บทที่ 1374 แม่ทัพปีศาจโลหิต

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

เสียงหญิงสาวดังสะท้อนไปทั่วเมือง

ความสิ้นหวังในน้ำเสียงเพียงพอที่จะทำให้ทุกคนหัวใจสั่นไหว

เวลานี้ชาวเมืองก็ฟื้นสติจากเสียงร้องของหญิงสาว ก่อนที่พวกเขาจะคุกเข่าไปในทิศทางของมู่เฉิน ร่างกายแต่ละคนสั่นสะท้านราวกับว่ากำลังคว้าฟางเส้นสุดท้ายแห่งความอยู่รอด

“ท่านเทพ โปรดช่วยเราด้วย!”

เสียงดังสะท้อนออกไป แต่ละคนฉายความสิ้นหวังบนใบหน้า พวกเขาสูญเสียศักดิ์ศรีไปหมดแล้ว หลังจากได้รับการปฏิบัติเหมือนสัตว์ มากจนพวกเขาไม่มีสิทธิ์ตายด้วยซ้ำ

เหตุผลที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ได้ก็คือเป็นแหล่งเลือดสดสำหรับเหล่าปีศาจ

แม้ว่าจะได้รับอนุญาตให้มีลูกหลานเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ แต่คนรุ่นหลังก็ต้องได้รับการปฏิบัติเหมือนสัตว์ไม่เปลี่ยนแปลง

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยคิดต่อต้าน แต่การต่อต้านไร้ประโยชน์ภายใต้พลังแท้จริง นอกเหนือจากนี้นี่ก็เป็นการให้ความบันเทิงแก่เหล่าปีศาจด้วย การต่อต้านของพวกเขาไม่มีอะไรเลย

ปีศาจเหล่านั้นอยู่ยงคงกระพัน

แต่ตอนนี้ความหวังยิ่งใหญ่ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าผู้คนที่สิ้นหวัง แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าชายหนุ่มเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันหรือไม่ อย่างน้อยเขาก็ไม่มีรัศมีที่เป็นลางร้าย

บางทีชะตากรรมของพวกเขาอาจเปลี่ยนแปลงจากชายลึกลับเบื้องหน้าก็เป็นได้

เมื่อคิดแล้วชาวบ้านก็เริ่มเอาหัวโขกพื้นโดยไม่สนใจว่าเลือดที่หน้าผากจะเปรอะเปื้อนแค่ไหน ความเจ็บปวดนี้ไม่มีอะไรเทียบได้กับความอัปยศอดสูของการถูกเลี้ยงเป็นสัตว์

มู่เฉินที่เห็นภาพนี้ก็ถอนหายใจเบาบางในใจ เวลานี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมตอนที่เผชิญหน้าปีศาจต่างมิติ สิ่งมีชีวิตในมหาพันภพถึงเลือกทิ้งความแค้นระหว่างกันและร่วมมือกันต่อต้าน

เนื่องจากหากเผ่าปีศาจครอบครองมหาพันภพได้ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดก็จะเป็นเหมือนพิภพเขตล่างนี้ที่ถูกเลี้ยงไว้เป็นโรงปศุสัตว์

เผ่าปีศาจนับเป็นศัตรูตัวฉกาจแท้จริง!

มู่เฉินสะบัดแขนเสื้อ พลังอ่อนโยนพัดออกมายกร่างทุกคนที่คุกเข่าขึ้น เขามองไปรอบๆ พยักหน้าและยิ้ม “วางใจเถอะ ข้าจะช่วยพวกเจ้าออกจากที่นี่”

พิภพเขตล่างเป็นของมหาพันภพ แม้ว่าจะอยู่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกัน แต่ก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่ง ในมหาพันภพไม่มีใครเลือกปฏิบัติกับคนเหล่านี้ ด้วยเหตุผลที่เรียบง่ายคือเมื่อมีคนที่สามารถทะลุผ่านระนาบมิติเข้าสู่มหาพันภพได้ พวกเขาล้วนเป็นยอดยุทธ์ที่แท้จริง อนาคตของพวกเขาไม่มีขีดจำกัด

