เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2067 วิหควิญญาณเจ็ดเศียร
“วูป่าชง ลุกขึ้นเร็วเข้า” วูหยงหัวเราะเสียงดัง
วูป่าชงสัมผัสได้ถึงสายลมที่ช่วยประคองเขาให้ลุกขึ้น
“ด้วยความช่วยเหลือจากเจ้าข้าก็ไม่มีสิ่งใดต้องกังวล”วูหยงพอใจ
“ข้ารู้สึกละอายใจนัก”วูป่าชงก้มศีรษะลง“ระดับการบ่มเพาะของข้าไม่เพียงพอต่อความคาดหวังของนายท่านแต่จากนี้ไปตราบเท่าที่นายท่านออกคําสั่งข้าจะเดิมพันด้วยชีวิตเพื่อทํามันให้สําเร็จ!”
วูป่าชงไม่ได้แสดงละคร เขามีความคิดเช่นนี้จริงๆ
วูหยงเป็นผู้นําที่น่าเกรงขาม เมื่อเขารับตําแหน่งผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งเขาสามารถกําจัดสายลับที่แฝงตัวอยู่ในตระกูลวออกไปทันที
แม้ฟางหยวนจะปลอมตัวเป็นวูอี้ไห่เพื่อใช้ประโยชน์จากตระกูลวู วูหยงก็ยังสามารถรักษาอาณาจักรแห่งความฝันของภาคใต้เอาไว้
วูหยงลอบทําข้อตกลงกับวังสวรรค์และสามารถนําวิญญาณอมตะส่งคืนกองกําลังใหญ่ฝ่าย
ธรรมะของภาคใต้ เรื่องนี้ทําให้เขาได้รับการยกย่องเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นเขายังบังคับให้ฟาง
หยวนหลบหนีจากภาคใต้ไปยังทะเลทรายตะวันตกอย่างน่าสังเวช
วูหยงสามารถเอาชนะลั่วเว่ยหยินและกลายเป็นผู้นํากองกําลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะของภาคใต้
ระหว่างสงครามชะตากรรม วูหยงนํากองกําลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะของภาคใต้บุกภาคกลางโดยไม่สนคําขู่ของเทพธิดาจื่อเว่ยในการต่อสู้ครั้งนี้วูหยงแสดงพลังการต่อสู้ที่โดดเด่นออกมา
โดยเฉพาะท่าไม้ตายอมตะวายุไร้ขอบเขตและลมอําลา ความกล้าหาญและผลงานของเขาประทับอยู่ในหัวใจของผู้อมตะภาคใต้ทั้งหมด
หลังสงครามชะตากรรม วูหยงดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะของเขารวมถึงคฤหาสน์วิญญาณอมตะบ้านไม้ไผ่สายลมเขาสร้างความสงบเรียบร้อยและทําให้ตระกูลวูเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นแง่มุมของการบ่มเพาะพรสวรรค์พลังการต่อสู้หรือภาวะผู้นํา วูหยงเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากในทุกด้านในความคิดเห็นของวูป่าชงแม้แต่วูตู้ซิ่วมารดาของวูหยงก็ยังด้อยกว่า
‘ข้าแก่แล้ว ความรุ่งโรจน์ในชีวิตของข้าผ่านไปแล้วตอนนี้ข้ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ติดตามคนเช่นวูหยงข้าจะตั้งตารอดูการเติบโตของตระกูลวูข้าอยากรู้ว่าเขาจะนําตระกูลวูไปได้ไกลเพียงใด’นี่คือความคิดของวูป่าชง
ทันใดนั้นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงหนึ่งก็บินเข้ามาในห้องโถงและร่อนลงบนมือของวูหยง
วูหยงตรวจสอบเนื้อหาทันที
วูป่าชงคาดเดา “วิญญาณอมตะถูกส่งออกมา นี่ต้องเป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน ข้าสงสัยว่ามันเป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย?”
ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เห็นรอยยิ้มของวูหยง “ข่าวดีมาอย่างต่อเนื่อง”
วูหยงมอบวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับวูป่าชง
วูป่าชงตรวจสอบและตระหนักว่าแผนการของวูหยงประสบความสําเร็จเขาประสบความสําเร็จ
ในการหลอกล่อเจ็ดผีภูเขาเข้าสู่กับดัก
“เจ็ดผีภูเขาพวกเขาคือเจ็ดผีภูเขาจริงๆ!”วูป่าชงตื่นเต้นมาก
เจ็ดผีภูเขาเป็นกองกําลังฝ่ายปีศาจที่มีชื่อเสียงของภาคใต้พวกเขามีสมาชิกเจ็ดคนเจ็ดผี
ภูเขาทุกรุ่นจะสร้างความปั่นป่วนและความเสียหายมากมายให้กับกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้
เจ็ดผีภูเขาฉกชิงผลประโยชน์ของตระกูลวูมาหลายครั้งในฐานะผู้นํากองกําลังฝ่ายธรรมะของ
ภาคใต้ ตระกูลวูต้องจัดการปัญหานี้
อาจกล่าวได้ว่าตระกูลวูกับเจ็ดผีภูเขาเป็นศัตรูคู่อาฆาต
ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลวูทุกรุ่นอุทิศตนเพื่อกําจัดเจ็ดผีภูเขาขณะเดียวกันเจ็ดผีภูเขาก็พยายามยั่วยุตระกูลวูตราบเท่าที่ตระกูลวูแสดงความอ่อนแอออกมาพวกเขาจะโจมตีทันที
ตระกูลวูเป็นกองกําลังอันดับหนึ่งของภาคใต้แต่เจ็ดผีภูเขาก็ไม่ธรรมดาเช่นกันพวกเขาครอบครองมรดกบางส่วนของเทพปีศาจจิตวิญญาณ
การต่อสู้ตลอดหลายชั่วอายุคนทําให้ความขัดแย้งระหว่างพวกเขาไม่สามารถประนีประนอม
ตระกูลวูกลายเป็นศัตรูอันดับหนึ่งของเจ็ดผีภูเขาขณะที่เจ็ดผีภูเขาก็กลายเป็นความเจ็บปวดของ
ตระกูลวูที่ไม่สามารถกําจัด
วูตู่ซิ่วกล่าวถึงความเสียใจสามประการของนางก่อนตายหนึ่งในนั้นเกี่ยวกับเจ็ดผีภูเขานาง
ตายโดยไม่สามารถกําจัดพวกเขา
ตราบเท่าที่เจ็ดผีภูเขายังเหลือสมาชิกอยู่แม้แต่คนเดียวพวกเขาก็ยังสามารถเติมเต็มช่องว่างในอนาคต
แต่ตอนนี้วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลระบุว่าเจ็ดผีภูเขาตกลงสู่กับดักของวูหยงมันจึง
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่วูป่าชงจะรู้สึกตื่นเต้นมาก
วูหยงนําวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลกลับคืนและออกคําสั่ง“เจ็ดผีภูเขาต้องถูกกําจัดหากเราปล่อยพวกเขาไปพวกเขาจะสร้างปัญหาให้กับเราในอนาคตอย่างแน่นอนเพื่อความ
ปลอดภัย ข้าจะดําเนินการด้วยตนเอง”
วูป่าชงขออนุญาตเข้าร่วมการต่อสู้แต่วูหยงปฏิเสธ“ข้าจะนําบ้านไม้ไผ่สายลมออกไปราชสีห์
จะใช้กําลังเต็มที่ในการล่ากระต่าย เจ้าต้องอยู่ปกป้องฐานทัพใหญ่ของเราขณะที่ข้าไม่อยู่”
“ทราบแล้ว”วูป่าชงทําได้เพียงยอมรับค่าสั่งเท่านั้น
หลังจากนั้นวูหยงก็บินขึ้นสู่ท้องฟ้าและหายไปจากมุมมองสายตาอย่างรวดเร็ว
ฐานทัพใหญ่ของตระกูลวูตั้งอยู่ตอนใต้สุดของภาคใต้วูหยงพอใจกับตําแหน่งนี้มากเพราะตระกูลวูจะไม่ถูกปิดล้อมโดยศัตรูจากทุกทิศทางเหมือนภาคกลาง
“จุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตระกูลวูในปัจจุบันคือพวกเรามีผู้อมตะไม่เพียงพอแม้เราจะ
สามารถผนวกดินแดนที่อยู่รอบๆในอนาคตแต่เราก็ไม่มีผู้อมตะมากพอที่จะดูแลพวกมัน’วูหยง
ไตร่ตรองเรื่องนี้ก่อนจะคิดถึงฟางหยวน
ฟางหยวนสร้างหายนะให้กับภาคใต้ ไม่เพียงตระกูลวูแต่กองกําลังใหญ่ฝ่ายธรรมะทั้งหมดของภาคใต้ต่างสูญเสียผู้อมตะไปเป็นจํานวนมาก
วูหยงบินไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือก่อนจะไปถึงภูเขาซากศพ
ภูเขาซากศพเต็มไปด้วยผีดิบมันอยู่ใกล้กับจุดตัดของแม่น้ํามังกรแดงและแม่น้ํามังกรเหลือง
ภูเขาซากศพเกิดจากจักรพรรดิศพอวี่ติงเทียนซึ่งเป็นผู้อมตะระดับแปดในอดีตกองกําลังใหญ่ฝ่ายธรรมะของภาคใต้ร่วมมือกันกําจัดเขาเขาตายที่นี่เมื่อเวลาผ่านไปซากศพของเขาทําให้
สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปจนกลายเป็นภูเขาซากศพในที่สุด
ภูเขาซากศพเคยเป็นเป้าหมายของกองกําลังพันธมิตรผีดิบแห่งภาคใต้พวกเขาต้องการซื้อ
มันจากตระกูลวูแต่ฝ่ายหลังปฏิเสธ
ต่อมาตระกูลเหยายึดมันมาจากตระกูลวูก่อนที่วูหยงจะนําบ้านไม้ไผ่สายลมออกมาและยึดมันกลับคืน
เนื่องจากภูเขาซากศพเป็นแหล่งทรัพยากรที่มีผลผลิตสูงและมีตําแหน่งที่ตั้งอยู่ในจุด
ยุทธศาสตร์ วูหยงจึงต้องส่งวูเจิ้นผู้อมตะระดับเจ็ดมาปกป้องสถานที่แห่งนี้เนื่อง
หลังสงครามชะตากรรม กระแสลมปราณอาละวาดไปทั่ว มรดกที่ถูกซ่อนไว้ปรากฏขึ้นอย่างต่อมรดกที่แท้จริงของจักรพรรดิศพถูกเปิดเผยออกมาเช่นกัน
มรดกนี้อาจไม่สามารถดึงดูดความสนใจของปีศาจอมตะฉีเจียหรือฟางหยวน แต่มันยังเป็น
มรดกที่แท้จริงของผู้อมตะระดับแปด มันมีค่าเพียงพอสําหรับกองกําลังใหญ่ทั้งหมดรวมถึงเจ็ดผีภูเขา
ด้วยเหตุนี้เจ็ดผีภูเขาจึงตกลงสู่กับดักของวูหยง
การต่อสู้ดําเนินมาชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้ว
“ค่ายกลวายุรอบทิศ! น่าเสียดาย พวกเรารู้จักตระกูลวูเป็นอย่างดี ค่ายกลนี้ไม่สามารถจับกุมพวกเรา!”
“ช่วงเวลาที่ค่ายกลพังทลายจะเป็นเวลาตายของเจ้า วูเจิ้น!”
“วูเจิ้น มรดกที่แท้จริงของจักรพรรดิศพปรากฏขึ้นบนภูเขาซากศพแต่เจ้าจงใจปกปิดข้อมูลแม้
กองกําลังของตระกูลวูจะมาถึง แต่เจ้าจะพบกับผลลัพธ์ที่เลวร้ายเพราะเจ้าทรยศตระกูลของตนเอง!”
เจ็ดผีภูเขาโจมตีค่ายกลวายุรอบทิศจากสี่ทิศทาง
พวกเขามีความเข้าใจค่ายกลนี้อย่างลึกซึ้งผ่านการตรวจสอบจากรุ่นสู่รุ่น
ค่ายกลใกล้พังทลายแล้ว
ร่างกายของวูเจิ้นเต็มไปด้วยบาดแผล
ทันใดนั้นเขาก็ได้รับการติดต่อจากวูหยง นั่นทําให้ใบหน้าของเขาสว่างไสวขึ้นขณะที่เขาเร่งกระตุ้นใช้วิธีการบางอย่าง
ค่ายกลวายุรอบทิศเปลี่ยนไปทันทีสายลมอ่อนพัดเข้ามาและกลายเป็นวูหยง!
“อันใด! ค่ายกลเปลี่ยนไป!”
“วูหยงมาที่นี่? กําลังเสริมของตระกูลวูมาเร็วนัก!”
“บัดซบ! นี่เป็นกับดัก!”
เจ็ดผีภูเขาตกใจมาก
“ฆ่า!”
