ตอนที่ 2245

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,245 : ถึงหน้าประตู!

 

“ย่อมไม่ใช่”

 

ต้วนหลิงเทียนขี้เกียจอธิบายอะไรให้นางมาก จึงหันไปเหลือบมองก่านหรูเยี่ยนผ่านๆกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงเฉยเมย

 

“ไม่?”

 

คิ้วก่านหรูเยี่ยนขดย่นเป็นปม “หากรากวิญญาณสีม่วงยังไม่ใช่พรสววรรค์รากวิญญาณสูงสุด…แล้วพรสวรรค์รากวิญญาณสูงสุดมันสีอะไรกัน?”

 

“รากวิญญาณสีดำ”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวตอบห้วนๆ

 

“รากวิญญาณสีดำ?”

 

ก่านหรูเยี่ยนหยีตามองต้วนหลิงเทียน กล่าวถามเสียงหนัก “หรือพรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้ากลายเป็นสีดำแล้ว?”

 

เหตุผลที่นางกล่าวถามต้วนหลิงเทียนว่าใช่มีรากวิญญาณสีดำแล้วหรือยัง นั่นเพราะนางคาดไปว่า 9 ใน 10 ต้วนหลิงเทียนไม่พ้นมีรากวิญญาณสีดำแล้วแน่นอน ถึงได้รู้เรื่องนี้!

 

บางทีอีกฝ่ายกระทั่งยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของตัวเองให้เป็นสีดำได้แต่แรก!

 

“ยังไม่”

 

ต้วนหลิงเทียนส่ายหน้าไปมา

 

“เช่นนั้นเจ้า…”

 

ก่านหรูเยี่ยนคิดจะยิงคำถามซักไซร้สืบต่อ ทว่าถูกต้วนหลิงเทียนกล่าวตัดคำเสียงห้วน “ข้าขี้เกียจอธิบายให้เจ้าฟัง จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เรื่องของเจ้า!”

 

จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนเองก็เริ่มรู้สึกรำคาญขึ้นมาบ้างแล้ว

 

ก่านหรูเยี่ยนจี้ถามไม่เลิกเช่นนี้ เห็นชัดว่าไม่เชื่อคำของเขา

 

เช่นนั้นเขาก็รำคาญที่จะมานั่งเสียเวลาอธิบายให้นาง

 

“เจ้า! ดูเจ้าทำเข้า!!”

 

เห็นต้วนหลิงเทียนเป็นแบบนี้ก่านหรูเยี่ยนก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจไม่น้อย!

 

บุรุษผู้นี้ไฉนถึงได้แลดูรำคาญนางนัก ทีกับน้องสาวนางไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลย นางก็แค่ถามด้วยความอยากรู้เฉยๆ ไฉนต้องมีโมโหทำท่ารำคาญขนาดนั้นด้วย?

 

จังหวะนี้ก่านหรูเยี่ยนก็คล้ายจะลืมไปแล้ว

 

น้องสาวของนางเป็นภรรยาของต้วนหลิงเทียน!

 

“พี่หญิงพรสวรรค์รากวิญญาณของซือหลิงเป็นสีดำ และไม่เหลือพื้นที่ให้ยกระดับพัฒนาอีกแล้ว…ด้วยเหตุนี้พี่เทียนจึงกล่าวบอกท่านว่า จุดสูงุสดของพรสวรรค์รากวิญญาณคือรากวิญญาณสีดำ…”

 

เมื่อเห็นพี่สาวของนางแลดูน้อยเนื้อต่ำใจ เค่อเอ๋อก็เร่งอธิบายออกมาทันที

 

“อะไรนะ!? พรสวรรค์รากวิญญาณของซือหลิงเป็นรากวิญญาณสีดำงั้นเหรอ?!”

