บทที่ 1392 อุปสรรคที่ขวางการบรรลุเทียนจื้อจุน

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

เมื่อแสงรวมตัวกันห่อหุ้มมู่เฉิน

ความมุ่งมั่นปรารถนาก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เขาหลับตาลงภายใต้การป้องกันของแสงนับไม่ถ้วน พุ่งเข้าไปในความว่างเปล่า…

มู่เฉินไม่รู้ว่านานแค่ไหน จู่ๆ จิตวิญญาณก็ลืมตาขึ้นมา เขาเห็นตัวเองอยู่ในจักรวาลยุคแรกเริ่ม สถานที่แห่งนี้ดูเหมือนจะเป็นจุดกำเนิดของโลก กระทั่งเวลายังช้าลงมาก

เมื่อมองไปที่จักรวาลนั้น มู่เฉินก็ค่อยๆ แผ่คลื่นจิตออกไปเพื่อสัมผัสถึงดวงจิตแห่งพิภพที่ซ่อนอยู่…

เขาไม่ได้รับคำตอบ แต่เมื่อแสงรอบตัวแข็งแกร่งขึ้น เขาก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความผันผวนแปลกประหลาดแผ่มาจากแสงมหาศาลแรกเริ่ม

จิตวิญญาณมู่เฉินรีบตามหาไป จากนั้นเขาก็พบแสงที่เปล่งออกมาราวกับมหาสมุทรทำให้เกิดความผันผวน

มหานวดารานี้ดูเหมือนจะบรรจุด้วยชีวิตที่ไม่มีที่สิ้นสุดพร้อมกับปลดปล่อยพลังที่ทำให้มู่เฉินตกตะลึง พลังงานนี้บริสุทธิ์และเก่าแก่มาก ราวกับว่าเกิดมาพร้อมกับพิภพแห่งนี้…

มู่เฉินมองไปที่สภาวะความวุ่นวายที่ดูราวกับมหาสมุทร เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความผันผวนยิ่งใหญ่ ซึ่งน่าจะเป็นดวงจิตแห่งพิภพนี้

ซ่า ซ่า

มหานวดาราแรกเริ่มกระเพื่อมไหวพร้อมกับเสียงน้ำไหลดังก้อง มีกระแสน้ำวนขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ลูกกลมขนาดพันจั้งก็ค่อยๆ ลอยขึ้น

ลูกกลมนี้ดูเหมือนหัวใจที่เต้นแผ่วเบา พร้อมกับทุกจังหวะชีพจร โลกใบนี้ก็จะกระเพื่อมตาม

เมื่อมันหายใจก็ดูเหมือนจะมีพายุรวมตัวกันและกระแสน้ำไหลย้อน…

“นี่คือดวงจิตแห่งพิภพรึ?”

มู่เฉินมองไปที่ลูกกลม แม้เขาจะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงจิตใต้สำนึก แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณที่อยู่ภายใน

“หืม?”

ทันใดนั้นมู่เฉินก็หดดวงตา เนื่องจากเขาเห็นรอยเลือดบนลูกกลมแสงที่เหมือนแมลง ช่างดูแปลกแยกกับความกลมเกลี้ยงนัก

“เป็นเพราะการรุกรานของเผ่าเสี่ยเสีย สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนถูกสังหาร ดังนั้นดวงจิตแห่งพิภพจึงได้รับผลกระทบด้วยเหรอ?” สายตาของมู่เฉินเปล่งประกายเมื่อคิดได้ถึงเรื่องนี้

แต่สถานการณ์นี้กลับทำให้เขาดีใจมากขึ้น เนื่องจากดวงจิตแห่งพิภพสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามจากเผ่าเสี่ยเสีย ดังนั้นก็น่าจะยอมรับเขาได้ง่ายขึ้น

ด้วยความคิดนี้ มู่เฉินก็ค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้

“ดวงจิตแห่งพิภพ ข้าสามารถช่วยเจ้าขับไล่เผ่าเสี่ยเสียได้ แต่ตอนนี้ข้าต้องการพลังของเจ้า”

มู่เฉินไม่คิดปกปิด เปิดเผยวัตถุประสงค์ให้ทราบตรงๆ เขารู้ดีว่าแม้ว่าดวงจิตแห่งพิภพจะไม่มีจิตใต้สำนึก แต่ก็มีจิตวิญญาณ สามารถตัดสินอันตรายใดๆ ที่เกิดขึ้นกับบ้านของตนได้

แสงมหานวดาราสั่นสะเทือนเล็กน้อยแต่ก็ไม่ขยับ

มู่เฉินรู้ว่านั่นเป็นเพราะเขาไม่ใช่คนบนโลกใบนี้ ดังนั้นดวงจิตพิภพจึงรู้สึกขัดแย้งในตัวเอง ถ้าไป๋ซู่ซู่เป็นคนที่อยู่ที่นี่ ดวงจิตนี้คงจะช่วยเหลือโดยไม่ลังเล

