เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1420

เศษหินกระจัดกระจายไปทั่ว และต้นไม้ยักษ์ก็ส่งเสียงอู้อี้ขึ้น

พวกธิดาเทพทั้งสองคนรีบหลบหลีก แต่กลับพบว่าเสาแสงที่อยู่ด้านหลังนั้นไล่ตามมาไม่หยุด และยังเพิ่มความเร็วขึ้นอย่างน่าตกใจด้วย

“การลงโทษจากกฎแห่งสวรรค์! ”

ชายชราอุทานขึ้นด้วยความตกใจ วิธีการนี้ มันช่างเป็นทักษะวิชาที่ล้ำเลิศยิ่งนัก

ต่อให้เป็นยอดฝีมือเซียนบู๊ของพวกเขาประเทศเป่ยเสิน ก็มีไม่กี่คนที่สามารถทำได้ เพราะนั่นจะต้องเข้าใจในวิถีแห่งฟ้าดินอย่างลึกซึ้งเลยทีเดียว

“คุณหนู รีบหนีไป ฉันจะขัดขวางเขาเอง! ”

ชายชราเคลื่อนตัวขึ้นมาข้างหน้า แล้วใช้ฝ่ามือตีไปที่แผ่นหลังของธิดาเทพ

ฝ่ามือแฝงด้วยพลังอันอ่อนโยน ทำให้ธิดาเทพตัวลอยไปไกล

เงาร่างของชายชราถูกเสาแสงโอบล้อมในทันที ทางธิดาเทพก็โมโหจนร่างกายสั่นเทาไปหมด แต่ก็ยังคงหันหลังกลับและมุ่งหน้าตรงไปยังทิศทางที่ลู่ฝานอยู่

แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ที่ดุเดือดขนาดนี้ แต่ธิดาเทพก็ยังสังเกตการเคลื่อนไหวทางนั้นของลู่ฝาน

กระบี่เทพน้ำแข็งหมื่นปีในมือฟาดฟันอย่างบ้าคลั่ง บริเวณจุดที่ผ่านนั้น ผลึกน้ำแข็งละลานตาไปหมด

ทั้งที่มีระยะห่างกันแค่พันวา แต่ธิดาเทพกลับรู้สึกว่าเคลื่อนไหวไปข้างหน้านั้นมันช่างยากเย็นเหลือเกิน

ไม่ว่าจะเป็นองครักษ์เกราะเถาวัลย์ หรือผู้พิทักษ์คุ้มกันเมืองของประเทศหลิงก็ตาม แม้ว่าจะมีวิทยายุทธที่ไม่สูงนัก แต่ด้วยกำลังพลที่เหนือกว่า เข้าโจมตีทั้งด้านหน้าและหลัง อย่างไม่เกรงกลัวความตาย ราวกับปาทังกา ที่พุ่งเข้าสังหารธิดาเทพอย่างไม่หยุด

มองจากระยะไกล ก็เหมือนกับจุดแสงสีฟ้ากำลังเผชิญหน้ากับเมฆดำ

ลู่ฝานที่หลบหนีเอาชีวิตรอดอยู่อย่างรวดเร็วนั้น ก็มองเห็นเหตุการณ์นี้แล้ว ทันใดนั้น ลู่ฝานก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า: “เจ้าดำ ไปรับธิดาเทพหน่อย รีบไปเร็ว! ”

เจ้าดำส่งเสียงคำรามไม่หยุด พร้อมกับอ้าปากพ่นเปลวเพลิงไปในอากาศ

อากาศธาตุแหลกสลายไปนับไม่ถ้วน เปลวเพลิงนำมาซึ่งลมพายุ พัดโหมทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบข้าง

เจ้าดำพ่นเปลวเพลิงออกมา จนเกิดเส้นทางโล่ง กระพือปีกบินขึ้นสูง โดยเจ้าดำใช้แรงพลังทั้งหมดเหมือนกับตอนกินนม แม้ว่าตอนที่มันกินนมนั้นจะไม่ต้องใช้แรงมากขนาดนี้ก็ตาม

“ธิดาเทพ! ”

ลู่ฝานตะโกนเสียงดังขึ้น ลำแสงกระบี่ปรากฏ ฟ้าดินสูญสลาย

กระบี่ฆ่าพิชิตฟ้า!

