“ศัตรูของตระกูลหูตือ ตระกูลติงแห่งเมืองธุรีจันรทรา!”
หูหยู่กล่าวพร้อมกับกัดฟันด้วยความแค้น
ตระกูลติง!
จิตใจของหลิงฮันสั่นสะท้าน หรือจะเป็นตระกูลติงของติงเหยาหลงกับติงจื่อเฉิน?
เขายังไม่ทันได้เอ่ยถาม หูหยู่ก็ส่งผ่านพลังของสมบัติเข้าสู่ร่างกายของเขา
“นี่คือเพลิงเก้าสวรรค์ มันถูกผนึกเอาไว้ในแผ่นหินทองคำ พลังงานจากภายนอกไม่สามารถทำลายมันได้”
“ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดอยู่นับร้อย เพลิงเก้าสวรรค์เป็นเพลิงบรรพบุรุษของดินแดนแห่งเซียน ซึ่งเพลิงบรรพบุรุษเป็นต้นกำเนิดของเปลวเพลิงทั้งมวล”
“เพลิงเก้าสวรรค์ก็เป็นหนึ่งในเพลิงต้นกำเนิดเหล่านั้น”
“แน่นอนว่า เพลิงเก้าสวรรค์นี้เพิ่งจะเป็นเปลวแรกเริ่มเท่านั้นเนื่องจากมันเพิ่งถือกำเนิดขึ้นมาและยังไม่มีพลังอำนาจที่น่ากลัว ตอนนี้ข้าได้หลอมเพลิงเก้าสวรรค์เข้าไปในร่างเจ้าแล้ว เมื่อเจ้าขัดเกลากลุ่มก้อนเปลวเพลิวในร่างได้อย่างสมบูรณ์ เพลิงเก้าสวรรค์จะยกระดับเป็นเพลิงบรรพบุรุษในอนาคตและมันจะมอบพลังอันเหนือจินตนาการให้แก่เจ้า”
“น่าเสียดายที่ข้าเพิ่งรู้ถึงเรื่องนี้หลังจากตายแล้วและผนึกดวงวิญญาณเข้ามายังแผ่นหินนี้”
“ไม่ว่าอย่างไรเพลิงเก้าสวรรค์ก็เป็นเพลิงบรรพบุรุษ แม้จะถูกผนึกอยู่ในแผ่นหินสีทองมันก็ยังแฝงไว้ด้วยอำนาจที่ทรงพลัง หากเจ้าไม่ขัดเกลามันอย่างระมัดระวัง อะ… อะไรกัน!”
จู่ๆหูหยู่ก็ตกตะลึงจนต้องอุทานออกมา
เหลือเชื่อ!
เพลิงเก้าสวรรค์ถูกหลิงฮันดูดซับและขัดเกลาจนกลายเป็นก้อนพลังอย่างง่ายดายและราบรื่น
ในความคิดของหูหยู่ หลิงฮันจำเป็นต้องใช้เวลาอย่างน้อยล้านปีในการดูดซับและขัดเกลาเพลิงเก้าสวรรค์ เนื่องจากเพลิงนี้เป็นถึงเพลิงบรรพบุรุษ แม้จะเป็นดินแดนแห่งเซียนก็มันเผาผลาญปรมาจารย์ที่ทรงพลังมาแล้วนับไม่ถ้วน
แต่หูหยู่ไม่มีทางรู้ได้ว่าหลิงฮันนั้นขัดเกลาร่างกายในหอคอยทมิฬด้วยเพลิงนิรันดร์มาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งจนสามารถเข้าใจหลักการของกำเนิดใหม่จากเถ้าถ่านได้ ต่อให้เป็นเพลิงบรรพบุรุษที่ทรงพลังมากขนาดไหน พลังของเปลวเพลิงแรกเริ่มนี้ก็ยังห่างไกลจากเปลวเพลิงของวิหคเพลิงอมตะมากนัก สำหรับหลิงฮันแล้วการขัดเกลามันย่อมไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย
ในร่างของหลิงฮัน รูปแบบอาคมมากมายนับไม่ถ้วยปรากฏขึ้นมาและมีความซับซ้อนยิ่งขึ้นกว่าที่ผ่านๆมาในอดีต
นี่ไม่ใช่รูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์แต่เป็นตราประทับนิรันดร์!