 

ได้ยินคำของเค่อเอ๋อ ก่านหรูเยี่ยนก็แผ่สำนึกเทวะออกมาอย่างไม่รู้ตัว หมายสำรวจพรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนซือหลิงที่อยู่ลึกลงไปในดวงจิต…

 

ตอนนี้ต้วนซือหลิงก็นอนหลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมแขนของต้วนหลิงเทียน

 

เช่นนั้นพอสัมผัสได้ถึงสำนึกเทวะของก่านหรูเยี่ยนที่แผ่ออกมา ต้วนหลิงเทียนก็รู้ได้ทันทีว่านางคิดทำอะไร

 

เดิมทีเขาก็คิดจะหยุดยั้ง แต่พอนึกได้ว่าก่านหรูเยี่ยนคงไม่คิดร้ายกับลูกสาวของเขา เขาก็ไม่หยุดนาง

 

“เป็นรากวิญญาณสีดำจริงๆด้วย…!”

 

หลังได้ตรวจสอบแล้ว ก่านหรูเยี่ยนก็ยืนยันได้ทันทีว่ารากวิญญาณของซือหลิงเป็นสีดำ

 

“ก็สมควรเป็นเช่นนี้จริงๆ…หากรากวิญญาณสีม่วงเข้มมันมีสีเข้มมากกว่านี้ย่อมกลายเป็นคล้ำลง สุดท้ายที่คล้ำที่สุดก็มีแต่สีดำเท่านั้น…”

 

ก่านหรูเยี่ยนถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง

 

“ว่าแต่…”

 

หลังถอนหายใจแล้ว ก่านหรูเยี่ยนก็หันไปมองเค่อเอ๋อสลับกับต้วนหลิงเทียนไปมา คิ้วนางตอนนี้เริ่มขดย่นเป็นปม กล่าวออกกับต้วนหลิงเทียนเสียงหนัก “เรื่องเค่อเอ๋อมีรากวิญญาณสีม่วงนั้นข้ารู้มานานแล้ว…แต่พรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้า ก่อนที่มันจะเป็นสีม่วงเข้ม…สมควรมีสีอื่นใช่หรือไม่?”

 

“เจ้าคิดจะพูดอะไรกันแน่?”

 

ต้วนหลิงเทียนย่นคิ้ว เขาย่อมฟังออกว่าในคำพูดของก่านหรูเยี่ยนมีบางอย่างแฝงอยู่

 

“ข้ากำลังสงสัยอยู่ว่า…หากพรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้ามันไม่ใช่สีม่วงตั้งแต่ตอนแรก เจ้ากับเค่อเอ๋อที่มีลูกด้วยกันในตอนนั้น ไฉนลูกของพวกเจ้าถึงได้มีรากวิญญาณสีดำได้เล่า?”

 

“เพราะสุดท้ายแล้วอย่างไรเสีย รากวิญญาณของเค่อเอ๋อเดิมก็มีแค่สีม่วงเท่านั้น”

 

ก่านหรูเยี่ยนกล่าว

 

พอได้ยินวาจาของก่านหรูเยี่ยน ต้วนหลิงเทียนก็ขมวดคิ้วเป็นปมทันที

 

หากก่านหรูเยี่ยนไม่พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เขาเองก็ไม่ทันได้คิด

 

ใช่!

 

อย่างที่ก่านหรูเยี่ยนบอก หากคนสองคนที่มีรากวิญญาณสีม่วงมีลูกด้วยกัน ต่อให้ลูกจะเกิดมามากพรสวรรค์อย่างไร ก็ไม่น่าจะมีทางมีพรสวรรค์รากวิญญาณสีดำไปได้!

 

เพราะสุดท้ายแล้ว พรสวรรค์รากวิญญาณ สมควรเป็นอะไรที่หาได้ยากอย่างถึงที่สุด อย่างน้อยๆในบันทึกประวัติศาสตร์ของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า ก็ไม่เคยมีบันทึกปรากฏว่ามีใครที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีดำมาก่อนเลย!!

 

“แต่พรสวรรค์รากวิญญาณของซือหลิงกลับมีสีดำ…เช่นนั้นก็หลงเหลือความเป็นไปได้แค่ 2 ทางเท่านั้น!”