อักษรคำว่าฆ่าขนาดใหญ่เก้าตัว มุ่งตรงสังหารไปยังกลุ่มคนที่โอบล้อมอยู่ด้านข้างของธิดาเทพ

ธิดาเทพอาศัยช่วงจังหวะนี้ ชูกระบี่เทพน้ำแข็งหมื่นปีในมือขึ้น

ฟีนิกส์ส่งเสียงร้องไปสู่สวรรค์ หงส์น้ำแข็งลงมาจุติ!

เงาร่างของนกฟีนิกส์ก่อตัวขึ้นที่ด้านหลัง พร้อมกับเงยหน้าส่งเสียงร้อง

เกล็ดน้ำแข็งแผ่กระจายไปทั่ว ทุกสรรพสิ่งแข็งตัว หงส์น้ำแข็งโบยบินขึ้นสูง และระเบิดที่เหนือศีรษะของธิดาเทพ

พลังอันน่ากลัวได้พัดโหมกระหน่ำ ลำแสงสีฟ้าพลันปกคลุมแสงอาทิตย์ไปหมด ทุกคนต่างรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่ทะลุเข้าไปถึงกระดูก ต่อให้จะอยู่ไกลแค่ไหน ก็ยังสามารถรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่ถาโถมเข้ามา

นักบู๊ประเทศหลิงทั้งหมดที่ไล่ล่ามานั้น ต่างก็หยุดฝีเท้าลงทันที

ความเงียบสงบอย่างเหลือเชื่อ ปรากฏขึ้นอย่างกะหันทัน

ไม่นานนัก ลำแสงสีฟ้าก็หมดไป

ทุกคนก็พลันพบว่า เงาร่างของธิดาเทพ ลู่ฝานและคนอื่น ๆ นั้นได้หายสูญไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว

พวกเขาราวกับผีสางอย่างไรอย่างนั้น สูญหายไปจากโลกนี้แล้ว

ราชาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่กว่าจะเหาะเหินขึ้นได้อีกครั้งเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้แล้ว ใบหน้าก็เริ่มบูดเบี้ยวย่ำแย่ลง

“ไล่ตามไป ไล่ตามไปเดี๋ยวนี้ ปิดตายเมืองท้องฟ้าเลย แม้แต่นกหนึ่งตัว น้ำหนึ่งหยด ก็ห้ามออกจากเมืองไปเด็ดขาด”

ราชาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ตะโกนเสียงดังอย่างควบคุมสติอารมณ์ไม่อยู่

กลุ่มองครักษ์เกราะเถาวัลย์ และผู้พิทักษ์คุ้มกันเมืองทั้งหมดต่างก็ตะโกนตอบรับ จากนั้นก็เหาะเหินแยกย้ายกันไป

เวลานี้ซงเหวินก็หยุดปล่อยพลัง เก็บลำแสงขึ้น เดิมทีเงาร่างที่ถูกเสาแสงปกคลุมอยู่นั้นก็หายตัวไปแล้ว

ขมวดคิ้วขึ้น และสั่นกิ่งไม้ในมือ กระแสลมสีเขียวนับไม่ถ้วนโดยรอบได้มาบรรจบกันอยู่ที่นี่

สีหน้าของซงเหวินยิ่งจะเคร่งเครียดหนักขึ้น เพราะเขาพบว่าตนเองนั้นไม่สามารถตรวจจับได้ถึงกลิ่นอายลมหายใจของอีกฝั่งหนึ่งได้

“หายตัวไปแล้ว! ”

ซงเหวินพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก

เมื่อพิจารณาจากประสบการณ์ของเขาแล้ว วิชาที่อีกฝั่งหนึ่งใช้นั้น ไม่ใช่วิชาของประเทศหลิงแน่นอน

“ยุ่งยากไม่น้อยเลย”

ซงเหวินถอนหายใจเบา ๆ