บทที่ 1091 มาแลกเปลี่ยนกัน

Mars เจ้าสงครามครองโลก

ในน้ำเสียงของมหาพญาเทพ มีความโกรธเคืองที่ไม่มีทางควบคุม เหมือนเจอกับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง

พูดแบบกัดฟันแน่น “ทำไมฉันถึงไม่มีสิทธิ์สืบทอดหลักธรรมแห่งจักรพรรดิด้วยล่ะ? ฉันทุ่มเทเพื่อเผ่ามนุษย์ไปมากขนาดนั้น ฉันเอาทั้งชีวิตของตัวเองถวายให้เผ่ามนุษย์แล้ว ทำไมไม่ให้ฉันสืบทอดหลักธรรมแห่งจักรพรรดิ!!! จักรพรรดิไท่จากไป ทุกคนจากไปหมด มีเพียงพวกฉันเฝ้าพิทักษ์อยู่ที่นี่กันอย่างโดดเดี่ยว! ไอ้ระยำชิงเฟิง ในเมื่อตัวเองตายแล้ว ก็ไม่ให้ฉันสืบทอด!”

พูดถึงตรงนี้ มหาพญาเทพมองเย่เซิ่งเทียนแบบไม่ยินยอม ตะโกนอย่างโมโห “แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน แกเป็นแค่ตัวทดลองคนหนึ่งที่ฉันสร้างขึ้นมา กลับสืบทอดหลักธรรมแห่งจักรพรรดิไปได้! มีสิทธิ์อะไรกัน! แม้แต่แกยังมีสิทธิ์สืบทอด ทำไมฉันถึงไม่มี!! ทำไมฉันถึงไม่ได้!!”

เย่เซิ่งเทียนมองเขาอย่างเย็นชา

มหาพญาเทพพูดเยาะเย้ย “ของที่ฉันต้องการในเมื่อพวกเขาไม่ให้ งั้นฉันก็จะเอามาเอง!”

เขาจมสู่ความวิกลจริตแล้ว

สติฟั่นเฟือนแล้ว

บางที ก่อนหน้านี้ตั้งแต่แรกๆ ก็สติฟั่นเฟือนแล้ว

“แกรู้ไหม? ก่อนหน้านี้ตั้งแต่แรกๆ ฉันก็เริ่มติดต่อกับโลกชูร่า พวกเขาเสนอเงื่อนไขมากมายไร้ที่เปรียบให้ฉัน สิ่งที่น่าตลกคือ เพื่อหน้าที่อันไร้ความหมายนั้น เพื่อการวิจารณ์ที่น่าตลกนั้น ฉันปฏิเสธแล้ว”

“ฉันคิดว่า ทุกอย่างที่ฉันทำ ชิงเฟิงรู้ทั้งหมด ฉันแบกเขาออกมาจากฝูงคนตาย ทุกคนล้วนหมดหวังกัน มีแค่ฉันยังมีหวังอยู่ มีแค่ฉันที่ยังเชื่อแบบยืนหยัดว่า จักรพรรดิไท่พวกเขายังจะกลับมา ชิงเฟิงจะให้ฉันสืบทอดหลักธรรมแห่งจักรพรรดิ! แต่สุดท้ายฉันแม่งแลกอะไรมาได้? สิ่งที่แลกมาเป็นแค่คำพูดนั้นของชิงเฟิง ว่าหลักธรรมแห่งจักรพรรดิไม่ใช่ของฉัน!!”

มหาพญาเทพหายใจหอบรุนแรง เต็มไปด้วยความเกลียดชัง

เขาในอดีต เต็มไปด้วยความหวังและการรอคอย

แต่ยิ่งหวังมาก ยิ่งผิดหวังมากเช่นกัน

ยิ่งเป็นคนที่ดื้อรั้นแบบนี้ ถ้าเกิดทัศนคติต่อโลกพังทลาย ถ้าเกิดความหวังดับสลาย คงจะน่ากลัวกว่าทุกคนมาก

