บทที่ 1397 เทพจักรพรรดิสงครามปะทะจอมปีศาจศพ

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

เสียงสะท้อนไปมาราวกับพายุสายฟ้าไร้ขอบเขตปกคลุมไปทั่ว

ก่อนที่ร่างสง่างามจะปรากฏตัวที่ด้านนอกระนาบพิภพ

เขามาพร้อมกับคทาจักรพรรดิสายฟ้าที่มีประกายสายฟ้าแล่นแปลบปลาบ สายฟ้าทุกสายทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน ชุดสีม่วงดำที่เขาสวมขับเน้นใบหน้าให้ดูภูมิฐานยิ่งนัก

เมื่อร่างนี้ปรากฏขึ้น ใบหน้าของจอมปีศาจเทียนเฮยซือก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนที่เสียงจะพร่าลง “ไม่คิดว่าจะได้พบกับเทพจักรพรรดิสงครามที่นี่…”

แคว้นหวูตั้งอยู่ที่ชายแดนของมหาพันภพและมักจะปะหน้ากับจักรวรรดิปีศาจเป็นประจำ ก็เป็นธรรมดาที่เทพจักรพรรดิสงครามจะออกมาต่อสู้กับจอมยุทธ์ชั้นยอดหลายคนของเผ่าปีศาจต่างๆ ดังนั้นชื่อของเขาจึงดังก้องแม้จะอยู่ในเผ่าปีศาจน้อยใหญ่ก็ตาม

“เทพจักรพรรดิสงคราม?!”

จอมยุทธ์มังกรขาวตกใจกับผู้มาใหม่ สำหรับคนอย่างเขาที่กำเนิดจากพิภพเขตล่าง เทพจักรพรรดิสงครามคือตำนานมีชีวิต เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะได้พบกับตำนานด้วยตัวเอง

จอมยุทธ์มังกรขาวถอนหายใจมองไปที่มู่เฉินด้วยความชื่นชม “ไม่คิดว่าเจ้าจะมีสายสัมพันธ์ทรงพลังถึงขนาดสามารถเชิญจอมยุทธ์อย่างเทพจักรพรรดิสงครามมาได้”

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมมู่เฉินถึงไม่ตื่นตระหนกเมื่อจอมปีศาจระดับเทียนมาที่นี่ เนื่องจากเขามีบางอย่างที่เทียบเท่าในการประจันหน้า นี่ทำเอาจอมยุทธ์มังกรขาวต้องทอดถอนหายใจ ชายหนุ่มในอดีตคนนั้นดูเหมือนจะประสบความสำเร็จสูงในมหาพันภพ…

มู่เฉินยิ้มพลางมองไปที่ท้องฟ้า เมื่อมีจอมปีศาจระดับเทียนและจอมยุทธ์เทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งเผชิญหน้ากัน ดูเหมือนว่าจะมีการประลองที่น่าตื่นตาให้ชมในวันนี้

สายตาของหลินต้งมองไปที่พิภพเขตล่างก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ดังนั้นแววตาจึงวูบไหวอย่างเย็นชา

โลกที่เขาเติบโตก็เคยประสบสิ่งเดียวกันนี้ เขารู้ดีว่านี่คือฝันร้าย ในอดีตฮูหยินของเขาต้องสละชีวิตเพื่อที่พวกเขาจะกำจัดปีศาจให้สิ้นซาก

เพราะเหตุนี้เขาจึงเกลียดจักรวรรดิปีศาจยิ่งนัก ดังนั้นหลังจากเห็นเหตุการณ์ที่คล้ายกันเกิดขึ้นอีกครั้ง เขาก็เบนไปหาจอมปีศาจเทียนเฮยซือ ความผันผวนวูบไหวในดวงตาเขา