เช่นเดียวกับเทพจักรพรรดิอัคคีและเทพจักรพรรดิสงคราม…

ดังนั้นแม้ว่ามู่เฉินจะไม่ใช่คนดีมีเมตตาอะไร แต่ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของมหาพันภพ เขาก็ไม่อาจเฝ้าดูคนเหล่านี้ถูกเลี้ยงแบบทารุนโดยเผ่าปีศาจได้

“ขอบคุณท่านเทพ!”

หญิงสาวน้ำตานองหน้า คนอื่นก็คิดจะคุกเข่าด้วยแรงอารมณ์ แต่ก็ถูกพลังอ่อนโยนยกไว้จนไม่สามารถทำได้

“ดูเหมือนจะมีบางคนยังอยู่ที่นี่นะ?” มู่เฉินถามหญิงสาวหลังจากมองเข้าไปในส่วนลึกของเมือง

จากการรับรู้ยังคงมีรัศมีทรงพลังอยู่ในส่วนลึกของเมือง เพียงแต่ว่าหลับใหลอยู่เท่านั้น

เมื่อได้ยินคำถามของมู่เฉิน ใบหน้าของหญิงสาวก็ซีดเผือดลง เสียงเริ่มสั่นพร่า “ท่านเทพ นั่นคือแม่ทัพปีศาจโลหิต เขาทรงพลังมาก แต่ตอนนี้กำลังหลับอยู่ เรารีบไปก่อนที่เขาจะตื่นเถอะ”

พวกเขาต่างหวาดกลัวแม่ทัพปีศาจโลหิต เนื่องจากทุกครั้งที่ตื่นขึ้นเขาจะกินเลือดคนอย่างน้อยหนึ่งพันคน

“แม่ทัพปีศาจโลหิตเรอะ…”

มู่เฉินยิ้มก่อนที่จะกำหมัดแน่น ลูกกลมหลิงขนาดร้อยจั้งก่อตัวขึ้นในฝ่ามือ ก่อนที่เขาจะขว้างไปในส่วนลึกของเมืองภายใต้สายตาสะพรึงกลัวนับไม่ถ้วน

ตู้ม!

ลูกกลมหลิงระเบิดทำให้พื้นที่ส่วนลึกราบเป็นหน้ากลอง อึดใจต่อมาเสาสีแดงเข้มก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เสียงคำรามดุร้ายดังก้องออกมา

“ใครกล้าปลุกแม่ทัพคนนี้จากการนอน?!”

เมื่อได้ยินเสียงคำราม ชาวเมืองก็ขาสั่นพั่บล้มลงกับพื้นพร้อมกับความกลัวพล่านบนใบหน้า

“พวกเราถึงคราวตายแล้ว…” บางคนพูดด้วยความสิ้นหวัง ในสายตาของพวกเขาพลังของแม่ทัพปีศาจโลหิตสุดยอดมาก ต่อให้เทพลึกลับคนนี้ทรงพลังก็จริง แต่คงไม่สามารถเอาชนะแม่ทัพปีศาจโลหิตได้

“ท่านเทพ ถ้าเห็นท่าไม่ดีก็รีบหนีไปเถอะ!” หญิงสาวกล่าวด้วยสีหน้าซีดเซียว

เมื่อเห็นความกลัวของผู้คน มู่เฉินก็อดส่ายหน้าไม่ได้ เขาสัมผัสได้ถึงพลังของแม่ทัพปีศาจโลหิต ซึ่งเทียบเท่ากับระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็มในมหาพันภพ ตอนนี้เขาสามารถสังหารได้อย่างง่ายดายด้วยการพลิกมือ

“แม่ทัพปีศาจโลหิตอยู่ระดับไหนของเผ่าเสี่ยเสีย?” มู่เฉินถาม

หญิงสาวอึ้งไปก่อนที่จะส่ายหัวแบบเหม่อลอย ในสายตาของพวกเขาแม่ทัพปีศาจโลหิตก็ราวกับผู้นำปีศาจแล้ว พวกเขาเคยเจอใครที่มีพลังมากกว่านี้ซะที่ไหน?

