บทที่ 932 ในที่สุดไชยันต์ก็ล้มลง

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 932 ในที่สุดไชยันต์ก็ล้มลง

“ใช่”

ในที่สุดไชยันต์ก็เอ่ยปากพูดแล้ว สีหน้าของเขาดูแย่มาก แม้แต่เส้นเลือดแดงในตาทั้งสองข้างก็เผยออกมาให้เห็นแล้ว เหมือนกับว่าแก่ลงไปอย่างมากภายในชั่วข้ามคืน

เขาโบกมือ ไม่นานก็มีคนของกรมทหารส่งวิดีโอเทปมาให้

คนในห้องรัฐสภาก็เงียบลง จากนั้น ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังบนหน้าจอ LED ขนาดใหญ่ ครู่หนึ่งก็มีวิดีโอช่วงหนึ่งปรากฏออกมา

“โอ้วพระเจ้า เขาสามารถเปิดกุญแจล็อกนี้ได้!!”

เมื่อหน้าจอเปลี่ยนให้เห็นเป็นวิดีโอนี้ ทันใดนั้น ทุกคนต่างก็มองเห็นเงาดำเงาหนึ่งในความมืดที่เหมือนกับวิญญาณแอบย่องเข้าไปในกรมทหาร

แต่ นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่ทำให้พวกเขาต้องตกใจที่สุด

สิ่งที่ทำให้พวกเขายากที่จะเชื่อได้ก็คือ พวกเขาเห็นว่าเงาดำนี้เดินมาถึงหน้าประตูของเขตลับแล้ว เขาไม่ได้ใช้วิธีอื่นเพื่อจะมาเปิดประตูบานนี้

แต่ใส่รหัสเข้าไปโดยตรง และหลังจากที่สแกนลายนิ้วมือของเขาแล้ว

“แกร๊ก—“

ประตูอันหนักอึ้งนั้นที่แม้แต่ใช้กระสุนปืนใหญ่ยิงก็เกรงว่าจะเปิดไม่ออก กลับถูกเปิดออกแล้วจริงๆ!

โอ้พระเจ้า!

นี่มันคือเรื่องอะไรกันแน่? ประตูใหญ่ของเขตลับกรมทหาร ทำไมคนคนนี้ถึงเปิดออกได้?

ประตูนี้ ไม่ใช่เปิดออกได้เฉพาะคนที่มียศศักดิ์สูงในกรมทหารเหรอ?

ทุกคนต่างพากันตกตะลึงอ้าปากค้าง

เพราะว่า พวกเขาไม่ใช่คนนอก และต่างก็เป็นระดับผู้นำ สำหรับกฎเกณฑ์ของกรมทหารทางนั้น แน่นอนว่าพวกเขาทราบดีอยู่แล้ว

ยกเว้นแสนรัก หลังจากที่เขาเห็นสิ่งนี้แล้ว คิ้วกับดวงตาที่นิ่งและเย็นชามาตลอด ในที่สุดก็กระดิกขึ้น

ตาแก่คนนี้ ปล่อยออกมาจริงๆ?

“คุณท่านไช นี่ท่านหมายความว่าอะไร? จะว่าไป คือมีคนแอบเข้าไปทำร้ายหลานชายของท่าน?”

“ใช่!”

ไชยันต์กัดฟันและพยักหน้ารับอย่างไม่ลังเลอีกครั้ง

ทันใดนั้น ในห้องรัฐสภาแห่งนี้ก็เดือดพล่านขึ้นอีกครั้ง พวกเขาเริ่มพูดคุย เริ่มขุ่นเคืองและโกรธเคือง เพราะว่า นั่นคือกรมทหาร คือสถานที่ปกป้องรักษาประเทศ และก็ยังปกป้องรักษาต่อความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนทุกคน

ทำไมจึงปล่อยให้คนสามารถแอบบุกรุกเข้าไปได้อย่างพลการ?

“เขาเป็นใครกันแน่? ตามสืบตัวได้ไหม? ตามตัวมาได้จะสับมันออกเป็นชิ้นๆ!”

“ใช่ แบบนี้มันป่าเถื่อนเกินไปแล้ว นี่เห็นกรมทหารของพวกเราเป็นอะไรกัน? สถานที่ปลอดคนเหรอ? ถึงได้เข้าไปอย่างไม่เกรงกลัวได้ขนาดนี้?”

“มันน่าเกลียดเกินไปแล้ว!”

ภายในไม่กี่วินาที ผู้คนในห้องรัฐสภาแห่งนี้โกลาหลจนแทบควบคุมไว้ไม่อยู่

ไม่มีทางเลือก กรมทหารไม่ใช่สถานที่ทั่วไป ถ้าหากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ พวกเขาเหล่านี้ก็จำเป็นต้องกังวลใจเป็นอย่างมาก

หัวหน้าอัยการสูงสุดเห็นแล้ว สายตาก็มองไปยังท่านไชยันต์

ชายคนนี้ เขายังคงหวังว่าคุณท่านท่านนี้จะเอ่ยปากพูดออกมาเอง เพราะว่า เขาไม่อยากจะทิ่มแทงตรงหัวใจเขาไปมากกว่านี้แล้ว

แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องตกตะลึงไปชั่วครู่อีกครั้งก็คือ เมื่อสายตาของเขามองข้ามผ่านกลุ่มคนคณะรัฐมนตรีเหล่านั้นไป เขากลับพบว่าสีหน้าท่าทางของพวกเขานั้นนิ่งสงบเป็นอย่างมาก

ถึงขั้นที่ดูเหมือนว่ากำลังอดใจรอไม่ไหวกับการรอดูอะไรสนุกๆ

เกิดอะไรขึ้น?

