ตอนที่ 1166 กลายเป็นตัวประกัน

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ถึงแม้ว่านกปีกดำเหล่านี้จะแข็งแกร่งมาก แต่ภายใต้การบดขยี้ของมังกรเหล่านี้ พวกมันก็เริ่มพ่ายแพ้ลง

ท่านลุงเก๋อกล่าว “พวกเรารีบไปกันเถอะ”

“ขอรับ!”

ตลอดการเดินทางพวกเขาพบว่าชายหนุ่มชุดดำผู้นั้นไม่เคยลงมือเลย

เขาล้วนแต่ได้รับการปกป้องจากมู่เฉียนซีทุกครั้ง

ใบหน้าของพวกเขาล้วนแต่เผยความประหลาดใจออกมา เป็นไปไม่ได้!

ชายหนุ่มผู้ที่ดูแข็งแรงบึกบึนเช่นนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าจะเอาแต่หลบอยู่หลังผู้หญิงให้ผู้หญิงปกป้องเช่นนี้

จิ่วเยี่ยถูกตราหน้าว่าเป็นไอ้หน้าอ่อนเอาแต่หลบอยู่หลังผู้หญิงไปแล้ว

ส่วนมู่เฉียนซีก็พบว่า การที่ได้เดินร่วมทางมากับคนกลุ่มนี้ ช่วยประหยัดเวลาและประหยัดแรงของนางไปไม่น้อยเลย

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเก่งกาจ แต่ห้าเผ่านั้นก็มีฝีไม้ลายมือที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน

พวกเขารีบเดินทางมา เมื่อได้เห็นกลุ่มของท่านลุงเก๋อเข้าก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้นเล็กน้อย

“พวกเจ้าเป็นคนของกลุ่มเทพ นึกไม่ถึงเลยว่าพวกเจ้าจะมาถึงที่นี่แล้ว”

“แม่นางมู่ พวกมันเป็นคนของกลุ่มเทพ เหตุใดถึงได้ไปอยู่ด้วยกันกับคนพวกนี้”

“บัดซบ! พวกเจ้ารีบปล่อยตัวแม่นางมู่เดี๋ยวนี้นะ!”

“……”

มู่เฉียนซีเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา “นี่พวกเจ้าเป็นคนของกลุ่มเทพพวกทรยศพวกนั้นเหรอ!”

ทันใดนั้น รอยยิ้มที่ดูเป็นคนใจดีของท่านลุงเก๋อก็ได้จางหายไป “ทรยศอย่างนั้นเหรอ พวกที่ปกป้องเผ่ามังกรได้ไม่ดีต่างหากล่ะที่เป็นพวกทรยศ”

“สาวน้อย พวกมันล้วนแต่รู้จักเจ้าดี ฐานะของเจ้าก็คงจะไม่ต่ำต้อยเลยกระมัง! ดังนั้นท่านลุงเก๋อต้องการให้เจ้าช่วยสักหน่อย”

ครั้นแล้ว มีดของท่านลุงเก๋อก็ได้ทาบลงบนคอของมู่เฉียนซี

“ทางที่ดีพวกเจ้าอย่าได้ผลีผลามจะดีกว่า มิเช่นนั้นหัวของสาวน้อยผู้นี้หลุดจากคอเป็นแน่”

ผู้อาวุโสของเผ่ามังกรวารีกล่าว “เก๋อเทียน เจ้าอย่าได้ทำอะไรผลีผลามนะ หากเจ้ากล้าลงมือทำอะไรแม่นางมู่แม้แต่ปลายเล็บ ท่านหัวหน้าเผ่าของข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่”

“สุ่ยอู๋ซิน” เก๋อเทียนยิ้มพลางกล่าว

เขาเหลือบมองใบหน้าของมู่เฉียนซี “สาวน้อยผู้นี้รูปร่างหน้าตางดงามปานนี้ คงจะเป็นบุตรสาวของสุ่ยอู๋ซินใช่ไหมล่ะ! ที่แท้ก็เป็นองค์หญิงน้อยของเผ่ามังกรวารีนี่เอง”

พวกเขาจ้องมองเก๋อเทียนด้วยสีหน้าท่าทางดุร้าย แต่กลับไม่ได้ตอบคำถามของเก๋อเทียน

“หากพวกเจ้าไสหัวไปให้พ้นหน้าข้าตอนนี้ ข้าจะพิจารณาไม่ฆ่าสาวน้อยผู้นี้”

“เจ้าฝันไปเถอะ!”

“เช่นนั้นข้า…” เก๋อเทียนจะลงมีดจริง ๆ แล้ว

พวกเขาทำได้เพียงแค่ล่าถอย มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พวกเจ้ารีบกลับไปแล้วรีบบอกให้หัวหน้าเผ่าส่งคนมาช่วยข้าเร็วเข้า”

“จิ่วเยี่ย เจ้าก็ไปด้วย!”

