เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2069 ศัตรูบุก
เผชิญหน้ากับฟางหยวนที่ทรงพลังกลุ่มผู้อมตะกัดฟันและมองไปรอบๆด้วยความหวังว่าบาง
คนจะกล่าวบางสิ่ง
โชคไม่ดีที่ฟางหยวนเป็นจักรพรรดิปีศาจอันดับหนึ่งของโลก กระทั่งเทพปีศาจจิตวิญญาณยัง
ตายในกับดักของเขาชื่อเสียงของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและทําให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลาย
พันธุ์เหล่านี้ไม่กล้าแม้แต่จะกล่าวถ้อยคําที่ไม่สุภาพ
ไม่มีผู้ใดกล้าต่อต้านฟางหยวนแต่ก็ไม่มีผู้ใดยอมจํานนและเสนอฐานทัพของพวกเขาเช่นกัน
ทุกคนสามารถมองเห็นความไม่เต็มใจของกันและกัน
หากพวกเขาเสนอบ้านของตนให้ฟางหยวนพวกเขาจะกลายเป็นคนทรยศของครอบครัวและ
สหายมโนธรรมของพวกเขาก็ไม่อนุญาตให้พวกเขาทําเช่นกัน
ย้อนกลับไปเมื่อวังสวรรค์บุกถ้ำสวรรค์ผลึกน้ำแข็งจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งเดิมพันด้วยชีวิตเพื่อ
ปกป้องมันเอาไว้ เขาไม่ลังเลที่จะเปิดเผยท่าไม้ตายอมตะโลงศพผลึกน้ำแข็งซึ่งเป็นมรดกที่แท้จริงของเผ่าพันธุ์มารดาอมตะแห่งปัญญาขายกําแพงเฉียนคุนให้อู๋ส่วยเพื่อแลกกับความช่วยเหลือ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสําคัญของถ้ำสวรรค์ในใจของพวกเขาได้เป็นอย่างดี
แต่พวกเขาจะทําสิ่งใดได้?
พลังของฟางหยวนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกกระทั่งวังสวรรค์ยังพ่ายแพ้ วิญญาณชะตากรรมถูก
ทําลายโดยเขาและตอนนี้เขายังสังหารเทพปีศาจจิตวิญญาณ!
หลังการต่อสู้ไล่ล่าฟางหยวนแม้เขาจะพักผ่อนได้เพียงสิบวันซึ่งเป็นระยะเวลาที่สั้นๆมากแต่
ผู้อมตะที่อยู่ในห้องโถงแห่งนี้ไม่สงสัยเลยว่าฟางหยวนสามารถกําจัดพวกเขาทั้งหมด!
ความหวังเดียวของพวกเขาอาจมีเพียงกําลังเสริมจากภายนอก
แต่ผู้อมตะเหล่านี้จะหากําลังเสริมมาจากที่ใด?
พวกเขาต้องเข้าหาวังสวรรค์หรือถ้ำสวรรค์นิรันดรงั้นหรือ?
นั่นเป็นเพียงเรื่องตลก!
สิ่งสําคัญที่สุดคือถ้ำสวรรค์ของพวกเขากําลังเผชิญหน้ากับภัยพิบัติผลไม้ปราณหากพวกเขา
ไม่ยอมจํานนต่อฟางหยวนและปล่อยให้ผลไม้ปราณเติบโตต่อไป ถ้ำสวรรค์ของพวกเขาจะถูก
ท่าลายล่าง
แต่หากพวกเขายอมจํานนต่อฟางหยวนมันจะไม่ต่างจากการมอบชีวิตของพวกเขาให้กับฟางหยวน
ความโหดเหี้ยมของฟางหยวนเป็นที่รู้จักกันดีก่อนหน้านี้เขาส่งผู้ใต้บังคับบัญชาหลายคนออก
ไปโจมตีภาคกลางแต่หลังสงครามชะตากรรมฟางหยวนหลบหนีมาเพียงผู้เดียวผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านั้นยังเตร็ดแตร่อยู่รอบๆไม่นานมานี้ฟางหยวนและอู๋ส่วยยังหลบหนีออกมาจากวัง
สวรรค์โดยทิ้งผู้อมตะของกองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์เอาไว้เบื้องหลัง
ผู้ใดจะรู้สึกปลอดภัยที่ติดตามผู้นําเช่นนี้?
