ตอนที่ 2274

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,274 : พบหวงฉี่หลิงอีกครั้ง!

 

ในขณะที่ข่าวผิดเพี้ยน อันไม่เอื้ออำนวยต่อสถานการณ์ของต้วนหลิงเทียนกำลังแพร่ไปทั่ววังเซียนสัญจรนั้น

 

พลันปรากฏข่าวใหญ่อีก 2 ข่าวแพร่ตามออกมาฉับไว ไม่นานก็เริ่มได้ยินไปทั่ววังเซียนสัญจร

 

“หืม? สาเหตุที่เฉินอันถูกฆ่าตาย…เป็นเพราะเฉินอันมันไม่เพียงแต่จะดูแคลน กระทั่งยังไปกล่าววาจาแทะโลมสตรีของยอดฝีมือผู้นั้นก่อนงั้นเหรอ?”

 

“สาเหตุที่เฉินตงตกตายเป็นเพราะคับแค้นที่ลูกชายถูกฆ่าตาย มันจึงลงมือกับยอดฝีมือผู้นั้นโดยไม่สนใจเรื่องราวอันใด…”

 

หลังจากที่ 2 ข่าวนี้แพร่ออกมา ก็นับว่าสร้างความฮือฮาไปทั่ววังเซียนสัญจรอีกครั้ง

 

ต้องทราบด้วยว่า

 

ก่อนหน้านี้เป็นพวกมันมองว่าเฉินอันนั้นเป็นดั่งคนอ่อนแอที่ถูกผู้อื่นหาเรื่องรังแกจนตาย และบิดาของเฉินตงที่คิดล้างแค้นอย่างชอบธรรมกลับถูกเข่นฆ่าทิ้งไปอย่างอำมหิต! จึงทำให้คนของวังเซียนสัญจรย่อมเข้าข้างพวกมันสองพ่อลูกเป็นธรรมดา!!

 

แต่ตอนนี้พอมีข่าวเรื่องราวใหม่แพร่ออกมา ทำให้คนวังเซียนสัญจรมากมายเปลี่ยนทัศนคติทันที หลายคนไม่คิดเข้าข้างพ่อลูกสกุลเฉินอีกต่อไป

 

“ว่าแต่สองข่าวที่ออกมาใหม่นี่…เป็นความจริงแน่รึ?”

 

หลายคนยังกังขากับความเป็นจริงของข่าว

 

เพราะสุดท้าย 2 ข่าวใหม่ก็แพร่กระจายตามชุดแรกมาติดๆ ราวกับมีคนจงใจเผยแพร่มันออกมา

 

“สมควรเป็นความจริง…เพราะ 2 ข่าวล่าสุดที่แพร่ออกมานั้น เป็นผู้ที่อยู่ในหน่วยลาดตระเวนเดียวกันกับเฉินอันเผยแพร่ออกมาเอง เทียบกับคนที่ซ่อนตัวดูเรื่องราวอยู่ไกลๆย่อมมีความน่าเชื่อถือมากกว่า”

 

“อืม คนวงในย่อมรู้แจ้งเห็นจริงกว่าคนวงนอก”

 

ทันใดนั้นเรื่อราวก็แพร่กันปากต่อปากจากสิบเป็นร้อยจากร้อยเป็นพัน…

 

สุดท้ายแทบทุกคนในวังเซียนสัญจรก็ได้รับทราบเรื่องราวดังกล่าว

 

การกระทำของพ่อลูกสกุลเฉิน กล่าวได้ว่ารนหาที่ตายแท้ๆ…!

 

แต่แน่นอนว่ายังมีบางคนที่ยังเข้าข้างพ่อลูกสกุลเฉินโดยไม่สนข้อเท็จจริง ด้วยเห็นว่าอย่างไรนี่ก็คนในส่วนอีกฝ่ายนั้นเป็นคนนอก!!

