บทที่ 794 นักฆ่าประตูนรก

The king of War

ภาพที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ใครก็คิดไม่ถึง แม้แต่หยางเฉินยังรู้สึกแปลกใจ

เมื่อเห็นว่ากริชในมือของนักฆ่ากำลังจะแทงเข้าไปในหัวใจของหญิงวัยกลางคน หยางเฉินก็แย่งปืนจากในมือของกงเจิ้งโดยไม่ลังเล

“ปัง!”

เสียงปืนเสียดแก้วหูดังขึ้นในทันที ข้อมือของนักฆ่าถูกลูกกระสุนเจาะทะลุ

“อ๊าก!”

นักฆ่าร้องด้วยความเจ็บปวด กริชตกลงไปที่พื้น ข้อมือของเขาถูกยิง ไม่มีโอกาสที่จะฆ่าใครปิดปากแล้ว

เขาหันหลังวิ่งหนีไป กำลังจะออกไปจากที่นี่

“ปัง! ปัง!”

จากนั้นก็มีเสียงปืนสองนัดติดต่อกัน กระสุนยิงถูกขาทั้งสองของนักฆ่าอย่างแม่นยำ

ช่วงเวลาที่นักฆ่าพยายามฆ่า ไปจนถึงหยางเฉินแย่งปืนมาและยิงออกไป ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในชั่วพริบตา

จนกระทั่งนักฆ่าล้มลงกับพื้น ทุกคนถึงได้สติกลับมา

เช่นเดียวกับหม่าชาวที่วิ่งออกไป ในขณะที่เสียงปืนได้ดังขึ้น

“กร๊อบ” คางของนักฆ่าถูกปลดข้อต่อ หม่าชาวเอาถุงพิษออกมาจากปากของนักฆ่าเขาแล้วพูดเย้ยหยัน“มีพิษอยู่ในปาก เป็นปลาตัวใหญ่!”

ตำรวจหลายนายก้าวไปข้างหน้าทันที จับนักฆ่ากดลงบนพื้นและใส่กุญแจมือ นักฆ่าไม่สามารถหลบหนีได้อีกต่อไป ดวงตาทั้งสองดุร้าย

“เป็นนักฆ่าประตูนรก!”

หม่าชาวเดินเข้าไปหาหยางเฉินและกล่าวขึ้น

สีหน้าของกงเจิ้งที่อยู่ข้างๆ เปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อได้ยินคำว่าประตูนรก ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เป็นไปได้ยังไง?”

ประตูนรกเป็นองค์กรนักฆ่าที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ นักฆ่าของพวกเขามีความสามารถแข็งแกร่งมาก แม้แต่คนใหญ่โตจากต่างประเทศ ประตูนรกก็กล้าที่จะฆ่า

ที่สำคัญที่สุดคือนักฆ่าประตูนรกนั้นมีความลึกลับมาก แทบจะไม่เคยพลาดเลย แม้ว่าจะถูกทิ้งไว้ ก็สามารถเหลือไว้เพียงศพเท่านั้น

หม่าชาวไม่ตอบกงเจิ้ง แต่พูดกับหยางเฉินว่า “ฝ่ายตรงข้ามน่าจะอยู่ในอันดับต้นๆ ของประตูนรก น่าจะอยู่ในยี่สิบอันดับแรก!”

เมื่อนักฆ่าคนนั้นเห็นหม่าชาวจำตัวเองได้ ในแววตาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ราวกับคิดไม่ถึงว่าจะมีคนจำได้ที่นี่

สิ่งที่ทำให้เขาตกใจมากขึ้นก็คือหม่าชาวไม่เพียงแต่จำเขาได้เท่านั้น แต่ยังรู้ว่าเขาอยู่ภายในอันดับยี่สิบในประตูนรก

“พวกคุณเป็นใครกันแน่?”

นักฆ่ากัดฟันถามหยางเฉินและหม่าชาว

ด้วยความแข็งแกร่งของเขา มันเป็นเรื่องง่ายที่จะฆ่าภรรยาของผู้ตายสองคนเมื่อครู่ แต่นึกไม่ถึงว่าจะได้พบกับหยางเฉิน

ทักษะการยิงปืนที่แม่นยำและความเร็วในการตอบสนองของหยางเฉินนั้นเหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป

แถมยังมีหม่าชาวอีก ที่จำได้อย่างรวดเร็วว่าเขาคือนักฆ่าประตูนรก ซึ่งทำให้เขาตกใจมากยิ่งขึ้น

“อย่าไร้สาระให้มากนัก!”

