ตอนที่ 959 การต่อสู้ที่ดุเดือดบนเกาะเพชฌฆาต

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

แม้ศิษย์ของสำนักเบิกภูผาจะตะโกนกร้าวออกมาเช่นนั้น แต่ศิษย์ของนิกายเมฆาล่องลอยก็ยังคงสบถอยู่ในใจ ทว่าไม่กล้ากล่าวสิ่งใดออกไปอีก

ศิษย์หลายคนของสำนักเมฆาครามมีความคิดเช่นเดียวกับศิษย์ของสำนักเบิกภูผาและพวกเขาเชื่อมั่นว่าฉินเทียนมิใช่คนที่จะคิดคดทรยศง่าย ๆ

คนอื่น ๆ ก็กำลังใช้ความคิดเช่นกัน ทว่าส่วนใหญ่ยังคงเชื่อมั่นในตัวฉินเทียน ฉินอวี้โม่และสหายคนอื่น ๆ

“ไม่ เราจะเฝ้ารอความตายอยู่เฉย ๆ เช่นนี้ไม่ได้ !”

ศิษย์ของนิกายเมฆาล่องลอยนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนมีการเคลื่อนไหวอีกครั้ง ศิษย์คนหนึ่งลุกพรวดและมุ่งหน้าเข้าหาผีดิบที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่างรวดเร็ว

ผลัวะ !

อย่างไรก็ตาม เขาก็ถูกฝ่ามือเหวี่ยงฟาดเข้าใส่อย่างแรงและหมดสติไปทันทีโดยไม่อาจทราบได้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร

ตอนนี้ทุกคนที่ถูกจับตัวอยู่ที่ลานจัตุรัสไม่มีพลังมายาแม้แต่น้อยและไม่มีทางต่อกรกับผีดิบรอบตัวได้ นับประสาอะไรกับการหลบหนีเอาตัวรอด

“ทุกคนตั้งสติก่อน !”

บุรุษวัยกลางคนสองคนที่เป็นชาวพื้นเมืองของชายฝั่งทางเหนือกล่าวขึ้นเพื่อให้ทุกคนสงบสติอารมณ์ลง

“ต่อให้จอมยุทธ์ฉินเทียนจะเลือกยอมจำนนต่อจอมยุทธ์ปีศาจจริง ๆ เขาก็ต้องมาอธิบายกับเราด้วยตัวเอง เราควรเฝ้ารออยู่ที่นี่อย่างใจเย็นและคงจะได้ทราบผลลัพธ์ในไม่ช้า”

แม้ได้ทำความรู้จักกันเพียงช่วงสั้น ๆ พวกเขาก็เข้าใจในลักษณะนิสัยของฉินเทียนมากพอสมควร

ต่อให้ฉินเทียนจะยอมจำนนและเข้าร่วมกับจอมยุทธ์ปีศาจจริง เขาจะต้องมีเหตุผลให้กับทุกคนอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น หากเขายอมจำนนแล้ว จอมยุทธ์ปีศาจก็คงจะส่งคนมาที่นี่เพื่อทาบทามทุกคนเช่นกันและพวกเขาก็ยังมีโอกาสรอดชีวิตอยู่

เมื่อได้ยินสิ่งที่ทั้งสองกล่าว ทุกคนก็สงบสติอารมณ์ลงทันที

พวกเขาทั้งสองกล่าวถูกต้องแล้ว หากดูจากการที่ฉินเทียนพาตัวหลานเผิงไป เขาก็คงจะไม่ทอดทิ้งทุกคนไว้ที่นี่ หากเลือกที่จะเข้าร่วมกับจอมยุทธ์ปีศาจจริง ฉินเทียนก็ต้องมาที่นี่เพื่ออธิบายเหตุผลให้พวกเขาทราบเช่นกัน เพราะเหตุนั้น พวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป

“ท่านพ่อ คนเหล่านี้เชื่อมั่นในตัวท่านมากจริง ๆ”

แน่นอนว่าฉินอวี้โม่และสหายในคฤหาสน์เฟิงหัวได้ยินบทสนทนาของทุกคนอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม นางไม่ชอบหน้าคนจากนิกายเมฆาล่องลอยเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงไม่คิดสนใจวาจาของคนเหล่านั้นนัก

อย่างไรก็ตาม ไม่น่าเชื่อเลยว่าศิษย์ส่วนใหญ่จะแสดงความไว้วางใจและเชื่อมั่นในตัวฉินเทียนมากเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าชื่อเสียงของเขาในบรรดาศิษย์เหล่านี้อยู่ในระดับที่ดีอย่างยิ่ง

“เช่นนั้นแล้วการที่ช่วยพวกเขาก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง”

ฉินเทียนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม เขาเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าบุรุษทั้งสองจากชายฝั่งทางเหนือจะเชื่อมั่นใจตัวเขามากเช่นนี้ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันเพียงไม่นาน

ดูเหมือนว่าข่าวลือที่ได้ยินมาจะถูกต้องแล้ว ชาวพื้นเมืองของชายฝั่งทางเหนือล้วนเป็นคนจริงใจและตรงไปตรงมาอย่างที่สุด

จากนั้นฉินอวี้โม่ก็ใช้ความคิดเพียงแวบเดียวและทุกคนในคฤหาสน์เฟิงหัวก็ปรากฏตัวในลานจัตุรัสทันที

“ดูนั่นเร็ว ท่านจอมยุทธ์ฉินเทียน ฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ พวกเขามาที่นี่จริง ๆ !”

