแรงที่พัดกวาดออกมา ย่อมเกิดจากการที่พลังไร้สภาพที่มองไม่เห็นของต้วนหลิงเทียนทำลายร่างปีศาจในรูปลักษณ์ชายวัยกลางคนนั่น!
เรียกว่าทันทีที่ถูกพลังไร้สภาพที่ต้วนหลิงเทียนซัดออกมาโถมใส่ ร่างชายวัยกกลางคนก็ถูกบดขยี้เข่นฆ่า ไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยใดๆ ราวกับอยู่ๆมันก็อันตรธานหายไปในอากาศว่างเปล่า
จากจุดนี้บอกให้รู้ว่าพลังเมื่อครู่มันรุนแรงขนาดไหน!
“ผ่อนคลายร่างกายอย่าได้ต่อต้าน…ข้าจะช่วยเจ้ายกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณ”
ในขณะที่หวงเหวินจิ้งกำลังตกตะลึงกับการลงมือฆ่าคนในห้วงคิดเดียวของต้วนหลิงเทียน เสียงอีกฝ่ายก็ดังขึ้นเข้าหูนาง
ฟังจากที่ต้วนหลิงเทียนบอก ดูเหมือนกำลังจะช่วยยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณให้นางแล้ว
และพริบตาที่ความคิดนี้ผุดขึ้น
นางรู้สึกได้ ว่ามีสำนึกเทวะกวาดผ่านร่างของนาง ก่อนที่จะเริ่มชำแรกแทรกเข้าไปในกายนาง ยังมุ่งตรงไปยังดวงจิต
เมื่อนึกถึงวาจาที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวตือนก่อนหน้า หวงเหวินจิ้งจึงไม่ได้ต่อต้านสำนึกเทวะดังกล่าว
เพราะนางตระหนักได้ว่าสำนึกเทวะขุมนี้เป็นของต้วนหลิงเทียน
หลังยืนยันตำแหน่งพรสวรรค์รากวิญญาณในดวงจิตหวงเหวินจิ้งได้แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ใช้ปฐมเวทย์กลืนกินดูดซับพรสวรรค์รากวิญญาณของชายวัยกลางคนที่หลงเหลืออยู่ในอากาศและกำลังจะสลายหายหวนคืนสู่สวรรค์และโลก เพื่อไปเพิ่มให้หวงเหวินจิ้งทันที
ทันใดนั้นพรสวรรค์รากวิญญาณของหวงเหวินจิ้งก็บังเกิดความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย สีครามแต่เดิมเริ่มเข้มขึ้น
“เสร็จแล้วหรือ?”
เมื่อสัมผัสได้ว่าสำนึกเทวะถูกถอนออกไปจากร่าง หวงเหวินจิ้งก็ลองดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบดูทันที และพบว่าความเร็วมันสูงขึ้นกว่าเดิมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แม้ว่าจะมีการพัฒนา แต่ก็ไม่ได้มากมายจนเหลือเชื่ออะไร
“อ่าว มิใช่เจ้าบอกว่าจะยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของข้าให้เป็นสีม่วงหรือไร?”
จังหวะนี้หวงเหวินจิ้งงุนงงเล็กน้อย
หรือชายหนุ่มชุดม่วงคนนี้หลอกนาง?
เขาช่วยยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของนางให้กลายเป็นสีม่วงไม่ได้ตามที่บอกหรือ?
“เจ้านั่น…ตายแล้ว?”
“มันถูกฆ่าตาย…ในพริบตาเดียว?”
“ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น…เมื่อครู่ข้ารู้สึกว่ามีกลิ่นอายพลังหาใดเปรียบขุมหนึ่งระเบิดออกจากกร่างเจ้าหนุ่มชุดม่วงนั่น…ต่อมาเจ้านั่นก็หายไปดื้อๆ…”
“วิธีการลงมือแบบนี้…ต่อให้เป็นหวงเหวินจิ้งก็ทำไม่ได้ไม่ใช่หรือ?”
“หมายความว่า…เจ้าหนุ่มชุดม่วงนั่น ยังร้ายกาจกว่านางอีกงั้นเหรอ!?”
