บทที่ 2149 รัศมีของหัวหน้าตระกูล
“เนี่ยอู๋โยว...ฮ่าๆ…แกน่ะสิปีศาจตัวจริง เลือดที่เปื้อนมือฉัน ก็ต้องขอบคุณแกทั้งนั้น เป็นแกที่สอนเทคนิคเอาชีวิตคนให้ฉัน…แกมีสิทธิ์อะไรมาจองหองอยู่เหนือหัวฉัน ทั้งด้านกลยุทธ์และสติปัญญา ตรงไหนบ้างที่แกเทียบฉันได้ แกต่างหากที่สมควรจะเป็นเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยงคนนั้น”
เหงื่อเย็นๆ ซึมอยู่ทั่วศีรษะของเนี่ยหลิงหลง ทว่ายังคงเอ่ยเยาะเย้ยต่อไป
“ฉันสอนให้แก เพราะอยากให้แกเอาไว้ใช้ป้องกันตัวในวันข้างหน้า ไม่ใช่ให้แกเอามาทำระยำและทำร้ายตระกูลเนี่ย”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ปีนั้น คุณตาอบรมสั่งสอนตัวเองแบบไหน เยี่ยหวันหวั่นก็สอนเนี่ยหลิงหลงไปแบบนั้น
เจตนาเดิมคือความรัก แต่จะเข้าใจแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับตัวเอง
“เนี่ยอู๋โยว คนตระกูลเนี่ยสมควรตาย…พวกแกจะยังมีชีวิตที่ดีได้อีกสักเท่าไรกัน…”
เนี่ยหลิงหลงจ้องเยี่ยหวันหวั่นอย่างดุร้าย
“ใช่ แกไม่พูดฉันก็เกือบลืมไปแล้ว ว่าแกยังตายไม่ได้หรอก”
ขณะที่พูดอยู่ เยี่ยหวันหวั่นก็กระชากตัวเนี่ยหลิงหลงขึ้นมา แล้วโยนไปให้หลินเชวียที่ยืนอยู่ไม่ไกล
“เอ่อ…ฉันขอถามหน่อย…เธอโยนมาให้ฉันทำไม ฉันไม่ได้สนใจหล่อนเลยนะ!”
หลินเชวียมองเนี่ยหลิงหลงที่กองอยู่แทบเท้าตัวเอง แล้วรีบเอ่ยถาม
“พากลับไปด้วย สอบสวนอย่างเข้มงวด ต้องเค้นทุกอย่างที่เธอรู้ออกมาให้ได้…ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“เจียงเหยียน นายถนัดนี่ ยกให้นายแล้วกัน!”
หลินเชวียมองเจียงเหยียนที่อยู่ด้านข้าง
“เข้าใจแล้ว”
เจียงเหยียนพยักหน้า แล้วคุมตัวเนี่ยหลิงหลงออกไปด้วยตัวคนเดียว
“พาคนกลับไปด้วยเยอะๆ หน่อย” เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วร้องบอก
“ผู้หญิงคนนี้กลายเป็นแบบนี้แล้ว ยังจะคุกคามฉันได้อีกเหรอไง” เจียงเหยียนไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ปากยังคงพูดจาอย่างสุภาพ
“ถ้ามีการปล้นนักโทษล่ะ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
เจียงเหยียนลืมคิดถึงจุดนี้ไปเลย…
ด้วยความจนปัญญา เจียงเหยียนจึงทำได้เพียงพาคนของอาชูร่ากลับไปด้วยครึ่งหนึ่ง
จากนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็มองดูผู้อาวุโสและระดับสูงของตระกูลเนี่ยที่ยังอยู่ที่นี่ แล้วเอ่ยเสียงเย็นว่า “ตอนนี้ ฉันมีคุณสมบัติพอที่จะเป็นหัวหน้าตระกูลเนี่ยได้รึยัง”
พอได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น พวกระดับสูงต่างก็มองหน้ากันแวบหนึ่ง
“มีๆๆ อู๋โยว อันที่จริง ก่อนหน้านี้พวกเราถูกเนี่ยหลิงหลงหลอกเหมือนกัน ใครจะคาดคิดว่าหล่อนมีใจเหี้ยมหาญทะเยอทะยาน โชคดีที่เธอเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของหล่อนออกมาได้ทันเวลา ไม่งั้นผลลัพธ์ที่จะตามมาคงยากจะจินตนาการได้!”
ผู้อาวุโสระดับสูงคนหนึ่งรีบเอ่ยขึ้น
“ใช่ๆๆ…พวกเราก็ถูกหลอกลวงเหมือนกัน!”
