ตอนที่ 759 นางก็คือ.... / ตอนที่ 760-1 ร่างกายรู้สึกเกียจคร้านอยู่บ้าง

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ตอนที่ 759 นางก็คือ….  

 

 

ไม่รอให้ตี้เสียเอ่ยพระโอษฐ์ถาม นางก็ทั้งหัวเราะและร้องไห้ออกมาพร้อมๆกัน “หยกสรรพชีวิตที่ท่านแสวงหามาโดยตลอด ที่จริงแล้วก็เกิดจากร่างที่ตายไปแล้วของจู่ฮว๋าย!” 

 

 

“และหยกสรรพชีวิตที่สมบรูณ์ ก็คือแก่นวิญญาณของนางนั่นเอง” 

 

 

“สามารถพูดได้ว่า จู่ฮว๋ายก็คือหยกสรรพชีวิตที่แท้จริง หากจะได้สิ่งที่ท่านต้องการมาโดยตลอด ก็ต้องฆ่านาง จิตวิญญาณของนางก็คือหยกสรรพชีวิตที่สมบูรณ์!” 

 

 

ฮว๋ายยู่พูดพลาง เลือดก็ยังคงไหลออกจากท้องไปพลาง 

 

 

ความลับนี้ เกรงว่าทั่วทั้งใต้หล้าคงจะมีแต่นางที่ล่วงรู้เพียงผู้เดียวเท่านั้น 

 

 

ใช่แล้ว ก็นางกำเนิดมาจากเลือดในแก่นชีวิตของจู่ฮว๋ายนี่นา แน่นอนว่าย่อมต้องเข้าใจจู่ฮว๋ายที่สุดแล้ว 

 

 

นางรู้ดี ว่าตลอดหลายปีมานี้ตี้เสียเสาะหาหยกสรรพชีวิตอยู่เสมอ ตี้เสียเป็นคนที่มีจิตใจละโมภอยู่แล้ว 

 

 

อย่าว่าแต่ที่เกิดสงครามเทพภูติในตอนนั้น เหตุทั้งหมดก็เป็นเพราะว่าเขาต้องการแย่งชิงหยกสรรพชีวิตนั่นเอง 

 

 

แต่ว่าเขาคงจะคิดไม่ถึงว่า สุดท้ายแล้วก็จะมากลายเป็นผลลัพธ์เช่นนี้สินะ? 

 

 

และฮว๋ายยู่รู้ดีว่า ระหว่างอำนาจและโฉมสคราญ ตี้เสียจะต้องเลือกอย่างแรกอย่างแน่นอน 

 

 

“ได้รู้แล้ว ท่านยังต้องการให้ข้าพานางมาอีกหรือไม่?” ฮว๋ายยู่เงยหน้าขึ้นมา มองดูดวงพักตร์งดงามไร้ที่เปรียบของเขา นางรักบุรุษผู้นี้มานานปี แบกรับความทรมานแทนเขามามากมาย แต่ว่าจนถึงวันนี้นางถึงได้รู้ว่า หัวใจของเขาไม่ได้มีนางเลยสักนิด 

 

 

มิเช่นนั้น….เขาจะลงมือคว้าบุตรของนางออกไปด้วยตนเองได้อย่างไร ทั้งยังกินลงไปต่อหน้าต่อตานางอีกด้วย? 

 

 

หากเปลี่ยนเป็นสามีคนใดก็ได้ในใต้หล้า เกรงว่าคงจะไม่มีผู้ใดที่จิตใจโหดเหี้ยมเช่นนี้อีกแล้ว! 

 

 

แม้ว่าสุดท้ายแล้ว นางจะจำยอมเพราะพ่ายแพ้ต่อจิตใจของตนเอง 

 

 

ตี้เสียได้ยินที่นางพูด กลับมิได้มีสีหน้าที่ครุ่นคิดด้วยความกังวลเลยสักนิด 

 

 

“เป็นสามีภรรยากันมานานหลายปี เจ้ากลับปิดบังเราอย่างยากลำบาก” ดวงเนตรคู่นั้นหรี่ลง ในแววตามีแต่ความเหน็บหนาวที่สามารถแช่แข็งผู้คน 

 

 