“พวกซากศพอย่างเจ้าไม่ได้มุดหัวอยู่ในจักรวรรดิเน่าๆ แต่กล้าเสนอหน้ามาที่พิภพเขตล่างของมหาพันภพของข้าเรอะ?!” เสียงเยือกเย็นของหลินต้งดังสะท้อน สายฟ้านับไม่ถ้วนก็สว่างวาบบนท้องฟ้า

แม้ว่าจอมปีศาจเทียนเฮยซือจะหวาดกลัวเทพจักรพรรดิสงคราม แต่เขาก็เป็นผู้นำเผ่า ดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขุ่นเคือง

แม้ว่านี่จะเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นด้วยมือ แต่เทพจักรพรรดิสงครามก็เป็นร่างดวงจิตเช่นกัน ดังนั้นเขาก็ไม่กลัว แม้อีกฝ่ายจะมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่เขาก็ไม่ใช่ไอ้ขี้แพ้

“เทพจักรพรรดิสงคราม ไอ้เด็กนั่นฆ่าลูกข้า ซ้ำยังเกือบจะลบเผ่าเสี่ยเสียทั้งหมด ถ้าแกส่งมันมาให้ ข้าก็จะกลับออกไปทันที” จอมปีศาจเทียนเฮยซือชี้ไปที่มู่เฉินซึ่งอยู่เบื้องล่างและกล่าวอย่างเย็นชา

เมื่อหลินต้งได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มให้มู่เฉินด้วยความชื่นชม “กรณีนี้เขาทำได้ดีมาก”

เมื่อจอมปีศาจเทียนเฮยซือได้ยิน ใบหน้าก็กระตุก เขาพูดเสียงน่ากลัวว่า “ดูเหมือนว่าเทพจักรพรรดิสงครามจะไม่ต้องการแก้ไขเรื่องในวันนี้อย่างสันติแล้วสินะ”

หลินต้งยิ้ม “ใครอยากแก้ปัญหาอย่างสันติกับแก? ข้าตั้งใจไว้แล้วว่าจะบดร่างของแกให้เละเลย”

“ฮึ่ม ข้าไม่เชื่อว่าแกจะทำอะไรได้ด้วยร่างดวงจิตสั่วๆ!” จอมปีศาจเทียนเฮยซือเยาะเย้ยโดยไม่ลังเล เขาสะบัดแขนเสื้อ รัศมีศพรุนแรงปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า

โฮก!

ทันใดนั้นเสียงคำรามดังก้องก็เปล่งออกมาจากรัศมีศพ สัตว์ประหลาดโครงกระดูกหลายร้อยตัวบินว่อนออกมา ทุกตัวเปล่งความผันผวนอันทรงพลัง

โครงกระดูกสัตว์เหล่านั้นถูกปรับแต่งจากจอมปีศาจเทียนเฮยซือ ทำให้พวกมันมีความทนทานอย่างไม่น่าเชื่อโดยเฉพาะที่นำอยู่ข้างหน้าหลายตัว แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิงก็ยังอับจนปัญญา

หลินต้งยืนบนมหาสมุทรสายฟ้า มองดูสัตว์ประหลาดเหล่านั้นอย่างไม่แยแส คทาจักรพรรดิสายฟ้ากระแทกลงไปเบาๆ จากนั้นก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับสายฟ้าระเบิดออกมาอย่างไร้ขอบเขต

ขณะที่สายฟ้าคำราม คทาจักรพรรดิสายฟ้าก็กลายเป็นมังกรสายฟ้าขนาดมหึมาปกคลุมไปด้วยสายฟ้าหลายสีสัน สายฟ้าทุกสายเต็มไปด้วยพลังทำลายล้าง

เมื่อมู่เฉินมองไปที่มังกรสายฟ้าขนาดมหึมาก็หดดวงตาลงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาสามารถบอกได้ว่ามังกรตัวนี้ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง นอกจากนี้มันยังไม่ใช่ของตาย แต่บรรจุด้วยจิตวิญญาณ ราวกับเป็นมังกรสายฟ้าแท้จริง

กระทั่งตัวเขาถ้าต้องปะทะมังกรตัวนี้ก็ไม่รู้สึกถึงความได้เปรียบใดๆ

โฮก!