เยี่ยหวันหวั่นยกมุมปากขึ้นนิดๆ พลางหัวเราะเยาะอยู่ในใจ
น่าเสียดายที่ตอนนี้ยังลงมือกับผู้อาวุโสอย่างพวกเขาไม่ได้ ตัวเองจะต้องร่วมมือกับปู่รอง แบ่งแยกอำนาจของตระกูลเนี่ยในมือของพวกเขามาให้ได้ก่อน ถึงจะสามารถดำเนินเรื่องเอาโทษพวกเขาได้
ไม่อย่างนั้น ถ้าลงมือกับพวกเขาตอนนี้ ตระกูลเนี่ยต้องแตกแยกระหองระแหงแน่ นี่ไม่ใช้รูปการณ์ที่เยี่ยหวันหวั่นอยากเห็น
“ฉันเข้าใจ พวกนายก็ถูกหลอกลวงเหมือนกัน แต่ว่า…ถึงยังไงก็ยังมีความผิด จะต้องได้รับโทษ”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“ใช่ๆๆ ท่านหัวหน้าตระกูลโปรดลงโทษพวกเราได้เลย พวกเราจะเชื่อฟังแน่นอน!”
เหล่าผู้อาวุโสและระดับสูงพากันพยักหน้ารับ
เพียงแต่ในเวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นยังไม่มีอารมณ์มาคุยไร้สาระกับพวกเขา เอาไว้วันหลังค่อยคิดบัญชีกับพวกเขาให้กระจ่าง สิ่งที่รอคอยพวกเขาอยู่ มีเพียงจุดจบที่ทำให้คนหวาดผวา
“คุณเก้า…พี่ชายฉันอยู่โรงพยาบาลไหน พวกเรารีบไป…กันเถอะ…”
เยี่ยหวันหวั่นมองซือเยี่ยหาน
เมื่อซือเยี่ยหานได้ยินก็พยักหน้าให้ แล้วเอ่ยกับหลินเชวียว่า “คุ้มกันผู้อาวุโสตระกูลเนี่ยทุกท่านกลับไปส่งที่บ้านตระกูลเนี่ยก่อน”
“เข้าใจแล้วครับพี่เก้า!”
หลินเชวียพยักหน้าตอบรับ มองไปทางคนตระกูลเนี่ยแล้วพูดว่า “ทุกท่าน เชิญครับ”
ถึงฉากหน้าจะบอกว่าคุ้มกัน แต่พูดกันจริงๆ ก็คือคุมตัว
—————————————————————————————
บทที่ 2150 สายเกินไป
เวลานี้ คนตระกูลเนี่ยสบตากันอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะระดับสูงกลุ่มหนึ่งของตระกูลเนี่ย อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น
พวกเขาคือระดับสูงของตระกูลเนี่ย นายแห่งอาชูร่าคิดจะมาควบคุมพวกเขา ล้อเล่นอะไรอยู่?!
“หัวหน้าตระกูลครับ นี่เป็นเรื่องในครอบครัวตระกูลเนี่ยของเรา นายแห่งอาชูร่ายังไงก็เป็นคนนอก ผมคิดว่า การเข้ามาก้าวก่ายเรื่องในตระกูลเราไม่ค่อยจะเหมาะนะครับ”
ผู้อาวุโสท่านหนึ่งของตระกูลเนี่ย มองไปที่เยี่ยหวันหวั่นแล้วเอ่ยขึ้นมา
พอได้ยินคำพูดนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็เอ่ยพลางมองผู้อาวุโสที่พูดแวบหนึ่ง “ระหว่างฉันกับนายแห่งอาชูร่าสิถึงจะเรียกว่าครอบครัว แต่ระหว่างนายกับฉันเป็นแค่เรื่องงาน เข้าใจรึยัง”
พอได้ยินเยี่ยหวันหวั่นพูดดังนั้น พวกระดับสูงของตระกูลเนี่ยก็พูดไม่ออกแล้ว
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นพูดจบ ก็มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลพร้อมกับชายหนุ่มตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
….
ตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นร้อนใจดั่งไฟลน เป็นกังวลกับอาการบาดเจ็บและพิษในร่างของเนี่ยอู๋หมิงอย่างยิ่ง
อันที่จริง ด้วยสุขภาพร่างกายของเนี่ยอู๋หมิง บาดแผลพวกนั้นก็เป็นแค่ภายนอก แต่พิษในร่างของเนี่ยอู๋หมิง กลับเพียงพอที่จะเอาชีวิตได้
เยี่ยหวันหวั่นไม่กล้าแม้แต่จะคิดเลยว่า ถ้าเกิดเหตุเหนือความคาดหมายใดๆ ขึ้นกับเนี่ยอู๋หมิงละก็…
เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าร้อนใจ ซือเยี่ยหานก็ทำได้แค่คอยอยู่เป็นเพื่อนข้างกายอย่างเงียบๆ สำหรับสถานการณ์แบบในวันนี้ ชายหนุ่มไม่อาจหยั่งรู้ก่อนได้ และไม่สามารถทวงชีวิตคนตายกลับคืนมา สรุปแล้วเนี่ยอู๋หมิงจะเป็นยังไง ก็คงขึ้นอยู่กับหมอ และขึ้นอยู่กับโชคของเนี่ยอู๋หมิงเอง
“ที่นี่เหรอคะ”
ผ่านไปพักหนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นจ้องมองโรงพยาบาลข้างหน้า แล้วหันไปมองซือเยี่ยหาน
“อืม”
ชายหนุ่มตอบสั้นๆ
“คุณเก้า โรงพยาบาลนี้จะได้เรื่องไหม…”
ในใจของเยี่ยหวันหวั่นเต็มไปด้วยความกังวล
“นี่คือโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในรัฐอิสระ” ซือเยี่ยหานเอ่ยปลอบเสียงเบา “แล้วฉันก็ให้หมอที่ดีที่สุดที่อาชูร่าให้การอุปถัมภ์มาเฝ้าอยู่ข้างๆ พี่ชายเธอแล้ว คอยดูแลอยู่ตลอดเวลา”
“ขอบคุณค่ะ” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้ารับ
แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็ยังคงกังวลมากอยู่ดี ถึงขั้นที่หวาดกลัวโรงพยาบาลที่อยู่ด้านหน้าเล็กน้อย เธอไม่รู้เลยว่าจะมีข่าวแบบไหนที่รอตัวเองอยู่
ผ่านไปครู่หนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นก็ตามซือเยี่ยหานเข้ามาในโรงพยาบาล มุ่งหน้าไปยังห้องไอซียูทันที
“คุณคือคุณหนูอู๋โยวจากตระกูลเนี่ยใช่ไหมครับ”
ด้านนอกประตู มีหมอกลุ่มหนึ่งกำลังหารือกันอยู่ พอเห็นเยี่ยหวันหวั่น ก็ตรงเข้ามาหาทันที
ไม่ว่าจะเป็นตระกูลเนี่ย หรือว่าพันธมิตรอู๋เว่ย ชื่อเสียงที่มีในรัฐอิสระไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงให้มากความเลย ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก
โดยเฉพาะหลังจากที่ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยกลับสู่ฐานะคุณหนูตระกูลเนี่ยแล้ว ชื่อเสียงก็ยิ่งแผ่ขยายไปในวงกว้าง
“คุณหมอคะ พี่ชายฉันเป็นยังไงบ้าง”
เมื่อเห็นหมอหลายคนมาอยู่ตรงหน้า เยี่ยหวันหวั่นก็รีบเอ่ยถามทันที
“เรื่องนี้…”
หมอคนหนึ่งจ้องมองเยี่ยหวันหวั่นแล้วส่ายหน้า ถอนหายใจแล้วตอบว่า “คุณหนูอู๋โยว...พี่ชายของคุณ ถูกพิษร้ายแรง…ถึงแม้พวกเราจะเร่งทำการรักษาทันทีที่มาถึง ทำการล้างท้องให้…แต่ตอนที่ส่งตัวมา…ก็สายเกินไปหน่อย…”
พอหมอพูดจบ ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นก็ซีดเผือดทันที ร่างกายซวนเซถอยไปด้านหลังเล็กน้อย ทว่าซือเยี่ยหานประคองเอาไว้
“เป็นไปได้ยังไง…คุณหมอ เข้าใจผิดไปรึเปล่าคะ…พี่ชายฉัน…พี่ชายฉันเขาสุขภาพแข็งแรงมาก…” เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าสับสนว้าวุ่น พูดจาตะกุกตะกักนิดหน่อยแล้ว
“คุณหนูอู๋โยวครับ สุขภาพของพี่ชายคุณแข็งแรงมากจริงๆ แต่ว่า…เมื่อถูกพิษร้ายแรง แพร่กระจายไปตามเส้นเลือด ต่อให้สุขภาพแข็งแรงแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เว้นแต่จะมียาถอนพิษ” คุณหมอจนปัญญาอยู่บ้าง
ที่เป็นแบบนี้ ก็เพราะพิษร้ายแรงอย่างผีเสื้อโรยรานั้นไม่มียาถอนพิษ
“คุณหนูอู๋โยว เสียใจด้วยอย่างยิ่งครับ…พวกเราพยายามเต็มที่แล้วจริงๆ…”
—————————————————————–