 

“เฮอะ! เรื่องราวจะเป็นเช่นไรยังจะสนทำอะไร ที่แน่ๆคือสหายวังเซียนสัญจรของพวกเราถูกผู้อื่นเข่นฆ่า…กระทั่งยังเข่นฆ่ากันหน้าวัง! เจ้านั่นกล้าลงมือเช่นนี้…ใช่มันยังเห็นหัววังเซียนสัญจรของพวกเราอยู่หรือไม่!?”

 

“ถูกแล้ว! อย่าปล่อยให้ตัวเสียสตินั่นรอดพ้นไปได้ง่ายๆ!!”

 

“ความผิดเพียงเล็กน้อยกลับฆ่าคน! หากตัวเสียสติที่กล้าฆ่าคนไม่เห็นหัววังเซียนสัญจรเราไม่ชดใช้ด้วยชีวิต ต่อไปวังเซียนสัญจรเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด?”

 

“ฝีมือมันร้ายกาจแล้วจะอย่างไร พวกเราส่งรายชื่อไปร้องขอความเป็นธรรมกับท่านจ้าววังเถอะ! ให้ท่านจ้าววังออกหน้าฆ่ามันเสีย!!”

 

……

 

ในขณะที่ข่าวเรื่องราวข้อเท็จจริงพึ่งแพร่ออกไปและทำให้เสียงในวังเซียนสัญจรแตกแยกไม่ได้เห็นพ้องต้องกันเป็นเอกฉันท์ ก็มีข่าวใหญ่อีกข่าวแพร่ออกมา

 

“ยอดฝีมือหนุ่มที่ฆ่าพ่อลูกสกุลเฉินยังเป็นคนเผ่าปีศาจมนุษย์สายเลือดแท้…และที่มายังวังเซียนสัญจรของพวกเราคราวนี้เพราะคิดเข้าร่วมกับวังเซียนสัญจรของพวกเรา? หากแต่กลับได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากเฉินอัน จึงบังเกิดความไม่พอใจจนฆ่าเฉินอันที่เป็นศิษย์ลาดตระเวนของวังเซียนสัญจรเราทิ้ง?”

 

ได้รับทราบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ทำให้ปากเสียงทั้งหลายในวังเซียนสัญจรเริ่มสงบลง

 

คนเสียสติที่พวกมันว่ากันปาวๆ เป็นเผ่าปีศาจมนุษย์ที่มีสายเลือดบริสุทธิ์เหมือนกัน?

 

เป็นพวกเดียวกันงั้นเหรอ?

 

อีกทั้งที่อีกฝ่ายดั้นด้นมาถึงวังเซียนสัญจร ล้วนเพราะคิดเข้าร่วมกับวังเซียนสัญจรแต่แรก?

 

หลังเงียบไปพักหนึ่ง ไม่นานทั่ววังเซียนสัญจรก็ฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง

 

“สวรรค์! ยอดฝีมือผู้นั้นที่แท้เป็นมนุษย์แท้เหมือนพวกเรา? อีกทั้งยังตั้งใจมาเข้าร่วมวังเซียนสัญจรของพวกเราแต่แรก? แต่คนของพวกเรากลับไปหาเรื่องอีกฝ่ายเขาก่อน?”

 

“ให้ตายเถอะ! นั่นมันยอดฝีมือที่ฆ่าอาวุโสหลินหย่วนได้ง่ายๆ เห็นชัดว่าสมควรเป็นตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนไม่ผิดแน่…ต่อให้พลังฝีมือของคนผู้นั้นอาจเทียบท่านจ้าววังของพวกเราไม่ได้ แต่ข้าเกรงว่าคงมิได้อ่อนด้อยกว่าท่านจ้าววังมากใช่หรือไม่?”

 

“บัดซบ! ยอดฝีมือเช่นนี้อุตส่าห์เดินมาหาถึงหน้าประตูบ้าน แต่พ่อลูกสกุลเฉินพวกมันกลับ…บัดซบ! โง่! โง่งมนัก! พวกมันล้วนเป็นตัวโง่งมนัก!!”