ทว่าตัวเขาก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร พูดต่ออย่างเคร่งขรึมว่า “จอมปีศาจโลหิตทรงพลัง ถ้ามันเป็นอิสระ ข้าก็ไม่อาจสู้ได้ ตอนนั้นข้าคงทำได้เพียงเลือกปกป้องตัวเองออกจากพิภพนี้ไป ที่นี่ก็คงจะต้องประสบกับการล้างเผ่าพันธุ์ของเผ่าเสี่ยเสีย สิ่งมีชีวิตทั้งหมดจะถูกเขมือบไป”

“ในเวลานั้นแม้ว่าเจ้าจะเป็นดวงจิต แต่ก็ยากที่จะรอดพ้นจากการรุกรานจากจอมปีศาจโลหิตจนถูกชำระในที่สุด”

คำพูดของมู่เฉินดูโหดร้าย ดวงจิตที่ได้รับการปนเปื้อนก็สั่นสะท้านรุนแรง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ก้าวออกมา

สายตามู่เฉินวูบไหว เขารู้ว่านี่ยังไม่เพียงพอ ถ้าเขาชำระดวงจิตแห่งพิภพนี้ เขาก็จะเทียบเท่ากับเจ้าพิภพ ซึ่งชี้เป็นชี้ตายสรรพชีวิตทั้งหมดด้วยความคิดวูบเดียว

ในฐานะผู้พิทักษ์เห็นได้ชัดว่าดวงจิตแห่งพิภพไม่ค่อยเชื่อใจคนนอกอย่างเขา

ดังนั้นมู่เฉินจึงก้าวเข้าไปอีกขั้น “ถ้าข้าเป็นเจ้าพิภพแห่งนี้ ข้าสาบานว่าจะรักษาความสงบสุขเอาไว้ ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่จะไม่มีเผ่าปีศาจใดเข้ามารุกรานที่นี่ได้อีก!”

เสียงของเขาหนักแน่นและก้องอยู่เป็นเวลานาน

เขาสาบานในใจ แม้ว่าคนอื่นจะไม่สามารถรับรู้ได้ แต่ดวงจิตแห่งพิภพที่ถือกำเนิดจากฟ้าดินต้องรับรู้ได้ถึงเรื่องนี้อย่างแน่นอน หากหัวใจของเขาไม่จริงใจก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากประสาทสัมผัสของดวงจิตนี้ไปได้แน่นอน

ดังนั้นไม่นานหลังจากที่มู่เฉินสัญญา ดวงจิตแห่งพิภพก็ระเบิดออกพร้อมกับแสงดาวฤกษ์มวลมหาศาลนับไม่ถ้วนประหนึ่งข้อความจากสวรรค์

เมื่อมู่เฉินเห็นฉากนี้ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น เขารู้ว่าดวงจิตนี้ยอมรับแล้ว…

ดังนั้นร่างกายของเขาที่นอกภูเขาเสี่ยหมัวก็หายวับ ด้วยความคิดครั้งเดียวและมาปรากฏที่นี่

จิตของมู่เฉินกลับคืนสู่ร่าง สายตามองไปยังลูกกลมมหานวดาราก่อนที่เขาจะผ่านแนวป้องกัน พลิ้วตัวลงบนลูกกลม

เขานั่งลงปิดตาค่อยๆ เข้าไปในขอบเขตของลูกกลมอันวุ่นวาย

เวลาที่นี่ช้าลง ซึ่งเป็นเรื่องดีที่เขาจะได้มีเวลาบรรลุระดับเทียนจื้อจุน

เมื่อร่างกายเข้าสู่ลูกกลม มู่เฉินก็ตัวสั่นสะท้าน เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานมหานวดาราไร้ขอบเขตที่มาจากทุกทิศทางขณะที่ไหลลงสู่หัวใจ

ตู้ม!

คลื่นมหานวดารามีต้นกำเนิดจากพิภพเขตล่าง ช่างไร้ขอบเขตและยิ่งใหญ่ แม้กระทั่งในมหาพันภพก็ถือได้ว่าเป็นพลังงานชั้นยอด แต่สามารถพบได้ในสถานที่ที่จิตวิญญาณของพิภพถือกำเนิดเท่านั้น

เมื่อรู้สึกถึงพลังงานไร้ขอบเขต มู่เฉินก็หมุนเวียนทักษะการเพาะบ่มทันที ร่างกายเขาสั่นสะท้าน คล้ายกับปากที่หิวโหยขณะกลืนกินพลังงาน

เพียงไม่กี่สิบลมหายใจ มู่เฉินก็รู้สึกราวกับว่ากินของเหลวจื้อจุนไปสักสองสามพันล้านหยด หัวใจของเขาสั่นระรัว ไม่คิดว่าดวงจิตแห่งพิภพจะบริสุทธิ์และไร้ขอบเขตปานนี้ สมกับการเป็นจิตวิญญาณที่เกิดระหว่างฟ้าดินอย่างแท้จริง

เมื่อความคิดของเขาไหลเวียน เขาก็สงบจิตใจจมดิ่งสู่การบ่มเพาะพลัง

ในสถานที่แห่งนี้ เวลาไหลเวียนเชื่องช้า มู่เฉินจึงไม่ได้กังวล เขาปล่อยให้พลังงานหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