ทำไมพวกเขาถึงมีปฏิกิริยาแบบนี้? สำหรับเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าสุดท้ายคนที่ให้รหัสผ่านกับลายนิ้วมือแก่เงาดำนั้น ก็คือไชกุ

แต่ผู้บงการอยู่เบื้องหลังคือคนของพวกเขาถึงจะถูกสิ

ในใจหัวหน้าอัยการสูงสุดรู้สึกกระตุกเล็กน้อย ทันใดนั้น เขาก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีปะทุขึ้นมา

“เขา….”

“พวกคุณไม่ต้องไปถามเขาแล้ว ปัญหานี้ ฉันจะเป็นคนตอบเอง!” ยังไม่ทันพูดจบ ชายชราที่นั่งอยู่ตรงนั้นลุกพรวดขึ้นมาจากบนเก้าอี้ และก็โบกมือ!ขัดจังหวะเขา

แสนรัก : “……”

และไชกุที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา หลังจากที่เห็นฉากนี้แล้วก็ยิ่งล้มพับลงไปทันที

“พ่อ….”

“ที่คนคนนี้แอบเข้าไปได้ ก็ล้วนแต่เป็นเพราะมีคนบอกรหัสกุญแจ และยังให้แผ่นลายนิ้วมือกับเขาด้วย และคนคนนี้ก็คือลูกชายอกตัญญูที่นั่งอยู่ด้านข้างฉันคนนี้!”

ไชยันต์ไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่เขายืนอยู่ตรงนั้นและพูดคนคนนี้ออกมาอย่างน่าเกรงขามและเต็มด้วยความชอบธรรม แล้วถึงจะหันหน้าไปมองอย่างดุดัน ดวงตาชราสีแดงก่ำคู่นั้นก็จ้องมองไปยังลูกชายที่ล้มพับอยู่ข้างๆตัวเองอย่างไม่ละสายตา

หน้าตาและสีหน้าแบบนั้นมันช่าง…….

แสนรักกำนิ้วมือไว้แน่น

ในที่สุด เขาก็หันหน้าหลบมา ไม่ได้ไปมองฉากฉากนั้นอีก

ทั้งในห้องรัฐสภาก็ระเบิดไปโดยปริยาย!

ซึ่งเหมือนกับว่าจู่ ๆ โยนลูกระเบิดลูกหนึ่งเข้าไป หลังจากที่มีเสียง “บึ้ม” คนทั้งในห้องโถงก็ระเบิดกระจัดกระจาย

โอ้พระเจ้า!

พวกเขาฟังไม่ใช่ผิดใช่ไหม? คนคนนี้ก็คือลูกชายแท้ๆ ของชายชราท่านนี้?

ทำไมล่ะ?

พวกเขาไม่ใช่คนในครอบครัวเดียวกันเหรอ? อีกอย่าง ขุนนายซึ่งเป็นพ่อของ วสุ ก็ตายไปนานแล้ว ไม่ง่ายเลยกว่าที่จะตามหาตัวเขากลับมา ไชกุในฐานะพี่ชาย ก็ควรจะดูแลเอาใจใส่ถึงจะถูก

ทำไมยังต้องทำร้ายเขา? ทำเรื่องแบบนั้นต่อเขา?

ทุกคนต่างพากันตกใจจนพูดอะไรไม่ออก!

พวกเขายิ่งคิดก็ยิ่งคิดไม่ออกว่า ไชกุคนนี้ ทำไมต้องทำแบบนี้?

และในเวลานี้เอง ไชยันต์ที่ยืนจ้องมองลูกชายอยู่เป็นเวลานาน ก็แกว่งหวัดหนึ่งเข้าไป : “แกพูดมา ทำไมแกยังไม่พูด? ทำไมแกต้องทำร้ายหลานชายแกอย่างนี้?”

เขาแทบจะร้องไห้เป็นสายเลือดแล้วจริงๆ!

เพราะว่าทุกๆ คำที่ตะโกนออกมาจากในคอของเขานั้น ล้วนแต่สั่นระรัวและได้ยินถึงความเศร้าโศกและความเจ็บปวดของเขา คนที่อายุแปดสิบปีแล้ว ยังมีที่หน้าอกของเขามันเต้นขึ้นลงจนทำให้คนเป็นห่วงว่าเขาจะทนไม่ไหวและเป็นลมล้มลงไปในวินาทีถัดมา

โชคดีที่ในตอนท้ายไชกุยอมเอ่ยปากพูดแล้ว