“หึๆ หลักธรรมแห่งจักรพรรดิไม่ใช่ของฉัน! ดีเลย ในเมื่อพวกแกไม่ยอมรับฉัน พวกแกไม่ให้ งั้นฉันจะใช้วิธีของฉันไปเอามา! พวกเขาทอดทิ้งฉันแล้ว แล้วทำไมฉันต้องอยากสืบทอดความโง่ต่อไปอีก? บนโลกนี้ เคารพต่อผู้แข็งแกร่ง ขอแค่ฉันแกร่งมากพอ ไม่มีอะไรที่เอามาครองไม่ได้! ผู้ชนะเป็นเจ้าผู้แพ้เป็นโจร ในเมื่อโลกมนุษย์ไม่ยอมรับฉัน ต้องการโลกมนุษย์นี้ไปจะมีประโยชน์อะไร? ทำไมฉันถึงเป็นจักรพรรดิไท่ของโลกชูร่าไม่ได้?”

เหย้เฉิงและคนอื่นโดนฝ่ามือนั้นของโจวเฉิงตบจนยากจะลุกขึ้น

โจวเฉิงคนนี้ บ้าไปตั้งนานแล้ว

เขาสติฟั่นเฟือนตั้งแต่แรกแล้ว

หลักธรรมแห่งจักรพรรดิ ไม่ใช่สิ่งที่แกอยากสืบทอดก็สืบทอดได้

นั่นหมายถึงความรับผิดชอบ หมายถึงการยอมรับของโลกมนุษย์

ไม่ใช่แค่หลักธรรมสายหนึ่งที่ดูธรรมดาขนาดนั้น

แม้แต่จุดนี้โจวเฉิงยังมองไม่ออก ยังพยายามวางแผนหาผลประโยชน์จากหลักธรรมแห่งจักรพรรดิ จะประสบผลสำเร็จได้อย่างไรกัน

“หลักธรรมแห่งจักรพรรดิ แกอยากได้มากเหรอ? แกเชื่อหรือเปล่า ไม่มีหลักธรรมแห่งจักรพรรดิ ฉันก็ยังคงสามารถฆ่าแกได้”

เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างนิ่งสงบ ในสายตาที่มองทางโจวเฉิง มีความสงสารนิดๆ

พูดมามากขนาดนี้ ตั้งแต่เริ่มต้น คนผู้นี้ก็มีเจตนาร้ายแอบแฝง

เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้ว่า ไม่ใช่ใครก็ตามที่สามารถสืบทอดหลักธรรมแห่งจักรพรรดิได้

บุญบารมีของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป และถึงไม่ได้สืบทอดหลักธรรมแห่งจักรพรรดิแล้ว ยังสามารถกลายเป็นผู้แข็งแกร่ง

จุดนี้ แม้แต่คนรุ่นหลังอย่างเย่เซิ่งเทียนนี้ ตอนอยู่ที่วิหารปีศาจก็คิดออกเลย

แต่โจวเฉิง มหาพญาเทพแห่งสรวงสวรรค์ที่วางแผนการมาหลายพันปีผู้นี้ กลับยังคงมองไม่ออก

“ตามคาด แกกับจักรพรรดิไท่คนพวกนั้นก็จอมปลอมเหมือนกัน แต่ว่า ไม่เป็นไร ทางผ่านได้เปิดออกเรียบร้อย ใช้เวลาอีกไม่นาน โลกชูร่าจะเชื่อมถึงโลกมนุษย์ ไม่ว่าพวกแกต่อต้านยังไง ดิ้นรนยังไง ล้วนจะกลายเป็นเพียงซากศพที่เดินได้!”

โจวเฉิงหัวเราะอย่างภูมิใจ

“มาแลกเปลี่ยนกันเถอะ หลักธรรมแห่งจักรพรรดิ ฉันให้แก ปล่อยแม่ฉันไป สำหรับแกอยากทำอะไร ฉันไม่สนใจ ว่ายังไง?”

เย่เซิ่งเทียนพูดนิ่งๆ

“แกแน่ใจ?”

โจวเฉิงตะลึงแล้ว เขานึกไม่ถึงว่าเย่เซิ่งเทียนจะพูดคำพูดแบบนี้ออกมา

“ไม่ได้!”

เย่ม่อและคนอื่นกัดฟันตะโกนเสียงดัง

ถ้ามอบหลักธรรมแห่งจักรพรรดิให้โจวเฉิงแล้ว งั้นโลกมนุษย์ คงอันตรายถึงที่สุดแล้ว