…
หลังจากที่เหล่าปีศาจมนุษย์คืนสติ พวกมันก็ตกอยู่ในความอลหม่านทันที ต่างมองไปยังต้วนหลิงเทียนอีกครั้งด้วยความหวาดกลัว
ไม่น่าแปลกใจเลยที่อีกฝ่ายได้รับความโปรดปรานจากหวงเหวินจิ้ง!
ที่แท้ชายหนุ่มชุดม่วงผู้นี้แข็งแกร่งนัก!
“ข้าบอกแล้วว่าจะช่วยยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้าให้กลายเป้นสีม่วงข้าย่อมทำได้แน่…แค่อดทนรอหน่อย”
ต้วนหลิงเทียนคล้ายจะเห็นความสงสัยงุนงงของหวงเหวินจิ้ง จึงกล่าวบอกนางออกมาในเวลาที่เหมาะสม
กล่าวจบคำ ก็ไม่รอให้หวงเหวินจิ้งตอบคำ ต้วนหลิงเทียนเหินร่างออกไปทันที
ฟู่ม! ฟู่ม! ฟู่ม! ฟู่ม! ฟู่ม!
…
แทบจะทันทีที่ต้วนหลิงเทียนพุ่งร่างออกไป เสียงลมกรรโชกแรงก็ดังขึ้นเข้าหู
“นี่ … “
หวงเหวินจิ้งที่พึ่งฟื้นสติ พอได้เห็นร่างที่ก่อให้เกิดลมกรรโชกทั้งได้เห็นการลงมือของต้วนหลิงเทียน ลูกตานางก็อดไม่ได้ที่จะหดหยีลง สีหน้าฉายชัดถึงความตกตะลึง
เพราะในสายตาของหวงเหวินจิ้ง
ต้วนหลิงเทียนที่พุ่งเข้าใส่เหล่าปีศาจเบื้องล่าง ดั่งสายลมมรณะก็ไม่ปาน ผ่านพ้นไปที่ใดเหล่าปีศาจก็ถูกฆ่าตายอย่างไร้หนทางต่อต้านรับมือ!
ฟุ่บ!
หลังผ่านไปไม่กี่ลมหายใจ ร่างดั่งสายลมของต้วนหลิงเทยนก็หยุดลง
และตอนนี้เหล่าปีศาจมนุษย์ก็ไม่เหลือรอดแม้แต่ตนเดียว ทั้งหมดถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าตายหมดสิ้น!
สีหน้าต้วนหลิงเทียนที่ลอยอยู่กลางความว่างก็ยังคงเฉยเมยคล้ายไม่มีความรู้สึกใดๆ
เผ่าปีศาจมนุษย์นั้น ยกเว้นมนุษย์แท้ของวังเซียนสัญจรแล้ว แต่ละคนล้วนมือเปื้อนเลือดผู้ฝึกตนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าทั้งสิ้น
การฆ่าพวกมันต้วนหลิงเทียนไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย
“อย่าต่อต้าน…”
ในขณะที่หวงเหวินจิ้งกับการลงมือสังหารหมู่อย่างไร้ปราณีของต้วนหลิงเทียน เสียงทุ้มพลันดังเข้าหูนางอีกครั้ง
หลังจากกนั้นนางก็พบว่าสำนึกเทวะที่คุ้นเคยหนึ่ง เริ่มชำแรกเข้าสู่ร่างกายนางอีกครา ยังดำดิ่งสู่ดวงจิตของนางเหมือนก่อนหน้า
สถานการณ์เดิมฉายวนซ้ำ
…
“ลองดูใหม่”
หลังถอนสำนึกเทวะออกจากร่างหวงเหวินจิ้ง ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวออกมาอย่างประจวบเหมาะ
คราวนี้เหล่าปีศาจมนุษย์ที่เขาฆ่าไป ปริมาณพรสวรรค์รากวิญญาณของพวกมันที่เขาดูดกลืนมาได้นับว่ามีไม่น้อย ยังสามารถยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของหวงเหวินจิ้งให้เปลี่ยนเป็นสีครามเข้มทันที!
ความเปลี่ยนแปลงจากรากวิญญาณสีครามไปเป็นรากวิญญาณสีครามเข้มนั้น ไม่ใช่ความเปลี่ยนแปลงแค่เล็กน้อยเลย!
