ภาค 8 ทะยานฟ้า โอบกอดจันทร์ บทที่ 788 มีความอัปยศต้องล้าง มีความแค้นต้องชำระ

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

จวงเจาฮุยใช้ประโยชน์จากการต่อสู้กับเยี่ยนจ้าวเกอในวังศิลาใกล้ๆ บ่อเลือด ไม่ได้ถูกหลุมสีดำขมุกขมัวดูดไว้ กลับลอยขึ้นพ้นผิวน้ำตามวังศิลาที่ทรุดโทรมนี้

แม้จะเป็นเช่นนั้น เขาก็ถือว่ารอดมาได้อย่างหวุดหวิด เกือบถูกเยี่ยนจ้าวเกอฟันกระบี่ใส่ กระเด็นเข้าไปในหลุมดำ

พวกคังผิงที่ตอนนี้กำลังคิดจะออกจากผิวน้ำ สลัดให้หลุดจากพลังแห่งการกลืนกินของหลุมดำน่าอนาถยิ่งกว่า

พลังแห่งการกลืนกินของหลุมสีดำขมุกขมัว เปลี่ยนจากปลอมเป็นจริง มีลักษณะเป็นลำแสงสีดำซึ่งเหมือนกับโซ่ตรวนหลายเส้นพันธนาการอยู่บนร่างพวกคังผิง

พลังงานอันยิ่งใหญ่กำลังจะลากพวกคังผิงกลับไปที่ก้นทะเลใหม่

เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งตามองไป เห็นพวกคังผิง เฮ่อตงเฉิง กู้จาง หลัวจื้อเทา และกู้หงต่างอยู่กันครบ

หลัวจื้อเทาอาศัยพลังของกงจักรตะวันจันทราสนับสนุน ดวงอาทิตย์สีทองดวงหนึ่งครอบคลุมคนของสำนักแสงสว่างไว้

ส่วนกงซุนอู่ผู้ปกครองเกาะมนุษย์สำริดอาศัยการช่วยเหลือจากกู้หงแห่งหอกระบี่ทะเลเหนือ จึงไม่ถูกหลุมสีดำขมุกขมัวกลืนกินในทันที

ในกลุ่มคน คนที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นคังผิงอย่างไม่ต้องสงสัย

เขายังมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนอยู่ในมือ ครั้งนี้อยู่ด้านหน้าสุดเป็นทัพหน้า

ภายใต้การพัวพันจากพลังแห่งการกลืนกินของหลุมสีดำขมุกขมัว ครั้งนี้กระบี่กาลเคลื่อนคล้อยที่ก่อนหน้านี้รวดเร็วจนไม่อาจหยุดยั้งราวกับการเคลื่อนตัวของกาลเวลาเริ่มเชื่องช้าลง

ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เลวร้ายเช่นนี้ คังผิงที่เงยหน้าแล้วจู่ๆ ก็เห็นเยี่ยนจ้าวเกอ สีหน้าอดเกิดการเปลี่ยนแปลงไม่ได้

เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าให้คังผิง ไม่พูดมากความ ฟันใส่กระบี่หนึ่งทันที!

บนกระบี่โบราณทองสัมฤทธิ์สาดแสงสีดำ ก่อนจะรวมตัวกันเป็นลำเดียว แล้วมุ่งเข้าหาศีรษะของคังผิง

คังผิงกัดฟัน โบกกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนอย่างจนปัญญา ป้องกันกระบี่นี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ

แต่ว่าสภาวะฝืนลอยขึ้นด้านบนในตอนแรกของเขาพลันหยุดลง

หลุมสีดำขมุกขมัวเบื้องล่างส่งพลังแห่งการกลืนกินอันน่ากลัวออกมาตลอดเวลา ถ้าคังผิงผ่อนคลายแม้แต่นิดเดียว จะถูกม้วนเอาไว้ ไม่อาจหนีได้อีก

ครั้นขัดขวางคังผิงเสร็จแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็มองไปอีกทางหนึ่ง

ในฐานะที่เป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้น และเป็นผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิงเหมือนกัน เฮ่อตงเฉิงกับกู้จางตอนนี้กำลังคิดดิ้นให้หลุดจากพันธนาการของหลุมสีดำขมุกขมัวเช่นกัน

เฮ่อตงเฉิงค่อนข้างเร็ว แต่ติดตามอยู่ด้านหลังคังผิง จึงถูกกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอทันที

เขาคิดจะหลบหลีก แต่ว่าเจตจำนงกระบี่ที่มาจากกระบี่ปีศาจเทาเที่ยซึ่งเป็นเหล่งกำเนิดเดียวกับหลุมดำด้านล่าง ได้เหนี่ยวนำให้หลุมสีดำขมุกขมัวปล่อยลำแสงสีดำออกมามัดตัวเขาไว้มากกว่าเดิม

เนื่องจากไม่มีกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนอยู่ด้วย เฮ่อตงเฉิงจึงมีสภาพเลวร้ายยิ่งกว่าคังผิง

