อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1112 แลกเปลี่ยน
บนโลกนี้ นอกจากอาหน่วน ไม่มีใครสามารถรักษาขาของเขาได้
“ข้าจะเชื่อถือเจ้าได้ยังไง?”
“แต่เจ้าก็ต้องเชื่อข้าเท่านั้น ไม่ใช่หรือ?”
เย่จิ่งหานหรี่ตาลงอย่างอันตราย พร้อมครุ่นคิดคำพูดของกู้ชูหน่วน
เขาบาดเจ็บสาหัสอย่างมาก อาศัยตนเองใช้พลังรักษาไม่ไหว ยิ่งไปกว่านั้นเขายังถูกปิดผนึกจุดฝังเข็ม ไม่สามารถใช้กำลังภายในได้เลย
ที่นี่ยังเป็นวังในแคว้นน้ำแข็ง ทหารคุ้มกันแน่นหนา
ราชินีแคว้นน้ำแข็งดูเหมือนมีวิทยายุทธ์ธรรมดา แต่มีอำนาจน่าหวาดกลัวอย่างมาก
ความมีอำนาจแบบนี้ ไม่ใช่เพียงเพราะนางเป็นราชินีสูงส่ง
เขาไม่รู้สึกถึงความสูงศักดิ์ของนาง
มีเพียงความเกลียดชังและความชั่วร้ายที่ปรากฏเป็นระยะๆ
หลายวันที่ถูกจับตัวเข้ามาในวัง เขาไม่สามารถรับรู้ได้ถึงความสามารถที่แท้จริงของราชินี จนถึงตอนนี้ลูกน้องของเขาก็ยังไม่มาตามหา เห็นได้ชัดว่า ราชินีไม่ธรรมดา
กุญแจไขโซ่เหล็กพันปีอยู่ในมือราชินี หากอยากได้กุญแจก็ต้องอาศัยมู่หน่วนเท่านั้น
นางมีฝีมือทางการแพทย์ บางทีอาจจะสามารถรักษาขาของเขาให้หายได้
พิการมานานมากแล้ว
ความหวังที่อยากให้ขาทั้งคู่หาย ไม่สามารถที่จะบรรยายเป็นคำพูดใดๆ
เย่จิ่งหานจ้องมองดูกู้ชูหน่วน พร้อมถามขึ้นว่า “ใช้เวลานานเท่าไหร่?”
“รักษาบาดแผลทั้งหมดของเจ้าอาจต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนกว่า หากเจ้าฟื้นตัวได้ดี ครึ่งเดือนก็อาจจะหายได้ ส่วนขา…..อย่างน้อยก็ต้องสองเดือนขึ้นไป”
“นานเกินไป สั้นอีกหน่อย”
“นี่ถือว่าไวที่สุดแล้ว บาดแผลทั้งร่างกายของเจ้า หายได้ภายในหนึ่งเดือนก็ไม่เลวแล้ว”
“เซียวหยู่เซวียนบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น เจ้าก็ยังสามารถรักษาเขาให้หายได้ภายในเวลาอันสั้นไม่ใช่หรือ?”
“นั่นเพราะมีดอกบัวศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีกับดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สามสี ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่รอด”
“งั้นเจ้าไปหาสิ่งของล้ำค่ามา”
“ได้”
กู้ชูหน่วนตอบรับทันที ทำให้เย่จิ่งหานค่อนข้างแปลกใจ
กู้ชูหน่วนหัวเราะ พร้อมพูดเสริมขึ้นว่า “สิ่งของล้ำค่านั้นหายาก บางทีเป็นสิบปี กระทั่งบางทีเป็นร้อยปีถึงจะปรากฏ หากเจ้าทนรอได้ ข้าก็ไม่มีปัญหา เพราะคนที่จะตกเป็นสัตว์เลี้ยงของราชินีคือเจ้า ไม่ใช่ข้า”
“น่าขัน ข้าเป็นถึงเทพสงคราม จะตกเป็น….ได้อย่างไร”
คำว่าสัตว์เลี้ยงเขาไม่พูดออกมา แต่ในใจเต็มไปด้วยไฟแห่งความโกรธ เห็นได้ชัดว่าราชินีทำให้เขาหงุดหงิดอย่างมาก
ต่อให้เป็นเทพสงคราม
ก็ยังเป็นคน
ซึ่งคนล้วนมีตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรได้
เขาในเวลานี้ ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้
“ได้ สองเดือนก็สองเดือน แต่ข้ายังมีเงื่อนไข”
“เงื่อนไขอะไร?”