หม่าชาวเดินเข้าไป แล้วเตะนักฆ่าเข้าที่ท้ายทอย นักฆ่าตาเหลือกล้มลงกับพื้นสลบไสลทันที

หยางเฉินมองไปที่กงเจิ้งแล้วกล่าวว่า “หัวหน้ากง เราตรวจสอบบันทึกการรักษาของผู้ตายเรียบร้อยแล้ว ญาติของผู้ตายก็ยินดีให้ความร่วมมือในการสอบสวน แล้วเรายังจับนักฆ่าได้อีกหนึ่งคน ผมคิดว่าความจริงน่าจะเปิดเผยในไม่ช้า ที่เหลือรบกวนให้คุณจัดการต่อแล้ว”

กงเจิ้งไม่อาจดูถูกหยางเฉินได้เลย เขารีบบอกว่า “ประธานหยางสบายใจได้เลย พวกเราจะค้นหาความจริงและมีคำอธิบายให้พวกคุณโดยเร็วที่สุดอย่างแน่นอน!”

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่หยางเฉินแย่งปืนมายิงแขนและสองขาของนักฆ่า หรือว่าหม่าชาวจำนักฆ่าประตูนรกได้ ก็ทำให้กงเจิ้งตระหนักได้ว่าหยางเฉินนั้นไม่ธรรมดา

เขาถึงขนาดสงสัยว่าผู้ชายนับร้อยคนที่ปรากฏตัวเมื่อครู่พร้อมอาวุธครบมือ ก็เกี่ยวข้องกับหยางเฉินเช่นกัน

ถ้าไม่อย่างนั้น ที่นี่เป็นเพียงสถานที่ก่อสร้างในเมืองจิ่วโจว จะเกี่ยวข้องกับความลับทางทหารได้อย่างไร?

บางทีทุกอย่างอาจจะเป็นเพียงฉากบังหน้าเท่านั้น

เพราะการที่คนเหล่านั้นพาตัวนักข่าวออกไป มันคือการปกป้องชื่อเสียงของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปที่ดีที่สุด

แม้ว่าเขาจะรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับนักข่าวเหล่านั้น แต่เขาไม่กล้าสั่งให้พาไปสอบสวน

“ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป รบกวนหัวหน้ากงช่วยจัดการให้เรียบร้อยด้วย”

ในขณะที่กงเจิ้งยังคงครุ่นคิดอยู่ หยางเฉินก็พูดอีกว่า “ส่วนเรื่องการจับกุมนักฆ่าประตูนรก ก็เพราะหัวหน้ากงพบว่านักฆ่าต้องการฆ่าปิดปากคนอื่น หัวหน้ากงมีสายตาที่เฉียบแหลม ชักปืนออกมาทันทีและสามารถกำราบนักฆ่าลงได้”

ได้ยินดังนั้นดวงตาของกงเจิ้งเป็นสว่างไสวขึ้นมาทันที

คุณงามความดียิ่งใหญ่ขนาดนี้ หยางเฉินกลับมอบให้ตัวเอง

ถึงอย่างไรการจับกุมนักฆ่าที่มาจากองค์กรนักฆ่าที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เขาต้องมีคดีฆาตกรรมติดตัวมากมาย

มันเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในการจับกุมนักฆ่าเช่นนี้

แต่เขาก็ตระหนักว่าตัวตนของหยางเฉินนั้นไม่ธรรมดา เขาก็ไม่กล้ากระโตกกระตากไป จึงพูดได้เพียงว่า “ขอบคุณครับประธานหยาง!”