“นี่มัน…”
หลังลองดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินเพื่อบ่มเพาะอีกครั้ง ลูกตาของหวงเหวินจิ้งก็หดเล็กลง สีหน้าเผยความตื่นตระหนกทั้งตื่นเต้นยินดีไม่น้อย
สาเหตุที่นางเสียอาการขนาดนี้ เพราะนางพบว่าความเร็วในการดูดซับทั้งความไวต่อสัมผัสพลังวิญญาณฟ้าดิน มันมากกว่าก่อนหน้าอย่างเทียบไม่ติด! มากขึ้น 2-3 เลยเท่าก็ว่าได้!!
“ตอนนี้พรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้ากลายเป็นสีครามเข้มแล้ว…อีกแค่นิดเดียวก็จะกลายเป็นสีม่วง”
ต้วนหลิงเทียนมองกล่าวกับหวงเหวินจิ้งเสียงเรียบ
หลังกล่าวจบคำ ต้วนหลิงเทียนก็พุ่งร่างเข้าสู่ 1 ใน 81 ช่องทางด้านหลัง
อุโมงค์นี้ไม่ใช่อุโมงค์ที่เขากับนางเคยเข้าไป แต่เป็นอุโมงค์ใหม่
“ตามข้ามา”
หลังเหินมาถึงปากทาง ต้วนหลิงเทียนก็นึกขึ้นได้ว่าหวงเหวินจิ้งสมควรตกตะลึงอยู่ จึงกล่าวเรียกนางออกมา
อย่างที่ต้วนหลิงเทียนคิด หวงเหวินจิ้งยังอึ้งไม่หาย
แค่ไม่ทันไรพรสวรรค์รากวิญญาณของนาง จากสีครามก็กลายเป็นสีครามเข้มแล้ว?
จังหวะนี้นางรู้สึกเหมือนฝันไป!
‘ก่อนหน้าที่มันฆ่าชายกลางคน รากวิญญาณของข้าก็ดีขึ้นเล็กน้อย…มาตอนนี้พอฆ่าปีศาจกลุ่มใหญ่ รากวิญญาณของข้ากลับดีขึ้นมาก’
หลังจากนั้นไม่นานหวงเหวินจิ้งก็สบสติลงได้ กระทั่งยังตระหนักได้อีกด้วยว่า
การยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของนาง เกี่ยวข้องกับการตายของเหล่าปีศาจพวกนั้นอย่างแยกไม่ออก!
‘มิน่าแปลกใจเลยที่ไฉนมันถึงเอ่ยคำว่าเหยื่อออกมาในตอนแรก…ที่แท้ปีศาจมนุษย์พวกนั้นก็คือเหยื่อ! และยังต้องใช้เหยื่อเหล่านี้ยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของข้า!!’
คำถามมากมายในใจหวงเหวินจิ้งเริ่มคลี่คลาย
หลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนก็พาหวงเหวินจิ้งตระเวนไปยังช่องทางต่างๆ เพื่อหาเหยื่อกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณ แต่ละที่ทางที่ผ่านก็เต็มไปด้วยเลือด…
หากกลุ่มปีศาจที่เขาเจอ มีคนของวังเซียนสัญจรต้นสังกัดของหวงเหวินจิ้งอยู่ด้วย เขาก็ไม่ได้ฆ่าพวกปีศาจมนุษย์ตัวอื่นเพื่อกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณมาส่งเสริมพรสวรรค์รากวิญญาณของหวงเหวินจิ้งแต่อย่างไร
เหตุผลเพราะเขาไม่อยากเป็นศัตรูกับเผ่าพันธุ์ปีศาจทั้งหมด!
เพราะหากเรื่องในวันนี้ถูกเปิดเผยออกมา เขาได้เป็นศัตรูร่วมของทั้งเผ่าพันธุ์ปีศาจแน่!
เช่นนั้นตอนนี้เขาก็ได้แต่ลงมืออย่างระวังไม่ให้มันกระโตกกระตาก ไม่ให้บุคคลที่ 3 นอกจากเขากับหวงเหวินจิ้งรู้เกี่ยวกับการฆ่าเผ่าปีศาจมนุษย์อย่างป่าเถื่อน!!
