ส่วนที่ 6 ภาคลมประจิมรุนแรง ตอนที่ 24 ห้องทรมาน

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

ในมุมตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเวิ่นสุ่ยมียุ้งฉางขนาดใหญ่สิบสองหลัง ว่ากันว่ามีข้าวพอจะเลี้ยงหกแคว้นของต้าโจวได้ถึงหนึ่งปี หากเมืองเวิ่นสุ่ยถูกโจมตี เสบียงนี้เพียงพอจะเลี้ยงทหารและชาวบ้านได้นานหลายศตวรรษ ดังนั้นจึงพอจะจินตนาการได้ว่ามีเสบียงมากมายเพียงใดที่สะสมอยู่ในยุ้งฉางพวกนี้

สิ่งสำคัญที่สุดในการดูแลยุ้งฉางเหล่านี้ก็คือป้องกันไฟไหม้ ดังนั้นยุ้งฉางเหล่านี้ล้วนตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำเวิ่นสุ่ย

แม้จะอยู่กลางฤดูหนาว ก็ยังได้ยินเสียงน้ำไหลเมื่อยืนอยู่ในยุ้งฉาง

อันที่จริงแล้วไม่ใช่เสียงน้ำไหลหากแต่เป็นเลือด

ในส่วนลึกที่สุดของยุ้งฉาง ไม่มีข้าวแม้แต่เม็ดเดียว ยุ้งฉางกว้างใหญ่นี้ว่างเปล่า มีแค่คนไม่กี่สิบคนอยู่ข้างใน

เจ็ดคนเปลือยเปล่าล่อนจ้อน ถูกแขวนอยู่กับโซ่ที่ใช้ส่งข้าว เลือดไหลออกจากร่างของพวกเขาและหยดลงบนพื้นอย่างต่อเนื่อง

พวกเขาได้ผ่านการทรมานทุกรูปแบบและตอนนี้อก็อยู่ในสภาพที่น่าอนาถที่สุด แม้แต่หมูที่ถูกเชือดในวันตรุษก็ยังนับว่าเคราะห์ดีกว่าพวกเขาเสียอีก

ผู้ทรมานล้วนแต่ยังหนุ่ม บางคนยังเป็นวัยรุ่นอยู่เลย ทุกคนต่างมีสีหน้ามุ่งมั่น ภาพตรงหน้าไม่อาจทำให้พวกเขาเสียสมาธิเลยแม้แต่น้อย ไม่มีความเวทนาเห็นใจบนใบหน้า มีแต่ความเขินอายอยู่เป็นระยะๆ

คนหนุ่มพวกนี้เป็นสมาชิกของหอลงทัณฑ์ตระกูลถัง ล้วนมีอาจารย์คนเดียวกัน ชายชราผอมกะหร่องที่นั่งอยู่บนเก้าอี้

พูดให้เจาะจงก็คือชายชราที่ปรากฏตัวในจวนเก่าเมื่อไม่นานมานี้

นักโทษทั้งเจ็ดถูกนำตัวลงมา ไม่มีเนื้อสมบูรณ์แม้แต่ส่วนเดียวในร่างกายและเสียเลือดไปมาก แต่ก็ยังมีชีวิตอยู่

ปัญหาก็คือพวกเขาในตอนนี้หวังว่าตนไม่น่าเกิดมาเลย

“ลงชื่อเสีย แล้วข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปตามทางของเจ้า”

ชายชราร่างผอมพูดในที่สุด น้ำเสียงอ่อนโยนเช่นเดียวกับสีหน้า ดูเหมือนกับว่าเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป

แต่นักโทษที่เลือดโชกทั้งเจ็ดบนพื้นรู้สึกว่าเสียงของชายชราเหมือนกับเสียงโหยหวนของสัตว์ร้ายจากเหวนรก แต่ก็เป็นเหมือนกับดอกไม้ในแดนเทพเหนือทะเลดวงดาวเช่นกัน

แม้ว่าจะเหลือแค่ลมหายใจรวยริน พวกเขาก็เริ่มคลานเต็มกำลัง กลัวว่าจะตกอยู่ด้านหลัง วาดรอยเลือดเป็นแนวบนพื้นยุ้งฉาง พวกเขาคลานไปหาชายชรา ใช้สายตาพร่ามัวมองหากระดาษพู่กัน จากนั้นก็ลงชื่ออย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในที่สุดพวกเขาก็พูดอย่างรวดเร็ว “ปู่เว่ย รีบฆ่าข้า…”