ขณะที่มู่เฉินตกตะลึง มังกรสายฟ้าก็คำรามพร้อมกับปากเปิดกว้างขึ้น ราวกับหลุมดำที่มีสายฟ้านับไม่ถ้วนบินฉวัดเฉวียนออกมาประหนึ่งโซ่พันธนาการรอบสัตว์ประหลาดเหล่านั้น

ซ่า ซ่า

โซ่สายฟ้าสั่นสะท้านขณะที่บินออกไป รัดร่างซากศพสัตว์เหล่านั้น ก่อนที่จะดึงเข้าไปในปากมังกร…

หลังจากที่กลืนกินซากศพ มังกรสายฟ้าก็ส่งเสียงเรอตบหน้าท้องด้วยความพึงพอใจ ก่อนที่จะกลับเป็นคทาจักรพรรดิสายฟ้าดังเดิม

เมื่อจอมปีศาจเทียนเฮยซือเห็นฉากนี้ใบหน้าก็มืดครึ้ม ซากศพสัตว์ประหลาดบรรจุด้วยพิษที่น่าสะพรึง แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนหรือพวกราชันปีศาจก็ยังถูกกัดกร่อน แต่เมื่อมังกรสายฟ้ากลืนกินพวกมัน เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานรุนแรงในการกลั่นพิษ

ทักษะของเขาได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายโดยเทพจักรพรรดิสงคราม

“ในเมื่อเจ้าออกมาท่าหนึ่งแล้ว งั้นก็ถึงตาข้าบ้าง ถ้าเจ้าสามารถรับกระบวนท่านี้ได้ข้าจะปล่อยเจ้าไปวันนี้” หลินต้งพูดขณะมองไปที่จอมปีศาจเทียนเฮยซือ

“สามหาว!”

จอมปีศาจเทียนเฮยซือคำรามออกมาด้วยความโกรธ เขามีตำแหน่งจอมปีศาจระดับเทียน แต่วันนี้ถูกเทพจักรพรรดิสงครามประเมินต่ำเตี้ยนัก ดังนั้นเขาจะไม่โกรธได้อย่างไร?

“ข้าขอดูสิว่าแกมีคุณสมบัติอะไรถึงกล้าพูดแบบนี้!”

เสียงหัวเราะของจอมปีศาจเทียนเฮยซือแฝงด้วยเสียงคำรามโกรธเกรี้ยว แต่หลินต้งก็ไม่ได้สนใจ รัศมีทรงกลดปรากฏขึ้นด้านหลังศีรษะเขา

รัศมีนี้บรรจุด้วยแสงแปดสีที่แตกต่างกันขณะที่หมุนคว้างช้าๆ

ฟิ้ว!

แสงแปดสีทะยานออกไปและขยายออกทันทีโดยมีจอมปีศาจเทียนเฮยซืออยู่ตรงกลาง

“หึ!”

จอมปีศาจเทียนเฮยซือส่งเสียงกร้าว รัศมีศพหนาแน่นวูบวาบบนร่างกาย ทันใดนั้นหยดของเหลวสีดำก็หยดลงมาจากร่างเขา

ของเหลวสีดำนี้ก็คือน้ำพิษศพ ซึ่งเหนียวมากเต็มไปด้วยกลิ่นคาวและกลิ่นอายความตายที่ไม่อาจอธิบายได้ เพียงแค่หยดเดียวก็สามารถล้างบางสิ่งมีชีวิตหลายล้านชีวิตบนพิภพนี้ให้กลายเป็นซากศพได้

“ไป!”