 

ก่านหรูเยี่ยนกล่าวสืบต่อ “ประการแรกคือตอนที่พวกเจ้ามีลูกด้วยกันเป็นเพราะปาฏิหาริย์อะไรบางอย่าง ถึงทำให้ซือหลิงเกิดมามีพรสวรรค์รากวิญญาณสีดำที่เป็นพรสวรรค์รากวิญญาณระดับสูงสุดได้”

 

“ประการที่สองเพราะ เค่อเอ๋อ เป็นเทพธิดากลับชาติมาเกิดอย่างที่ร่ำลือจริงๆ จึงทำให้ลูกของนางมีโอกาสมีพรสวรรค์รากวิญญาณแบบนี้ได้ ถ้าหากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงก็ไม่น่าแปลกอะไร”

 

วาจาประโยคท้ายของก่านหรูเยี่ยน ยกเรื่องเค่อเอ๋อเป็นเทพธิดากลับชาติมาเกิดขึ้นมาอ้างอิง

 

“เทพธิดากลับชาติมาเกิด? เหลวไหล ไร้สาระ!”

 

หลังก่านหรูเยี่ยนกล่าวจบคำ ต้วนหลิงเทียนก็ปฏิเสธไม่ยอมรับเรื่องราวออกมาทันที

 

ตอนที่เขาอยู่ในลัทธิบูชาไฟ เขายังได้รับข้อมูลมาจากผู้พิทักษ์คนอื่นๆมาเช่นกัน

 

ว่าเรื่องที่ธิดาเทพหรือเค่อเอ๋อเป็น เทพธิดากลับชาติมาเกิด นั้น…เป็นตัวจ้าวลัทธิบูชาไฟทึกทักไปเองคนเดียว!

 

คนอื่นๆไม่ว่าจะผู้พิทักษ์หรืออาวุโสระดับสูง ล้วนเห็นพ้องต้องกันว่า…

 

เรื่องที่ธิดาเทพ เป็นเทพธิดากกลับชาติมาเกิดนั้น แค่เรื่องเหลวไหลสร้างภาพ!

 

ด้วยเหตุนี้ต้วนหลิงเทียนจึงกล่าวปฏิเสธก่านหรูเยี่ยนออกมา

 

“ข้าไม่คิดแบบนั้นนะ…”

 

ก่านหรูเยี่ยนส่ายหัวไปมา ค่อยกล่าวสืบต่อ “หากเจ้าจะบอกว่า…อวี่…เค่อเอ๋อ ไม่ใช่เทพธิดากลับชาติมาเกิดจริงๆ แล้วไฉนพรสวรรค์รากวิญญาณของพวกเราฝาแฝดถึงได้ต่างกันนักเล่า? รากวิญญาณของนางไม่เพียงแต่เป็นสีม่วงยังเป็นสีม่วงเข้ม แต่ข้ากลับมีแค่รากวิญญาณสีครามเท่านั้น…”

 

“เจ้าคิดว่า…ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องที่เค่อเอ๋อเป็นเทพธิดากลับชาติมาเกิดเป็นความจริง ทุกอย่างจะสมเหตุสมผลหรอกหรือ?”

 

ก่านหรูเยี่ยนมองถามต้วนหลิงเทียนด้วยทีท่าจริงจัง

 

และตอนนี้ก่านหรูเยี่ยนก็เริ่มจะเรียกเค่อเอ๋อ ว่าเค่อเอ๋อแล้ว ไม่เรียกชื่อเก่า

 

เพราะนางรู้ว่าน้องสาวนางชอบชื่อนี้มากกว่า

 

ได้ยินคำของก่านหรูเยี่ยน ต้วนหลิงเทียนก็พูดไม่ออกอีกรอบ

 

ใช่

 

หากไม่ใช่เพราะเรื่องเทพธิดากลับชาติมาเกิดเป็นความจริง ไฉนพี่น้องฝาแฝดกัน ถึงได้มีพรสวรรค์รากวิญญาณแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวแบบนี้?

 

“แน่นอนว่ายังมีความเป็นไปได้ที่พรสวรรค์รากวิญญาณของเค่อเอ๋อจะประสบกับการกลายพันธุ์อะไรบางอย่าง…เพราะแม้แต่บิดากับมารดาของพวกเรา คนหนึ่งก็มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีคราม อีกคนก็มีแค่รากวิญญาณสีน้ำเงินเท่านั้น…”

 

ก่านหรูเยี่ยนกล่าวสืบต่อ

 

“ตอนนี้กกล่าวไปสถานการณ์ของซือหลิงก็ละม้ายคล้ายคลึงกับเค่อเอ๋อนัก…พรสวรรค์รากวิญญาณของทั้งคู่ อาจบังเอิญเกิดการกลายพันธุ์อันใดเหมือนกัน….หรือไม่ก็ทั้งหมดเป็นเพราะเค่อเอ๋อคือเทพธิดากลับชาติมาเกิดจริงๆ!”

