ตอนที่ 1026: ทักษะคำทำนายสุดยอด

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1026: ทักษะคำทำนายสุดยอด

ทาจิและฟางหยันลอยอยู่กลางอากาศหน้าซีด เลือดยังคงอยู่ที่มุมปากของพวกเขาในขณะที่ชุดขาวของพวกเขาย้อมไปด้วยสีเลือด พวกเขาดูน่าเวทนามาก

เจี้ยนเฉินไม่ได้ฆ่าทาจิและฟางหยัน ทวีปเทียนหยวนกำลังจะเจอกับหายนะในอนาคตอันใกล้ ทาจิและฟางหยันเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 และ 6 ดังนั้นพวกเขาจะเป็นกำลังหลักในการขับไล่ผู้รุกรานของโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งได้

“พวกเจ้าทั้งสองยังไม่ใกล้เคียงกับการเป็นคู่มือของข้า ไปซะ เจ้าจะไม่ยุ่งกับเรื่องของนิกายดาบโลหิตในวันนี้ ไม่เช่นนั้น จะถือว่าเจ้าเป็นศัตรูกับนิกายดาบโลหิต” เจี้ยนเฉินพูดแล้วเก็บยุทธภัณฑ์จักรพรรดิไป

ทาจิและฟางหยันมองหน้ากันและกัน พวกเขาทั้งคู่ตกอยู่ในปัญหา และพวกเขาก็มองไปที่หลัวโตวที่ได้รับบาดเจ็บหนักเหมือนกัน พวกเขาถอนหายใจเบา ๆ และไม่ได้พูดอะไรต่อ พวกเขาฉีกมิติและเปิดประตูมิติแล้วจากไปในนั้น

ทั้งคู่รู้ดีว่าเจี้ยนเฉินมีความสามารถที่จะฆ่าพวกเขาได้จากการต่อสู้ก่อนหน้านี้ แต่เขาก็แสดงความเมตตาในตอนท้าย นี่เป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่ได้ข่มขู่อะไรเลยก่อนที่จะจากไป

ทาจิและฟางหยันจากไปพร้อมกันและกลับไปที่จักรวรรดิเฟยลี่ หลัวโตวเสียกำลังสนับสนุนไป งนั้นใบหน้าของเขาจึงว่างเปล่าเปล่าเปลี่ยว อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเขาก็เป็นประกายอย่างรวดเร็ว เขาไม่ลังเลแล้วฉีกมิติรอบ ๆ ออกเพื่อเปิดประตูมิติ

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ประตูจะเสร็จ เจี้ยนเฉินก็ปรากฏขึ้นที่ข้าง ๆ เขาและต่อยเข้าไปที่ประตู เขาทำให้มิติสั่นไหวอย่างรุนแรง และป้องกันไม่ให้ประตูมิติเกิดขึ้นมาได้

“เจ้ามีจิตสังหารที่รุนแรงมากต่อนิกายดาบโลหิต ถ้าข้าปล่อยเจ้าไปในวันนี้ เจ้าจะต้องมาทำร้ายนิกายดาบโลหิตแน่เมื่อเจ้าแข็งแกร่งกว่านี้ ดังนั้นเจ้าจะต้องตายวันนี้” พลังแห่งการมีอยู่ของเจี้ยนเฉินพุ่งพวยขึ้นในขณะที่เขาจ้องไปที่หลัวโตว หลังจากนั้น เขาก็ต่อยไปที่หน้าอกของหลัวโตวจนทะลุ ซี่โครงและอวัยวะของเขาแหลกเละ

หลัวโตวกระอักเลือดออกมา เขาทนการบาดเจ็บและจ้องอย่างเย็นชาไปที่เจี้ยนเฉิน เขาตะโกนออกมา “ข้าเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิของจักรวรรดิเฟยลี่ ! ถ้าเจ้าฆ่าข้า จักรวรรดิเฟยลี่ต้องไปทำลายนิกายดาบโลหิตของเจ้าจนราบเป็นหน้ากลองแน่ ! ฮุสตันจะตายในอีกไม่ช้าแล้ว ! เขาจะปกป้องนิกายไม่ได้ ! “

ใบหน้าของเจี้ยนเฉินหมองลงหลังจากที่ได้ยินแบบนั้น จิตสังหารพวยพุ่งในดวงตาของเขาในขณะที่เขาคำรามออกมา “เจ้าหาที่ตายที่ไม่เคารพลุงเซียว ! ” เจี้ยนเฉินเปล่งรัศมีจิตสังหารที่น่ากลัวออกมาในขณะที่เขาไล่ตามหลัวโตวไป ชั้นพลังบรรพกาลบาง ๆ เคลือบอยู่ที่หมัดของเขาในขณะที่เขาต่อยไปที่หัวของหลัวโตว