‘ครืนน’ ร่างกายของหลิงฮันปลดปล่อยเปลวเพลิงออกมาเป็นหัวของวิหคเพลิงอมตะ ด้วยการกระตุ้นจากเพลิงบรรพบุรุษ ความเชี่ยวชาญในหลักการกำเนิดใหม่จากเถ้าถ่านของเขาจึงทะยานสูงขึ้นไปอีก
ก่อนหน้านี้เขาสามารถใช้กำเนิดใหม่จากเถ้าถ่านได้เพียงหนึ่งครั้งและต้องฟื้นฟูพลังของแก่นกำเนิดพลังในร่างอยู่เป็นเวลานานถึงจะใช้ได้อีกครั้ง แต่ด้วยความเข้าใจที่ยกระดับสูงขึ้นพรวดพราดเช่นนี้ทำให้เขาสามารถใช้กำเนิดใหม่จากเถ้าถ่านสองครั้งหรือสามครั้งติดต่อกัน!
“นี่ข้าพบเจอกับสัตว์ประหลาดเข้าแล้วรึไง?” หูหยู่พึมพำ พรสวรรค์เช่นนี้แม้แต่ในดินแดนแห่งเซียนก็ถือว่าอยู่ในระดับต้นๆ
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ล้าหลังเช่นนี้กลับมีอัจฉริยะที่สามารถทัดเทียมกับดินแดนแห่งเซียนได้ ทำให้เขาทั้งรู้สึกหวาดกลัวและดีใจ
ความแค้นของตระกูลหู… ต้องชำระล้างได้สำเร็จแน่!
ที่จริงเขาคาดหวังในตัวกู่ต้าวอี้มากกว่าเนื่องจากอีกฝ่ายมีแก่นกำเนิดนิรันดร์ทำให้ศักยะภาพของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าอัจฉริยะคนใดในดินแดนแห่งเซียน แต่น่าเสียดายที่กู่ต้าวอี้ไม่ใช่ผู้ชนะ
เขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก หลิงฮันไม่ได้ด้อยไปกว่ากู่ต้าวอี้!
“ในเมื่อเจ้ากำลังขัดเกลาเพลิงเก้าสวรรค์เสร็จอยู่ งั้นข้าจะส่งมอบทักษะของตระกูลหูให้ผ่านสัมผัสสวรรค์แล้วเจ้าค่อยเรียนรู้มันในภายหลัง” หูหยู่กล่าว “ในเรื่องการแก้แค้นนั้นเจ้าไม่ต้องกังวลอะไรมาก ตระกูลติงนั้นไม่ใช่ตระกูลใหญ่ในดินแดนแห่งเวียน ผู้นำตระกูลของพวกเขาเป็นจอมยุทธระดับโลกียนิพพานเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลติงก็เป็นถึงปรมาจารย์สี่นิพพานซึ่งน่าสะพรึงกลัวพอสมควร”
หูหยู่กลัวว่าหลิงฮันจะไม่เข้าใจจึงอธิบายต่อ “หากจะทะลวงผ่านเป็นระดับนิรันดร์นั้น สิ่งจำเป็นคือการตัดขาดความรู้สึกทางโลก ซึ่งแบ่งเป็นนิพพานที่หนึ่ง นิพพานที่สอง นิพพานที่สาม นิพพานที่สี่”
“นิพพานที่หนึ่งเปรียบเสมือนระดับโลกียนิพพานขั้นต้น ตระกูลติงมีปรมาจารย์เช่นนั้นอยู่สี่คน!”
หลิงฮันไม่สามารถเปิดปากพูดตอบโต้ ตอนนี้อักขระที่แตกต่างกันนับไม่ถ้วนกำลังส่งผ่านมายังห้วงจิตวิญญาณของเขาผ่านสัมผัสสวรรค์
“ทักษะแผ่ไพศาล!”
“ทักษะรัตติกาลเงาทมิฬ!”
“ทักษะเศษพิรุณ!”
“ทักษะมังกรพิโรธร่วงหล่น!”
“ทักษะทำนองแปรผันกาลเวลา!”
