บทที่ 940 บ้านทองคำ + ตอนที่ 941 อารมณ์ไม่แน่ไม่นอน

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 940 บ้านทองคำ + ตอนที่ 941 อารมณ์ไม่แน่ไม่นอน โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 940 บ้านทองคำ

เหมยซูหานมองโฉนดของบ้านทั้งหกหลังที่อยู่ตรงหน้า บนโฉนดต่างเขียนเป็นชื่อของเขาทั้งหมดจึงคลี่ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ และนั่นทำให้เฮ่อเหลียนเช่อที่นั่งอยู่ข้าง ๆมองจนตาค้าง

หลังจากที่ดอกเหมยน้อยของเขาได้เข้ามาอยู่ที่นี่ ก็ไม่เคยยิ้มอีกเลย ถึงแม้ว่าจะไม่ยิ้มก็ยังน่ามองแต่ยิ่งยิ้มก็ยิ่งน่ามอง!

รู้สึกคันยุบยิบในใจ ราวกับมีหนอนผีเสื้อมุดอยู่ข้างใน…

“ขอบคุณนะ อาเช่อ!”

เหมยซูหานหันหน้ามาหาเฮ่อเหลียนเช่อ พร้อมพูดขอบคุณด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ครั้งนี้เขารู้สึกว่ามันมาจากใจจริง ๆ ไม่ใช่ความรู้สึกจอมปลอมเลยสักนิด

เฮ่อเหลียนเช่อฉีกยิ้ม เผยให้เห็นฟันเรียงสวย ขาวจนสะท้อนไฟได้

“ขอบคุณอะไรกัน ไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก ต่อไปนี้อยากได้อะไรให้มาบอกกับฉัน นอกจากดวงดาว พระจันทร์และพระอาทิตย์ที่อยู่บนฟ้านั่น ของอย่างอื่นฉันสามารถหาซื้อมาให้ได้ทั้งหมด!”

เฮ่อเหลียนเช่อพูดอย่างแน่วแน่ เขาไม่ได้พูดโอ้อวดแต่อย่างใด สำหรับความร่ำรวยและอำนาจที่เขามีอยู่นั้น มันคือความจริงที่เขาสามารถซื้อของทุกอย่างบนโลกนี้ได้

เหมยซูหานหัวเราะเสียงเบา พร้อมทั้งพูดปฏิเสธอย่างอ้อมค้อม “ฉันเอาของพวกนั้นมาตั้งมากมายก็ไม่มีประโยชน์อะไร แต่ถึงยังไงก็ต้องขอบคุณนายด้วยนะอาเช่อ!”

หากครั้งนี้ไม่เป็นเพราะคนกลางคนนั้นไม่ยอมขายบ้าน เขาคงไม่ต้องมาขอความช่วยเหลือจากเฮ่อเหลียนเช่อหรอก สำหรับคนคนนี้เขาไม่อยากติดหนี้ไปมากกว่านี้ เพราะสิ่งที่เฮ่อเหลียนเช่อต้องการเขาให้ไม่ได้!

ใจของเขาให้เหมยเหมยไปแล้ว…

เฮ่อเหลียนเช่อกลับคิดว่าเหมยซูหานไม่เชื่อในคำพูดของเขา จึงเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันไม่ได้โกหกนายนะ มีอะไรที่นายอยากได้อีก ฉันจะซื้อมาให้นายเอง!”

เหมยซูหานขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้ว่าจะคลุกคลีกับเฮ่อเหลียนเช่อมาได้ไม่นาน แต่เขาเองก็พอจะคาดเดานิสัยใจคอของคนคนนี้ได้

โมโหร้ายอย่างไร้เยื่อใย มองชีวิตคนเป็นเพียงแค่เศษหญ้า ทำอะไรตามอำเภอใจและทำอะไรตามอารมณ์  เพียงแค่อารมณ์ดี เฮ่อเหลียนเช่อนั้นสามารถทำให้ได้ทุกอย่าง

แต่ถ้าเขาอารมณ์เสียล่ะก็ เขาก็สามารถทำลายทุกอย่างได้เช่นกัน

ทำให้ต้องร้องขอชีวิต ร้องขอความตาย!

“นายกินข้าวหรือยัง? ฉันต้มบะหมี่ให้ดีกว่า!”