หัวของหลัวโตวระเบิดออกจากหมัดที่โกรธเกรี้ยวของเจี้ยนเฉิน วิญญาณของเขาสลายไปก่อนที่มันจะได้หนี

หลัวโตวไม่คิดว่ามันจะไปทำให้เขาตายเร็วขึ้นแทนที่จะช่วยชีวิตเขาไว้จากสิ่งที่เขาพูดออกไปก่อนที่จะตาย

“ผู้พิทักษ์จักรพรรดิหลัวโตว ! ” ผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่ของอาณาจักรหลงฉีเห็นการตายของหลัวโตว พวกเขาจ้องตาโตซึ่งเต็มไปด้วยความเศร้าโศก

เจี้ยนเฉินมองไปที่ผู้พิทักษ์จักรพรรดิที่เต็มไปด้วยความโกรธและความเสียใจ บางทีการที่ความแข็งแกร่งของเขาที่เพิ่มขึ้นนั้นได้มีผลกระทบต่อจิตใจของเขา เขาจึงไม่สนที่จะจัดการกับเซียนผู้คุมกฎของอาณาจักรหลงฉี นั่นเพราะมันไม่ได้มีความไม่เข้าใจอะไรกันระหว่างพวกเขาเลย

เจี้ยนเฉินไม่ได้มองไปที่เซียนผู้คุมกฎในขณะที่เขาบินไปทางพระราชวัง เขาตรึงไปที่พลังแห่งการมีอยู่ของชายชราหม่าเทิงและซิตู

ผู้พิทักษ์ทั้งสี่ของนิกายดาบโลหิตไม่ได้วุ่นวายกับผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่เมื่อพวกเขาเห็นว่าเจี้ยนเฉินไม่ได้พยายามจะทำอะไรยุ่งยากให้พวกนั้น ก่อนที่พวกเขาจะตามเจี้ยนเฉินไปที่ส่วนที่แยกตัวอยู่ภายในพระราชวัง

ในตอนนี้ ชายชราซิตูและหม่าเทิงกำลังพิงอยู่ที่ประตูด้วยความกลัว พวกเขาส่องผ่านช่องเล็ก ๆ ออกมาเพื่อดูสถานการณ์ด้านนอก พวกเขาสั่นเล็กน้อย พวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว

ทั้งสองคนได้เห็นการต่อสู้ในท้องฟ้าในขณะที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่ พวกเขาคุ้นกับลักษณะรูปร่างของเจี้ยนเฉินดีในตอนที่พวกเขาไล่ล่าเจี้ยนเฉินในเมืองแห่งเทพเจ้า พวกเขาเห็นเจี้ยนเฉินทำให้เซียนราชา 2 คนได้รับบาดเจ็บ และก็สังหารไปหนึ่งคนอย่างไม่ยากเย็นอะไร พวกเขาตะลึงในความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉิน และยากที่จะยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริง

“ซะ ซะ ซิตู จะ จะ เจ้าคิดว่า นะ นั่นคือเจี้ยนเฉินจริง ๆ งั้นหรือ ? ” ชายชราหม่าเทิงพูดผ่านทักษะสื่อสาร เขากัดฟันกรอด

“พวกเราจบสิ้นแล้ว พวกเราจบสิ้นแน่ครั้งนี้ ความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินยอดเยี่ยมขนาดนี้ได้อย่างไร ? ข้าจำว่าเขาไม่ได้แข็งแกร่งมากไปกว่าพวกเราทั้งสองคนเลยตอนที่พวกเราเจอเขาครั้งแรกที่เมืองแห่งเทพเจ้า” ใบหน้าของชายชราซิตูไร้สีเลือด ในตอนนั้นเอง ความกลัวก็ได้มาแทนที่ความรู้สึกอื่นทั้งหมดของเขา

ทันใดนั้นเอง ท่าทางของชายชราหม่าเทิงก็เปลี่ยนไป เขาร้องออกมา “บ้าเอ้ย พวกเขามาทางที่พวกเราอยู่แล้ว ข้าลืมไปได้อย่างไร ? จอมยุทธของนิกายดาบโลหิตมีวิธีที่จะหาพวกเราได้ หนี ! ” ชายชราสองคนไม่สนในการปิดบังพลังแห่งการมีอยู่ของตัวเองอีกต่อไป พวกเขาพุ่งขึ้นไปบนเพดาน และหนีไปไกลด้วยความเร็วสูง