ทักษะมากมายปรากฏขึ้นในห้วงจิตวิญญาณของหลิงฮัน แต่ไม่ใช่ว่าทุกทักษะจะเป็นทักษะระดับนิรันดร์ทั้งหมด ตระกูลหูเป็นขุมอำนาจระดับเดียวกับตระกูลติง เพราะงั้นทักษะระดับนิรันดร์ที่พวกเขามีจึงมีจำกัด ทักษะส่วนใหญ่ของพวกเขาเป็นทักษะระดับสร้างสรรพสิ่ง
แต่ทักษะระดับนิรันดร์ทักษะหนึ่งได้ทำให้หลิงฮันประหลาดใจจนต้องนึกถึงติงจื่อเฉินและติงเหยาหลงของตระกูลติง
ทักษะทำนองแปรผันกาลเวลา
แม้มันจะไม่เหมือนทักษะกาลเวลาแปรผันพันปีเสียทีเดียวแต่มันก็มีความใกล้เคียงกันอย่างมาก
กาลเวลาแปรผันพันปีมีความสามารถในการเร่งระยะเวลาของของเป้าหมายเพียงอย่างเดียว ส่วนทำนองแปรผันกาลเวลานั้นเป็นทักษะที่ทั้งเร่งกาลไหลของเวลาให้ย้อนกลับหรือไปข้างหน้า!
นี่คือทักษะนิรันดร์ที่สมบูรณ์ บางทีตระกูลติงอาจจะลอกเลียนแบบทักษะส่วนหนึ่งของตระกูลหูไปและกลายเป็นทักษะประจำตระกูลติงในที่สุด เพราะงั้นเหตุกาลของติงจื่อเฉินสมควรเกิดขึ้นหลังจากที่ตระกูลหูถูกทำลายไปนานแล้ว
ทักษะระดับนิรันดร์ที่แข็งแกร่งสามารถส่งผ่านกันทางสายเลือดจากรุ่นสู่รุ่น ทุกวันนี้ตระกูลติงได้ดับสูญไปแล้ว ทักษะทำนองแปรผันกาลเวลาจึงถูกคัดลอกกลายเป็นทักษะประจำตระกูลของตระกูลติง ช่างน่าอัปยศยิ่งนัก
เพลิงเก้าสวรรค์ตั้งรากฐานขึ้นในร่างกายของหลิงฮันและกลายเป็นก้อนเพลิงที่มีชีวิต ในระหว่างที่หลิงฮันกำลังขัดเกลาเปลวเพลิง พลังบ่มเพาะของเขาค่อยๆเพิ่มขึ้นไปพร้อมๆกัน เพลิงนี้คือเพลิงบรรพบุรุษ มันสามารถมอบผลประโยชน์ให้หลิงฮันได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ที่โลกภายนอก ราชาทุกคนกำลังอาบแสงวาสนาจากสวรรค์และปฐพี
ที่จริงแล้วแสงนี้มาจากแผ่นหินสีทองที่ทำหน้าที่ผนึกเพลิงเก้าสวรรค์เอาไว้ แม้พลังจะรั่วไหลออกมาเพียงน้อยนิด แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ศักยะภาพของจอมยุทธในดินแดนศักดิ์แปรเปลี่ยนไปราวกับเกิดใหม่
“นี่ก็ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว เหตุใดวาสนาถึงยังไม่สิ้นสุดอีก?”
“ในอดีตเพียงแค่สิบวันก็จบแล้วแท้ๆ!”
“หรือจะเป็นเพราะมีใครบางคนขึ้นไปยังแผ่นหินสีทองได้?”
“มีคนได้รับวาสนาเต็มไปหมด!”
หนึ่งเดือน สามเดือน ครึ่งปี… วาสนายังคงดำเนินต่อไปจนแม้กระทั่งตัวตนระดับเซียนก็ยังตื่นตัว เซียนได้มาตรวจสอบสถานการณ์ด้วยตัวเอง เมื่อพบว่าทุกคนกำลังได้รับวาสนาอย่างไม่มีภัยอันตรายเขาจึงกลับไป
หนึ่งปี สามปี ห้าปี!
เวลาผ่านไปจนคนที่ดูอยู่ส่วนใหญ่กลับไปหมดแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นวาสนาก็ยังไม่สิ้นสุด วาสนาจากสวรรค์และปฐพีครั้งนี้น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก ตราบใดที่สามารถผ่านไปยังจุดสองของหุบเขาได้คนคนนั้นก็จะได้รับวาสนาและทรงพลังขึ้นอย่างไม่อาจก้าวกระโดด
ขนาดคนอื่นๆยังได้รับผลประโยชน์เช่นนี้แล้วหลิงฮันล่ะ?