เมื่อมู่เฉินเห็นการตอบสนองของนาง เขาก็ผิดหวัง ดูเหมือนว่าข้อมูลที่คนเหล่านี้มีจะจำกัดมาก

“ท่านเทพ เราไม่มีข้อมูลมากนักเกี่ยวกับเผ่าเสี่ยเสีย แต่จักรพรรดินีของเรารู้เรื่องพวกนี้แน่นอน!” เมื่อเห็นความผิดหวังของมู่เฉิน หญิงสาวก็รีบกล่าว

“จักรพรรดินี?” มู่เฉินอึ้งไป ‘นั่นคือใคร? ชาวบ้านเหล่านี้ยังมีจักรพรรดินีด้วยเรอะ?’

แต่ก่อนที่เขาจะได้ถาม แสงสีแดงเข้มก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า นี่เป็นภาพเงาในชุดคลุมสีแดงเข้มที่มีรอยสักสีแดงเข้มบนร่างกายทำให้ดูแปลกตาเป็นพิเศษ

เห็นได้ชัดว่านั่นคือแม่ทัพปีศาจโลหิต หลังจากที่เขาปรากฏตัวใบหน้าก็เปลี่ยนไปเมื่อเห็นหมอกโลหิตฟุ้งบนท้องฟ้า เขาตะเบ็งเสียงลั่น “พวกแกกล้าฆ่าพรรคพวกข้าเหรอ?!

”ใครทำ?! ไสห้วออกมา!”

เสียงตะโกนดังก้อง ทำให้ชาวบ้านที่นี่ตัวสั่นด้วยความกลัว

“ก็แค่ยุงดูดเลือด ตายก็ตายไป ไม่เห็นมีอะไรให้น่าสะเทือนใจเลย” มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองแม่ทัพปีศาจโลหิตด้วยรอยยิ้ม

“แกทำเรอะ? รนหาที่ตาย!” แสงสีแดงพุ่งขึ้นในดวงตาของแม่ทัพปีศาจโลหิตขณะมองไปที่มู่เฉิน อึดใจต่อมาลำแสงโลหิตขนาดหมื่นจั้งก็ปะทุออกมาจากร่าง เขาพุ่งใส่มู่เฉินทิ้งภาพมายาไว้

มหาสมุทรสีแดงเพลิงคำรามอยู่ที่ข้างหลัง

เมื่อมองไปที่มหาสมุทรสีแดงเพลิง มู่เฉินก็ส่ายหัว อึดใจสายตาเปลี่ยนไปเป็นเย็นชา เขากำหมัดเหวี่ยงออกไป

ตู้ม!

มีผลึกแสงกระจายออกมาบนหมัดของเขา ขณะพุ่งเป้าไปที่มหาสมุทรโลหิต

ปัง!

ภายใต้หมัดมิติแตกกระจาย มหาสมุทรโลหิตเชี่ยวกรากก็ระเบิดออกพร้อมกับเสียงกรีดร้องดังก้อง จากนั้นพวกชาวบ้านก็ต้องตกใจเมื่อเห็นภาพเงาน่าสยดสยองกระเด็นออกมาจากมหาสมุทรโลหิตที่แตกเป็นเสี่ยงๆ

ปัง ปัง!