จิตสังหารของเจี้ยนเฉินเริ่มระเบิดออกมาทันทีซึ่งเขาพยายามจะข่มเอาไว้เมื่อเขาเห็นคนร้ายที่ฆ่าพ่อแม่ของเขา จิตสังหารเริ่มแผ่กระจายไปรอบ ๆ ทำให้อุณหภูมิดิ่งลงทันที เขาตะโกนออกมา “เจ้าคิดว่าจะหนีได้ต่อหน้าข้าอย่างนั้นหรือ ? ” เสียงของเจี้ยนเฉินดังและชัดมาก มันสั่นสะเทือนท้องฟ้าทันทีเหมือนเสียงฟ้าร้อง มันดังเสียดหู

ชายชราซิตูและหม่าเทิงนิ่ง พวกเขาเริ่มสั่นทันทีจากเสียงของเจี้ยนเฉินและหยุดโดยไม่รู้ตัว พวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว ต่อหน้าเซียนระดับราชา พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะหนีได้ด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้

เจี้ยนเฉินเข้ามาแต่ไกลด้วยใบหน้าที่มืดมน พลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลได้พุ่งเป้าไปที่สองคนนั้น มันทำให้พวกเขารู้สึกว่าเหมือนมีภูเขากำลังทับไปที่พวกเขา พวกเขายังยากแม้กระทั่งจะหายใจ

ทันใดนั้นเอง ชายชราทั้งสองก็คุกเข่าลงพร้อมกัน พวกเขาคำนับไปที่เจี้ยนเฉินในขณะที่พวกเขาอ้อนวอน “ผู้อาวุโสเจี้ยนเฉิน ได้โปรดปล่อยพวกเราไป เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเรา มันถูกบงการอย่างลับ ๆ จากราชาเสือของตระกูลกิลลิกัน ถ้าพวกเราไม่ฟังเขา เขาก็จะฆ่าพวกเรา ผู้อาวุโสเจี้ยนเฉิน ต้นเรื่องทั้งหมดมาจากราชาเสือไม่ใช่พวกเรา พวกเราแค่เป็นตัวหมากในมือของราชาเสือ”

“ใช่ ผู้อาวุโสเจี้ยนเฉิน พวกเราเป็นแค่หมากในมือของราชาเสือ พวกเราไม่มีทางเลือกอื่น มันไร้ประโยชน์ที่เจ้าจะฆ่าพวกเรา ดังนั้นได้โหรดยกโทษให้พวกเร้าวย ถ้าเจ้าต้องการจะแก้แค้น ไปหาราชาเสือ เขาเป็นศัตรูที่แท้จริงของเจ้า” ชายชราหม่าเทิงพูดตามคำอ้อนวอนของชายชราซิตูเสียงดัง เขาทำเหมือนเขามีความผิด เขาทำเสียงน่าสงสารเพราะเขาจำเป็นต้องทำ

เจี้ยนเฉินจ้องไปที่ชายชราทั้งสองคนอย่างเย็นชา จิตสังหารของเขาเพิ่มขึ้นแทนที่จะลดลง และเขาก็ชักเอายุทธภัณฑ์จักรพรรดิออกมาจากแหวนมิติของเขาอย่างช้า ๆ

เจี้ยนเฉินไม่สามารถปล่อยให้คนร้ายที่ฆ่าพ่อแม่ของเขาเมื่อหลายปีก่อนตายไปได้อย่างง่ายดาย

ชายชราทั้งสองกลัวมากกว่าเดิมเมื่อเจี้ยนเฉินเอายุทธภัณฑ์จักรพรรดิออกมา พวกเขามือเป็นระวิงและเอาของชิ้นแล้วชิ้นเล่าออกมาจากแหวนมิติ

“ผู้อาวุโสเจี้ยนเฉิน ถ้าท่านปล่อยพวกเราไป พวกเราจะให้ทุกอย่างที่พวกเรามี พวกนี้คือแกนอสูรระดับ 7 อันนี้คือเหรียญม่วงมากมายเลย และนี่คือทักษะคำทำนายสุดยอดที่น่ามหัศจรรย์ ทุกอย่างจะเป็นของท่าน”

“ใช่ ใช่ ใช่ ผู้อาวุโสเจี้ยนเฉิน ทักษะคำทำนายสุดยอดเป็นของโบราณ หนังสือศักดิ์สิทธิ์ พวกเราทั้งสองได้มันมาจากการเสี่ยงชีวิตเข้าไปในที่ที่อันตรายมาก คุณค่าของหนังสือนี้เกินกว่าชีวิตแก่แก่ของพวกเราทั้งสอง พวกเราจะใช้มันแลกเปลี่ยนกับชีวิตของพวกเรา ผู้อาวุโสเจี้ยนเฉินจะไม่เสียอะไรเลยจากการแลกเปลี่ยนนี้”

