ตอนที่ 1155 เปิดเกาะราชามังกร

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

กลุ่มของพวกเขายิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ และหลังจากที่เปลี่ยนสถานที่อีกครั้ง เฮยเย้าก็ได้แผ่ซ่านพลังแห่งสายเลือดของเขาออกมาอีกครั้ง

พลังแห่งสายเลือดแผ่ซ่านออกมา จากนั้นก็มีแรงกดดันของสัตว์เทพพัดกระโชกเข้ามาจากระยะไกล

สีหน้ากลุ่มองครักษ์ที่คุ้มกันเหล่านั้นพลันเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก “บัดซบ! พวกทรยศพวกนั้นมันส่งมาแม้กระทั่งมังกรขั้นสัตว์เทพ”

“พวกเราต้องปกป้องฝ่าบาทให้ดี อย่าให้พวกทรยศเหล่านั้นทำสำเร็จได้”

“ข้าจะสู้อย่างสุดชีวิตกับพวกมัน”

ฝ่ายตรงข้ามได้ส่งมังกรขั้นสัตว์เทพมาแล้ว และไม่ได้ส่งมาเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น กลับส่งมาถึงสามตัว

ทันทีที่จิ่วเยี่ยโบกมือ เขาก็ได้ส่งโครงกระดูกมังกรทั้งหมดที่เขาได้รวบรวมเอาไว้ออกมา การปรากฏตัวของพวกมันได้กลายเป็นกำลังในการต่อสู้อันแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่มาก

มังกรขั้นสัตว์เทพได้ปลดปล่อยพลังการยั่วยุออกมาแล้ว แต่ในกลุ่มคนเหล่านี้ นอกจากจิ่วเยี่ยแล้ว เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดแล้วที่เหมาะสมจะเป็นคู่ต่อสู้กับสัตว์เทพเหล่านี้

เงาร่างสีดำเงาหนึ่งเคลื่อนไหวไปอย่างรวดเร็ว และจิ่วเยี่ยก็ได้ปรากฏตัวตรงหน้าพวกเขา

สีหน้าของพวกเขาเผยรอยยิ้มอันชั่วร้ายออกมา ปลาติดเบ็ดแล้ว!

หนึ่งในนั้นได้เอ่ยปากกล่าวขึ้นว่า “เจ้าหนู ข้าจะให้เวลาเจ้าได้กลายร่างเป็นมังกร มิเช่นนั้นเกรงว่าเจ้าจะตายเร็วเกินไป”

แสงเย็นวาบผ่านดวงตาสีฟ้าอันเย็นยะเยือกนั้น และจิ่วเยี่ยก็ลงมือกับพวกเขาทันที

เสียง ตูม! ดังสนั่นขึ้น มังกรสามตัวนี้ก็ได้กลายร่างเป็นกายแท้

พวกเขาได้ฝึกบำเพ็ญมาจนถึงขั้นสัตว์เทพแล้ว ร่างของพวกเขาจึงใหญ่กว่ามังกรปกติทั่วไป

“เจ้าหนู ในเมื่อเจ้าไม่ชอบไม้อ่อนแต่ชอบไม้แข็งเช่นนี้ เช่นนั้นก็อย่าหาว่าพวกข้าไม่เกรงใจล่ะ” มังกรทั้งสามได้เริ่มโจมตีจิ่วเยี่ยมาจากสามทิศ

สัตว์เทพทั้งสามนั้นแข็งแกร่งมาก แต่สัตว์อื่น ๆ ที่กลุ่มเทพได้ส่งมาส่วนใหญ่ล้วนแต่ถูกกลุ่มองครักษ์และมังกรโครงกระดูกขวางเอาไว้ได้

ในตอนนี้เอง เสียงตัดผ่านอากาศเสียงหนึ่งได้ดังขึ้น

สีหน้าของมู่เฉียนซีเคร่งขรึมขึ้น มีคนลอบโจมตีนาง!

เกรงว่าฝ่ายตรงข้ามเองก็คงจะไม่รู้ว่ามู่เฉียนซีมีพลังจิตที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ จึงสามารถรับรู้ได้ถึงอาวุธลับนั้นได้อย่างรวดเร็ว ทำให้นางสามารถหลบหลีกได้ทันท่วงที

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! ในตอนนี้เอง เข็มยาของมู่เฉียนซีก็พุ่งออกไปแล้ว

ขวับ! เข็มยาของนางถูกขวางเอาไว้ได้ จากนั้นมังกรสีเขียวมรกตตัวหนึ่งก็ได้พุ่งออกมา

“สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหก!”

สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกในที่แห่งนี้นับว่าไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด แต่พลังนั้นกลับเหนือกว่ามู่เฉียนซีไม่น้อยเลย

“หากเจ้ายอมเชื่อฟัง ข้าก็จะอ่อนโยนกับเจ้าสักหน่อย มิเช่นนั้นระวังข้าจะถลกเนื้อหนังมังสาของเจ้าเสีย!” มังกรเขียวตัวนี้แสยะยิ้มพลางกล่าว

“พวกเจ้ามังกรเขียวเกิดมาไม่ได้ต่ำต้อย นึกไม่ถึงเลยว่าพวกเจ้าจะทรยศเผ่ามังกร ยอมจำนนต่อผู้อื่นด้วย” มู่เฉียนซีกล่าว

มังกรเขียวได้ยินเช่นนี้ก็โกรธเกรี้ยวขึ้นแล้ว “เจ้าจะไปเข้าใจอะไร ที่พวกข้าทำเช่นนี้ก็ทำเพื่อเผ่ามังกร เจ้าถูกพวกตาเฒ่าหัวโบราณเหล่านั้นสั่งสอนจนเสียคนไปแล้ว วันนี้ข้าจะสั่งสอนบทเรียนให้เจ้าได้รู้”

ทันทีที่เสียงของมังกรเขียวตัวนี้สิ้นสุดลง พายุลมก็ได้พัดโหมกระหน่ำเข้าหามู่เฉียนซี

“โล่วิญญาณน้ำแข็ง!”

กำแพงน้ำแข็งแต่ละชั้นได้ขวางพายุลมที่พัดกระโชกมารอบ ๆ เหล่านั้นเอาไว้

มังกรเขียวยิ้มพลางกล่าวว่า “มิน่าล่ะว่าทำไมเจ้าถึงไม่เข้าใจ ที่แท้เจ้าก็เป็น…”

เขาไม่ทันกล่าวจบก็ถูกน้ำเสียงอันเย็นชาตะโกนแทรกขึ้น “บัวแดงพิฆาต!”

กระบี่มังกรเพลิงได้เคลื่อนไหวตัดผ่านอากาศเป็นส่วนโค้งอย่างรุนแรง จากนั้นบัวอัคคีดอกหนึ่งก็พุ่งไปทางมังกรเขียว พลังอันน่าสะพรึงกลัวนั้นก็ได้ระเบิดขึ้น

มังกรเขียวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “นี่ตกลงว่าเจ้าเป็นมังกรวารีหรือมังกรอัคคีกันแน่!”

ถึงแม้ว่าทั้งสองเผ่าจะได้แต่งงานกัน แต่มังกรน้อยที่กำเนิดเกิดมาจากสายเลือดของสองเผ่าก็สามารถมีพลังธาตุได้เพียงแค่ธาตุเดียวเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่มันได้เห็นมังกรที่มีพลังสองธาตุเช่นนี้

ตูม! ในขณะที่พลังของบัวอัคคีนั้นเข้ามาใกล้เขา มังกรเขียวก็ได้ใช้ความสามารถพลังภายในอันแข็งแกร่งของตนยับยั้งเอาไว้

มังกรเขียวยิ้มพลางกล่าว “เจ้ามันช่างน่าสนใจยิ่งนัก ข้าจะเล่นเป็นเพื่อนเจ้าสักหน่อยก็ได้”

มังกรเขียวมีความได้เปรียบมาก แต่เขากลับไม่รีบร้อนที่จะควบคุมมู่เฉียนซี แต่กลับเข้าไปพัวพันกับมู่เฉียนซีโดยที่ไม่ใช้พลังอย่างสุดความสามารถทำให้มู่เฉียนซีมีโอกาสที่จะตอบโต้

“ทักษะเทียนซวน!”

“ทักษะโยวหลัว!”

วิธีการโจมตีอันไม่รู้จบของมู่เฉียนซีนั้นยิ่งทำให้มังกรเขียวสนใจมากขึ้นแล้ว

“นี่มันทักษะการต่อสู้แบบใดกัน นึกไม่ถึงเลยว่ามันจะนำพาความแข็งแกร่งของเจ้ามาถึงระดับนี้ได้”

ในขณะที่มังกรเขียวไล่ล่ามู่เฉียนซีอย่างไม่ยอมเลิกรานั้น สัตว์สีขาวขนาดใหญ่ตัวหนึ่งก็พุ่งเข้าไปหาเขา

“เจ้าเลวทราม หนวกหูรบกวนข้าเกินไปแล้ว”

สัตว์สีขาวตัวใหญ่ตัวนี้แน่นอนว่าต้องเป็นอู๋ตี้

“เพลิงเผาสวรรค์!” เปลวไฟอันแดงฉานได้แผ่ซ่านออกมา

“สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำเช่นนี้คิดจะตั้งตนเป็นศัตรูกับข้าอย่างนั้นรึ?” เผชิญหน้ากับการลอบโจมตีของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์สองตัวนี้ มังกรเขียวก็โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก

มันสะบัดหางมาโจมตี อู๋ตี้กับเสี่ยวหงจำต้องรีบหลบ

ตูม!

มังกรเขียวสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกตัวนี้เกือบจะฝึกบำเพ็ญจนพลังวิญญาณเต็มระดับหกแล้ว ต่อให้อู๋ตี้กับเสี่ยวหงจะร่วมมือกันก็รับมือได้ยาก

และมังกรเขียวตัวนี้ก็กำลังจะหมดความอดทนแล้ว

“เล่นเกมกันพอแล้ว ควรจะจบได้แล้ว”

ทันทีที่เขากล่าวจบ การต่อสู้ด้านข้างก็เกิดเสียง ตูม! ดังสนั่นขึ้น

พลังดำมืดได้แผ่ซ่านออกมารอบ ๆ

มังกรขั้นสัตว์เทพอันก้าวร้าวตัวนั้นในตอนนี้ไม่เหลือแม้แต่ขี้เถ้า

ภายใต้พลังอันน่าสะพรึงกลัว มังกรเขียวตัวนั้นที่กำลังจะลงมือกับมู่เฉียนซีก็รู้สึกตัวแข็งทื่อ ไม่สามารถขยับไปด้านหน้าได้แม้แต่ก้าวเดียว

นี่มันพลังน่ากลัวระดับใดกัน…

มันตัวสั่นเทาขึ้น ในตอนนี้มังกรเขียวสูญเสียความสามรถในการโจมตีมู่เฉียนซีไปแล้ว จากนั้นเงาร่างสีดำร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

มังกรเขียวจึงรีบตะโกนขึ้นว่า “โปรดไว้ชี…”

ไม่ทันกล่าวจบ พลังการทำลายล้างนั้นก็ทำให้มันหายสาบสูญไปจากโลกนี้โดยสมบูรณ์

ผู้มีพลังแข็งแกร่งที่สุดถูกฆ่าตายแล้ว คนอื่นเห็นเช่นนี้จึงเลือกที่จะหนีไป

พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าผู้มีพลังการต่อสู้ขั้นสูงเช่นนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับบุรุษผู้ที่แข็งแกร่งผู้นี้จะไม่สามารถทำอันใดเขาได้เลย

“ถอย! รีบถอยเร็วเข้า!” พวกเขากล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ในตอนนี้เอง เฮยเย้าก็กล่าวขึ้นด้วยความดีใจว่า “เจอแล้ว เกาะราชามังกรอยู่บริเวณนี้”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ คนอื่นก็หยุดตามไล่ล่าศัตรูทันที

เฮยเย้ากล่าวอย่างเย็นชาว่า “พวกเจ้าทั้งหมดถอยออกไปก่อน”

“ขอรับ!”

จากนั้น เฮยเย้าก็ได้เอาป้ายคำสั่งทั้งสี่ที่อยู่ในมือโยนออกไป

ป้ายคำสั่งทั้งสี่ได้ยึดครองทั้งสี่ทิศเอาไว้ จากนั้นดวงตาสีทองคู่นั้นของเฮยเย้าก็เปล่งลำแสงสว่างออกมา

ลำแสงสีทองได้เชื่อมต่อกับป้ายคำสั่งทั้งสี่เข้าด้วยกัน

เสียง ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง! ดังสนั่นขึ้น ฟ้าดินบริเวณรอบ ๆ ก็ดูเหมือนจะถูกแยกออกจากกันก็มิปาน

“ถอย! ถอย!”

พลังอันแข็งแกร่งนี้ทำให้มังกรเหล่านั้นหายใจกระหืดหระหอบ พวกเขาทำได้แค่ถอยห่างออกไป

จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีไว้แน่น เขาขวางพลังทั้งหมดเอาไว้ ก่อนจะลอยตัวขึ้นกลางอากาศมองดูเกาะราชามังกรที่มีขนาดใหญ่เท่ากับแดนตะวันออกที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

เกาะนี้เปล่งแสงสีทองออกมา แต่ลำแสงนั้นอ่อนมาก

“เกาะราชามังกร เป็นเกาะราชามังกรจริง ๆ ด้วย”

“ผนึกของเกาะราชามังกรกำลังจะถูกเปิดออก ดูสิว่าพวกทรยศพวกนั้นยังจะกำเริบเสิบสานกันอยู่อีกหรือไม่”

“……”

เฮยเย้ามองไปที่เกาะราชามังกรอันสง่างามตรงหน้านั้น ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่เขาเกิด

ญาติของเขา มังกรในเผ่าของเขา เมื่อก่อนเขาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ และตอนนี้ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นเช่นไรบ้างแล้ว และตอนนี้เอง น้ำเสียงอันเคร่งขรึมก็ได้เปล่งออกมาจากปากเด็กหนุ่มผู้นี้ว่า “เปิด!”

.