ตอนที่ 1484

Alchemy Emperor of the Divine Dao

เซียนซิงฉาอายุเท่าไหร่?

ตามหลักแล้วเซียนระดับสูงจะมีอายุขัยสามพันล้านปี แต่ปรมาจารย์ระดับนั้นจำเป็นต้องรับทัณฑ์สวรรค์ทุกร้อยล้านปี ซึ่งบางคนก็ตกตายเพราะสิ่งนี้ก่อนที่จะอยู่ครบอายุขัย

ดังนั้นจึงไม่จำเป็นว่าเซียนซิงฉาจะมีอายุครบสามพันล้านปี แต่อีกฝ่ายก็สมควรมีอายุราวๆนั้นแล้ว

กล่าวได้ว่าเซียนซิงฉาอยู่ในช่วงชีวิตที่ต้องการผู้สืบทอด ทว่าในหมู่ศิษย์ทั้งเก้ากลับไม่มีใครที่เขาสามารถสืบสานวิถีวรยุทธต่อให้ได้เลย

เหตุผลนั้นง่ายมาก ศิษย์ทั้งเก้าของเขาไม่มีใครเลยที่ทะลวงผ่านกลายเป็นเซียนระดับกลางหรือระดับสูง

แต่ถึงอย่างนั้นการที่ชายชราใกล้ลงโลงเช่นเขา คิดจะสืบทอดมรดกโดยการเพิ่งให้กำเนิดบุตรอายุสี่ปีนั้นค่อนข้างจะแปลกประหลาดเกินไป!

เห็นหลิงฮันแน่นิ่งไปชายหนุ่มคนนั้นจึงคิดว่าหลิงฮันหวาดกลัว เขาแสยะยิ้มและกล่าว “ในเมื่อเจ้ารู้สถานะของนายน้อยหยุนแล้วก็รีบคุกเข่าแสดงความเคารพซะ!”

ชื่อของเขาคือโม่หลี่เป็นศิษย์ของสำนักย่อยที่เจ็ด เขาโชคดีที่เมื่อมาที่นี่ได้พบกับเซียนน้อยโดยบังเอิญ หลังจากรับรู้สถานะของอีกฝ่ายเขาก็พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับนายน้อย

หลิงฮันส่ายหัวและกล่าว “ข้ามาที่นี่เพื่อฝึกฝนไม่ได้มาเพื่อเป็นม้าขี่ให้ใคร! เด็กน้อยนั้นไร้เดียงสายังพอให้อภัย แต่หากเจ้ายังพล่ามไร้สาระอยู่อีกข้าก็ไม่รังเกียจที่จะมอบกำปั้นให้เจ้า”

“เจ้ากล้า!” โม่หลี่คำราม เจ้าบ้าไปแล้วรึไง เมื่อมีนายน้อยหยุนอยู่ที่นี่เจ้าที่เป็นศิษย์ธรรมดาทั่วไปจะทำอะไรได้?

“ข้าอยากขี่ม้า! ข้าอยากขี่ม้า!” เด็กน้อยรู้เพียงแต่การสร้างปัญหา เท้าของเขาเตะไปมาเข้าใส่ร่างของโม่หลี่ แต่แน่ว่าด้วยกำลังของเด็กน้อยเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ปรมาจารย์ระดับดาราบาดเจ็บ

หลิงฮันมองไปยังโม่หลี่พร้อมกับส่ายหัว จอมยุทธที่มีจิตใจอ่อนแอเช่นนี้มีคุณสมบัติจะกลายเป็นตัวตนที่ทรงพลัง?

การที่โม่หลี่เข้าร่วมสำนักละอองดาราได้นั้นเขาต้องเป็นราชาไม่ผิดแน่ แต่น่าเสียดายที่ราชาไม่ใช่ว่าจะเป็นราชาได้ตลอดไป เขาลดศักดิ์ศรีของตนเองลงมาเพื่อไขว่คว้าทางลัดจนลืมไปแล้วว่าสิ่งสำคัญที่สุดของศาสตร์วรยุทธคืออะไร

ความมั่นใจและศักดิ์ศรีของตัวเอง!

“ไปกันเถอะ” หลิงฮันจับข้อมือของสตรีนกอมตะอละคร้านที่จะใส่ใจทั้งสองคน

“คิดหนีรึ!” โม่หลี่ที่ไม่รู้เอาความกล้ามาจากไหนปล่อยหมัดเข้าใส่แผ่นหลังหลิงฮัน

หลิงฮันเค้นเสียงและสะบัดหลังมือสลายพลังโจมตีของหมัดที่พุ่งเข้ามาและเอื้อมมือไปคว้าคอของโม่หลี่

ระดับดาราจะนับเป็นอันใดได้เมื่ออยู่ต่อหน้าระดับวารีนิรันดร์ นอกเสียจากว่าจะเป็นราชาระดับสามที่มีพลังต่อสู้ทัดเทียมกับระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้น

“เจ้าแส่หาเรื่องเอง!” หลิงฮันยกมือขวาขึ้นลง ด้วยอำนาจของปราณก่อเกิดจากฝ่ามือ ร่างของโม่หลี่มีเสียงแตกหักของกระดูกดังออกมาอย่างต่อเนื่อง

โม่หลี่ไม่ได้มีกายหยาบที่ทรงพลัง เพียงแค่ถูกเขย่าร่างไปมาเช่นนี้กระดูกทั่วทั้งร่างของเขาก็แตกหักไปกว่าครึ่งร่าง ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความทรมานและกรีดร้องออกมา

เขาไม่ร้องขอความเมตตาแต่กลับกล่าวข่มขู่ “เจ้ากล้าทำร้ายข้า! เจ้าบังอาจทำให้ข้าบาดเจ็บ! ตอนนี้ต่อให้พระเจ้ามาที่นี่ก็ช่วยเจ้าไม่ได้ ข้าจะไปรายงานว่าเจ้าคิดทำร้ายนายน้อยหยุน เจ้าตายแน่!”

