ตอนที่ 1015: ผนึกคลายออก

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1015: ผนึกคลายออก

ไคเซอร์กุมบาดแผลในร่างครึ่งมนุษย์ครึ่งมังกรของเขาอย่างเจ็บปวด เขารู้สึกว่าเนื้อที่อยู่รอบ ๆ บริเวณที่ถูกพลังงานดั้งเดิมโจมตีนั้นหายไปอย่างสังเกตได้ ซึ่งมันทำให้แผลกว้างออกอย่างต่อเนื่อง ความเจ็บปวดที่ทุกข์ทรมานทำลายเส้นประสาทของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าและทำให้กล้ามเนื้อของเขาชักกระตุกไปทั่ว

พลังงานดั้งเดิมดูเหมือนธรรมดาและไม่ได้มีพลังแห่งการมีอยู่ที่สั่นสะเทือนอะไร แต่พลังนั้นก็น่ากลัวเหนือคำบรรยาย พลังงานที่ดูเหมือนจะกลืนกินทุกอย่างที่ถูกมันโจมตีได้ พลังที่เปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นผุยผง

เจี้ยนเฉินและฮุสตันจ้องตาไม่กระพริบไปที่แผลที่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างเร็ว จิตใจของพวกเขาปั่นป่วนในขณะที่เขาได้เห็นพลังงานดั้งเดิม พวกเขาไม่คิดว่าเซียนจักรพรรดิที่ทรงพลังจะอ่อนแอเช่นนี้ต่อหน้าพลังงานดั้งเดิม

“อ๊าก ! ” ทันใดนั้นเอง ไคเซอร์ก็คำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว พลังงานมหาศาลพุ่งออกมาจากร่างของเขาไม่หยุดเหมือนน้ำไหล ในตอนนี้เอง ไคเซอร์ใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อที่จะหยุดพลังงานที่ยังเหลือค้างอยู่ในตัวเขา เขาต้องการที่จะสลายมัน

ความรุนแรงจากเซียนจักรพรรดิที่ใช้ทุกอย่างออกมาทำให้ทุกอย่างสั่นสะเทือนอย่างไม่ต้องสงสัย ต่อหน้าพลังงานที่สุดยอด มิติทั้งหมดในรัศมีหลายร้อยเมตรเริ่มที่จะบิดเบี้ยวอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เกิดรอยแยกมิติสีดำขึ้นทุกที่ นอกเหนือไปจากนั้น พื้นดินด้านล่างไคเซอร์ก็จมลงไปอย่างรวดเร็ว พลังงานที่ทรงพลังกดมันลงไป

รอบ ๆ มืดมิด พลังของไคเซอร์เพียงพอที่จะทำให้โลกมืดมิดลงไปได้ ในขณะที่พลังงานธรรมชาติและพลังงานของโลกที่อยู่รอบ ๆ รัศมีร้อยกิโลเมตรก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

จอมยุทธทั้งหมดของตระกูลผู้พิทักษ์ที่อยู่ในมิติที่แยกตัวที่กระจายอยู่ทั่วทวีปออกไปก็ออกมาจากมิติ พวกเขามองไปที่ทิศทางของไคเซอร์อย่างเคร่งเครียด

ตาของคนที่อาวุโสที่สุดของสาขาซูในตระกูลเจียงหยาง เจียงหยาง ซู เซียวก็เบิกออกและส่องสว่างเหมือนคบเพลิง เขาจ้องเขม็งไปไกลแล้วคำรามออกมา “มีเพียงเซียนจักรพรรดิเท่านั้นที่ทำอะไรแบบนี้ได้ เซียนจักรพรรดิของทวีปสัว์เทวะได้เข้ามาที่ทวีปของพวกเราอีกครั้งแล้ว”

“เซียนจักรพรรดิเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้เทียมทานในโลก แม้แต่จะนับรวมทั้งสองทวีป ก็มีเซียนจักรพรรดิเพียง 4 คนเท่านั้น แต่เห็นได้ชัดว่าเซียนจักรพรรดิสัตว์อสูรกำลังใช้พลังเต็มที่อยู่ถึงทำให้เกิดอะไรแบบนี้ แปลกจริง ใครกันที่ทรงพลังขนาดที่กดดันให้เซียนจักรพรรดิอยู่ในสภาพแบบนี้ได้ ? ” ผู้อาวุโสสูงสุดคิดอยู่ด้านข้างเจียงหยาง ซู เซียว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ

“เซียนจักรพรรดิสัตว์อสูรต้องมาที่ทวีปเทียนหยวนเพราะพยัคฆ์ปีกเทวะแน่ พยัคฆ์ปีกเทวะอยู่กับเจี้ยนเฉิน ในขณะที่เจี้ยนเฉินมีจอมยุทธทั้งสองที่มีสิ่งของซึ่งมีพลังงานดั้งเดิมคอยปกป้องอยู่ พวกเขาเริ่มต่อสู้กับเซียนจักรพรรดิแล้วอย่างนั้นหรือ ? “

“มันไม่เกี่ยวหรอกว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เมื่อพวกเขาเริ่มต่อสู้กับบนทวีปเทียนหยวนของพวกเรา พวกเราจะมายืนดูอยู่ไม่ได้ ไปดูกันก่อนเถอะ” เจียงหยาง ชิง หยุนพูดด้วยเสียงทุ้ม หลังจากนั้น เขาก็โบกมืออย่างปกติและมิติที่อยู่ด้านหน้าของเขาก็เปิดออก เขาต้องการที่จะสร้างประตูมิติ

อย่างไรก็ตาม มิติที่ฉีกออกก็สั่นไหวอย่างรุนแรง ก่อนที่มันจะปิดลงอย่างช้า ๆ อีกครั้ง เขาสร้างประตูมิติไม่ได้

เจียงหยาง ชิง หยุนขมวดคิ้ว “การต่อสู้ของพวกเขารุนแรงเกินไป มันทำลายสมดุลของมิติ ข้าไม่สามารถสร้างประตูมิติได้”

“พวกเรามาสร้างประตูมิติที่ห่างออกไปหลายหมื่นกิโลเมตรที่ห่างจากจุดนั้นกันในเมื่อพวกเราไม่สามารถสร้างตรงนั้นได้ พวกเราจะบินไปเอาหลังจากนั้น” ผู้อาวุโสสูงสุดแนะนำ

หลังจากนั้น ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดก็จากไปทางประตูมิติใหม่ พวกเขาทำตามที่แนะนำและไปที่ยังที่ที่ห่างจากตำแหน่งของเจี้ยนเฉิน จากนั้น พวกเขาก็บินไป

ในเวลาเดียวกัน ตระกูลผู้พิทักษ์อีกทั้งเก้าตระกูล หัวหน้าตระกูลบางคนของตระกูลโบราณ และเซียนราชาบางคนจากองค์กรต่าง ๆ ก็รีบไปยังทิศทางที่การต่อสู้เกิดขึ้น

ไคเซอร์ใช้พลังทั้งหมดของเขาเพื่อที่จะต่อต้านพลังงานดั้งเดิม แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดการทำลายล้างได้ ในท้านที่สุด บาดแผลของเขาก็หยุดย่ำแย่ลงหลังจากที่พลังงานดั้งเดิมหมดไปแล้ว เพราะว่ามันไม่ใช่พลังงานที่ต่อเนื่อง

ในตอนนี้ ใบหน้าของไคเซอร์เต็มไปด้วยเหงื่อและเขาก็อยู่ในสภาพย่ำแย่ เขาไม่ดูสง่างามเหมือนก่อนหน้านี้ รูขนาดครึ่งเมตรเหมือนกับรูนิ้วในร่างที่เหมือนมังกรสูง 10 เมตรของเขา มันสยดสยองมาก

พลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาล 4 ดวงบินเข้ามาแต่ไกลเหมือนสายฟ้า ทันใดนั้นเอง เฮยยู่ รุยจิน หงเหลียนและจักรพรรดิเสือก็มาถึงที่ที่เดียวกัน จักรพรรดิเสือยืนอยู่ข้างข้างไคเซอร์ ในขณะที่เฮยยู่ รุยจิน และหงเหลียนก็มายืนอยู่ข้าง ๆ เจี้ยนเฉินทันที พวกเขาทั้งหมดมองไปที่รูบนตัวไคเซอร์ด้วยความตกใจ

“ข้าสัมผัสได้ถึงพลังงานดั้งเดิมที่บริสุทธิ์ก่อนหน้านี้ ไคเซอร์ ใครทำให้เจ้าได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ ? ” แลงคีรอสคำราม

ไคเซอร์ที่ยังสั่นรุนแรงจ้องไปที่เสี่ยวหลิงแล้วพูด “มันเป็นเด็กหญิงคนนั้น ข้าไม่เคยคิดว่านางจะเป็นจิตวิญญาณม่านพลังของเมืองทหารรับจ้างจริง ๆ “