“ต่อให้เราจะตาย เราก็ต้องทําให้ตระกูลวูพบความสูญเสียครั้งใหญ่!”
“หากเราสามารถฆ่าวู่หยง ตระกูลวูจะกลายเป็นตัวตลก!”
เจ็ดผีภูเขาพุ่งเข้าหาวูหยงแต่ยังลอบพูดคุยกัน
กนี้วูหยงยังเป็นผู้อมตะบนจุดสูงสุดภายใต้ผู้อมตะกึ่งระดับเก้า
เนื่องจากนี่เป็นกับดักยิ่งนานเท่าใดสถานการณ์ของพวกเขาก็จะยิ่งเลวร้ายลงเท่านั้นนอกจา
โลกของผู้อมตะรู้ว่าวูหยง ฉินติงหลิง ปิงข่ายฉวน และบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงอยู่ในระดับ
เดียวกัน พวกเขาล้วนเป็นผู้อมตะที่น่าเกรงขาม
เจ็ดผีภูเขารู้ว่าพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของวูหยงแต่พวกเขายังมีความหวัง
วูหยงใช้ค่ายกลวายุรอบทิศเพื่อกักขังเจ็ดผีภูเขา แม้มันจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างแต่มันยังเป็นค่ายกลเดิม
ค่ายกลไม่ใช่เขตแดน นี่ทําให้เจ็ดผีภูเขายังมีความหวัง พวกเขาลดความระวังตัวลงและโจมตีอย่างรวดเร็ว
วูหยงเย้ยหยัน“คนอ่อนแอที่แสร้งทําตัวแข็งแกร่ง พวกเจ้าไม่ถือเป็นสิ่งใดเลย”
ในเวลาต่อมาสายลมกรรโชกแรงก็พัดมวลอากาศเย็นเข้ามา
พายุหิมะก่อตัวขึ้นทันที
ผีภูเขาสามคนถูกแช่แข็ง หลังจากสองลมหายใจ สองในสามก็ตกตายจากความหนาวเย็น
“มันเป็นท่าไม้ตายใด?”
“หนาวมาก!”
นี่คือท่าไม้ตายอมตะที่วูหยงสร้างขึ้นระหว่างการปิดประตูฝึกตนครั้งล่าสุดของเขามันเรียกว่า
พายุหิมะที่ไม่หวนคืน
ผีภูเขาตกสู่ความโกลาหลขณะที่ดวงตาของวูหยงส่องประกายดุร้าย “ขี้ขลาดพวกเจ้าไม่มี
คุณสมบัติพอที่จะเป็นศัตรูของข้า”
จากนั้นต้นไม้สีเขียวก็งอกออกมาจากร่างของผีภูเขาและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผีภูเขาห้าคนที่เหลือกรีดร้องอย่างน่าสังเวชขณะที่พลังชีวิตของพวกเขาถูกดูดออกไปจนหมด
นี่เป็นอีกผลงานหนึ่งของวูหยง มันคือท่าไม้ตายอมตะวายุต้นหลิว!
เจ็ดผีภูเขาเสียชีวิตแต่ดวงวิญญาณของพวกเขาบินออกจากซากศพและรวมตัวเป็นอสูร
วิญญาณแรกกําเนิดตัวหนึ่ง
อสูรวิญญาณแรกกําเนิดตัวนี้มีลักษณะเหมือนนกสีดําาที่มีเจ็ดหัว
วูหยงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ดังนั้นมันก็คือมรดกที่ไม่สมบูรณ์ของเทพปีศาจจิตวิญญาณ
เมื่อเขาพยายามสร้างอสูรวิญญาณ ท่าไม้ตายอมตะวิหควิญญาณเจ็ดเศียร”
“บ้านไม้ไผ่สายลม!”
บ้านไม้ไผ่สายลมพุ่งชนอสูรวิญญาณแรกกําเนิดวิหควิญญาณเจ็ดเศียรราวกับดาวตก
วิหควิญญาณเจ็ดเศียรดิ้นรนด้วยพละกําลังทั้งหมดแต่น่าเสียดายที่มันไม่สามารถต่อต้านบ้านไม้ไผ่สายลม
“ลั่วเว่ยหยิน ข้าไม่ควรไว้ใจเจ้า!” วิหควิญญาณเจ็ดเศียรกรีดร้องด้วยความไม่พอใจก่อนจะสูญสิ้นสติสัมปชัญญะ