ยังไม่ต้องพูดถึงว่าสภาวะลอยขึ้นของเขาจะหยุดลง และจะถูกลำแสงสีดำลากลงไปด้านล่างทันที

เยี่ยนจ้าวเกอใช้กระบี่หนึ่งกดดันเฮ่อตงเฉิงเสร็จ ก็ยังไม่หยุดมืด

เขาใช้นิ้วต่างกระบี่ จิ้มใส่จุดลมปราณสำคัญที่ด้านหลังร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกบังคับกระบี่ที่สามของกระบี่ปีศาจเทาเที่ยลงด้านล่าง กระแทกกู้จางให้หล่นลงไปในหุบเหวเช่นกัน

ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกระตุ้นตราประทับตะวัน และไม่จำเป็นต้องกระตุ้นกระบี่ปีศาจเทาเที่ยสุดกำลัง เยี่ยนจ้าวเกอจึงรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา

เขาเพียงแค่ประสานกับหลุมสีดำขมุกขมัวที่เกิดจากซากกายเนื้อของเทาเที่ยที่อยู่ด้านล่าง หยุดการหนีของพวกคังผิง แล้วส่งพวกเขาให้หลุมสีดำขมุกขมัวจัดการก็พอแล้ว

เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะเหอะๆ แล้วหันหน้า สายตาตกลงบนร่างของหลัวจื้อเทา

สีหน้าของหลัวจื้อเทาพลันดำเหมือนกับก้นหม้อ

ไม่รอเขาเอ่ยปาก เยี่ยนจ้าวเกอก็เอ่ยพร้อมกับหัวเราะว่า “ครั้งนี้มีความอัปยศต้องล้าง มีแค้นต้องชำระแล้ว”

ขณะที่หัวเราะ เยี่ยนจ้าวเกอก็ฟันออกไปอีกหนึ่งกระบี่โดยไม่ปราณีแม้แต่น้อย

หลัวจื้อเทาที่ใช้กงจักรอาทิตย์ช่วยเหลือตัวเอง พลันถูกเยี่ยนจ้าวเกอกระแทกกระเด็นออกไป

เยี่ยนจ้าวเกอหันคมกระบี่ ประกายกระบี่กลับเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนในทันใด ม้วนพวกกู้หงเอาไว้

ประกายกระบี่สีดำกลายเป็นหลุมสีดำขมุกขมัวหลุมหนึ่ง มีแรงดึงดูดไร้สิ้นสุดส่งมาจากด้านใน ลดทอนการคุกคามจากพลังแห่งการกลืนกินที่อยู่เบื้องล่าง

กู้หงรู้สึกได้ถึงเจตนาดีของเยี่ยนจ้าวเกอ หลังจากครุ่นคิดเล็กน้อย ก็ปล่อยปราณกระบี่ของตัวเองไป

เขาพลันถูกหลุมดำที่เกิดจากประกายกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอกลืนกินในทันที

เยี่ยนจ้าวเกอเก็บกระบี่ ประกายกระบี่กลับมาข้างตัว กลายเป็นหลุมดำอีกครั้ง จากนั้นเงาร่างของกู้หงก็ลอยออกมา

กู้หงกับกงซุนอู่ รวมถึงยอดฝีมือจากหอกระบี่ทะเลเหนือ และเกาะมนุษย์สำริดที่ร่วมทางกับพวกเขา ต่างมองหลุมโกลาหลสีดำเบื้องล่างด้วยความหวาดกลัว

ครั้นเห็นภาพนี้ พวกหลัวจื้อเทาที่เป็นจอมยุทธ์สำนักแสงสว่าง ก็เหมือนมีเลือดไหลมาอุดลำคอ เกือบจะสลบไป

พวกกู้หงกับกงซุนอู่ ต่างกล่าวขอบคุณเยี่ยนจ้าวเกอติดต่อกัน

“สหายน้อยเยี่ยน ครั้งนี้ขอบคุณท่านมาก ไม่อย่างนั้นคงถูกม้วนเข้าไปในหลุมขมุกขมัวสีดำนั่นแล้ว…” กู้หงพูดพลางส่ายศีรษะ

ในหมู่คน นอกจากคังผิงที่มีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมแล้ว คนอื่นๆ ล้วนไม่ได้ถูกเยี่ยนจ้าวเกอขวางทางไว้ จะหนีเอาชีวิตรอดได้หรือไม่ มีโอกาสครึ่งๆ

ผู้ปกครองเกาะมนุษย์สำริด ‘ช้างเอราวัณ’ กงซุนอู่ ประสานมือคำนับเยี่ยนจ้าวเกอ “ครั้งนี้โชคดีที่มีคุณชายเยี่ยนช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นคงประสบผลร้ายมากกว่าผลดี ข้ารู้สึกซาบซึ้งใจยิ่ง”