 

“เฮอะ! พ่อลูกสกุลเฉินใช่รับประทานหญ้าแทนข้าวหรือไม่? ตายไปก็สมควรแล้ว! หากพวกมันจะโทษก็จงโทษตัวเองเถอะ!!”

 

……

 

เรียกว่าจังหวะนี้ไม่เหลือผู้ที่ถือหางพ่อลูกสกุลเฉินหลงเหลืออยู่ในวังเซียนสัญจรอีกต่อไป

 

และเหตุผลสำคัญของเรื่องนี้ก็คือ

 

เพราะชายหนุ่มคนนั้นไม่เพียงแต่เป็นอาจจะเป็นตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน หากแต่ยังเป็นมนุษย์สายเลือดบริสุทธิ์ดุจเดียวกับพวกมัน…!

 

แน่นอนว่าที่สำคัญที่สุดก็คือ ยอดฝีมือผู้นั้นตั้งใจมาเข้าร่วมวังเซียนสัญจรของพวกมัน…

 

ตัวตนที่มีพลังฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน หากเข้าร่วมกับวังเซียนสัญจรของพวกมัน มิใช่กำลังรบของวังเซียนสัญจรของพวกมันจะเพิ่มขึ้นครั้งมโหฬารหรือไร!?

 

นั่นเป็นเรื่องอันดีงามสำหรับทุกชีวิตในวังเซียนสัญจร!!

 

ถึงแม้คนในววังเซียนสัญจรมักเรียกหาตัวเองว่าเป็นเผ่าปีศาจมนุษย์ แต่ลึกๆแล้วทุกคนต่างรู้ตัวกันดี ว่าพวกมันหาใช่ปีศาจอันใดทั้งสิ้น แต่เป็นมนุษย์มิเกี่ยวอันใดกับปีศาจ! เลือดในกายทั้ง 10 ส่วนล้วนเป็นเลือดมนุษย์บริสุทธิ์!!

 

ไม่ต้องกล่าวถึงเผ่าปีศาจอันใด กระทั่งนับแค่เผ่าปีศาจมนุษย์ พวกมันยังรู้สึกเสมือนเป็นคนนอกที่ไร้สิทธิ์ไร้เสียงอันใดทั้งสิ้น…

 

มีเพียงแต่วังเซียนสัญจรเท่านั้น ที่พวกมันรู้สึกว่าเสมือนเป็นบ้านของพวกมัน และพวกมันมีสิทธิ์มีเสียงเต็มที่

 

ด้วยเพราะความรู้สึกเสมือนคนนอกในเผ่าปีศาจนี้เอง ทำให้ทุกคนที่อยู่ในวังเซียนสัญจรล้วนทุ่มเทให้วังเซียนสัญจรและหวังให้วังเซียนสัญจรที่เป็นบ้านหลังเดียวของพวกมันแข็งแกร่งและเจริญยิ่งๆขึ้นไป!

 

และสำหรับคนของวังเซียนสัญจรแล้ว หากอยากแข็งแกร่งขึ้นไปกว่านี้ ก็จำต้องมียอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนคนที่สอง!

 

ถึงตอนนั้นย่อมมีอำนาจทัดทานขุมกำลังอื่นในเผ่าปีศาจมนุษย์ได้อย่างไม่เสียเปรียบและมีสิทธิ์มีเสียงขึ้นมา!

 

มาวันนี้พอได้รู้ว่าผู้มีพลังฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนกำลังจะเข้าร่วมกับวังเซียนสัญจรของพวกมัน แต่กลับถูกพ่อลุกสกุลเฉินทำงามหน้าไปมีเรื่องมีราวกับผู้อื่นเขา!!

 

การเคลื่อนไหวงามหน้าของพ่อลูกสกุลเฉินครานี้ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าเสมือนขัดขวางหนทางสู่ความเจริญของวังเซียนสัญจรโดยแท้!