“อะไรนะ ! นางเป็นจิตวิญญาณม่านพลังของเมืองทหารรับจ้าง ! ? ” แลงคีรอสตะโกนออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ด้วยความตกตะลึง และเขาก็มองไปที่เสี่ยวหลิงทันที

แลงคีรอสทึ่งทันทีเมื่อเขาพบว่าเสี่ยวหลิงยังเป็นแค่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เขาแค่เคยอ่านเกี่ยวกับจิตวิญญาณม่านพลังในบันทึกโบราณบางชิ้นที่สัตว์อสูรคนก่อนก่อนทิ้งเอาไว้ที่เก็บอยู่ที่หอคอยสัตว์เทวะ นี่เป็นครั้งแรกที่จิตวิญญาณม่านพลังแสดงร่างจริงออกมา เขาไม่คิดว่าจิตวิญญาณม่านพลังจะเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ

“ไม่ใชว่าบันทึกเขียนไว้ว่าจิตวิญญาณม่านพลังไม่สามารถออกมาจากเมืองทหารรับจ้างได้อย่างนั้นหรือ ? นางออกมาจากเมืองทหารรับจ้างได้อย่างไรตอนนี้ ? ” แลงคีรอสเอ่ยถามออกมาเสียงทุ้ม เขาสงสัย

รุยจิน เฮยยู่ และหงเหลียนทั้งหมดจ้องตาไม่กระพริบไปที่เสี่ยวหลิง พวกเขาทั้งหมดรู้สึกตกใจเมื่อพวกเขาคิดเกี่ยวกับความบริสุทธิ์ของพลังงานดั้งเดิมที่มาจากเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ นี้ พวกเขาทั้งหมดรู้ว่ามีเพียงผู้ที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิขึ้นไปเท่านั้นที่จะสามารถควบคุมพลังนี้ได้ หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าพวกเขานั้นเหนือกว่าเซียนจักรพรรดิจริง ๆ

เสี่ยวหลิงไม่สนใจสายตาที่ตกใจของทุกคน นางจ้องไปที่แลงคีรอสและไคเซอร์อย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าทั้งคู่รังแกพี่ใหญ่ เจ้าทั้งหมดเป็นคนเลว เสี่ยวหลิงจะสอนบทเรียนราคาแพงให้แทนพี่ใหญ่เอง” เสี่ยวหลิงเหวี่ยงแขนออกไปอีกครั้งและพลังงานดั้งเดิมสองสายก็พุ่งไปที่พวกเขา

ท่าทางของเซียนจักรพรรดิทั้งสองเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับพลังงานดั้งเดิมที่ดูธรรมดา อย่างไรก็ตาม ความคิดที่ว่าพวกเขาไม่สามารถหลบได้ก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของทั้งคู่ เหมือนว่าพลังงานดั้งเดิมล็อกเป้าพวกเขาเอาไว้ มันถึงจุดที่ว่าพวกเขาต้องโดนโจมตีแน่ไม่ว่าพวกเขาจะหนีไปไหนก็ตาม

“ในเมื่อข้าหลบมันไม่ได้ ข้าก็จะรับมันตรง ๆ ! ” ความคิดแบบเดียวกันแวบเข้ามาในหัวของพวกเขา พวกเขากัดฟันและคำรามออกมาพร้อมกัน คลื่นพลังงานที่น่ากลัวพุ่งออกมาจากร่างของพวกเขา จากนั้น พวกเขาก็โจมตีออกไปที่พลังงานดั้งเดิมที่กำลังพุ่งเข้ามาอย่างแรงที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้

อย่างไรก็ตาม พลังงานดั้งเดิมไม่ใช่อะไรที่เซียนจักรพรรดิจะสามารถป้องกันได้ มันผ่านการโจมตีของพวกเขาไปเหมือนมีดร้อนตัดผ่านเนย ก่อนที่จะกระแทกเข้าไปที่ร่างของพวกเขา

“อ๊าก ! ” ทั้งจักรพรรดิเสือและไคเซอร์ร้องออกมาอย่างน่าเวทนาทันที พลังงานดั้งเดิมทำให้แผลขยายออกอย่างรวดเร็วอย่างสังเกตได้ในขณะที่เลือดและเนื้อของพวกเขาก็หายไปทีละน้อย