 

หลังก่านหรูเยี่ยนแจกแจงเรื่องราว นางก็ยกอ้างความเป็นไปได้ว่าต้วนหลิงเทียนกับเค่อเอ๋อ อาจก่อให้เกิดลูกที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณกลายพันธุ์อย่างซือหลิง เหมือนกับกรณีของเค่อเอ๋อที่รากวิญญาณผิดเพี้ยนจากบิดามารดาไปมาก

 

หากแต่แม่กับลูกสาว…จะบังเอิญพบพานเรื่องประหลาดเช่นนี้พร้อมกันแน่หรือ?

 

ก่านหรูเยี่ยนพูดเรื่องนี้ออกมา ต้วนหลิงเทียนย่อมใจสั่นไปไม่น้อย

 

หากให้กล่าวตามความสัตย์จริง

 

เรื่องกลับชาติมาเกิดนั้น…เขาเชื่อว่ามันมีอยู่จริงแน่นอน!

 

เพราะในระดับหนึ่ง เขาก็เสมือนกลับชาติมาเกิด!

 

ในชาติที่แล้วเขาเป็นราชันทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ต่อมาเพราะถูก ‘ขาย’ จึงพบพานกับกับดักจนตาย ทว่าวิญญาณของเขากลับข้ามมายังโลกใบนี้อย่างไม่รู้สาเหตุ จนได้เข้าร่างต้วนหลิงเทียน เสมือนได้เกิดใหม่…

 

อย่างไรก็ตามเรื่องราวเทพธิดากลับชาติมาเกิดของเค่อเอ๋อ เขาได้ยินมาว่าเป็นถังซวนทึกทักไปเองคนเดียว แต่คนอื่นๆในลัทธิบูชาไฟไม่มีใครเห็นด้วยสักคน

 

กล่าวได้ว่า เรื่องนี้ส่งผลต่อการตัดสินใจของต้วนหลิงเทียนในระดับหนึ่ง

 

ทว่าพอมาฟังวาจาดังกล่าวของก่านหรูเยี่ยน ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะสับสน เพราะไม่รู้ว่าจะเชื่ออย่างไหนดีกันแน่

 

ยิ่งคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร ต้วนหลิงเทียนก็ยิ่งปวดหัว

 

สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็คร้านจะคิดมันให้มากความ

 

‘ไม่ว่าเค่อเอ๋อจะเป็นเทพธิดากลับชาติมาเกิดอะไรหรือไม่ แต่นางก็เป็นภรรยาของข้าต้วนหลิงเทียน…นี่เป็นความจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้!’

 

‘เช่นเดียวกับซือหลิง ต่อให้นางจะมีพรสวรรค์รากวิญญาณสีดำอันเป็นรากวิญญาณสูงสุดหรืออะไรก็ช่าง แต่นางก็คือลูกสาวของข้าต้วนหลิงเทียน!!’

 

ขณะพึมพำในใจ สองตาต้วนหลิงเทียนก็เผยประกายสว่างวาบ

 

หลังยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของก่านหรูเยี่ยนให้เป็นสีม่วงเข้มเสร็จแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ยังคงตระเวนหาครอบครัวไปทั่วทวีปมนุษย์ทวีปสุดท้าย เพราะเขายังไปไม่ทั่วและที่สำคัญยังเหลือปีศาจให้ฆ่าอีกมาก!

 

‘กวาดล้างพวกปีศาจต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะสำรวจทั่วทั้งทวีป…ยังต้องตรวจสอบให้ดีว่าตอนนี้พวกท่านพ่อท่านแม่กับเสี่ยวเฟยเอ๋ออยู่ในทวีปมนุษย์แห่งนี้หรือไม่!’