 

ไปทำกริยางามหน้าขัดขวางผู้อื่นที่เป็นยอดฝีมือไม่ให้เข้าร่วมไม่พอ ยังไปแทะโลมภรรยาผู้อื่นเขาอีก!!

 

เช่นนี้จะให้ยอดฝีมือที่อุตส่าห์พาครอบครัวมาเข้าร่วมวังเซียนสัญจรไม่โกรธได้อย่างไรไหว! ยังไม่ให้พวกมันคนวังเซียนสัญจรด้วยกันไม่โกรธได้อย่างไรไหว!!

 

เพราะสุดท้ายแล้วเรื่องราวนี้กลับเกี่ยวพันถึงความเจริญรุ่งเรืองของวังเซียนสัญจร บ้านของพวกมันทุกคน! ผลประโยชน์ของพวกมันทุกคน!!

 

“พ่อลูกสกุลเฉินไม่เพียงแต่ไปมีเรื่องราวกับยอดฝีมือที่ตั้งใจมาข้าร่วมวังเซียนสัญจร หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนชรานั่นก็ชราแต่ตัวสมองไม่พัฒนาหรือไร…สุดท้ายอาวุโสหลินหย่วนก็พลอยติดร่างแหถูกฆ่าตายไปด้วยอีกคน! พวกมันช่างประเสริฐ ประเสริฐแท้ ไฉนไม่รีบตายๆไปให้เร็วกว่านี้!!”

 

ไม่นานหลายๆคนก็เห็นพ้องต้องกัน วาจาดาท่อเริ่มดังขึ้นไปทั่ว

 

“พวกเจ้าผิดแล้ว”

 

ทว่าตอนนี้เองคนวงในที่อยู่ในเหตุการณ์อีกคนพลันเร่งกล่าวอธิบายเรื่องราวที่แท้จริง “การตายของท่านผู้อาวุโสหลินหย่วนมิได้เกี่ยวใดกับพ่อลูกสกุลเฉินรวมถึงหัวหน้าหน่วยลาดตระเวนชราหรอก…แต่เป็นเพราะอาวุโสหลินหย่วนมีความแค้นส่วนตัวกับยอดฝีมือที่คิดเข้าร่วมวังเซียนสัญจรของพวกเราผู้นั้นมาก่อน! ด้วยคิดสะสางความแค้นส่วนตัวอาวุโสหลินหย่วนไม่เพียงแต่จะขัดขวาง…ยังคิดฆ่ายอดฝีมือผู้นั้น…”

 

“เอ๋? ความแค้นส่วนตัวหรือ? เป็นความแค้นส่วนตัวอันใดเจ้ารู้หรือไม่?”

 

ทันใดนั้นหลายคนก็เริ่มสงสัยในเรื่องนี้

 

“หากจะกล่าวถึงแค้นส่วนตัวนั่น ข้าจำต้องกล่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วก่อน…เมื่อปีที่แล้วหลานชายของอาวุโสหลินหย่วน หลินฉีกัง ลูกชายของอาวุโสเหอฉิง เหอซินเจี๋ย รวมถึงหลานชายของอาวุโสหลู่เวย ซือถูอวี่จี๋ ได้ตกตายตอนไปยังมรดกสถานของปรมาจารย์จารึกเซียน พวกเจ้าทุกคนยังจดจำกันได้หรือไม่?”

 

“ย่อมจำได้เป็นธรรมดา เรื่องราวนี้ใหญ่โตนัก…ว่ากันว่าทั้ง 3 ล้วนถูกเผ่าปีศาจมนุษย์คนหนึ่งที่มีนามว่า ต้วนหลิงเทียน ฆ่า”

 

“ช้าก่อน! ต้วนหลิงเทียนผู้นั้นข้าจำได้ว่าก็เป็นมนุษย์สายเลือดแท้เหมือนพวกเราด้วยไม่ใช่เหรอ…อย่าบอกข้านะว่า…ต้วนหลิงเทียนที่แท้ก็คือ…”

 

“มิผิด เป็นยอดฝีมือที่สังหารพ่อลูกสกุลเฉินกับอาวุโสหลินหย่วนวันนี้”

 

“สวรรค์! เป็นต้วนหลิงเทียนคนนั้นเองเหรอเนี่ย!!”