มู่เฉินเหมือนอยู่ในสภาพนี้ไปหลายสิบปี ร่างของเขาราวกับก้อนหินที่ไม่มีการเคลื่อนไหว แม้แต่ลมหายใจก็แผ่วลง

 

เวลาเคลื่อนช้าลงในสภาวะความวุ่นวาย

มีเพียงพลังงานมหานวดาราเท่านั้นที่หลั่งไหลเข้ามาในศีรษะของมู่เฉินอย่างไม่มีที่สิ้นสุด…

สถานะนี้คงอยู่เป็นเวลานาน จนในที่สุดการเปลี่ยนแปลงก็ปรากฏขึ้นกะทันหัน

วันหนึ่ง จู่ๆ ร่างกายของมู่เฉินก็สั่นสะท้าน อึดใจถัดมาดวงตาเขาก็ค่อยๆ เปิดขึ้น

ฮึ่ม!

เมื่อเขาลืมตาขึ้น แสงแพรวพราวก็ยิงออกมาจากดวงตา ก่อนที่จะยิงเข้าไปในมหานวดาราแล้วหายไป

มู่เฉินค่อยๆ กำหมัดแน่น สัมผัสได้ถึงคลื่นหลิงไร้ขอบเขตในร่างกาย เขาตัวสั่นเบาๆ ราวกับว่ามีเสียงฟ้าร้องดังก้องในร่างนับไม่ถ้วน

ตู้ม!

รัศมีระเบิดออกจากร่างมู่เฉิน จากนั้นร่างกายก็เริ่มขยาย

ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจก็ขยายถึงหนึ่งพันจั้ง ขณะนั่งอยู่ท่ามกลางมหานวดาราแรกเริ่ม

ร่างกายของเขาเปล่งประกายรัศมีศักดิ์สิทธิ์ ดูราวกับดวงอาทิตย์ที่เปล่งประกายแวววาวในความวุ่นวายนี้

เมื่อมองไปที่ร่างกายตนเอง มู่เฉินก็รู้สึกได้ถึงทั่วสรรพางค์กายและเลือดที่บรรจุด้วยพลังงานไร้ขอบเขต

คลื่นหลิงเติมเต็มในร่างกาย มากจนเขาไม่สามารถรับเพิ่มได้อีกแม้แต่น้อย

รู้สึกเหมือนว่าทะเลสาบที่เอ่อล้นจนถึงขีดจำกัด หากเพิ่มอีกสักหยดก็จะทำให้ทะเลสาบรั่วไหล

ขณะนี้เขามาถึงจุดสูงสุดภายใต้ระดับเทียนจื้อจุนแล้ว ตามการคาดการณ์หากเขาเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ที่สัมผัสกับระดับเทียนจื้อจุนในตอนนี้ เขาสามารถสังหารพวกเขาได้อย่างง่ายดายด้วยพลิกฝ่ามือ

เมื่อมาถึงจุดนี้ เขาก็สัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของกำแพงกั้นเส้นทางของเขา

“ดูเหมือนว่านี่จะเป็นอุปสรรคที่ขวางระดับเทียนจื้อจุน…”

ใบหน้าของมู่เฉินตกอยู่ในความครุ่นคิด ตอนนี้เขามาถึงจุดสุดแล้ว สิ่งนี้อาจทำลายอุปสรรคได้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะระเบิดร่างตัวเอง ถึงตอนนั้นเมื่อเกิดผลสะท้อนกลับของคลื่นหลิงก็จะถึงคราวสิ้นชีพของเขา

ผลลัพธ์ที่แตกต่างสุดขั้วสองแบบนี้น่ากลัวจนไม่กล้าที่จะเสี่ยงลอง

สายตาของมู่เฉินวูบไหวก่อนที่จะคมปลาบขึ้น เส้นทางแห่งการฝึกฝนขุมพลังเต็มไปด้วยภัยพิบัติตั้งแต่เริ่มก้าวเดิน ถ้าเขาต้องการไปถึงจุดสูงสุดก็ต้องมีความกล้าหาญ วันนี้เป็นโอกาสของเขา ถ้าเขาละไปก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะมีโอกาสได้รับอีกครั้ง

คิดถึงจุดนี้ สีหน้าของมู่เฉินก็เปลี่ยนเป็นแน่วแน่โดยปราศจากความลังเลและหวาดกลัว

เขาเงยหน้าขึ้นมองเข้าไปในความว่างเปล่าและพูดว่า “โปรดช่วยข้าทำลายอุปสรรคที่ขวางการบรรลุระดับเทียนจื้อจุนด้วย!”

มหานวดารายังคงนิ่งเงียบชั่วครู่ ก่อนที่ลูกกลมจะลอยขึ้นและหดตัวลงทันที จากนั้นก็กลายเป็นลำแสงพุ่งใส่ศีรษะของมู่เฉิน

มู่เฉินหายใจเข้าลึกพลางหลับตาลง

ความสำเร็จหรือความล้มเหลวทั้งหมดขึ้นอยู่กับสิ่งนี้!