 

คิดได้ดังนั้น ต้วนหลิงเทียนก็หอบหิ้วภรรยา ลูกสาวรวมถึงก่านหรูเยี่ยนเหินสำรวจไปทั่วทุกที่ๆยังไม่ได้ไปในทวีปมนุษย์

 

ปีศาจที่พบเจอตามรายทางต้วนหลิงเทียนก็ฆ่าไม่ละเว้น ดูดกลืนพรสวรรค์รากวิญญาณของพวกมันมายกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณสีม่วงเข้มของเขา

 

น่าเสียดาย ที่ช่องว่างระหว่างรากวิญญาณสีม่วงเข้มกับสีดำมันมหาศาลเกินไป

 

ถึงแม้ตอนนี้รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนจะเป็นสีม่วงเข้ม ที่เข้มมากๆแล้ว แต่ก็ยังเหลือหนทางอีกยาวไกลกว่ามันจะกลับกลายเป็นรากวิญญาณสีดำ

 

จุดนี้ต้วนหลิงเทียนตระหนักได้ชัดใจ หลังจากไปทั่วทุกซอกทุกมุมของทวีปมนุษย์แห่งนี้

 

นั่นเพราะเขายังไม่ได้เข้าใกล้ขีดจำกัดอย่างพรสววรรค์รากวิญญาณสีดำเลย!

 

“ตอนนี้พวกเราตระเวนหาไปทั่ว 3 ทวีปมนุษย์แล้ว แต่ยังไม่มีเบาะแสหรือร่องรอยพวกท่านพ่อท่านแม่กับเสี่ยวเฟยเอ๋อเลย…เช่นนั้นต่อไปพวกเราจะเริ่มตระเวนหาในทะเล เพราะทุกคนอาจซ่อนตัวอยู่ในเกาะใดเกาะหนึ่งบนทะเลก็เป็นได้!”

 

คิดได้ดังนั้น ต้วนหลิงเทียนก็นำพาทั้ง 3 เหินออกจากทวีปมนุษย์ และท่องไปทั่วทะเลที่คั่นระหว่างทวีปมนุษย์ทั้ง 3 กับดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า

 

มหาสมุทรนั้นช่างกว้างใหญ่สุดไพศาลนัก แม้จะเทียบไม่ได้กับดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าทั้งหมด หากแต่พื้นที่มหาสมุทรก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพื้นที่ของทวีปมนุษย์ทั้ง 3 ทวีปรวมกันเลย

 

ผ่านพ้นไปครึ่งปี ต้วนหลิงเทียนก็พาทุกคนตระเวนไปตามพื้นที่ทะเลต่างๆอย่างไม่รู้เหนื่อย

 

ในระหว่างทางยังพบเกาะที่มีปีศาจอาศัยอยู่มากมาย

 

ปีศาจเหล่านี้ยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าปีศาจที่เขาพบเจอในทวีปมนุษย์ทั้ง 3 ไม่น้อย!

 

กลับกันพรสวรรค์รากวิญญาณของพวกมันก็มีระดับสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด

 

ดังนั้นหลังจากผ่านไปอีกครึ่งปี ไม่เพียงแต่ต้วนหลิงเทียนจะเข้าใกล้ขีดจำกัดพรสวรรค์รากวิญญาณสีดำ

 

ระยะทางที่ห่างจากพรสวรรค์รากวิญญาณสีดำ ยังห่างออกไปแค่ไม่กี่ก้าว!

 

‘อีกแค่ไม่กี่ก้าวข้าก็จะเห็นประตูนำไปสู่รากวิญญาณสีดำแล้ว…เมื่อบรรลุได้ รากวิญญาณของข้าก็จะพัฒนาเป็นสีดำได้อย่างราบรื่น…ที่สำคัญดูเหมือนรากวิญญาณสีดำจะไม่มีความแตกต่างอะไร ไม่มีดำเข้มดำอ่อน!’

 

‘ดูจากสีรากวิญญาณของข้าตอนนี้มันก็เริ่มดำลงบ้างแล้ว หากเข้มขึ้นกว่านี้จนไม่เหลือความสว่างอะไร…มันก็จะกลายเป็นดำสนิทเหมือนกันกับรากวิญญาณของซือหลิง!’

 

หลังตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ ต้วนหลิงเทียนก็บังเกิดความฮึกเหิมไม่น้อย