 

……

 

วาจาทำนองดังกล่าวไม่นานก็เริ่มแพร่ไปทั่ววังเซียนสัญจร ยังประหนึ่งแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ทำให้หัวจิตหัวใจคนทั้งวังเซียนสัญจรสะท้านกันไปไม่น้อย

 

ยอดฝีมือผู้นั้นมิคาดที่แท้ก็คือ ต้วนหลิงเทียน ฆาตกรที่สังหารลูกหลานของอาวุโสทั้ง 3 เมื่อปีที่แล้ว!

 

“ไม่คิด…ไม่คิดเลย…ไม่คิดเลยจริงๆว่าจักเป็นคนๆเดียวกันกับเมื่อปีก่อน!!”

 

“หากเป็นเช่นนี้…ที่อาวุโสหลินหย่วนลงมือก็นับเป็นเรื่องปกติ น่าเสียดายก็แต่ที่อาวุโสหลินหย่วนกลับไม่ล่วงรู้พลังฝีมือที่แท้จริงของต้วนหลิงเทียน หาไม่แล้วคงไม่วู่วามลงมืออย่างผลีผลามเช่นนี้”

 

“นั่นน่ะสิ…หากอาวุโสหลินหย่วนล่วงรู้พลังฝีมือผู้อื่นแต่แรก ต่อให้มีความแค้นฆ่าหลานชายจริง ให้หัวร้อนตายอาวุโสหลินหย่วนก็ไม่ลงมือกับผู้อื่นเขาหรอก”

 

“เฮ่อ สรุปได้ว่าที่ตายวันนี้ล้วนแล้วแต่กลายเป็นผีโง่งมทั้งสิ้น…”

 

……

 

เรียกว่าวันนี้วังเซียนสัญจรนั่งไม่ค่อยจะติดที่กันแล้วจริงๆ

 

“ต้วนหลิงเทียน? น้องหลิงเทียนงั้นหรือ?”

 

ภายในเคหะสถานใหญ่โตของวังเซียนสัญจรอันเป็นที่พักของชนชั้นรองจ้าววัง ชายหนุ่มในชุดหรูหรามีระดับผู้หนึ่งพอได้รับทราบข่าวเรื่องราว มันก็ถึงกับต้องลุกขึ้นยืน! ใบหน้าของมันเผยความประหลาดใจทั้งตกใจไม่น้อย!!

 

ต้วนหลิงเทียน นามนี้ย่อมคุ้นหูมันอย่างดี!

 

เมื่อปีที่แล้วหากไม่ได้เจ้าของนามนี้ช่วยเหลือเอาไว้ เกรงว่ามันคงไม่อาจเก็บกู้ชีวิตน้อยๆหนึ่งเดียวนี้กลับมาจากมรดกสถานของปรมาจารย์จารึกเซียนได้!

 

อย่างไรก็ตามมันไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลย…

 

หลังผ่านไป 1 ปี คนผู้นั้นกลับปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง กระทั่งยังปรากฏตัวขึ้นที่วังเซียนสัญจรด้วยพลังอำนาจอันเหนือชั้น!!

 

“แค่สามารถฆ่าอาวุโสเฉินตงได้ในสองกระบวนท่าก็ร้ายกาจมากแล้ว…แต่นี่ยังฆ่าอาวุโสหลินหย่วนได้ในสองกระบวนท่าด้วยหรือ…ช่างน่ากลัวยิ่ง! พลังฝึกปรือของน้องหลิงเทียนทะลวงถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนแล้ว?”