ฮว๋ายยู่ตะลึงไปครู่หนึ่ง รู้สึกเหมือนกับว่าร่างทั้งร่างตกลงไปในสายธารน้ำแข็ง 

 

 

“อย่าให้เราต้องพูดเป็นรอบที่สาม ไปนำนางมาหาเรา” ตรัสแล้ว พระองค์ก็เสริมอีกประโยค “พามาอย่างมีชีวิต” 

 

 

ฮว๋ายยู่อ้าปากค้าง แต่มิได้กล่าวอะไรออกไป 

 

 

ได้แต่น้ำตาไหลอย่างไร้เสียง มือที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของนางพยายามจะคว้าท่อนพระกรของตี้เสียเอาไว้ แต่แล้วมือที่มีแต่เลือดนั้นกลับลื่นไหลลงมาท่อนขาของพระองค์อย่างสิ้นไร้เรี่ยวแรง 

 

 

ในอากาศมีแต่กลิ่นคาวเลือด ตี้เสียสุดท้ายก็ก้มลงมามองดูนางแวบหนึ่ง 

 

 

พลังวิญญาณสายหนึ่งผุดขึ้นจากใจกลางพระหัตถ์ และตบลงไปบนหน้าท้องของนาง จากนั้นเนื้อที่เป็นรูกลวงนั้นก็ประสานเข้าหากันอย่างรวดเร็วจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า 

 

 

ใช่แล้ว เขาต้องการให้ฮว๋ายยู่ไปพาจู่ฮว๋ายมา หากปล่อยให้นางไปทั้งๆที่บาดเจ็บหนักก็คงจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ 

 

 

ความเจ็บปวดบนร่างกายเบาบางลงไป แต่ว่าในใจกลับเจ็บปวดกว่านับร้อยนับพันเท่า 

 

 

ผ่านไปอีกพักใหญ่นางถึงค่อยลุกขึ้นยืนได้ น้ำตาหยุดไหลไปแล้ว นางยอบร่างลงตรงหน้าตี้เสีย เอ่ยเสียงเบาว่า “ได้ ข้าจะไปพานางกลับมา” 

 

 

ตี้เสียโบกพระหัตถ์ในทันที ไม่สนพระทัยจะแลดูแสงสีแดงในแววตาของฮว๋ายยู่เลยสักนิด” 

 

 

รอจนนางล่าถอยออกไปจากตำหนักแล้ว นางจึงได้ตรงไปยังลานประหารเทพ 

 

 

ลานประหารเทพอยู่กึ่งกลางของสายธารดาราที่ตี้เสียมอบให้กับนางนั่นเอง 

 

 

ใจกลางของสายธารดาราที่แสนจะงดงาม มีกระแสน้ำวนสีเงินอยู่สายหนึ่ง รอบด้านของมันหมุนวนอย่างคุ้มคลั่ง ลานประหารเทพทอแสงลึกลับสายหนึ่งออกมา 

 

 

ฮว๋ายยู่ยืนอยู่ในที่เดิมเนิ่นนาน สุดท้ายค่อยใช้มือที่เปื้อนเลือดปลดเอาผ้าผูกผมบนศีรษะลงมา แล้วทิ้งลงไป 

 

 

ผ้าผูกผมถูกฉีกทึ้ง กลายเป็นขี้เถ้า สลายไป 

 

 

นั่นเป็นของแทนใจที่ตี้เสียเคยประทานให้กับนาง….. 

 

 

แต่ว่าที่จริงแล้วเขาไม่เคยมีความรัก เช่นนั้นนี่จะถือเป็นของแทนใจได้อย่างไรกัน 

 

 

ที่สุดแล้วก็เป็นเพียงสิ่งของที่ไร้ค่าใดๆชิ้นหนึ่งเท่านั้น………… 

 

 

…………………………… 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 760-1 ร่างกายรู้สึกเกียจคร้านอยู่บ้าง 

 

 

น่าขำที่นางเฝ้าทนุถนอมด้วยหัวใจมานาน สุดท้ายแล้วก็เป็นเพียงแค่เรื่องน่าขำเรื่องหนึ่งในใต้หล้าเท่านั้น 

 

 

ฮว๋ายยู่จดจ้องไปที่ลานประหารเทพ แม้แต่ตัวนางเองก็มิได้รู้สึกเลยว่าหางตากำลังหลั่งน้ำตาออกมาเป็นสายเลือด 

 

 

………….. 