เขามองไปยังหลิงฮันด้วยสีหน้ามืดมน ในสำนักละอองดาราไม่มีใครกล้าลงมือสังหาร ดังนั้นเขาตั้งใจจะใช้สถานการณ์นี้ให้เป็นประโยชน์

เขาถูกได้รับบาดเจ็บจากการช่วยเหลือนายน้อยหยุน และหลิงฮันเป็นคนร้ายที่คิดทำลายนายน้อยหยุน

หลิงฮันยิ้มและตบไปหน้าของอีกฝ่าย “ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะใช้สมองไปในทางที่ผิดเช่นนี้ หากลองใช้สมองของเจ้าไปกับการบ่มเพาะพลังเจ้าคงทะลวงผ่านระดับวารีนิรันดร์ได้ไปแล้ว!”

โม่หลี่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยว่าเหตุใดหลิงฮันถึงไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย? นี่มันไม่ถูกต้อง!

เมื่อเขากล่าวข่มขู่ออกมา ไม่ใช่ว่าหลิงฮันสมควรต้องหวาดกลัวความตายจนยอมก้มหัวคุกเข่าร้องขอความเมตตาจากเขาหรอกรึ?

หรือว่าเขาจะมีผู้หนุนหลังที่สามารถต่อกรกับเซียนซิงฉา?

ไม่มีทาง หากมีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งขนาดนั้นอีกฝ่ายจะมาที่นี่ทำไม?

หลิงฮันยิ้มและชี้ไปยังสตรีนกอมตะพร้อมกับกล่าว “ดูนั่น”

โม่หลี่มองตามและชะงักแน่นิ่งไร้คำพูด

นายน้อยหยุนกำลังเล่นกับสตรีผู้นั้นอย่างมีความสุข สตรีผู้นั้นไม่ได้คุกเข่าคลานให้นายน้อยขี่แต่นางจับนายน้อยอุ้มกอด ซึ่งใบหน้าของนายน้อยก็แสดงออกถึงความสุขอย่างเต็มที่

บะ.. แบบนี้ก็ได้ด้วย! โม่หลี่อยากจะกระอักโลหิตออกมา

“จงบ่มเพาะพลังไปในทางที่ถูกต้อง การที่เจ้าสามารถเข้าร่วมสำนักละออกดาราได้นั่นหมายถึงเจ้าเองก็มีพรสวรรค์ในระดับราชา ทำไมต้องจะต้องลดตัวลงไปใช้วิธีลัดที่ต่ำช้าเช่นนั้น?” หลิงฮันกล่าวน้ำเสียงตักเตือน

โม่หลีแสดงสีหน้าครุ่นคิดระลึกความหลัง ในอดีตเขาเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานอย่างมาก เมื่อตอนที่เข้าร่วมสำนักละอองดาราเขาถูกบังคับให้คลานลอดผ่านช่องสุนัข ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ดิ้นรนฝ่าฟันความลำบากจนพลังบ่มเพาะทะยานสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

เพียงแต่ว่าราชาในสำนักละอองดารานั้นมีมากมายดั่งหมู่เมฆบนท้องฟ้า เขาสูญเสียความมั่นใจจนหลงเดินไปในทางที่ผิดและไม่มุ่งมั่นกับศาสตร์วรยุทธอีกต่อไป

เขากำลังเดินไปในเส้นทาง? เขากำลังทำอะไรอยู่?

ร่างของโม่หลี่สั่นสะท้าน ความกระจ่างแวบผ่านแววตาของเขาและใบหน้าได้กลับกลายเป็นรู้สึกเศร้าเสียใจ

ในเมื่อเขาเป็นราชา จิตวิใจของเขาย่อมแกร่งกล้า

“ข้าเข้าใจแล้ว” โม่หลี่พยักหน้า “ศิษย์พี่ ข้าจะมุ่งมั่นฝึกฝนวรยุทธให้ดีและวันหนึ่งข้าจะตอบแทนความช่วยเหลือของศิษย์พี่ในวันนี้แน่นอน”

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “เจ้าไปได้แล้ว”

“แล้วนายน้อยหยุน…” โม่หลี่มองไปยังเด็กน้อย ไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นทายาทของเซียนระดับสูง หากมีอะไรเกิดขึ้นเขาจะรับผิดชอบไหวได้อย่างไร?

“ไม่ต้องกังวล พวกข้าจะพาเขากลับไปส่งให้เอง” หลิงฮันพยักหน้า

โม่หลี่ลังเลแต่ก็กล่าวออกไป “ศิษย์พี่ มารดาของนายน้อยหยุนเป็นคนอารมณ์ร้อนอย่างมาก ท่านห้ามขัดใจนางเด็ดขาด” ในขณะที่กล่าวประโยคนี้ เขาลดเสียงตนเองลงราวกับหวาดกลัวว่าจะมีใครได้ยิน

มารดาของนายน้อยหยุน หรือก็คือภรรยาของเซียนซิงฉา