 

พอคิดถึงจุดนี้ใจของชายหนุ่มในชุดคุณชายจ๋าก็เริ่มเต้นรัวไปไม่เป็นจังหวะ

 

อาวุโสหลินหย่วนนั่น อย่างไรก็เป็นตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนในวังเซียนสัญจรของมัน แม้จะไม่ใช่ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน แต่ก็ถือว่าเป็นเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนที่เข้มแข็งคนหนึ่ง

 

ชายหนุ่มในชุดหรูหรามาดคุณชายผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น นอกจาก หวงฉี่หลิง ศิษย์วังเซียนสัญจรที่ต้วนหลิงเทียนเคยเจอเมื่อปีที่แล้ว!

 

ตอนนั้นด้วยหวงฉี่หลิงสัมผัสได้ว่าต้วนหลิงเทียนเป็นมนุษย์สายเลือดบริสุทธิ์หากแต่ไม่คุ้นหน้า จึงเข้ามาทักทายหมายชักชวนให้อีกฝ่ายเข้าร่วมกับวังเซียนสัญจร

 

ต่อมาด้วยเพราะเรื่องส่วนตัวของมันเอง ต้วนหลิงเทียน จึงได้จับพลัดจับผลูไปปะทะกับนายน้อยสวะทั้ง 3 ของวังเซียนสัญจร…

 

ทว่าภายใต้การกลุ้มรุมของนายน้อยสวะทั้ง 3 ต้วนหลิงเทียนกลับเข่นฆ่าอีกฝ่ายจนตายเหี้ยน!

 

แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ นายน้อยสวะทั้ง 3 นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นลูกหลานของชนชั้นผู้อาวุโสในวังเซียนสัญจร!

 

“ตอนนี้ดูเหมือนน้องหลิงเทียนจะอยู่ในวังเซียนสัญจรแล้วสินะ…”

 

นึกถึงจุดนี้หวงฉี่หลิงก็ไร้ซึ่งความลังเลใดๆ มันเหินร่างลอดหน้าต่างขึ้นไปบนฟ้า ก่อนที่จะเหินไปจากเขคคฤหาสน์เบื้องล่างทันที

 

ยังเหินไปเขตที่พักสำหรับรับรองแขกของวังเซียนสัญจร

 

พื้นที่รับแขกยังแบ่งออกเป็นส่วนๆ

 

แขกผู้มีเกียรตินั้นจะถูกจัดให้เข้าพักยังคฤหาสน์ส่วนตัวหลังใหญ่

 

เมื่อมาถึงเขตนี้หวงฉี่หลิงเพียงถามศิษย์ที่รับหน้าที่เฝ้าระวังไม่กี่คำ ก็ได้รับทราบที่อยู่ของต้วนหลิงเทียน

 

“น้องหลิงเทียน!”

 

เมื่อมาถึงคฤหาสน์ส่วนตัวที่ต้วนหลิงเทียนอยู่ หวงฉี่หลิงก็ไม่ได้รีบร้อนเข้าไป เพียงแต่ทักทายออกไปเสียงที่ไม่ดังมาก หากแต่ผสานไว้ด้วยพลังเซียนต้นกำเนิดทำให้ดังไปทั่วคฤหาสน์

 

“เข้ามาสิ”

 

พอได้ยินเสียงคุ้นเคยเป็นกันเอง หวงฉี่หลิงพลันคลี่ยิ้มออกกมาทันที

 

เพราะมันฟังแล้วก็รู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่ลืมมัน!

 

“ท่านรู้ได้อย่างไรเล่าว่าข้าพักอยู่ที่นี่?”

 

ได้เห็นหวงฉี่หลิงอีกครั้ง ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มกล่าวทัก ด้วยเพราะเขาเองก็ประทับใจศิษย์วังเซียนสัญจรผู้นี้เหมือนกัน