“เอาล่ะ…เรียบร้อย”
หลังตระเวนผ่านช่องทางต่างๆมากมาย ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็ช่วยยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของหวงเหวินจิ้งให้กลายเป็นสีม่วงได้สำเร็จ ทำให้หวงเหวินจิ้งกลายเป็นอัจริยะไร้ผู้ต้านคนหนึ่ง!
เรียบร้อย?
ได้ยินเสียงต้วนหลิงเทียน หวงเหวินจิ้งก็รู้สึกกระวนกระวายใจไม่น้อย เร่งดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินเพื่อลองบ่มเพาะดูทันที และหลังจากเห็นความเร็วในการบ่มเพาะในปัจจุบันนางก็ตื่นเต้นยินดีทั้งมีความสุขไม่น้อย!
“เอาล่ะ ถือว่าข้าตอบแทนบุญคุณของเจ้าแล้ว…หวังว่าเรื่องในวันนี้เจ้าจะเก็บมันเอาไว้เป็นความลับไม่บอกใคร”
ต้วนหลิงเทียนมองหวงเหวินจิ้งด้วยสายตาจริงจัง เสียงกล่าวยังหนักขึ้นไม่น้อย
ขณะเดียวกันเพื่อให้มั่นใจ วาจาต่อมาของต้วนหลิงเทียนยังแฝงเร้นไปด้วยการคุกคามข่มขู่ “มิฉะนั้น…ข้าที่ช่วยเจ้ายกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณได้ ก็สามารถทำลายพรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้าทิ้งได้เช่นกัน! หลังจากนั้นเจ้าจะอยู่อย่างไร้พรสวรรค์รากวิญญาณ…”
ทำลายพรสวรรค์รากวิญญาณ! อยู่อย่างไร้พรสวรรค์รากวิญญาณ!!
ได้ยินคำพูดดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน หวงเหวินจิ้งลอบสะท้านในใจไม่น้อย
หากเป็นก่อนวันนี้ ลองมีคนมาบอกนางว่าสามารถทำลายพรสวรรค์รากวิญญาณนางได้โดยที่นางไม่ตายล่ะก็ นางไม่มีวันเชื่อแน่
ทว่าหลังได้เห็นวิธีการช่วงชิงพรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนหลายต่อหลายครั้ง นางเชื่อหมดใจ
“เจ้าอย่าได้กังวลเรื่องนี้ ข้าไม่มีวันบอกใครเด็ดขาด!”
หวงเหวินจิ้งให้คำมั่นกับต้วนหลิงเทียนอย่างจริงจัง
หลังได้ฟังคำสัญญาจากปากหวงเหวินจิ้งต้วนหลิงเทียนก็พยักหน้าลงเบาๆ จากนั้นเขาก็เหินร่างจากหวงเหวินจิ้งไป เพื่อเข้าไปยังช่องทางอื่นที่ยังไม่ได้เข้าไปต่อทันที…ไปเข่นฆ่ากลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณของเหล่าปีศาจที่เข้ามาต่อ!!
แน่นอนว่าหลังจากนี้เขาทำเพื่อยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของตัวเอง!
สำหรับหวงเหวินจิ้งนั้น เขาถือว่าได้ตอบแทนบุญคุณของนางแล้ว
เขาช่วยยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของนางให้กลายเป็นสีม่วง ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงสีม่วงอ่อน แต่มันก็ยังถือว่าเป็นรากวิญญาณสีม่วงอยู่ดี…
“ช่างเป็นคนที่ลึกลับนัก…”
ต้วนหลิงเทียนจากไปดื้อๆแบบนี้ หวงเหวินจิ้งย่อมอยากติดตามไปอยู่บ้าง แต่สุดท้ายนางก็ไม่ตามไป
เมื่อตระหนักได้ว่าในมรดกสถานแห่งนี้คงไม่มีสมบัติอะไรดีๆควรค่าให้นางออกตามหา หวงเหวินจิ้งก็เลือกที่จะกลับไปยังเมืองเหรินโม่เชิ่งทันที…กลับไปบ่มเพาะพลังที่วังเซียนสัญจร!