ตอนที่ 1008: ไล่ล่าสังหาร (2)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1008: ไล่ล่าสังหาร (2)

ใบหน้าของเฮยยู่กลับกลายเป็นย่ำแย่ทันที เขาไม่คิดว่าเซียนจักรพรรดิทั้งสองจากทวีปสัตว์เทวะจะเข้ามาที่ทวีปเทียนหยวนอีกครั้งและมาอยู่ตรงหน้าพวกเขา

เฮยยู่รู้ว่าพวกนี้มาด้วยเจตนาร้าย ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลและติดต่อไปหารุยจินผ่านทักษะลับทันที ไม่เช่นนั้น มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรับมือกับเซียนจักรพรรดิ 2 คนจากทวีปสัตว์เทวะได้

ท่าทางของเจี้ยนเฉินก็เปลี่ยนไปอย่างมากเช่นกันเมื่อเขาเห็นเซียนจักรพรรดิทั้งสองจากทวีปสัตว์เทวะและมารราคะ อย่างไรก็ตาม เขาก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วและเอาวัตถุเซียนมาอยู่ที่ฝ่ามือของเขาทันที และเขาก็เอาโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดออกมาจากแหวนมิติของเขา เขาขยายมันออกอย่างรวดเร็ว

“อย่าต่อต้าน ข้าจะส่งพวกเจ้าทั้งหมดเข้าไปในมิติวัตถุเซียน” เจี้ยนเฉินคำรามออกมา เขาส่งโหยวเยว่ เสือขาวและรัมกุยเนสเข้าไปในวัตถุเซียนให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ จากนั้นเขาก็หายเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์

พลังงานที่มหาศาลกระเพื่อมออกมาจากเฮยยู่ และเกราะสีฟ้าครามก็ปรากฏขึ้นบนตัวของเขา มีดพร้าที่ส่องแสงสีเงินก็ปรากฎขึ้นมาที่มือขวาของเขาด้วยในขณะที่มันเปล่งประกายออกมาด้วยความกดดันอย่างน่ากลัว เขาหวังพึ่งสิ่งของเหล่านี้เป็นอย่างมากเพื่อที่จะใช้ต่อกรกับเซียนจักรพรรดิในฐานะที่เขาเป็นเซียนราชาขั้นสูงสุด

ราชาเปิงจำจักรพรรดิเสือและไคเซอร์ได้ตั้งแต่เห็นตอนแรก เขาตกใจทันที่และคุกเข่าลงหนึ่งข้าง “ข้าขอคารวะท่านไคเซอร์ที่เคารพและฝ่าบาทจักรพรรดิเสือ ! “

“พวกเราขอคารวะท่านไคเซอร์ที่เคารพและฝ่าบาทจักรพรรดิเสือ ! ” ผู้อาวุโสทั้งหมดคุกเข่าลงหนึ่งข้างเช่นกัน

ไคเซอร์และจักรพรรดิเสือไม่แม้แต่มองไปที่พวกนั้นและไม่สนใจ พวกเขามองไปที่เจี้ยนเฉินที่เพิ่งหนีเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์

“ในตอนแรก เจ้าไม่สนใจกฎของตระกูลกิลลิกันและเข้ามาที่ส่วนลึกของเทือกเขาครอส จากนั้นเจ้าก็ฆ่าจอมยุทธของเผ่าพันธุ์ของข้าอีก อภัยให้เจ้าไม่ได้ เจี้ยนเฉิน ข้าอยากจะรู้ว่าเจ้าจะหนียังไงครั้งนี้ อย่าคิดว่าการซ่อนอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์แบบนั้นจะทำให้เจ้าปลอดภัยได้ ข้าจะทำลายโถงศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าตอนนี้ซะเลย” แลงคีรอสคำรามออกมาก่อนที่เขาจะโจมตีด้วยฝ่ามือออกไปที่อากาศ

พลังธรรมชาติเริ่มที่จะมารวมกันด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อจากการโจมตีของจักรพรรดิเสือ ก่อนที่จะรวมกันเป็นฝ่ามือใหญ่ราวร้อยเมตร มันส่งเสียงหวีดหวิวออกมาและพุ่งเป้าไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ด้วยพลังแห่งการทำลายล้างจำนวนมหาศาล

เฮยยู่ปรากฏขึ้นตรงหน้าโถงศักดิ์สิทธิ์ในพริบตา เกราะพลังงานดั้งเดิมที่ปกคลุมร่างของเขาส่องแสงฟ้าครามลาง ๆ ออกมา ในเวลาเดียวกัน แสงใบมีดแหลมที่ยาวหลายสิบเมตรก็พุ่งออกไปจากมีดพร้าของเขา มันปะทะเข้ากับผ่ามือของจักรพรรดิเสือ

การโจมตีของเฮยยู่ไม่ได้ด้อยไปกว่าการโจมตีจากเซียนจักรพรรดิเลย เพราะว่ามันเกิดมาจากอาวุธที่มีพลังงานดั้งเดิม

แสงไปจากใบดาบที่น่ากลัวปะทะเข้ากับฝ่ามือทำให้เกิดเสียงระเบิดแสบแก้วหู คลื่นพลังงานที่น่ากลัวทำลายล้างไปรอบ ๆ มิติรอบ ๆ พังทลายลงและเปลี่ยนไปเป็นความมืดมิด

