ในฐานะที่เป็นหนึ่งในเจ้ายุทธจักรแต่งตั้ง หยวนจุนถือได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลก

เดิมทีเขาไปตำหนักอัคคีนภาในนามของสำนักฟ้าดิน เขาจะคาดหมายได้อย่างไรว่าจะได้พบกับหลัวซิว ไอ้ตัวพิฆาต

หลังจากสังหารหยวนจวินแล้ว หลัวซิวยังคงบินไปที่ตำหนักอัคคีนภา

ในฐานะที่เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งในอาณาจักรใต้ ตำหนักอัคคีนภาตั้งตระหง่านเหนือปล่องภูเขาไฟ ไม่ใช่แค่ตำหนักเดียว แต่เป็นกลุ่มตำหนักที่ต่อเนื่องกัน

ในบริเวณใกล้เคียงของตำหนักกลุ่มนี้มีเมฆพลังเปลวไฟขนาดใหญ่ล้อมรอบมัน ราวกับเมฆไฟ

ในตำหนักแห่งหนึ่ง ผู้คนในสำนักไป๋ซิงกู่ได้รับเชิญจากแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ คุกคามชีวิตและความตายของพวกเขา ขอให้พวกเขาเกลี้ยกล่อมเหยียนซีโรว่

เมื่อเหยียนซีโรว่ยังเด็ก บิดามารดาของนางเสียชีวิตก่อนกำหนด เป็นไป๋หุ้ยเหลียนผู้อาวุโสของสำนักไป๋ซิงกู่ได้เลี้ยงดูนาง ดังนั้นสำนักไป๋ซิงกู่จึงมีสถานที่พิเศษในใจของ เหยียนซีโรว่

“ซีโรว่ เจ้าจะไม่ให้ความสำคัญต่อชีวิตของอาจารย์ทุกท่านเพื่อผู้ชายคนหนึ่งหรือ?”

“ยี่สิบปีแห่งการเลี้ยงดู เจ้าอยากเห็นสำนักไป๋ซิงกู่ถูกทำลายเพราะความดื้อรั้นของเจ้าหรือ?”

“หลัวซิวคนนั้นไม่รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆขุ่นเคือง เหตุใดเจ้าถึงต่อสู้กับแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆเพื่อเขา?”

“เด็กโง่ เราจะรอดได้ก็ต่อเมื่อเจ้าเต็มใจทำนายที่อยู่ของหลัวซิว”

คำพูดของทุกคนในสำนักไป๋ซิงกู่เป็นเหมือนเข็มเหล็กที่เจาะเข้าไปในหัวใจของเหยียนซีโรว่ ด้านหนึ่งคือสำนักไป๋ซิงกู่ผู้ให้กำเนิดตนเองและอีกด้านหนึ่งคือชายที่ตนเองชื่นชมอยู่ในใจ ไม่ว่าจะเลือกด้านไหนก็ตาม ในใจขอนางจะไม่สบายมาก

“อาจารย์ อาจารย์อา เหตุใดพวกท่านจึงบังคับข้า…”

เหยียนซีโรว่ร้องไห้ออกมา นางไม่สามารถละเลยชีวิตและความตายของคนในสำนักไป๋ซิงกู่ได้ ถ้าต้องการเลือกจริงๆ นางทำได้เพียงหักหลังหลัวซิวเท่านั้น

“เฮียกหลัว ข้าขอโทษ…” น้ำตาของนางร่วงหล่นลงบนพื้นและแตกออกเป็นแปดกลีบ ราวกับว่าหัวใจของนางถูกบดขยี้

นอกตำหนักอัคคีนภา ร่างของหลัวซิวยืนอยู่บนท้องฟ้า

เห็นเพียงเขายกมือขึ้น เขาทองดำไท่เสวียนก็ค่อยๆ โผล่ออกมา จากนั้นจึงลุกขึ้นต้านลม กลายเป็นภูเขาขนาดใหญ่สง่างาม กระแทกความว่างเปล่าด้วยเสียงดังปัง พร้อมกระแทกไปยังที่ตั้งของตำหนักอัคคีนภา

“บูม!”

ค่ายพิทักษ์เขาของตำหนักอัคคีนภาปรากฏออกมาเป็นม่านแสงสีแดง ภานใต้การกระแทกของเขาทองดำไท่เสวียน ม่านค่ายกลสั่นไหวอย่างรุนแรง ค่ายมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นเก้าก็แตกออกมีรอยเกิดขึ้น

“ทำลายมันเพื่อข้า!”

หลัวซิวตะคอกเสียงดัง ยกมือขึ้นชี้ เขาทองดำไท่เสวียนกระแทกลงมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงคำรามที่น่าสยดสยอง ค่ายพิทักษ์เขาของตำหนักอัคคีนภาถูกทุบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยพร้อมแตกออกทันที

ภูเขาสีดำนั้นราวกับสร้างด้วยทองคำสีดำ หลัวซิวยืนอยู่ในอากาศด้วยมือไขว้หลัง ราวกับเทพมารที่บังเกิดขึ้นมาในโลก เขาทำลายค่ายพิทักษ์เขาของแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้อย่างง่ายดาย

“ใครที่กล้ามาอวดดีที่หน้าประตูตำหนักอัคคีนภาของข้า?”

เสียงตะคอกดังมาจากกลุ่มตำหนัก ไฟพร่างพรายพุ่งขึ้นไปบนฟ้า กลายเป็นมังกรไฟที่มีกรงเล็บพร้อมพุ่งเข้าหาหลัวซิวที่อยู่กลางอากาศ

หลัวซิวพ่นลมอย่างเย็นชา ดวงตาที่ลึกล้ำของเขายิงแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมาราวกับกระบี่เทพสองเล่ม ทำลายมังกรไฟที่กำลังพุ่งพรวดให้เป็นชิ้นๆ

“อ๊าก!

เสียงกรีดร้องมาจากตำหนักอัคคีนภาที่อยู่ด้านล่าง และหัวของผู้แข็งแกร่งจากตำหนักอัคคีนภาถูกแสงศักดิ์สิทธิ์แทงและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุกะทันหัน

ผู้แข็งแกร่งจำนวนมากในตำหนักอัคคีนภาตื่นตระหนกกันหมด แต่เมื่อพวกเขาตอบสนองขึ้นมาก็พบว่าค่ายพิทักษ์เขาถูกทำลาย และแม้แต่พระสมณผู้หนึ่งของตำหนักอัคคีนภาก็ถูกฆ่าตายทันที

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป แม้ว่าตำหนักอัคคีนภาจะไม่ใช่แดนศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งมากนัก แต่ไม่ว่าอย่างไรค่ายพิทักษ์ก็เป็นระดับค่ายมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นเก้า แม้จะเป็นผู้แข็งแกร่งแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ก็ยากที่จะทำลายลงไปได้