ศิษย์คนหนึ่งมองเห็นทุกคนและตะโกนด้วยความตื่นเต้น

“ท่านจอมยุทธ์ฉินเทียนรีบหนีไปก่อนเถอะ ผีดิบพวกนี้แข็งแกร่งเกินไปและท่านสู้พวกมันไม่ได้แน่ เมื่อพวกท่านกลับไปถึงชายฝั่งทางเหนือเพื่อขอความช่วยเหลือ ท่านต้องพาคนจำนวนมากมาที่นี่เพื่อช่วยเราทุกคนและทำลายแผนการของคนชั่วพวกนี้ให้สิ้นซาก”

แม้บุรุษวัยกลางคนทั้งสองจากชายฝั่งทางเหนือจะยังคงดูใจเย็น ทว่าพวกเขาก็สัมผัสได้ถึงช่องว่างความแตกต่างระหว่างทั้งสองฝ่ายอย่างชัดเจนและกล่าวออกไป

“ไม่ ในเมื่อเราอยู่ที่นี่แล้ว เราก็ไม่คิดที่จะทิ้งทุกคนไว้ที่นี่ !”

ฉินเทียนพุ่งตัวออกไปปรากฏตรงหน้าบุรุษทั้งสองและพยายามใช้พลังครู่หนึ่งทว่าไม่สามารถทำลายผนึกที่ปิดกั้นพลังมายาของพวกเขาได้เลย

“ท่านพ่อ นั่นคือผนึกของพลังแห่งความตาย ให้ข้าลองดูเถอะ”

เสียงของฉินอวี้โม่ถ่ายทอดตรงไปยังจิตวิญญาณของฉินเทียนและนางก็พุ่งตรงเข้าไปอย่างรวดเร็ว นางเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ ฝูงชนพร้อมกับปลดผนึกที่ควบคุมทุกคนอย่างรวดเร็ว

พวกเขาเหล่านี้สูญเสียพลังมายาทั้งหมดในร่างและถูกจับตัวไว้กลางแจ้งตลอดเวลาสามวัน นางจึงรีบทำลายผนึกเพื่อฟื้นฟูพลังให้กับทุกคนในทันที

“ขอบคุณพวกท่านมากจริง ๆ”

เมื่อพลังความแข็งแกร่งกลับคืนมา ทุกคนก็กล่าวขอบคุณฉินอวี้โม่และฉินเทียนพร้อมรอยยิ้มกว้าง

“ศัตรูโจมตี !”

สมาชิกของจอมยุทธ์ปีศาจที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงก็ค้นพบความผิดปกติที่เกิดขึ้นแล้วเช่นกันและหนึ่งในนั้นตะโกนเสียงดังพร้อมเรียกผีดิบจำนวนมากออกมาเพื่อโจมตีฉินอวี้โม่และทุกคน

สือโหลวและผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ที่อยู่ในที่พักของตนก็ได้รับข่าวเช่นกันและรีบมุ่งหน้ามาที่นี่อย่างรวดเร็ว

“ฉินเทียน เจ้าหลอกข้า !”

สือโหลวจ้องหน้าฉินเทียนตาเขม็งและแววตาแสดงถึงความอาฆาตมาดร้ายอย่างชัดเจน

เมื่อคืนนี้บุรุษผู้นี้รับปากที่จะเข้าร่วมกับจอมยุทธ์ปีศาจ ทว่าในเช้าตรู่ของวันนี้ เขากลับลักลอบจู่โจมพวกเขา ทุกสิ่งทุกอย่างก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเพียงแค่เรื่องหลอกลวง

“ฮ่า ๆ ๆ ข้าไม่คิดที่จะร่วมมือกับจอมยุทธ์ปีศาจตั้งแต่แรกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าเองก็ไม่ได้ต้องการข้าจริง ๆ เจ้าเพียงต้องการใช้ข้าเป็นเครื่องมือเพื่อควบคุมเสี่ยวโม่เอ๋อร์และสหายเท่านั้น”

ฉินเทียนหัวเราะเบา ๆ และเปิดเผยจุดประสงค์ของสือโหลวได้อย่างตรงประเด็น

“ถูกต้อง ข้าวางแผนไว้เช่นนั้นจริง”

สีหน้าของสือโหลวกลายเป็นเย็นชาทันทีก่อนที่สายตาจะเลื่อนไปบรรจบลงที่ฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือ

“ฉินอวี้โม่ แน่ใจแล้วรึว่าอยากจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับจอมยุทธ์ปีศาจจริง ๆ ?”

