บทที่ 1102 จบบริบูรณ์

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 1102 จบบริบูรณ์
เมื่อเย่เซิ่งเทียนมาถึง เหย้ซูหลิงช่วยเหลือแม่ออกมาแล้ว แต่สิ่งนี้ไม่สามารถทำให้เขาหยุดทำลายสรวงสวรรค์

ความคับแค้นใจหลายปีมานี้ ก็ได้ระบายกับคนเหล่านี้ในสรวงสวรรค์ทั้งหมด ไม่มีใครหน้าไหนหนีไปได้

จากนั้น เย่เซิ่งเทียนก็รีบมาถึงฟ้าสยบอีกครั้ง ไม่มีใครกล้าสงสัยเขาอีกเลย

ตระกูลที่คอยเฝ้าอารักขาเหล่านั้นที่เหลืออยู่ เย่เซิ่งเทียนก็จัดการไปทีละราย มีบางตระกูลตกใจจนยอมจำนน บางตระกูลต่อต้านอย่างสู้สุดใจขาดดิ้น ถูกฆ่าตายทั้งหมด

และทางฝั่งเหย้ซูหลิง ท้องยิ่งโตขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็คลอดลูกชายคนหนึ่งออกมา แต่ฐานะของเธอนั้นน่าอึดอัดมากๆ ตอนแรกที่ท้องเด็กคนนี้ เพื่อที่บีบเย่เซิ่งเทียนให้ยอมปฏิบัติตาม ไม่คิดว่าสุดท้ายทั้งสองคนจะพัฒนามาถึงจุดนี้ได้

เดิมทีคนของตระกูลเหย้คิดอยากจะตามหาเย่เซิ่งเทียน เพื่อบอกเรื่องนี้ แต่เหย้ซูหลิงไม่ยอม ความจริงเช่นนี้สามารถทำให้เย่เซิ่งเทียนยอมรับได้ แต่เธอไม่สนใจกับความเวทนาเช่นนี้

สิ่งที่เธอต้องการ คือเย่เซิ่งเทียนยอมรับตนเองอย่างจริงใจ และไม่ใช่เพื่อลูก

ตอนนี้ หลักธรรมเสถียรแล้ว การบำเพ็ญตนของเย่เซิ่งเทียนเป็นการพัฒนาที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นคนแรกที่ทะลวงผ่านแดนเทพ จึงคนพบว่าบนแดนเทพ ยังมีเขตแดนอีก

สองปีผ่านไปในพริบตา ความแข็งแกร่งของเย่เซิ่งเทียนมาถึงระดับไหนแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ได้ รู้เพียงแต่ว่าเย่เซิ่งเทียนเริ่มลึกซึ้งจนคาดเดาไม่ถูกมากขึ้นเรื่อยๆ

ในเวลานี้ ทั้งโลกต่างก็เริ่มบำเพ็ญตน เมื่อก่อนประเทศเหล่านั้นที่เคยต่อต้าน ภายใต้แรงกดดันอันแรงกล้าของเย่เซิ่งเทียน สุดท้ายก็ยอมประนีประนอม มาเป็นพันธมิตร โดยมีประเทศต้าเซี่ยเป็นผู้นำ

ส่วนทำไมคนเหล่านั้นยอมรับปากน่ะเหรอ ก็เป็นเพราะคนที่ไม่รับปาก ล้วนก็ถูกเย่เซิ่งเทียนฆ่าตายหมด

อสุรกายภูมิกำลังจะบุกรุก คนเหล่านั้นมีความคิดของตนเอง เย่เซิ่งเทียนขี้เกียจจะไปต่อสู้กับพวกเขาแล้ว ขุนหลวงและคนอื่นๆก็ไม่ได้คิดเช่นนั้น เพราะว่าวิสัยทัศน์พวกเขาไม่ได้จำกัดอยู่แค่การแข่งขันระหว่างประเทศอีกต่อไป

หลังจากที่อสุรกายภูมิบุกเข้ามา สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นภาพฝัน ศัตรูที่แท้จริง คือคนที่บุกเข้ามาอย่างท่านกู่พวกนั้น

ในวันนี้ จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้น ท้องฟ้าแตกสลาย ฟ้าร้องสั่นไหว โลกที่แปลกประหลาดหลายใบค่อยๆ โผล่ออกมาจากเงาของพวกเขา

“ในที่สุดก็มาแล้วใช่ไหม?”

สีหน้าเย่เซิ่งเทียนมืดมน เขารอวันนี้มานานมากแล้ว

ตอนแรกที่หวางซีหายตัวไปอย่างลึกลับ เพราะไปอยู่ในบางภพภูมิ เย่เซิ่งเทียนคิดตามหาเธอมาตลอด แต่ไม่มีทางไหนเลย ทำได้เพียงรอให้โลกเหล่านี้เยื้องกรายมาถึง

ทางฝั่งอสุรกายภูมิ เย่เซิ่งเทียนพาผู้คนที่เป็นลูกน้องเข้าไปร่วมฆ่าด้วย ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หนึ่งปีต่อมา เย่เซิ่งเทียนก็ทำให้ทั้งอสุรกายภูมิสงบลง

“นั่นคือโลกเซียนเหรอ?”