เขาสะบัดนิ้ว น้ำพิษศพก็พุ่งออกไปกลายเป็นสายน้ำเล็กๆ แม้ว่าสายธารดังกล่าวจะไม่ได้สร้างความปั่นป่วนใดๆ แต่ก็ทำให้อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นอายความตาย

สายธารนี้ทำให้ฟ้าดินปนเปื้อน ก่อนที่จะปะทะกับรัศมีแปดสี

น้ำพิษศพมีความสามารถในการแปดเปื้อน คลื่นหลิงทุกชนิดที่สัมผัสจะถูกปนเปื้อน มิหนำซ้ำยังส่งผลต่อเจ้าตัวทำให้กลายเป็นซากศพ ภายใต้น้ำพิษศพไม่ว่าพลังชีวิตจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถมีชีวิตรอดได้

ดังนั้นเมื่อจอมปีศาจเทียนเฮยซือเห็นน้ำสีดำหยดลงไปบนรัศมีแปดสี เขาก็เผยท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่องด้วยรู้สึกว่าเทพจักรพรรดิสงครามหยิ่งผยองเกินไป ซึ่งความหยิ่งผยองจะกลายเป็นช่องโหว่!

ชี่!

เมื่อน้ำพิษศพสัมผัสกับรัศมีแปดสีก็ทำให้เกิดการแปดเปื้อนทันที มันพยายามปลดปล่อยความสามารถในการกัดกร่อนออกมา

ตู้ม!

ทว่าทันใดนั้นรัศมีแปดสีที่ไม่มีความผันผวนใดก็ระเบิดออกมาพร้อมกับรัศมีและแสงหลิงแปดชนิด มีทั้งสายฟ้า ความมืดและน้ำแข็ง…

ลำแสงทุกเส้นสายแสดงถึงคุณลักษณะที่แตกต่างกัน แต่ก็ไม่ได้ต่อต้านซึ่งกันและกัน แต่กลับรวมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ จนสุดท้ายเปลวเพลิงพร่างพราวก็ลุกโชนขึ้นจากรัศมี

เปลวเพลิงช่างลึกลับ แม้จะดูเหมือนไฟ แต่ก็มีคุณลักษณะของน้ำแข็ง สายฟ้าและพลังอีกหกชนิดกะพริบอยู่ภายใน…

มู่เฉินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจกับฉากนี้ สำหรับตัวหลินต้งมีข่าวลือว่าเขามีคุณสมบัติมากมายในคลื่นหลิง เมื่อเห็นด้วยตาตนเองตอนนี้ข่าวลือที่ว่าไม่ใช่เรื่องโกหกเลย

ขณะที่เปลวเพลิงลึกลับพวยพุ่งขึ้นก็กลืนกินน้ำพิษศพจนระเหยกลายเป็นหมอก

ใบหน้าของจอมปีศาจเทียนเฮยซือเปลี่ยนไปรุนแรง รู้สึกถึงความผิดปกติ เพลิงนี้ดูเหมือนจะสามารถทำลายพลังปีศาจของเขาได้

แต่ก่อนที่จะคิดต่อได้ทัน รัศมีแปดสีที่ปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงก็หดตัวลงอย่างรวดเร็ว มัดเข้ากับร่างจอมปีศาจเทียนเฮยซืออย่างแน่นหนา

จอมปีศาจเทียนเฮยซือหดดวงตา ทันใดนั้นร่างกายเขาก็พองขึ้นพยายามทำลายมัน

ชี่!

แต่จังหวะนั้นรัศมีแปดสีก็ตกลงบนร่างเขา ร่างกายเขาแข็งทื่อ เพลิงจุดชนวนขึ้นทันที

อ๊าก!

เพลิงเหล่านั้นน่ากลัวมาก แม้แต่จอมปีศาจเทียนเฮยซือก็ไม่สามารถต้านทานได้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่ปล่อยเสียงหอน หลังจากไม่กี่อึดใจร่างจอมปีศาจเทียนเฮยซือก็สลายไปกลายเป็นมือสีดำแห้งผาก

ปัง

รัศมีกระเพื่อมไหว มือก็กลายเป็นเถ้าถ่านปลิวไปในอากาศ…