ขณะมองเยี่ยนจ้าวเกอ เขาก็รำพึงรำพันในใจ

ก่อนหน้านี้ เยี่ยนจ้าวเกอในสายตาของเขา คือคนรุ่นหลังที่มีประวัติเป็นปริศนา มีพลังพรสวรรค์ล้ำเลิศคนหนึ่ง

เบื้องหลังของคนผู้นี้ทำให้ทั่วทั้งเกาะมนุษย์สำริดคาดเดาไปต่างๆ นาๆ ความสำเร็จในอนาคตของเขาก็ทำให้ทั่วทั้งเกาะมนุษย์สำริดอยากเห็นเช่นกัน

แต่ต้องบอกว่าในช่วงเวลาไม่กี่ปีนี้ เยี่ยนจ้าวเกอไม่สามารถก่อเกิดคลื่นลมอะไรได้มาก

ถึงแม้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะได้ทำลายค่ายกลอัคคีสวรรค์อัสนีวิบัติ จากนั้นก็ทำให้ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องพ่ายแพ้โดยไม่ต้องต่อสู้ คลี่คลายวงล้อมให้แก่กองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนก็ตาม

แต่ว่าสำหรับคนจำนวนมาก นั่นเป็นเพราะอาศัยโอกาสและสภาวะมากกว่า

อย่างน้อยสำหรับกงซุนอู่ที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้าย เยี่ยนจ้าวเกอยังคงมีพลังอ่อนแออยู่

ในมุมมองของจอมยุทธ์คนหนึ่ง เขายังคงใช้สายตาของผู้อาวุโสมองเยี่ยนจ้าวเกอ

แต่ว่าในระยะเวลาอันสั้น คนหนุ่มผู้นี้กลับเติบโตมาถึงขั้นนี้โดยใช้ความเร็วที่ผู้คนรับมือไม่ทันแล้วอย่างนั้นหรือ?

การร่วมมือกันบังคับกระบี่ปีศาจเทาเที่ยของเยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ทำให้กงซุนอู่ที่เห็นเหตุการณ์รู้สึกสั่นสะท้านเล็กน้อย

ในตอนที่เขารับมือไม่ทัน เยี่ยนจ้าวเกอกลับแข็งแกร่งถึงขนาดนี้

เขามองพวกหลัวจื้อเทาที่ถูกกระแทกกลับไปด้านล่าง กล่าวในใจว่าโชคดีที่เกาะมนุษย์สำริดที่ตนปกครองไม่ได้ผูกความแค้นกับเยี่ยนจ้าวเกอ

ก่อนหน้านี้ต่างยืนอยู่ฝ่ายเดียวกัน ร่วมมือกันต่อสู้กับราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องมาโดยตลอด ระหว่างพวกเขาไม่มีข้อขัดแย้งใหญ่อะไร

ขณะมองคนในสำนักแสงสว่างที่กำลังดิ้นรน ริมฝีปากของกงซุนอู่ก็ขยับคิดพูดอันใด สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยออกมา

กู้หงก็คิดจะเอ่ยปากขอความเห็นใจเช่นกัน แต่คิดถึงในตอนที่ผาตะวันจันทราถูกโจมตีก่อนหน้านี้ หลัวจื้อเทาได้ขายบาดแผลแห่งกำแพงที่เชื่อมไปยังโลกแปดพิภพให้แก่ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง สุดท้ายก็ถอนใจ ปิดปากไม่พูดอะไร

เขากลับมองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความกังวลเล็กน้อย ไม่ทราบว่าคนหนุ่มผู้นี้ในขณะนี้รู้เรื่องทางบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์หรือไม่ จึงพยายามเรียบเรียบคำพูดว่าจะบอกเยี่ยนจ้าวเกออย่างไรดี

เยี่ยนจ้าวเกอมีท่าทีสบายๆ หลังจากช่วยพวกกู้หง ก็เปลี่ยนทิศทางของประกายกระบี่ ฟันใส่คังผิงอีกครั้ง

คังผิงที่รับกระบี่แรกเมื่อก่อนหน้า จนสภาวะลอยขึ้นถูกหยุด ตอนนี้ต้องป้องกันกระบี่นี้อีกครั้ง ร่างกายในที่สุดก็ร่วงหล่นลงด้านล่างอย่างไม่อาจควบคุม

เยี่ยนจ้าวเกอโบกกระบี่ ฟันใส่พวกคังผิง เฮ่อตงเฉิง กู้จาง และหลัวจื้อเทาครั้งแล้วครั้งเล่า กระแทกทุกคนลงด้านล่างอย่างต่อเนื่อง

พวกคังผิงส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวพร้อมกัน ทว่ากลับได้แต่มองตัวเองกระเด็นลงไปถึงหุบเหวตาปริบๆ

เยี่ยนจ้าวเกอใช้นิ้วแตะริมฝีปาก หัวเราะแหะๆ “รู้สึกเหมือนกับการละเล่นตีตุ่นเหมือนกันนะ”