“พวกเจ้าคิดพอหรือยัง? ความอดทนของข้ามีจํากัด”การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนเป็นไม่แยแสขณะที่เขายื่นคําขาด
หัวใจของกลุ่มผู้อมตะสั่นสะท้าน
ท่ามกลางพวกเขา ผู้อมตะเผ่ามนุษย์รู้สึกเสียใจมากที่สุด
หากพวกเขารู้สิ่งนี้มาก่อน พวกเขาจะมอบตัวกับวังสวรรค์โดยตรง
ในยุคปัจจุบันมนุษย์ปกครองโลกวังสวรรค์จะไม่ยอมรับการยอมจํานนของกองกําลังเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์แต่มันเป็นแนวคิดที่แตกต่างออกไปหากกองกําลังเผ่ามนุษย์ยอมจํานน
แท้จริงแล้วระหว่างการต่อสู้ไล่ล่าฟางหยวนไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่คิดที่จะเลียนแบบราชาหมาป่าราตรีสวรรค์และยอมจํานนต่อวังสวรรค์แต่พวกเขาไม่มีโอกาส
ดังนั้นมันจึงช่วยไม่ได้ที่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้จะสงสัยความจริงใจของผู้อมตะเผ่ามนุษย์
ห้องโถงยังเงียบการแสดงออกของฟางหยวนเย็นชาขณะที่กลุ่มผู้อมตะรู้สึกกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ
ฟางหยวนไม่ได้ทําสิ่งใดแต่ผู้อมตะส่วนใหญ่รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกขณะที่ความคิดถูกระงับ
หลังจากไม่นานหนึ่งในนั้นก็ไม่สามารถอดทนต่อแรงกดดันดังกล่าวเขาคือจักรพรรดิขนทองเขาเสนอถ้าสวรรค์ของเขาให้ฟางหยวนโดยตรง
จักรพรรดิขนทองเป็นผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์ขน เขามีเหตุผลของตนเองในการทําเช่นนี้
เขารู้ว่าฟางหยวนกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและไม่เคยส่งผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนของนิ
กายหลางหยาเข้าสู่สนามรบ จักรพรรดิขนทองยอมจํานนต่อฟางหยวนโดยคิดว่าเขาจะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกัน
มนุษย์ขนมีความเชี่ยวชาญด้านการหลอมรวม พวกเขามีคุณค่า นั่นทําให้จักรพรรดิขนทองคิดว่าวิธีนี้จะสามารถรักษาชีวิตของผู้คนในถ้ำสวรรค์ขนทองเอาไว้นอกจากนั้นพวกเขายังจะได้รับ
สถานะที่ค่อนข้างสูง มันจะดีกว่าการปล่อยให้ฟางหยวนฆ่าพวกเขาและกลืนกินถ้ำสวรรค์ขนทองเมื่อจักรพรรดิขนทองยอมจํานน คนที่เหลือรู้สึกถึงแรงกดดันและต้องการทําตามมากขึ้นแต่ในจังหวะนี้สัญญาณเตือนภัยกลับดังขึ้นกองกําลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกบุกมาที่นี่พร้อมกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลายหลัง
อู๋ส่วยชําเลืองมองฟางหยวนเมื่อฟางหยวนพยักหน้าอู๋ส่วยจึงเปิดปากกล่าวกับกลุ่มผู้อมตะ
“ศัตรูมาถึงแล้ว เราจะพูดคุยหลังจากขับไล่พวกเขา”
ในที่สุดกลุ่มผู้อมตะก็สามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หากเป็นช่วงเวลาปกติพวกเขาจะกังวลและหวาดกลัวเมื่อเผชิญหน้ากับการบุกโจมตีของกองกําลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะของทะลตะวันออกแต่ตอนนี้พวกเขากลับรู้สึกโล่งใจและขอบคุณ
อู๋ส่วยกับฟางหยวนรั้งอยู่ด้านหลังขณะที่จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งและเซียวเหอเจี้ยนนํากองกําลัง