“เจ้าพาข้าออกไปจากวังแคว้นน้ำแข็ง ออกไปจากวังแคว้นน้ำแข็งไม่ได้ ข้าไม่สามารถยับยั้งตระกูลใหญ่ทั้งสามให้เจ้าได้”
กู้ชูหน่วนเงียบไปสักพัก แล้วก็พยักหัวตอบตกลง
“ได้ งั้นเราเริ่มกันเถอะ”
“เริ่มอะไร?”
“ช่วยข้าเพิ่มพลังไปถึงระดับห้าไง”
“ทำไม่ได้”
“เย่จิ่งหาน เจ้าหลอกข้าหรือ?”
กู้ชูหน่วนโกรธโมโห
นางจะต้องล้างแค้นให้กับตระกูลมู่ ต้องตามหาเซียวหยู่เซวียน ยังต้องช่วยฝูกวงเลว่อิ่งถอนพิษกู่ นางไม่มีเวลาสูญเสียไปกับเขามากมายขนาดนั้น
“ต้องการแต่ความเร็ว ไม่ดูประสิทธิผล จะทำให้ยิ่งไม่บรรลุเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นวิทยายุทธ์แบบไหน ล้วนไม่สามารถเริ่มจากขั้นต้นระดับสามเพิ่มไปถึงระดับห้า ต่อให้มีเคล็ดวิชากลืนพลังก็ตาม ก็ยากที่จะทำได้ นอกเสียจากเดิมความแข็งแกร่งของร่างกายเจ้าเกินระดับไปแล้ว แล้วลดต่ำลงเพราะเหตุผลบางอย่าง”
“หากขัดขืน สุดท้ายจะระเบิดและตาย ข้าสามารถช่วยเจ้าเพิ่มไปถึงขั้นสูงสุดระดับสามเท่านั้น”
กู้ชูหน่วนหน้าบูดบึ้ง
“ขั้นสูงสุดระดับสาม? งั้นข้าฟันฝ่าไปได้ไม่ถึงหนึ่งระดับ?”
“หญิงสาว เจ้าต้องรู้ว่ามีคนมากมายแค่ไหนที่ต้องฝึกฝนอย่างยากลำบาก ใช้เวลาทั้งชีวิต ก็ไม่สามารถเพิ่มจากขั้นต้นระดับสามไปถึงขั้นกลางระดับสาม เจ้าสามารถใช้เวลาเพียงภายในหนึ่งเดือนไปถึงขั้นสูงสุดระดับสาม ถือว่าอัศจรรย์มากแล้ว”
“งั้นข้ายังต้องขอบคุณเจ้าใช่ไหม?”
“ไม่ต้องเกรงใจ ยังไงต่างก็มีข้อแลกเปลี่ยน”
กู้ชูหน่วนลุกขึ้น เตรียมออกไปจากห้องนอน
เย่จิ่งหานเรียกนางไว้
“เจ้าจะไปไหน?”
“จะไปไหนได้ ก็ไปรายงานราชินี อาการของเจ้ายังไม่ทำให้ตายง่ายๆ ต่อให้คืนนี้ค่อยๆเล่นกับเจ้า ก็ไม่ทำให้เจ้าตาย”
กู้ชูหน่วนกัดฟันพูดคำว่าค่อยๆเล่น ใครก็สามารถฟังรู้เรื่องว่านางหมายความว่าอย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้นเย่จิ่งหานฉลาดขนาดนี้
“มู่หน่วน เจ้าอย่าทำเกินไป”
“ข้าทำเกินไปหรือเจ้าทำเกินไป? ในเมื่อตกลงกันไม่ได้ ข้าก็เพียงแค่รายงานราชินีตามความจริง ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการทำร้ายเจ้ามั้ง? ยังไงตอนนี้ข้าก็รับเงินเดือนจากราชสำนัก”
“ระดับสี่ อย่างมากที่สุดช่วยเจ้าไปถึงระดับสี่ หากเจ้าดื้อที่จะไปถึงระดับห้า ข้าก็สามารถช่วยเจ้าได้ แต่เจ้าจะมีชีวิตไม่เกินครึ่งชั่วโมง”
สำหรับระดับสี่ กู้ชูหน่วนยังไม่ค่อยพอใจ
แต่ระดับห้าสำหรับนางก็ห่างไกลเกินไป
ท่าทีเย่จิ่งหานก็ไม่เหมือนโกหก
กู้ชูหน่วนอมยิ้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ งั้นก็ระดับสี่ ขั้นสูงสุดระดับสี่”
“ขั้นสูงสุดระดับสี่ ทำไมเจ้าไม่ไปปล้นเอา? ขั้นสูงสุดระดับสี่กับระดับห้าแตกต่างกันตรงไหน?”