มีคนอุทานอย่างตกใจ

โลกอีกใบหนึ่งที่เดิมทีเป็นเพียงเงาภาพลวงตา แต่ตอนนี้ กลับยิ่งมีตัวตนขึ้นเรื่อยๆ

ในโลกของภาพลวงตานั่น มีสัตว์ในตำนานโบราณบินได้ เป็นเซียนที่เยื้องกรายมาบนโลก

เย่เซิ่งเทียนก้าวเข้ามา ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ฝั่งตรงข้ามลงมืออย่างรวดเร็ว ฝ่ามือขนาดใหญ่ปกคลุมท้องฟ้า ตบไปหนึ่งฉาด ท้องฟ้าแตกสลาย

มีคนที่เก่งกาจมากความสามารถ จะมาฆ่าเย่เซิ่งเทียน

มีคนหยิบดาบออกมาฟัน ดาวเคราะห์ระเบิด มีเจตนาฆ่าที่รุนแรง

ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ มหาสงครามฉากนี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว

นี่เป็นศึกใหญ่ มันกินเวลาห้าสิบปีเต็มๆ

ในช่วงเวลานี้ เย่เซิ่งเทียนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ฟื้นจากความตายอีกครั้ง แล้วมีพละกำลังที่แข็งแกร่งขึ้น

จักรพรรดิเซียนปรากฏขึ้น ชี้ให้เห็นว่า เวลาผ่านไปเหมือนสายน้ำ ราวกับว่าโลกกำลังจะแตกดับ

เย่เซิ่งเทียนและคนอื่นๆ ต่อสู้อย่างหนักหน่วง

ร่างกายของเย่เซิ่งเทียนแยกออก วิญญาณทิพย์แตกสลาย สุดท้ายก็เกิดใหม่

สุดท้ายก็ฆ่าจักรพรรดิเซียน

ในวันนี้ ผู้หญิงคนหนึ่งมาอย่างช้าๆ สวมชุดนางฟ้าพลิ้วไหวราวกับเทพ มีความสง่างาม

“ซีเอ๋อร์?”

นาทีที่เย่เซิ่งเทียนเห็นผู้หญิงคนนั้น น้ำตาไหลเต็มหน้า

“แม่”

ซือซือที่อายุ 10 ปี ร้องไห้และพุ่งเข้าไป กลับถูกเย่เซิ่งเทียนรั้งเอาไว้

เขาไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะใช่หวางซีคนนั้นหรือเปล่า

“ฉันเอง ฉันเอง”

หวางซีร้องไห้อย่างควบคุมไม่ได้ เธอรอวันนี้ รอมานานมากแล้ว

ด้านหลังตัวเธอ เหย้ซูหลิงเดินมา และพูดว่า: “เย่เซิ่งเทียน ฉันไม่ติดค้างคุณแล้ว”

เย่เซิ่งเทียนตกตะลึง หวางซีเพิ่งบอกความจริง ที่แท้หลายปีมานี้ที่เหย้ซูหลิงหายตัวไป ก็เพื่อที่ไปตามหาหวางซี

พูดจบ เหย้ซูหลิงก็หันหลังและสลายไป ไม่รู้ว่าไปที่หนแห่งใด

หวางซีบีบเนื้อนุ่มบนเอวของเย่เซิ่งเทียนอย่างไร้ความปรานี พูดว่า: “เกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณกับเหย้ซูหลิง? ทำไมเธอถึงคลอดลูกชายให้คุณ?”

“อะไรนะ?”

เย่เซิ่งเทียนทำหน้างุนงง

“คุณไม่รู้เหรอ?”

หวางซีสงสัย

เย่เซิ่งเทียนส่ายหน้า ขมวดคิ้วและพูดว่า: “เรื่องนี้ผมจะไปทำความเข้าใจให้ชัดเจน”

ไม่กี่วันต่อมา ตระกูลเหย้ เหย้มั่วและคนอี่นๆจึงบอกความจริง เย่เซิ่งเทียนและหวางซีมองหน้ากัน เพิ่งจะรู้ว่า คนที่วางยาเย่เซิ่งเทียนในตอนแรกคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเหย้ซูหลิง

คืนวันนั้นคนที่มีความสัมพันธ์กับเย่เซิ่งเทียน คือเหย้ซูหลิง!

“พ่อ”

ในเวลานี้ เด็กชายรูปร่างแข็งแรงเป็นเด็กดีคนหนึ่งเดินเข้ามาแล้ว หวางซีรีบอุ้มเขาขึ้นมา และพูดกับเย่เซิ่งเทียนด้วยความโกรธ: “เรื่องนี้ คุณแก้ปัญหาด้วยตัวเองเถอะ! จัดการไม่จบ ก็อย่าคิดมาเจอหน้าฉัน!”

จบบริบูรณ์