ชายชราทั้งสองคนถือส่วนของหนังสือในมือของพวกเขา พวกเขาชูส่วนของหนังสือขึ้นเหนือหัวของพวกเขาด้วยท่าทางที่เคารพ หนังสือทั้งสองเหมือนจะเป็นเล่มเดียวกันแต่มันถูกแยกส่วนกันอยู่

“เจ้าพูดอะไรก็ไม่มีผลหรอก ข้าจะฆ่าพวกเจ้าในวันนี้” เจี้ยนเฉินเน้นทุกคำที่เขาพูด น้ำเสียงของเขาเย็นชา และทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็แทงออกไปทันที แขนของเขาสั่น และยุทธภัณฑ์จักรพรรดิก็กลายเป็นกำแพงราง ๆ ที่คลุมตัวชายชราทั้งสองเอาไว้ เขาแทงออกไปนับครั้งไม่ถ้วนในเวลาอันสั้นมาก แต่ละการโจมตีมีความเร็วที่เหลือเชื่อ ภาพติดตาซ้อนกันเป็นชั้น ๆ จนหนาแน่นเต็มพื้นที่ไปหมด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าภาพเบลอนั้นเป็นกระบี่จริงหรือภาพลวง

“อ้าก ! ! “

ชายชราทั้งสองสั่นอย่างน่าเวทนา เลือดและเนื้อกระเด็นไปทั่วทั้งพื้นที่ที่เต็มไปด้วยภาพติดตา มันเปลี่ยนอากาศจนกลายเป็นหมอกเลือดที่เกลื่อนไปทั่วท้องฟ้า อากาศรอบ ๆ พวกเขาถูกย้อมจนเป็นสีแดง

ชายชราทั้งสองโหยหวนและคำรามออกมาอย่างน่าเวทนามากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ความเจ็บปวดก็ทุกข์ทรมานขึ้น มันสยดสยองมาก

สักพักต่อมา เจี้ยนเฉินก็หยุดลงในที่สุด นอกเหนือจากหัวของพวกเขา ชายชราทั้งสองคนเหลือเพียงโครงกระดูกเท่านั้นนับตั้งแต่คอลงมา พวกเขาถูกตัดทั้งเป็นจนไม่มีเนื้อเหลืออยู่ แม้แต่อวัยวะของพวกเขายังหายไปจนหมด

อาวุธเซียนที่อยู่ในปราณของพวกเขาถูกทำลายโดยเจี้ยนเฉิน ในตอนนี้ ทั้งสองลอยอยู่กลางอากาศได้เพราะเจี้ยนเฉินได้พันธนาการมิติตรงนั้นไว้ ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็คงร่วงลงไปที่พื้นแล้ว

“เจี้ยนเฉิน ถ้าเจ้าต้องที่จะฆ่า ฆ่าเลย ทำไมต้องทรมานพวกเราแบบนี้” ชายชราซิตูคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง เขาไม่สามารถทนการทรมานนี้ได้ มันไม่ใช่อะไรที่มนุษย์จะสามารถทนได้

“มันไม่ง่ายขนาดนั้นถ้าเจ้าต้องการให้ข้าฆ่าพวกเจ้าด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ข้าจะให้พวกเจ้าชดใช้และจ่ายดอกเบี้ยด้วยเลือดจากสิ่งที่พวกเจ้าทำไปเมื่อหลายปีที่แล้ว ข้าจะแยกและฉีกพวกเจ้าเป็นชิ้น ๆ ” เจี้ยนเฉินกัดฟัน หลังจากนั้น ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเขาก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง มันค่อย ๆ เลาะกระดูกของพวกเขาออก

เจี้ยนเฉินทรมานชายชราทั้งสอง 2 ชั่วยามเต็ม ๆ ในตอนที่พวกเขาเหลือแต่หัวแล้ว เขาก็กำจัดวิญญาณของทั้งสองทิ้งเพื่อให้มันสลายไปตลอดกาล

เจี้ยนเฉินเก็บยุทธภัณฑ์จักรพรรดิไปอย่างช้า ๆ และเงยหน้าขึ้นไปที่ท้องฟ้าสีคราม หลังจากนั้น เขาก็ถอนหายใจยาว ในตอนนี้คนร้ายที่ฆ่าพ่อแม่ของเขาทั้งหมดก็ได้ตายไปแล้ว เขาได้แก้แค้นให้พ่อแม่ของเขาได้สำเร็จลุล่วงแล้ว