ร่างสีแดงเข้มทำลายสิ่งก่อสร้างนับไม่ถ้วน ทิ้งรอยยาวหลายหมื่นจั้งไว้บนพื้น ถูกซัดออกไปนอกเมืองเลยทีเดียว…

เมื่อมองไปที่ร่างนั้น มู่เฉินก็กำมือ แรงดูดทรงพลังระเบิดออกทำให้ร่างเงานั้นกลับมาอยู่ในมือเขา

เขาก้มมองศพเย็นชืด ยังคงมีความไม่เชื่อบนใบหน้าของแม่ทัพปีศาจโลหิต ทว่าริมฝีปากของมู่เฉินกระตุกอย่างช่วยไม่ได้

เขาไม่เคยเลยว่าแม่ทัพปีศาจโลหิตจะด๋อยขนาดนี้ แค่หมัดเดียวก็ถูกฆ่าตายซะแล้ว

“ไอ้ขยะเปียก ตอนแรกคิดจะดึงข้อมูลสักหน่อย” มู่เฉินส่ายหัวอย่างไม่พอใจ ก่อนที่จะโยนศพแม่ทัพปีศาจโลหิตออกไป

ขณะนี้ทั้งเมืองเข้าสู่ความเงียบงันอีกครั้ง

ชาวบ้านที่ตกใจกลัวจากการปรากฏของแม่ทัพปีศาจโลหิต ใบหน้าก็ค่อยๆ แข็งค้างอีกครั้ง พวกเขารู้สึกเหมือนทุกอย่างในวันนี้เป็นภาพลวงตา ไม่เพียงแต่ปีศาจเผ่าเสี่ยเสียถูกจะสังหารด้วยการกระทืบ แม้แต่แม่ทัพปีศาจโลหิตที่ทรงพลังก็ยังถูกสังหารจากหมัดเดียวของชายลึกลับคนนี้…

“เราถูกทรมานจนเริ่มหลอนแล้วเหรอ?” มีคนยิ้มอย่างขมขื่น เนื่องจากภาพนี้เหลือเชื่อเกินไป พวกเขาจินตนาการไม่ออกเลยว่าจะมีจอมยุทธ์ทรงพลังเพียงนี้ในโลกใบนี้ด้วย

“ท่านเทพ!”

หญิงสาวจ้องมองมู่เฉินด้วยสายตาร้อนแรง นอกเหนือจากการเป็นเทพในตำนานแล้วจะมีใครทรงพลังมากขนาดนี้?

หรือว่าท่านเง็กเซียนฮ่องเต้เห็นความสิ้นหวังของพวกนางจึงลงมาช่วยเหลือ?

“รีบไปกันซะ”

มู่เฉินยิ้มขณะที่โบกมือให้ทุกคน ก่อนที่พวกเขาจะได้พูดอะไร เขาก็หายตัวไปแล้ว

หญิงสาวและชาวบ้านตื่นตระหนก แต่มู่เฉินก็หายตัวไปอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถทันพูดอะไรได้ ท้ายที่สุดพวกเขาก็ทำได้เพียงแค่แลกเปลี่ยนสายตาพลางยิ้มอย่างขมขื่น

ทุกคนคุกเข่าและโขกหัวไปในทิศทางที่มู่เฉินหายตัวไป

จากนั้นไม่นานพวกเขาก็ยืนขึ้นหนีออกจากเมืองทันที พวกเขารู้ว่าในไม่ช้าสมาชิกเผ่าเสี่ยเสียที่อื่นจะต้องมาที่นี่ ดังนั้นหากพวกเขาไม่หนีตอนนี้ก็จะวนกลับสู่สถานะเริ่มต้น

ขณะที่ผู้คนวิ่งวุ่นไป บนท้องฟ้าร่างมู่เฉินก็ปรากฏมองดูพวกเขาหนีไปและบ่นพึมพำ

“ใครคือจักรพรรดินีที่พวกเขาพูดถึง? ดูเหมือนว่านางจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับเผ่าเสี่ยเสีย”

“ในโลกที่ถูกครอบงำโดยเผ่าเสี่ยเสีย พวกเขายังมีพลังที่จะต้านทานหรือ?”

“แต่พลังของพวกเขาไม่น่าจะสามารถเผชิญหน้ากับเผ่าเสี่ยเสียได้…”

“ดูเหมือนว่าข้าต้องแอบสะกดรอยตามพวกเขาไปแล้ว…”