แม้แต่ดวงอาทิตย์ยังหมองลงเล็กน้อยจากการปะทะกันระหว่างการโจมตีทั้งสอง

แนวภูเขาทั้งหมดสั่นไหวอย่างรุนแรง อาณาเขตใหญ่ของแนวภูเขาพังทลายและพลังงานที่เหลืออยู่ที่น่ากลัวก็กระแทกให้ผู้อาวุโสของตระกูลกิลลิกันกระเด็นไป พวกเขาไม่สามารถต่อต้านได้และกระอักเลือดออกมาทั้งหมด พวกเขาอยู่ใกล้กับการปะทะกันระหว่างพลังงานเกินไป ดังนั้นแม้แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาที่เป็นถึงเซียนราชาก็ยังทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบจากพลังงานที่เหลืออยู่

ราชาเปิงเคร่งเครียดมาก เขาเปลี่ยนเป็นภาพติดตาและหนีออกไปไกลด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อก่อนที่พลังงานที่เหลืออยู่จะเข้าใกล้เขา เขาปรากฎตัวอีกครั้งห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตรในพริบตา

พลังงานก็กระแทกโถงศักดิ์สิทธิ์กระเด็นออกไปในขณะที่มันลอยอยู่กลางอากาศ มันสั่นไหวต่อเนื่องในขณะที่มันลอยกระเด็นไป เห็นได้ชัดว่ามันก็ได้รับผลกระทบจากพลังงานเช่นกัน

เจี้ยนเฉินนั่งอยู่ที่ชั้นบนสุดของโถงศักดิ์สิทธิ์ในขณะที่เขาทุ่มเทกำลังทั้งหมดของเขาในการควบคุมมัน เขาใช้แรงกระแทกเพื่อที่จะหนีออกไปที่ชายแดนส่วนนอกของเทือกเขาครอสให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

เทือกเขาครอสอยู่ใกล้กับเมืองทหารรับจ้างมาก ระยะทางอยู่ห่างน้อยกว่าสองแสนกิโลเมตรเท่านั้น เขาจำเป็นต้องรีบให้มากที่สุดเพื่อที่จะรักษาชีวิตของตัวเอง เพราะเขาบอกได้เลยว่ามารราคะได้ร่วมมือกับจอมยุทธทั้งสองนี้แล้ว แม้ว่ารุยจินจะอยู่ที่นี่ เขาก็คงไม่สามารถไล่เซียนจักรพรรดิถึง 3 คนได้

“ข้าจะรับมือกับเขาเอง เจ้าไปไล่ตามเจี้ยนเฉิน” แลงคีรอสคำรามออกมาในขณะที่เขาต่อสู้ต่อกับเฮยยู่ เขาวุ่นวายกับเฮยยู่เพื่อที่เฮยยู่จะได้ไปปกป้องเจี้ยนเฉินไม่ได้

ไคเซอร์และมารราคะไม่ได้ตอบและไล่ตามโถงศักดิ์สิทธิ์ไปอย่างเงียบ ๆ ไคเซอร์เหวี่ยงหมัดไปที่โถง

บู้ม ! หมัดของไคเซอร์กระแทกโถงศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ออกไปและมันก็สั่นไหวอย่างรุนแรง รอยแตกเล็ก ๆ ปรากฎขึ้นตรงที่หมัดของไคเซอร์โดน และมันก็ขยายออกอย่างต่อเนื่อง มันปกคุลมหนึ่งในสี่ของโถงทั้งหมดเหมือนใยแมงมุม

ท่าทางของเจี้ยนเฉินแย่ลง ในขณะที่เขาควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ชั้นบนสุด ความแข็งแกร่งของไคเซอร์เหนือกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้ เขาไม่คิดว่าการโจมตีเพียงครั้งเดียวจะสร้างความเสียหายให้กับโถงศักดิ์สิทธิ์ได้มากขนาดนี้

ไคเซอร์เหยียดออกมา “นี่เป็นโถงศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแรงมาก ข้าอยากรู้ว่ามันจะทนข้าได้สักกี่หมัด”

รอยแตกขยายกว้างออกเรื่อย ๆ มันเกือบจะกินไปถึงครึ่งโถงแล้วในตอนนี้

เจี้ยนเฉินกัดฟันในขณะที่เขาควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่มีพลังพอที่จะต่อต้านเซียนจักรพรรดิได้ ทั้งหมดที่เขาจะทำได้มีเพียงรีบไปที่เมืองทหารรับจ้างให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

“เจี้ยนเฉิน เจ้าไม่สามารถหนีไปได้แล้วในครั้งนี้ มันไม่มีประโยชน์แม้ว่าเจ้ามังกรนั่นจะมา” ไคเซอร์พูดอย่างเย็นชา และเขาก็ต่อยไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง มันทำให้รอยแยกหนาแน่นขึ้น

ในขณะที่หมัดที่สี่ของเขากระแทกเข้าไป รอยแตกก็เต็มไปทุกส่วนของโถงศักดิ์สิทธิ์

บู้ม ! ด้วยการจมตีของหมัดที่ห้า ทางเข้าของโถงศักดิ์สิทธิ์ก็แตกกระจายออก มันแตกกระจายออกและหมัดก็ได้ทำลายส่วนใหญ่ของโครงสร้างไป

หมัดที่หกทำลายครึ่งหนึ่งของโครงสร้าง โถงศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ในตอนนี้กำลังจะกลายเป็นผุยผง

“นี่เป็นหมัดสุดท้าย เจี้ยนเฉิน ข้าอยากจะรู้ว่าโถงศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าจะทนหมัดที่เจ็ดของข้าได้ไหม” ไคเซอร์พูดอย่างเย็นชาก่อนที่จะโจมตีออกไป

เห็นชัดว่าหมัดนี้ทรงพลังมากว่าหมัดที่ผ่านมา ในขณะที่มันลอยไป มันก็ฉีกทุกอย่างที่มันผ่านออก มันมีพลังมากพอที่จะทำลายรอบ ๆ ได้อย่างหมดจด