ท่านหัวหน้าเผ่าเคยกล่าวเอาไว้ว่า คำพูดของแม่นางมู่ก็เท่ากับเป็นคำพูดของเขาเช่นกัน

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นกังวลใจ แต่พวกเขาก็จำต้องจากไปอยู่ดี อีกอย่างพลังความแข็งแกร่งของแม่นางมู่ก็ไม่ได้อ่อนโยนเหมือนหน้าตาของนางเลย เก๋อเทียนคิดจะลงมือกับนาง สุดท้ายใครกันแน่ที่ต้องซวย!

“เก๋อเทียน หากเจ้ากล้าลงมือแตะต้องแม่นางมู่แม้แต่ปลายเล็บ หัวหน้าเผ่าของข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้าตายดีแน่!”

ครั้นแล้วพวกเขาก็ได้ล่าถอยไป และจิ่วเยี่ยเองก็ได้อันตรธานหายไปด้วย

มู่เฉียนซีรู้ดีว่าจิ่วเยี่ยไม่ได้จากไปจริง ๆ เขาเพียงแค่ร่วมการแสดงตามนางไปก็เท่านั้น

สีหน้าของมู่เฉียนซีเย็นยะเยือกขึ้น นางกล่าว “นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าข้าจะมองคนผิดไป”

ท่านลุงเก๋อกล่าว “วางใจได้ ท่านลุงเก๋อไม่มีทางทำร้ายเจ้าหรอก เพียงแค่ป้องกันเอาไว้ไม่ให้เจ้าหนีไป ข้าต้องปิดกั้นพลังของเจ้าเอาไว้”

ทันทีที่ท่านลุงเก๋อโบกมือก็ได้ปิดกั้นพลังของนางเอาไว้

พวกเขาเดินทางกันต่อ มู่เฉียนซีที่ได้กลายเป็นนักโทษในตอนนี้กลับไม่รู้สึกหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย

เดิมทีคิดว่าเมื่อถึงซากปรักหักพังของสุสานมังกรแล้วจะเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ขึ้น ในตอนนี้เกรงว่านางคนเดียวคงไม่สามารถจัดการได้แล้ว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้จิ่วเยี่ยลงมือ

กลับนึกไม่ถึงว่าจะมีคนนำทางและมีคนเปิดทางเช่นนี้

ซากปรักหักพังของสุสานมังกรอันซับซ้อน แต่พวกเขากลับรู้ภูมิศาสตร์ในที่แห่งนี้ดี

เมื่อเดินทางออกมาจากป่าไม้เหล่านั้นได้แล้ว ในที่สุดมู่เฉียนซีก็ได้เห็นกับสถานที่ที่ไม่ถูกห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้แล้ว

บริเวณโดยรอบมียอดเขาอยู่สองลูก ตรงกลางราวกับถูกมีดขนาดใหญ่ผ่าออกก็มิปาน และก่อตัวเป็นถนนก้อนกรวด

ท่านลุงเก๋อเปิดดูแผนที่ ก่อนจะกล่าวว่า “ใช่แล้ว ที่นี่คือหุบเขาทมิฬ เดินเข้าไปในหุบเขาทมิฬก็จะเจอที่อยู่ของคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกร”

“พวกเจ้า…นี่เป้าหมายของพวกเจ้าก็คือคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกร!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยความประหลาดใจ

“ก็ต้องเป็นคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกรแน่นอนอยู่แล้ว ของล้ำค่าที่บรรพบุรุษของเผ่ามังกรอื่นทิ้งเอาไว้มันเทียบกับของล้ำค่าในนี้ไม่ได้เลย ตราบใดที่เอาของล้ำค่าในคลังนี้มาได้ การจะครอบครองแดนมังกรก็ไม่ใช่เรื่องยาก” ท่านลุงเก๋อกล่าว

“พวกเจ้าไม่มีกุญแจเทพเผ่ามังกร จะเอาของล้ำค่าเหล่านั้นออกมาได้ยังไง ฝันกลางวันชัด ๆ!”

“แม่นางมู่ เจ้ามันช่างไร้เดียงสาเกินไปแล้วจริง ๆ ! การที่พวกข้ามาที่นี่ แน่นอนว่าพวกข้าต้องมีความมั่นใจมาอย่างเต็มเปี่ยม” ท่านลุงเก๋อยิ้มพลางกล่าว

“เป็นไปไม่ได้!” มู่เฉียนซีกล่าว

“เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าก็จะรู้เอง หากนายน้อยชื่นชอบเจ้า บางทีเจ้าอาจจะได้เข้าไปในคลังเก็บของล้ำค่าด้วยก็ได้นะ!” ท่านลุงเก๋อกล่าว

พวกเขากลับไม่ได้เดินเข้าไปต่อ แต่เลือกที่จะตั้งที่พักหยุดพักอยู่ตรงนี้

“หยุดรอตรงนี้ก่อน รอคนอื่นมารวมตัวกันที่หุบเขาทมิฬ เฝ้าสาวน้อยผู้นี้เอาไว้ให้ดี คาดว่าห้าเผ่าจะต้องส่งคนมาช่วยนางแน่”

มู่เฉียนซีเป็นตัวประกันอย่างนิ่งเงียบ เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ทำร้ายตัวประกันอย่างนางแต่อย่างใด นางจึงกินอยู่อย่างสบาย

คนของกลุ่มเทพทยอยกันมาทีละกลุ่ม ๆ เมื่อพวกเขาเห็นมู่เฉียนซีเข้าก็รู้สึกประหลาดใจมาก แต่เมื่อได้ฟังเหตุผลของท่านลุงเก๋อก็ยอมรับการร่วมทางของมู่เฉียนซี

การเพิ่มพลังของนายน้อยของพวกเขานั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากต่อกลุ่มเทพ

สุ่ยอู๋ซินและพวกก็เดินทางตามมาติด ๆ เขากล่าว “ตกลงพวกเจ้าจะเอาเช่นไรถึงจะยอมปล่อยนาง?”