เขากล่าวอย่างเย็นชาและแผ่แรงกดดันออกไปกดข่มฉินอวี้โม่

“จะเสียเวลากล่าววาจาพร่ำเพรื่อไปเพื่ออะไรกัน ? หากคิดที่จะต่อสู้ก็เชิญเลย ไม่มีใครที่เกรงกลัวเจ้าหรอก”

ฉินอวี้โม่ยิ้มมุมปากและกล่าวตอบโต้ สือโหลวไม่ทราบเลยว่าลูกแก้วมรณะที่มีถูกสลับสับเปลี่ยนไปแล้ว เขาจึงยังมั่นใจมากเช่นนี้

“จับตัวพวกนางไว้ !”

สือโหลวโบกมือทันทีเพื่อสั่งการให้ผีดิบเข้าโจมตีฉินอวี้โม่และทุกคน

“ในเมื่อไม่ต้องการยอมจำนนต่อจอมยุทธ์ปีศาจของข้า ข้าก็จะฆ่าเจ้าเสีย จากนั้นก็จะฟื้นคืนชีพเจ้ากลับมาเพื่อทำให้เจ้ากลายเป็นนักสู้ฝีมือดีที่สุดของขุมกำลังเรา เมื่อถึงตอนนั้น เจ้าจะเป็นแนวหน้าที่จู่โจมขุมกำลังมากมายในแผ่นดินใหญ่ อยากเห็นนักว่าคนเหล่านั้นจะทำหน้ากันอย่างไร !”

สือโหลวกล่าวอย่างเย็นชาและไม่คิดที่จะลงมือด้วยตัวเอง

สมาชิกของจอมยุทธ์ปีศาจคนอื่น ๆ ก็ยืนอยู่ด้านข้างเพื่อรอให้กองทัพผีดิบจัดการกับฉินอวี้โม่และสหายโดยไม่คิดที่จะลงมือเองเช่นกัน

“สือโหลว ความมั่นอกมั่นใจของเจ้ามาจากผีดิบเหล่านี้รึ ?”

เมื่อเห็นผีดิบจำนวนมากที่กรูกันเข้ามาเต็มพื้นที่ ฉินอวี้โม่ก็ยกยิ้มมุมปากและลูกแก้วมรณะที่ถูกแปรเปลี่ยนกลายเป็นพลังของนางก็ปรากฏขึ้นในมือ

“เหตุใดเจ้าจึงมีลูกแก้วมรณะได้ ?!”

สีหน้าของสือโหลวเปลี่ยนไปเล็กน้อยทันที คิดไม่ถึงเลยว่าฉินอวี้โม่จะมีลูกแก้วมรณะอยู่ในมือเช่นกัน

“คาดเดาดูสิ !”

ฉินอวี้โม่คลี่ยิ้มอย่างยียวนขณะพลังของลูกแก้วมรณะควบคุมการเคลื่อนไหวของผีดิบเหล่านั้นไว้โดยตรง

จากนั้นนางก็เพียงโบกมือเล็กน้อยก่อนผีดิบเหล่านั้นจะหันหลังกลับไปและปล่อยการโจมตีใส่สือโหลวและคนอื่น ๆ ทันที

“เหอะ คิดที่จะใช้ผีดิบเหล่านี้เพื่อจัดการกับพวกข้างั้นรึ ? ฝันไปเถอะ !”

สือโหลวแค่นเสียงเย็นชาและลูกแก้วสีดำที่ดูเหมือนลูกแก้วมรณะในมือฉินอวี้โม่ก็ปรากฏขึ้นในมือของเขาเช่นกัน

เขาไม่รอช้าและถ่ายทอดพลังแห่งความตายเข้าไปในลูกแก้วทันทีเพื่อยึดการควบคุมผีดิบกลับคืนมา

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่พลังแห่งความตายของเขาสัมผัสมัน ลูกแก้วก็เปลี่ยนกลายเป็นเถ้าถ่านและสลายหายไปในอากาศทันที

ลูกแก้วมรณะในมือของเขาเป็นเพียงลูกแก้วธรรมดา ๆ ที่มีลักษณะเหมือนลูกแก้วมรณะเท่านั้นและมันไม่มีประสิทธิภาพใด ๆ เหมือนของจริงแม้แต่น้อย

“บัดซบ !”

สือโหลวสบถอย่างโกรธแค้นและเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เขาก็พอจะคาดเดาบางอย่างได้ทันที

“สือฉิน ออกมานี่ซะ !”

ในเวลานี้ มันก็มิใช่เรื่องแปลกเลยที่จะคาดเดาได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนการของสือฉินและฉินเทียน

คนที่เขาไว้วางใจมากที่สุดกลับเป็นคนที่ทรยศหักหลังเขาและทำสิ่งที่ไม่อาจให้อภัย

“พี่โหลวเรียกหาข้ารึ ?”

เสียงของหานโม่ฉือดังขึ้นและมันเป็นเสียงของ ‘สือฉิน’ ซึ่งทำให้สือโหลวเข้าใจได้ในทันที

“ที่แท้ก็เป็นเจ้านี่เอง !”

สือโหลวเข้าใจทุกอย่างในทันทีก่อนที่ร่างของเขาจะพุ่งตรงเข้าใส่หานโม่ฉือและฉินอวี้โม่อย่างรวดเร็ว