……

……

ควันดำลอยขึ้นจากจวน ตามด้วยเปลวเพลิงและเสียงสบถ

กระท่อมไม้ถงที่ประมุขรองตระกูลถังรักที่สุดถูกเขยอ้วนเผาเป็นเถ้าถ่าน

จวนริมแม่น้ำเวิ่นสุ่ยอยู่ด้านหลังต้นหลิวพอดี แต่กระท่อมไม้ถงตั้งอยู่ลึกเข้าไปในจวน ดังนั้นไฟจึงส่งผลกระทบต่อชีวิตในแม่น้ำ

เกล็ดหิมะตกลงบนผิวน้ำ หายไปในทันที ปลาว่ายช้าๆ อยู่ใกล้พื้นน้ำที่ก้นแม่น้ำ

นี่เป็นตอนใต้ของเมือง จวนสาขาหลักและสาขารองห่างกันแค่แม่น้ำกั้นเท่านั้น เป็นพื้นที่ซึ่งมีราคาแพงที่สุด

ที่แห่งนี้ห่างจากอารมเต๋าและถนนยาว ไม่มีโรงเตี๊ยม ไม่มีร้านอาหาร

ดังนั้นย่อมไม่มีพ่อค้าเร่ ไม่มีฝูงชน

แม้แต่คนงานคนรับใช้ของสาขาหลักก็ยังถูกจับตัวกลับไปตามคำสั่งของถังฮูหยิน

แต่ในขณะต่อมา ริมแม่น้ำเวิ่นสุ่ยที่เปลี่ยวร้างก็พลันมีชีวิตชีวาขึ้นมา

พ่อค้าเจ็ดคน คนงานทางการหกคน หมอดูสามคน ผู้เฒ่าขายขนมและเด็กสาวที่ซื้อเครื่องแป้งพลันปรากฏตัวขึ้น

ทุกคนรู้ว่าพวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา

คนงานทางการอาจมาตรวจดูพ่อค้าเร่ หมอดูอาจจะคุยกับผู้เฒ่าที่ขายขนม แต่พ่อค้าเร่ไม่ได้ขายเครื่องแป้ง แล้วเด็กสาวจะไปซื้อมันจากไหน

บังเอิญว่าพวกเขาเป็นคนที่แตกต่างกันห้าชนิดพอดี

นี่คือคนห้าเหล่าที่ถังซานสือลิ่วร้องขอจากประมุขผู้เฒ่าตระกูลถัง

ไม่มีใครรู้ว่าส่วนที่น่ากลัวที่สุดของตระกูลถังไม่ใช่ทหารส่วนตัวพวกนั้น ไม่ใช่ผู้พิทักษ์ชราที่ห่างจากเขตแดนเทพศักดิ์สิทธิ์ครึ่งก้าวในหอบรรพชน ไม่ใช้แม้กระทั่งหอลงทัณฑ์

หากแต่เป็นคนที่ไม่มีใครรู้เรื่องพวกเขา

ความโกรธเกรี้ยวของประมุขผู้เฒ่าตอนที่ได้ยินคำขอร้องของถังซานสือลิ่วย่อมเป็นเพราะความลับและไพ่ตายที่ซุกซ่อนเอาไว้อย่างแท้จริงถูกคนอื่นพบเห็นเข้า

แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นหลานชายตนเองก็ตาม แต่เขาก็ยังรู้สึกว่ายอมรับได้ยากอยู่บ้าง

จากปฏิกิริยานี้ พอจะเดาได้ว่าคนพวกนี้มีความสำคัญต่อตระกูลถังเพียงใด

นับจากตอนที่เฉินฉางเซิงเข้าสู่อารามเต๋าเมืองเวิ่นสุ่ย พวกพ่อค้า คนงานทางการและพวกคนห้าประเภทที่เหลือก็ปรากฏตัวขึ้นอีกฝั่งแม่น้ำ

พวกเขาเฝ้าดูยอดฝีมือนิกายหลวง พร้อมที่จะลงมือทุกเมื่อ ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็มองดูกองพืชน้ำในส่วนลึกแม่น้ำ

ดังเช่นที่ผู้พิทักษ์ชรากล่าวกับถังซานสือลิ่ว ตัวประหลาดที่เรียกว่าฉูซูดูเหมือนจะเคลื่อนไหวอย่างลึกลับมาก แต่เขาก็อยู่ใต้เงื้อมมือของจวนเก่าตระกูลถังเสมอ

วันนี้พ่อค้าเจ็ดคน คนงานทางการหกคน หมอดูสามคน ผู้เฒ่าขายขนมและเด็กสาวที่ซื้อเครื่องแป้งทำตามคำสั่งของถังซานสือลิ่วเพื่อบีบฉูซูออกมาแล้วจับหรือฆ่าทิ้ง