ท่านลุงเก๋อกล่าว “เอากุญแจเทพเผ่ามังกรมาสิ แล้วพวกข้าจะยอมปล่อยนาง เป็นเช่นไร?”

สุ่ยอู๋ซินกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “เป็นไปไม่ได้ กุญแจเทพเผ่ามังกรมันไม่ได้อยู่ที่พวกข้า”

“เช่นนั้นพวกเจ้าก็ออกไปจากซากปรักหักพังของสุสานมังกรซะ แล้วข้าจะไว้ชีวิตสาวน้อยผู้นี้”

“หากพวกข้าไป แล้วพวกข้าจะแน่ใจได้ยังไงว่าเจ้าจะไม่แตะต้องนาง!”

“พวกข้าให้สาบาน!” อย่างไรเสียสาวน้อยผู้นี้พวกเขาก็จะเก็บเอาไว้ให้นายน้อย ไม่ได้คิดจะฆ่านางแต่อย่างใด

สุ่ยอู๋ซินกล่าว “ข้าไม่เชื่อพวกเจ้า!”

ทันใดนั้นเองผู้แข็งแกร่งของทั้งห้าเผ่าก็ลอบโจมตีทันที ด้วยคิดที่จะช่วยมู่เฉียนซีไป

ปัง!

ยอดฝีมือของทั้งสองฝ่ายเริ่มต่อสู้กันครั้งแรกด้านนอกหุบเขาทมิฬ

พวกเขาได้กลายร่างเป็นมังกรและต่อสู้กันอย่างไม่มีใครยอมใครจนแทบจะพังภูเขาทั้งสองให้ทลายลงมาแล้ว

หลังจากที่ได้ต่อสู้กันครึ่งค่อนวัน ท่านลุงเก๋อก็ได้รู้ว่าหากฝืนสู้กันต่อไปก็ไม่สามารถแยกแพ้ชนะได้

ท่านลุงเก๋อจับมู่เฉียนซีเป็นตัวประกันอีกครั้ง “สุ่ยอู๋ซิน ดูท่าเจ้าจะไม่สนใจสาวน้อยผู้นี้แล้วสินะ เช่นนั้นสาวน้อยผู้ที่ไร้ประโยชน์เช่นนี้ข้าก็ฆ่าทิ้งไปซะเลยดีกว่า”

“เจ้า…” สีหน้าของสุ่ยอู๋ซินซีดเผือดไปทันที

“ข้าขอเปลี่ยนข้อตกลง ขอเพียงแค่พวกเจ้าไม่ย่างกรายเข้ามาใกล้หุบเขาทมิฬ ข้าก็จะไม่ทำอะไรสาวน้อยผู้นี้”

“หุบเขาทมิฬเป็นสถานที่ที่ตั้งอยู่ของคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกร พวกข้าจะวางใจให้พวกเจ้าอยู่ที่นี่ได้ยังไง” สุ่ยอู๋ซินกล่าว

“ข้าไม่มีกุญแจเทพเผ่ามังกร เปิดคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกรไม่ได้ พวกเจ้าวางใจได้! พวกข้าไม่สามารถเอาสิ่งใดไปได้แน่นอน แต่หากพวกเจ้ายังดื้อรั้นไม่ยอมฟังกันแล้วละก็ สาวน้อยรูปร่างหน้าตางดงามพรสวรรค์เป็นเลิศผู้นี้จะต้องตายอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน” ท่านลุงเก๋อหรี่ตายิ้มพลางกล่าว

สุ่ยอู๋ซิขมวดคิ้วขึ้น พยายามดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวออกมาว่า “ตกลง พวกข้าจะไป!”

มุมปากของมู่เฉียนซียกยิ้มขึ้น การแสดงช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก หากไม่ต่อสู้ก็ยากมากที่จะทำให้พวกมันคลายความระมัดระวัง

ท่านลุงเก๋อมองสุ่ยอู๋ซินจากไปด้วยความพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง ส่วนมู่เฉียนซีถลึงตาจ้องมองเขาด้วยความโกรธเกรี้ยว

“เจ้าฆ่าข้าไปซะให้สิ้นเรื่องเถอะ เอาข้ามาเป็นตัวประกันข่มขู่คนอื่นเช่นนี้ ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก!”

ท่านลุงเก๋อกล่าว “สาวน้อย เจ้าวางใจเถอะ ข้ายังใช้ประโยชน์จากเจ้าได้อีกเยอะ! ข้าจะฆ่าเจ้าได้อย่างไรกันล่ะ!”