เหมยซูหานไม่ต้องการจะมีเรื่องกับเฮ่อเหลียนเช่อ แล้วก็ไม่ต้องการจุดฉนวนระเบิดของเขา จึงจำต้องเปลี่ยนหัวข้อสนทนา และยกเรื่องอาหารการกินขึ้นมาแทน

เฮ่อเหลียนเช่อถูกดึงให้เปลี่ยนความสนใจไป “ได้ ฉันอยากกินบะหมี่หมูสับใส่ผักดองที่นายทำครั้งก่อน ทำมาเยอะ ๆ หน่อยล่ะ พวกเราจะได้กินด้วยกัน”

เหมยซูหานยิ้มบางส่งให้ เขาจัดการเก็บโฉนดที่อยู่บนโต๊ะให้เข้าที่ แล้วตรงเข้าไปทำอาหารในห้องครัว

เขารู้สึกอารมณ์ดีจริง ๆ จังหวะฝีเท้าเบาตามลงไปด้วย เศษซากในความฝันได้บอกเขาไว้

เมื่อผ่านไปอีกสิบกว่าปี บ้านหกหลังในมือของเขาก็จะกลายเป็นบ้านทองคำหลังใหญ่ อีกทั้งพื้นที่ทำเลดีขนาดนี้ มีเงินมากมายแค่ไหนก็ซื้อมันไม่ได้

ขอเพียงแค่เขาได้ครอบครองบ้านทองคำทั้งหกหลังนี้ วันข้างหน้าต่อให้ไม่ทำอะไรเลยก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร้ซึ่งความกังวล และยังสามารถทำให้เหมยเหมยมีชีวิตที่ดีได้ราวกับเจ้าหญิง

และแน่นอนว่าเป้าหมายของเขาไม่ได้มีเพียงแค่เท่านี้ เขาจะต้องแข็งแกร่งให้มากกว่าที่เป็น บ้านทั้งหกหลังนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น เขาจะต้องได้รับมากกว่านี้!

เฮ่อเหลียนเช่อเองก็รับรู้ได้ถึงความหวังดีของเหมยซูหาน เขาจึงฉีกยิ้มให้ พลางกวักมือเรียกลูกน้องให้เข้ามาเพื่อถาม “ทางนั้นมีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง?”

“เงียบสงบไม่มีข่าวคราวเลยครับ” ลูกน้องเอ่ยตอบ

เฮ่อเหลียนเช่อขมวดคิ้วแน่น พลางบ่นพึมพำกับตัวเอง “ไม่ใช่สิ ไอ้แก่นั่นจะยอมอยู่นิ่งเหรอ? หรือว่ามันใกล้จะตายแล้ว? ทางนั้นส่งคนเข้าไปได้หรือยัง?”

“ส่งเข้าไปไม่ได้ครับ การ์ดป้องกันหนาแน่นมาก คนของเราเข้าใกล้สวนฟาร์มนั้นเพียงแค่นิดเดียวคนของพวกมันก็เห็นแล้วครับ เช่นเดียวกันคนของฝั่งนั้นก็ไม่อาจบุกเข้ามาหาเราได้ครับ”

เฮ่อเหลียนเช่อลูบคาง ผ่านไปพักใหญ่กว่าจะพูดขึ้น “โธ่เอ๊ย สิบปีก่อนก็บอกว่าไอ้แก่นั่นใกล้ตาย จนป่านนี้แล้วยังไม่ตายเลย”

……………………………………………………….

ตอนที่ 941 อารมณ์ไม่แน่ไม่นอน

ลูกน้องคิด ๆแล้วก็พูดขึ้น “คุณชายเช่อ ผมค้นพบเรื่องใหม่”

“ว่ามา!” เฮ่อเหลียนเช่อถลึงตามอง

ลูกน้องตัวสั่นระริกรีบตอบกลับไป “วันนี้ตอนที่ไปซื้อบ้าน นายหน้าบอกว่าคนที่จะซื้อชื่อว่าคุณชายหมิง เมืองหลวงมีคนชื่อคุณชายหมิงตั้งแต่เมื่อไรกัน? อีกอย่างคุณชายหมิงคนนี้ยังบงการคนทางนั้นได้ด้วย”

เฮ่อเหลียนเช่อหรี่ตาลง แววตาดุดันกล่าวเสียงเย็นชา “เรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมไม่รีบบอก?”

ลูกน้องตกใจกลัวจนรีบคุกเข่าลงกับพื้นพลางตอบเสียงสั่นเครือ “ผมยังไม่รู้แน่ชัดเลยไม่กล้ารายงานคุณชายเช่อ คุณชายเช่อได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย!”

เฮ่อเหลียนเช่อยกขาถีบอีกฝ่ายทีหนึ่งด้วยความโกรธแล้วตะคอกด่าว่า “รีบไปสืบดูว่าคนที่ชื่อคุณชายหมิงเกี่ยวอะไรกับตาแก่นั่น? ให้ตายสิ กล้าเรียกคุณชายกับหมาแมวข้างทาง? ตาแก่นั่นต้องจงใจต่อกรกับฉันแน่ รีบไปสืบมา ฉันจะเอามันให้ตาย!”

“ครับ…ครับ…”

ลูกน้องพยักหน้ารัวด้วยความหวาดผวาเพราะกลัวจะไปกระตุ้นความโกรธคนคนนี้เข้า ไม่อย่างนั้นไม่รอดแน่

“อะไรกัน? พวกเขาทำงานไม่ได้ดั่งใจเหรอ? อย่าโกรธไปเลย รีบกินบะหมี่เถอะ ถ้าเย็นแล้วไม่อร่อยนะ!”