แม้ว่าพรรคฉางเซิงจะล่มจมไปแล้ว ทว่ารากฐานหมื่นปีก็เป็นดั่งขุนเขาใหญ่ หากมองลงมาก็จะดูเหมือนเหวไร้ก้น

ฉูซูเป็นผลผลิตของเหวนรกที่น่ากลัวที่สุด แค่พ่อค้ากับคนงานทางการที่มีไอปราณธรรมดาจะมีโอกาสชนะเช่นนั้นหรือ

พ่อค้าเจ็ดคนนั่งอยู่บนลังที่ใช้ใส่สินค้า พวกเขาหยิบของเล่นที่เหมือนกับป๋องแป๋ง เข็มที่ใช้ปั่นน้ำตาล แมลงปอไม้ไผ่ออกมาจากลัง และเริ่มประกอบมันเข้าด้วยกัน

สีหน้าของพวกเขาสงบนิ่งอย่างมากจนดูแข็งทื่ออยู่บ้าง ทว่าการเคลื่อนไหวของพวกเขากลับคล่องแคล่ว รวดเร็วและแม่นยำ

ในเวลาอันสั้น เข็ม ป๋องแป๋งและแมลงปอไม้ไผ่ก็ถูกประกอบเข้าด้วยกัน

มันเป็นแบบจำลอง เล็กกว่าตัวต้นแบบหลายร้อยเท่า สิ่งก่อสร้างและทางเดินดูราวกับของจริง ราวกับว่ามียอดศิลปินเสกมันขึ้นมา

เหล่าพ่อค้าวางมือลงบนขอบของแบบจำลอง ปราณเจ็ดสายที่แตกต่างกันแต่ก็ผสานกลมเกลียวไหลเข้าไป

หมอดูสองคนก้าวออกมา พวกเขาจ้องไปที่บ้านและทางเดินเล็กๆ ริ้วธงยาวในมือปลิวไหวตามสายลม

เวลาผ่านไป แม้ว่าลมและหิมะจะไม่เปลี่ยนแปลงแต่ริ้วธงกลับหยุดนิ่ง บางทีอาจเป็นเพราะจิตใจของพวกเขาสงบลง หรือบางทีเป็นเพราะการคำนวณเสร็จสิ้นแล้ว

หยดเลือดค่อยๆ ผุดขึ้นจากบางจุดของแบบจำลอง

มันคือตำแหน่งในปัจจุบันของฉูซู

……

……

ฉูซูอยู่ในมุมที่ห่างไกลของจวน

ที่แห่งนี้เป็นสวนที่เขาได้ซ่อนตัวอยู่ในส่วนลึกของภูเขาจำลอง แม้ว่าจะเป็นฤดูหนาว ถ้ำนี้ก็ยังชื้นอยู่เล็กน้อย

ทำให้เขารู้สึกสบายมาก

เขารู้ว่าวันนี้เฉินฉางเซิงได้ไปที่จวนเก่าตระกูลถัง และก็รู้ว่าศิษย์สำนักกระบี่หลีซานยังอยู่ในอารามเต๋า ในอดีตเขาย่อมบุกเข้าไปในอารามเต๋าและฆ่าศิษย์คนนั้น แต่เขาไม่ได้ทำในวันนี้เพราะเขาสงสัยว่ามันเป็นกับดักของนิกายหลวง

เขาคุกเข่าที่ปากถ้ำในส่วนลึกของภูเขาจำลอง ถูกล้อมไว้ด้วยหินที่ปกคลุมด้วยตะไคร่ ดูแทบจะเป็นหนึ่งเดียวกับพวกมัน

ครั้นเห็นควันดำที่อยู่ไม่ไกลและสัมผัสถึงความร้อน ดวงตาก็แสดงความระคายเคืองและแข็งกระด้าง

ฉูซูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในจวนเก่าตระกูลถัง แต่เขารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติในจวนสาขารองตระกูลถัง อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้กังวล ต่อให้เฉินฉางเซิงโน้มน้าวประมุขผู้เฒ่าตระกูลถังได้ ฉูซูก็ไม่เชื่อว่าจะมีใครจับเขาได้ ทั้งความเร็วและความสามารถในการดำดินทำให้เขามีความมั่นใจอย่างมาก หากมียอดฝีมือหาเขาพบจริงๆ เขาก็สามารถจากไป

ทันใดนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในพายุหิมะ

ไม่ใช่ว่าพายุหิมะพลันรุนแรงขึ้นหรือเปลี่ยนรูปร่างไป ทว่าปราณของโลกภายในพายุเปลี่ยนไป เผยจิตสังหารออกมา