 

 

บนแผ่นดินโบราณ หวงตู เมืองหลวงของแคว้นต้าโจว 

 

 

ฮ่องเต้หญิงและตี้โฮว่อภิเษกสมรสกันครบหนึ่งเดือนกว่าแล้ว เพราะเรื่องนี้ทั่วทั้งแผ่นดินจึงเปลี่ยนเป็นรุ่งเรืองยิ่งกว่าเดิม 

 

 

หยวนเมิ่งกลายเป็นหนึ่งในสิบยมราชคนใหม่ เดิมทีเหล่ายมราชทั้งหลายต่างให้ความสนอกสนใจต่อสาวน้อยที่มารับตำแหน่งใหม่นี้อย่างยิ่ง แต่พอได้รู้แน่ว่าแต่เดิมนางก็คือองค์หญิงเผ่ามารหลีเกอ แต่ละคนก็มีสีหน้าอ้ำอึ้งไปตามๆกัน 

 

 

แต่ว่าหากเปรียบเทียบกับคนทรยศซ่งชิงไต้ที่ไร้น้ำใจผู้นั้นแล้ว องค์หญิงเผ่ามารผู้นี้ยังน่ายอมรับมากกว่านัก 

 

 

เพียงแต่ว่านับตั้งแต่หยวนเมิ่งกลับมาเกิดใหม่ ในดวงตาของนางก็มีแต่เพียงตู๋กูซิงหลันผู้เดียวเท่านั้น 

 

 

วันๆก็คอยเอาแต่อยู่ที่ข้างกายนางตลอดเวลา กลายเป็นผู้คุ้มครองด้วยสีหน้าไร้อารมณ์อยู่ตลอด 

 

 

จีเฉวียนก็ไม่มีอะไรจะใช้งานนางเป็นพิเศษ พละกำลังของนางก็สู้ตู๋กูซิงหลันไม่ได้ จึงได้แต่ให้นางคอยอยู่เป็นเพื่อนคุยแก้เหงาที่ข้างกายซิงซิง 

 

 

ช่วงนี้จีเฉวียนยังยุ่งกว่าตอนที่พึ่งแต่งงานไม่น้อย ไม่อาจจะคอยอยู่ข้างกายนางได้ตลอดเวลา 

 

 

เดิมทีตู๋กูซิงหลันก็ออกจะดีใจอยู่ พี่สาวต๋าจี่กับซูเยาล้วนกลับไปยังหุบเขาหมื่นปีศาจแล้ว แม้แต่จีเย่ว์ก็ยังนำจิตวิญญาณของร่างเดิมออกร่อนเร่ไปแล้ว พวกตัวน่ารักน้อยที่จะคอยพูดคุยด้วยกับนางก็ไม่มีเสียแล้ว 

 

 

เดิมทีนางยังหวังว่าจะมีเสี่ยวหยวนหยวนเป็นเพื่อนคุยกับนางให้มากหน่อย แต่ใครจะไปรู้ว่าเสี่ยวหยวนหยวนจะกลายเป็นแบบนี้ไป 

 

 

ขาดเจ็ดอารมณ์หกปรารถนา คำพูดคำจาก็น้อยลงไปมา เย็นชาเป็นน้ำแข็งอยู่เสมอ แม้แต่ยิ้มยังทำไม่เป็นแล้ว 

 

 

แต่ว่าพี่ใหญ่ของนางสิ ศีรษะท่อนไม้นั่นพอถูกทุบแตก เกือบทุกวันเป็นต้องเข้าวังมา กระตือรือล้นยิ่งนัก 

 

 

แต่ว่าเสี่ยวหยวนหยวนกลับไม่ได้เหลือบแลเขาเลยสักนิด 

 

 

เจ้าตัวร้ายผู้นี้ เรื่องนี้ถึงกับให้บทเรียนตู๋กูซิงหลันอย่างจริงจังเรื่องหนึ่ง นี่เรียกว่า ‘เมียเสือดุขึ้นมา ต้องไล่ง้อเมียไปจนเผาผี’