เหมยซูหานยกถ้วยบะหมี่ร้อนได้ที่เข้ามา แค่ดูก็รู้ว่าตอนนี้เฮ่อเหลียนเช่อกำลังอารมณ์ไม่ดีสุด ๆเลยขมวดคิ้วอย่างห้ามไม่ได้

เฮ่อเหลียนเช่อรีบเก็บสีหน้าพลางเตะลูกน้องไปให้ไกลตัว ลูกน้องถอยออกจากห้องอย่างผวาและลอบถอนหายใจ นึกขอบคุณเหมยซูหาน หากคืนนี้ไม่ได้เขาช่วยไว้ ต่อให้เขามีชีวิตรอดก็คงไม่พ้นโดนซ้อมปางตาย

“บะหมี่ที่ซูหานต้มอร่อยจริง ๆ หอมมาก…”

เฮ่อเหลียนเช่อทานคำโตและชมไม่หยุดปาก เขาชอบบะหมี่ที่เหมยซูหานต้มมากจริง ๆเป็นรสชาติที่อยู่ในความทรงจำของเขา

เขาจำได้ว่าในวัยเด็กมีคนเคยต้มบะหมี่ผักดองเค็มใส่เนื้อให้เขามาก่อน รสชาติแบบนี้เลย เป็นรสชาติที่คนอื่นไม่อาจทำได้ มีเพียงเหมยซูหานที่ทำแล้วเขาชอบ เขาทานมันได้ทุกวันไม่มีเบื่อ

“ชอบก็กินเยอะๆหน่อย หลังจากนี้นายอยากกินอีกก็บอกฉันนะ” เหมยซูหานยิ้มบอก

เฮ่อเหลียนเช่อเงยหน้ามองเหมยซูหานที่อยู่ท่ามกลางไอร้อนแวบหนึ่ง เป็นความรู้สึกพร่ามัวที่มองไม่ค่อยชัดแต่กลับทำให้เขารู้สึกสงบ ความสงบที่ไม่ต้องการสิ่งใด

ตัวเขายังนึกแปลกใจ เอาตัวเหมยซูหานมาเพราะความคึกคะนองชั่ววูบแต่กลับมีเซอร์ไพรส์ให้เขามากมาย และเริ่มจับจองพื้นที่ในใจเขามากขึ้นเรื่อย ๆ

“นายเองก็กินสิ…”

เฮ่อเหลียนเช่อคีบบะหมี่พุ่งมาที่ปากเหมยซูหานแล้วมองเขาอย่างใจจดใจจ่อ

เดิมทีเหมยซูหานไม่อยากทานเพราะเขาไม่ชินกับการถูกป้อน  โดยเฉพาะอีกฝ่ายเป็นผู้ชายคนหนึ่งด้วย แต่พอเขาเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของเฮ่อเหลียนเช่อนั้นก็ใจอ่อนยวบ อ้าปากรับเส้นบะหมี่

“ฉันกินข้าวเย็นมาแล้ว นายกินเถอะ” เหมยซูหานกลืนเส้นบะหมี่ที่เคี้ยวในปากลงท้องด้วยหลากหลายความรู้สึก

เฮ่อเหลียนเช่อฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจก่อนก้มหน้าทานบะหมี่คำโตเสียง ‘ซู๊ด ๆ’ ไม่นานก็ทานบะหมี่ถ้วยใหญ่หมดจนไม่เหลือแม้แต่น้ำซุป

“อร่อย…เอิ๊ก…”

เฮ่อเหลียนเช่อตบท้องเบา ๆอย่างพึงพอใจพร้อมทั้งเรอออกมา สีหน้ายิ้มแย้มลดความเย็นชาลงได้มากทีเดียว

เหมยซูหานลังเลอยู่นานก็ทำใจดีสู้เสือกล่าวขึ้น “ฉันอยากเลือกบ้านหลังหนึ่งที่ซื้อวันนี้แล้วตกแต่งใหม่ เปิดเทอมก็อยากจะย้ายไป…”

เห็นเฮ่อเหลียนเช่อทำหน้าเย็นชาลงจึงรีบอธิบายยกใหญ่ว่า “ฉันชอบวิวทางนั้น ทางนี้ฉันไม่ค่อยชอบ”

เฮ่อเหลียนเช่อเปลี่ยนสีหน้าทันที “ได้สิ นายอยากอยู่หลังไหนฉันจะส่งคนไปปรับตกแต่งให้ รับรองว่าจะให้เหมือนหลังใหม่ ถึงตอนนั้นเราย้ายไปอยู่ด้วยกัน ฉันอยู่ได้ทุกที่ ไม่เลือกมากหรอก!”

เหมยซูหานมองเฮ่อเหลียนเช่อที่คุยจ้อไม่หยุดด้วยท่าทีเรียบนิ่งแล้วลอบถอนหายใจเบา ๆ

หรือว่าเขากับเฮ่อเหลียนเช่อจะต้องเกี่ยวพันกันเช่นนี้ต่อไปอย่างนั้นหรือ?

………………………..