เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1521
เวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว บนเขาเทียนนู่ยังคงเต็มไปด้วยลมและเมฆเหมือนเดิม
อาทิตย์ขึ้นทางตะวันออก แสงอาทิตย์ส่องสว่างทั่วท้องฟ้า
ลู่ฝานยืนอยู่บนหินก้อนหนึ่ง มองไปยังขอบฟ้าเห็นวิวทิวทัศน์งดงามเต็มตา
ลู่ฝานถือไม้กวาด ทำความสะอาดทางเดินของศูนย์กลางตระกูลหั่วต่อไป เขาไม่ได้ใช้ปราณชี่และพลังชี่ แค่ทำความสะอาดอย่างเงียบๆ เท่านั้น
มีผู้อาวุโสนั่งฝึกฝนอยู่บนหินก้อนใหญ่รอบๆ หายใจเข้า-ออก เคลื่อนไหวพลังฟ้าดินรอบๆ ทุกคนอยู่ในกิริยาที่เหมาะสม
หลิงเหยาฮัมเพลง คอยช่วยอยู่ด้านหลังลู่ฝาน
ทั้งสองคนเดินตามกันติดๆ ทำงานกันอย่างมีความสุขมาก
พวกเขาเปลี่ยนมาสวมชุดคลุมยาวของตระกูลหั่วแล้ว เมื่อมองจากไกลๆ เห็นเงาคนสวมชุดสีทองและสีเทา
ลู่ฝานกวาดช้ามากแต่กลับมีเสน่ห์มาก เหมือนเขากวาดไปตามวิถีทางพิเศษอะไรบางอย่าง
สองสามวันก่อนหน้านี้ หลังจากลู่ฝานเห็นอริยปราชญ์ไป๋หยินใช้พลังเฉียนคุน ลู่ฝานแอบศึกษามาตลอดว่าจะทำยังไงให้พลังฟ้าดินสมบูรณ์แบบ
แม้เขาดูเพียงรอบเดียว แต่พอจำวิธีการผสานของอริยปราชญ์ไป๋หยินได้
ตอนนี้ลู่ฝานกำลังทดสอบอยู่ในร่างกาย ดังนั้นระหว่างที่เขาก้าวเดินจึงเริ่มมีวิถีทางขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
“ฉันยังไม่เคยเห็นใครมีความเข้าใจยอดเยี่ยมขนาดนี้มาก่อน!”
ผู้อาวุโสสองคนยืนอยู่บนก้อนหินไกลๆ
หนึ่งในนั้นคืออริยปราชญ์ไป๋หยิน ส่วนอีกคนคือผู้อาวุโสห้าที่สวมชุดคลุมสีขาว
ไป๋หยินมองลู่ฝานแล้วพูดว่า “เพิ่งกวาดได้แค่สามวัน แต่จิตใจสงบนิ่งและเริ่มทำความเข้าใจ ฉันจำได้ว่าตอนนั้นฉันใช้เวลาสามปีเต็มๆ ถึงจิตใจจะสงบได้ คลื่นลูกใหม่พัดคลื่นลูกเก่าจริงๆ!”
ผู้อาวุโสห้ายิ้มแล้วพูดว่า “เด็กคนนี้ไม่เลวจริงๆ วิทยายุทธคาบเกี่ยวระหว่างเซียนบำเพ็ญชี่ ได้ยินว่าเขาฝึกอาทิตย์ลุกโชนสำเร็จด้วย ดูเหมือนขาดแค่เพียงความพยายามอีกสักครั้ง สืบที่มาของเขาหรือยัง”
ไป๋หยินพูดว่า “ถามแล้ว ไม่ได้อะไรสักอย่าง หั่วตันซูบอกว่าสองคนนี้มาจากหุบเขามรณะ”
ผู้อาวุโสห้าส่ายหน้า “เหมือนไม่ใช่”
ไป๋หยินยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันก็คิดว่าเป็นไปไม่ค่อยได้เหมือนกัน เป็นคนที่ตระกูลอื่นส่งมาสอดแนมหรือเปล่า”
ผู้อาวุโสห้าหัวเราะแล้วพูดว่า “ยิ่งไม่เหมือนเข้าไปใหญ่ ถ้าตระกูลอื่นยอมให้คนมีความสามารถแบบนี้มาสอดแนม ฉันคงต้องขอบคุณพวกเขาจริงๆ”
ไป๋หยินพยักหน้าพูดว่า “แล้วเขามาจากไหนล่ะ”
ผู้อาวุโสห้าครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ยังจำนักบู๊สองคนที่เข้ามาในตระกูลหั่วของเราในตอนนั้น ฆ่าคนตระกูลหั่วและจับตัวหั่วเยี่ยนไปได้ไหม!”
ไป๋หยินขมวดคิ้วพูดว่า “พวกเขาเหรอ เห็นภาพก่อนตายของคนพวกนั้นชัดเจนแล้วเหรอ”
ผู้อาวุโสห้าส่ายหน้า “นายก็รู้ว่าป้ายชีวิตของตระกูล ถ้าคนตายยิ่งฐานะสำคัญ จะยิ่งเห็นชัดเจน ส่วนลูกน้องพวกนั้นเห็นว่าพวกเขาตายยังไงก็ถือว่าดีแล้ว เห็นประมาณว่าเป็นผู้ชายถือกระบี่หนักกับผู้หญิงอีกหนึ่งคน รูปร่างไม่ต่างกับลู่ฝานกับนักบู๊สาวใช้ของเขาเท่าไร”
ไป๋หยินพูดว่า “งั้นต้องบอกว่าเป็นนักบู๊สองคน ลู่ฝานเป็นผู้ฝึกชี่ของแท้ๆ น่าจะตัดความน่าสงสัยไปได้เลย!”
ผู้อาวุโสห้ายิ้มแล้วพูดว่า “นายก็ไม่อยากให้เป็นเขาใช่ไหมล่ะ”
ไป๋หยินพูดว่า “อัจฉริยะมียาก อัจฉริยะไร้เทียมทานยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ ถึงใช่ ฉันก็อยากเตือนให้นายคิดให้รอบคอบ ฉันสังเกตเขามาหลายวัน เด็กคนนี้ไม่มีความคิดเป็นศัตรูกับตระกูลหั่วของเรา”
ผู้อาวุโสห้ายิ้มแล้วพยักหน้า “เรื่องนี้ฉันค่อยดูอีกที รอหั่วตันซูหายดี ฉันจะเรียกเขามาถาม อ้อ ยังมียัยเด็กหั่วเทียนหรุ่ยอีกคน เธอต้องเคยเห็นนักบู๊สองคนนั้นแน่ๆ ถ้าไม่ได้จริงๆ ให้เธอมาดูก็จบแล้ว”