พันธมิตรสองสวรรค์ออกไปต่อต้านศัตรู
กองกําลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกนําโดยผู้อาวุโสสูงสุดลําาดับที่หนึ่งของตระกูลเฉินเฉินกงเจิ้งผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลถังและผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเซีย
พวกเขาน่าคฤหาสน์วิญญาณอมตะออกมามากกว่าสิบหลัง ทะเลตะวันออกเป็นอันดับหนึ่งด้านทรัพยากรดังนั้นพวกเขาจึงมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะในการครอบครองมากที่สุดมันเหนือกว่า กระทั่งภาคกลางแต่โดยธรรมชาติแล้วพวกเขามีคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับสูงสุดเช่นวังมังกรหรือเรือรบหมื่นปีน้อยมาก
ท่ามกลางคฤหาสน์วิญญาณอมตะเหล่านี้มีคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดเพียงหลังเดียว
มันคือเรือรบเมฆาเขียวของตระกูลฮัว
กองกําลังทั้งสองเผชิญหน้ากันบนท้องฟ้า
“มนุษย์กลายพันธุ์ที่น่าชัง พวกเจ้ารุกรานทะเลตะวันออกและยึดบ้านของข้าบาปของพวกเจ้าร้ายแรงเกินไปวันนี้จะเป็นวันตายของพวกเจ้า!”ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเซี่ยเซี่ย
รุ่ยจื่อ ตะโกน
จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งเย้ยหยัน“เจ้าหนูขี้ขลาดเจ้ามาหาที่ตายจริงๆ”
เซี่ยวเหอเจี้ยนเร่งกล่าวต่อ “สุนัจจรจัดเจ้าไปนําความมั่นใจนี้มาจากที่ใด?”
ใบหน้าของเซี่ยรุ้ยจื่อกลายเป็นแดงก่ำเขากัดฟันกล่าว“มนุษย์กลายพันธุ์พวกเจ้าสมควร
ตาย!ผู้ใดกล้าเผชิญหน้ากับข้าเพียงลําพังก็ก้าวออกมา!”
ต่อสู้
ดินแดนของตระกูลเซียถูกยึดครองโดยมนุษย์กลายพันธุ์ในฐานะเหยื่อเซี่ยรุ้ยจื่อย่อมต้องการ
จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งกล่าว “ผู้อมตะระดับเจ็ดต้องการต่อสู้มนุษย์กลายพันธุ์จะไม่รังแกผู้อ่อนแอเราจะส่งคนที่มีระดับการบ่มเพาะใกล้เคียงกันออกไปต่อสู้”รุ่ยจื่อ
ภายใต้คําสั่งของจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งผู้อมตะระดับเจ็ดเผ่ามนุษย์หิมะบินออกไปต่อสู้กับเซีย
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันสามรอบก่อนที่เฉินกงเจิ้งจะก้าวออกมา“ผู้ใดต้องการต่อสู้กับข้า?”
เฉินกงเจิ้งเป็นผู้อมตะระดับแปดพลังการต่อสู้ของเขาได้รับการยอมรับว่าอยู่บนจุดสูงสุดของ
ทะเลตะวันออก คราวนี้จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งและเซียวเหอเจี้ยนไม่กล้ามั่นใจเกินไปภายใต้คําสั่งของฟางหยวนเซียวเหอเจี้ยนจึงต้องออกไปต่อสู้
เฉินกงเจิ้งและเซียวเหอเจี้ยนต่อสู้กันชั่วระยะเวลาหนึ่งเมื่อผู้อมตะระดับแปดของกองกําลัง
พันธมิตรฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกอีกคนเริ่มท้าทาย แต่คนผู้นี้ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับเฉินกงเจิ้ง
กองกําลังพันธมิตรสองสวรรค์มีผู้อมตะระดับแปดจํานวนมากจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะส่งผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์หินออกไป