“แตกต่างสิ อันหนึ่งสี่ อันหนึ่งห้า ไม่แตกต่างกันตรงไหน? หากไม่แตกต่างกัน เจ้าก็ช่วยข้าเพิ่มไปถึงระดับห้า”
“เจ้าคนนี้ ต้องการมีพลัง จนไม่ต้องการมีชีวิตแล้ว”
“หากสามารถล้างแค้นแทนตระกูลมู่ ต่อให้ต้องเสียสละชีวิตตนเองแล้วยังไง?”
พูดถึงตระกูลมู่ เย่จิ่งหานไม่มีอะไรจะพูด
เรื่องนี้เขารู้สึกผิดอยู่บ้างเหมือนกัน
หากตอนนั้นเขาไม่ได้ตั้งใจบอกข่าวให้กับตระกูลไป๋หลี่ว่า นางเป็นคนฆ่าไป๋หลี่เจิ้น ไป๋หลี่หมิง บางทีเวินเส้าหยีก็ไม่ยั่วยุ เผยข้อมูลที่มากกว่าให้กับตระกูลซ่างกวนกับตระกูลไป๋หลี่ ทำให้ทุกคนในงานประชุมมอบรางวัลใหญ่ล้วนลงมือทำร้ายนาง
“มากที่สุดระดับสี่ หากเจ้ายังไม่พอใจก็ช่างเถอะ แค่ราชินีคนหนึ่ง ข้าจะตกอยู่ในมือของนางจริงๆหรือไง?”
“ตอนนี้เจ้าก็ตกอยู่ในมือของนางแล้วไม่ใช่หรือ?”
“นี่เจ้า…..”
“เอาล่ะ เอาล่ะ ระดับสี่ก็ระดับสี่ ตกลงตามนี้”
หลายวันต่อมา เวลาส่วนใหญ่กู้ชูหน่วนล้วนอยู่แต่ในหอกระบี่ เรียกอย่างสละสลวย คือให้การรักษาเขาอย่างไม่สามารถจากไปไหนได้
คนเฝ้าหอกระบี่ไม่ยินยอม จนไปฟ้องราชินี เพราะผู้ชายที่อยู่ในหอกระบี่เป็นชายคนโปรดของราชินี จะปล่อยให้หมอคนหนึ่งอยู่ในห้องนอนเป็นเวลานานได้อย่างไร
แต่ราชินีกลับตอบตกลง ยังมีคำสั่ง ไม่ว่ากู้ชูหน่วนต้องการอะไร ล้วนให้ทำตามคำสั่งทุกอย่าง
ทำให้คนไม่น้อยรู้สึกไม่เข้าใจ
แม้แต่กู้ชูหน่วนกับเย่จิ่งหานก็ไม่เข้าใจ
ต่อให้รู้ว่าราชินีมีเหตุผลอื่น ก็สามารถทำได้เพียงฟื้นฟูตนเอง ทำให้พลังตนเองแข็งแกร่งขึ้น ภายในเวลาอันสั้นที่สุด
ยาสมุนไพรถูกส่งมายังหอกระบี่เป็นกองโต และส่วนใหญ่ล้วนเป็นยาสมุนไพรล้ำค่า มีราคาแต่ไม่มีขาย
ไป่หนิงไม่เข้าใจ จึงถามขึ้นมาว่า
“ราชินี แบบนี้เป็นการให้ท้ายพวกเขามากเกินไปหรือเปล่า?”
ราชินีหยิบองุ่นขึ้นมาหนึ่งลูก เอาใส่ปากตนเอง พร้อมเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
ริมฝีปากของนางอมยิ้ม พร้อมพูดขึ้นมาอย่างยิ้มแย้มว่า “ทำไม เจ้ากลัวพวกเขาจะหนีไปหรือ?”
“คุณชายเย่มีพลังถึงขั้นสูงสุดระดับหก วิทยายุทธ์ยอดเยี่ยม มู่หน่วนมีฝีมือทางการแพทย์ มีพรสวรรค์อย่างมาก ภายในเวลาอันสั้นก็สามารถไปถึงขั้นสูงสุดระดับสาม สองคนนี้…..”
“วางใจ พวกเขาหนีไม่พ้น ข้าต้องการให้มู่หน่วนมีพลังถึงขั้นสูงสุดระดับสี่ ข้ายิ่งอยากให้อาการของเย่จิ่งหานหายภายในเวลาอันสั้น ข้าอยากที่จะชิมรสชาติของเขาจะแย่แล้ว”