จากนั้นเขาก็พาคนออกไปจากที่นี่

ในที่สุดเรื่องราวต่างๆ ก็จบลงอย่างใจหายใจคว่ำ หยางเฉินแอบถอนหายใจเงียบๆ

แต่ทว่า แววตาของเขาเป็นประกาย หรี่ตาพูดว่า “ไม่รู้ว่าครั้งนี้ใครส่ง ‘ของขวัญ’ ชิ้นใหญ่ขนาดนี้มาให้ผม”

หม่าชาวเอ่ยปากว่า “พี่เฉิน คุณไม่ต้องกังวล แม้แต่นักฆ่าประตูนรกก็จับได้แล้ว ในไม่ช้าก็จะรู้ว่าใครเป็นคนทำเรื่องทุกอย่างนี้”

หยางเฉินพยักหน้า

“ท่านประธาน ตอนนี้การก่อสร้างยังต้องถูกระงับอีกหรือเปล่า?”

ในเวลานี้ลั่วปิงได้เดินเข้ามาแล้วถามขึ้น

เดิมทีหยางเฉินได้สั่งให้หยุดงาน แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีทหารติดอาวุธครบมือปรากฏตัวขึ้นเป็นจำนวนมากอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย และพาตัวนักข่าวเหล่านั้นออกไป

นอกจากนี้อุบัติเหตุในสถานที่ก่อสร้าง ที่แท้ก็เป็นแผนการร้ายของพุ่งเป้ามาหาเยี่ยนเฉินกรุ๊ป

ขอเพียงเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ไม่ถูกแพร่งพรายออกไป มันจะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อเยี่ยนเฉินกรุ๊ปเลย

หยางเฉินส่ายหน้า “ดำเนินการก่อสร้างต่อไป!”

“ครับผม!”

ลั่วปิงรีบตอบกลับและพูดขึ้นอีกว่า “ท่านประธาน ผมจะดูแลส่วนที่เหลือเอง หากคุณมีธุระอะไรก็ไปทำก่อนได้เลย!”

“ดี เหนื่อยหน่อยนะ!”

หยางเฉินหันหลังเดินออกไปกับหม่าชาว

ระหว่างทางออกจากสถานที่ก่อสร้าง หยางเฉินได้กล่าวว่า “ฉลาดมากเลยไอ้หนู คิดได้ยังไงว่าต้องพาคนมา?”

หม่าชาวยิ้มพลางพูดว่า “พี่เฉิน ผมไม่ได้ใช้อำนาจในทางที่ผิด ตัวตนของคุณนั้นเป็นความลับ”

“นักข่าวเหล่านั้นได้ถ่ายภาพทุกการเคลื่อนไหวของคุณไว้ ทันทีที่คลิปวิดีโอของคุณถูกโพสต์ขึ้นบนอินเทอร์เน็ต ถ้าหากเรื่องรู้ไปถึงหูของพวกต่างชาติที่มีจุดประสงค์บางอย่าง ชายแดนเหนือจะต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน”

“ผมทำแบบนี้ก็เพื่อชายแดนเหนือ พี่เฉินคงไม่ตำหนิผมหรอกนะ?”

เมื่อได้ยินหม่าชาวพูดเช่นนี้ หยางเฉินก็ถึงกับชะงักไปเล็กน้อย ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเช่นนี้จริงๆ

แต่พอคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ป สายตาของหยางเฉินก็เย็นชาลงอีกครั้ง เขาหรี่ตาพลางพูดว่า “ไม่ว่าจะเป็นใครที่กล้าโจมตีเยี่ยนเฉินกรุ๊ป มันคือการรนหาที่ตาย!”

“เรื่องนี้คุณจับตาดูไว้ให้ดี จำเป็นต้องรีบตามหาคนร้ายตัวจริงโดยเร็วที่สุด!”

หม่าชาวรีบพูดว่า “พี่เฉินไม่ต้องกังวล ผมกำลังสืบอยู่ อีกไม่นานก็น่าจะพบคนร้ายตัวจริงแล้ว”

ระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกัน หม่าชาวก็ได้รับสาย

“ครับ ผมเข้าใจแล้ว!”

หลังจากวางสายโทรศัพท์หม่าชาวก็มองไปที่หยางเฉินและพูดว่า “สืบพบคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แล้ว!”

เมื่อได้ยินคำพูดของหม่าชาว ดวงตาของหยางเฉินก็เป็นประกายเยือกเย็นและถามอย่างเย็นชา “ใคร?”

“อวี๋เหวินปิง!”

หม่าชาวพูดชื่อนี้ออกมา

เมื่อหยางเฉินได้ยินชื่ออวี๋เหวินปิง สีหน้าก็ชะงักงันไปในทันใด