ทันใดนั้นเอง เสี่ยวหลิงที่อยู่ห่างออกไปก็พูดอย่างโกรธเกรี้ยว “หืม เจ้าคิดว่าเสี่ยวหลิงจะไม่เห็นเจ้าเพราะว่าเจ้าซ่อนอยู่งั้นหรือ ? เจ้ายิ่งแย่กว่าทั้งสองคนนี้ที่ร่วมมือกันและมาทำร้ายพี่ใหญ่ เสี่ยวหลิงจะสั่งสอนเจ้าเองครั้งนี้ มันจะไม่ง่ายเหมือนครั้งก่อนหรอก” หลังจากนั้น พลังงานดั้งเดิมอีกสายก็พุ่งออกมาจากมือของเสี่ยวหลิง ในขณะที่มันโจมตีไปที่อากาศที่ว่างเปล่าด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

“อ๊าก ! ” ทันใดนั้นเอง เสียงร้องน่าเวทนาอีกเสียงก็ดังขึ้นมา มารราคะปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับรูขนาดเท่ากำปั้นที่หน้าอกของเขา พลังงานดั้งเดิมเจาะรูเข้าไปในเขาและแผลก็ขยายออกเรื่อย ๆ

“ตราบที่วิญญาณของพวกเจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บ พวกเจ้าก็จะไม่ตายซินะ หืม เสี่ยวหลิงจะจับพวกเจ้าทั้งหมดให้พี่ใหญ่จัดการหลังจากที่เสี่ยวหลิงสั่งสอนบทเรียนกับพวกเจ้าแล้ว พี่ใหญ่จะต้องดีใจมากแน่” เสี่ยวหลิงพูดก่นที่จะนางจะส่งพลังงานดั้งเดิมสามสายไปที่เซียนจักรพรรดิทั้งสามอีกครั้ง มันทำให้รูบนร่างของพวกเขาเพิ่มขึ้น

“พวกเราไปกันเถอะ ! ” แลงคีรอสคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวไปที่ไคเซอร์ หมอกเลือดพ่นเป็นฝอยออกจากร่างของพวกเขาและในตอนที่มันฟุ้งกระจาย เขาก็หายไป

หลังจากที่จักรพรรดิเสือหายไป ไคเซอร์และมารราคะก็ใช้ทักษะหลบหนี พวกเขาหายไปทันทีหลังจากที่โดนเล่นงานไปอย่างหนัก

เสี่ยวหลิงยืนเอามือแตะริมฝีปากอยู่ในขณะที่นางพูดอย่างไม่เป็นสุข “เมื่อข้าอยู่ที่นี่ มันไม่สำคัญหรอกว่าพวกเจ้าจะหนีไปที่ไหน คอยดูเสี่ยวหลิงจะจับคนเลวทั้งสาม” ในตอนที่เสี่ยวหลิงกำลังจะทำบางอย่าง เมืองทหารรับจ้างก็สั่นไหวอย่างรุนแรง ทั้งเมืองที่อยู่ห่างไกลออกไปสั่นอย่างรุนแรงเหมือนว่ามันอยู่ท่ามกลางแผ่นดินไหว รอยแยกใหญ่เกิดขึ้นที่พื้นของเมือง

ใบหน้าที่บริสุทธิ์และซุกซนของเสี่ยวหลิงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว นางร้องออกมาอย่างไม่รู้ตัว “โอ้ ไม่ แย่แล้ว มีจอมยุทธที่น่ากลัวมากมากกำลังโจมตีผนึก” เสี่ยวหลิงไม่สนใจพวกที่หนีไปและหายไปก่อนที่นางจะทันพูดจบ นางปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งที่ลึกลงไปให้เมืองทหารรับจ้าง

ด้านล่างของเมืองทหารรับจ้างมีผนึกใหญ่ซ่อนอยู่ มีน้อยคนนักที่รู้ถึงการมีอยู่ของมัน ในประวัติศาสตร์ทั้งหมด มีเพียงเสี่ยวหลิงและโมเทียนหยุนเท่านั้นที่ได้ร่ายผนึกในหลายปีที่ผ่านมานี้

โมเทียนหยุนได้ผนึกทางเข้าของโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งที่นั่น ผนึกเดียวที่ป้องกันไม่ให้จอมยุทธจากอีกโลกเข้ามาที่ทวีปเทียนหยวน ซึ่งจะทำให้สันติสุขที่มีมานานหลายปีของทวีปเทียนหยวนต้องพังทลายไป