บทที่ 941 สิ้นไร้หนทาง

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 941 สิ้นไร้หนทาง

“งั้น…..งั้นเขาก็ไม่ต้องทำร้ายเขาสิ เขาคือน้องชายแท้ๆ ของเขา คนในครอบครัวเดียวกัน ปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อกันก็สามารถพูดออกมาได้ แต่ทำไมสุดท้ายเขาจึงได้มีความคิดโหดร้ายแบบนั้นออกมา?”

เขาอดกลั้นต่อคลื่นยักษ์ที่ปั่นป่วนอยู่ในก้นบึ้งหัวใจ สุดท้ายยังคงตำหนิพ่อของตัวเอง

มินตราโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ!

และแสนรักที่เดินตามหลังเขามาด้วยจนถึงที่นี่ได้ยินแล้ว ก็รู้สึกร้อนผ่าวในใจขึ้นมาทันที

นี่ แท้จริงแล้วก็คือสิ่งที่มีค่าที่สุดของชายคนนี้

แม้ว่าเขาจะขาดความรับผิดชอบเล็กน้อย และก็ขาดความกล้าหาญในการจัดการเรื่องบางอย่าง แต่มุมมองทัศนคติของเขายังคงเป็นเชิงบวก ในเรื่องการมองสิ่งต่างๆ ก็สามารถคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวมซึ่งมีได้น้อยมาก

“แกพูดอะไรอยู่? แกกล้าพูดว่าพ่อของแกชั่วร้าย? แกนี่มันลูกอกตัญญู แกรู้บ้างหรือเปล่าถ้าเขาไม่ทำอย่างนี้? ตอนนี้ตระกูลเทวเทพก็คงไม่มีที่ยืนของแกไปนานแล้ว!”

มินตรากลับคืนสู่สภาพตะโกนส่งเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง เธอชี้ไปที่ลูกชายตัวเองและตะโกนด่า

สีหน้าของม็อกโกก็เปลี่ยนเป็นมืดมนลงไปทันที

เขาไม่ทะเลาะกับเธออีก เข็นศพของพ่อเดินตรงไปข้างหน้า

มินตราเห็นเข้า ภายใต้อารมณ์ที่กำลังตื่นตระหนก เธอคว้าราวกันตกด้านข้างแล้วปีนขึ้นไปบนนั้น

“มินตรา มินตราเธอจะทำอะไร?”

“ใช่ คุณนายมินตรา คุณจะทำอะไร? คุณรีบลงมาเถอะ!”

คนของตระกูลโชคศักดาที่ตามมาด้านหลังของเธอ ยังมีคนในโรงพยาบาลที่ยืนดูอยู่ หลังจากที่เห็นฉากนี้แล้ว ต่างก็พากันตกใจกรีดร้องขึ้นมา

ม็อกโกก็ได้ยินแล้ว เขารีบหันหน้ากลับมาทันที

“แม่ แม่คิดจะทำอะไรกันแน่? แม่บ้าไปแล้วเหรอ?”

“บ้า?”

ผู้หญิงที่ปีนขึ้นไปหัวเราะ เธอมองดูลูกชายที่ในที่สุดก็หันหน้ากลับมา ปล่อยมือ และก็ยืนอยู่บนด้านนอกของราวกันตกอย่างสั่นๆ

ม็อกโก : “! ! ! !”

แสนรัก : “…….”

แม้แต่เส้นหมี่กับพิมเจ้า ทั้งสองคนที่ต่างก็รีบมาถึงที่นี่พร้อมกับพวกเด็กๆ ทางนั้น หลังจากที่เห็นฉากนี้แล้ว ก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบอยู่ตรงพื้นชั้นล่าง

ผู้หญิงคนนี้ เป็นไปได้ว่าเป็นบ้าไปแล้ว!

“แม่ไม่ได้บ้า ลูก แม่ก็แค่คิดว่า ในเมื่อลูกรังเกียจพ่อของลูก งั้นแม่ก็ทำได้เพียงแค่ลงไปอยู่เป็นเพื่อนเขา แม่จากไปแล้ว ต่อไปลูกจำไว้ว่าต้องดูแลตัวเองดีๆนะ”

“……”

ม็อกโกตกตะลึง

เมื่อตั้งสติได้ เขารีบปล่อยมือจากเปลเข็นและรีบวิ่งไปหาเธอทางนั้นทันที

แต่มันสายเกินไปแล้ว ในวินาทีที่เข้าวิ่งเข้าไปนั้น แม่ของเขาคนนี้กลับกระโดดลงไปจากบนราวกันตกจริงๆ รวดเร็วมากจนแม้แต่แสนรักทางนี้ที่พุ่งเข้ามาด้วยก็คว้าไว้ไม่ทัน!

“แม่—-“

ทันใดนั้น เสียงตะโกนเรียกแสนบีบหัวใจก็ดังก้องขึ้นมาจากทางเดินของโรงพยาบาลแห่งนี้

ทั้งโรงพยาบาลก็เงียบลง!

พวกเขามองดูผู้หญิงที่หล่นลงมาละเอียดเละเป็นก้อนเนื้ออยู่ตรงพื้นด้านล่างอย่างตกใจอ้าปากค้าง เป็นเวลานานกว่าครึ่งนาทีที่สมองของทุกคนต่างเต็มไปด้วยความว่างเปล่าและนิ่งเฉย

รวมทั้งแสนรักด้วย

ยังมี เส้นหมี่ที่อยู่ชั้นล่าง

เธอกระโดดลงมาจริงๆ?

ทำไมล่ะ?

เธอมาอาละวาดที่นี่ ตั้งแต่เมื่อวานที่เดอะวิวซี มาจนถึงตอนนี้ ไม่ใช่เพราะว่าต้องการช่วยไชกุสามีของเธอเหรอ?

งั้นถึงแม้ว่าตอนนี้ไชกุตายไปแล้ว เธอยังมีลูกชายคนหนึ่งม็อกโก ไม่เห็นจะต้องเลือกเดินทางเดินสุดโต่งแบบนี้ หรือว่าเพราะไชกุไม่อยู่แล้ว เธอจะไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้แล้ว?

เส้นหมี่มองดูอย่างตกตะลึง

เป็นเวลานานมากที่เธอคิดไม่ออกถึงสาเหตุที่ผู้หญิงคนนี้กระโดดลงไป

จนกระทั่งจู่ ๆ มีคนคนหนึ่งเดินเข้ามาข้างๆ และหลังจากที่คนคนนี้มาถึงแล้ว มองเห็นฉากที่เลือดนองเต็มพื้นด้านล่าง ทันใดนั้น เธอเงยหน้าขึ้นไปมองผู้หญิงที่อยู่เหนือศีรษะ

ห่างกันไกลขนาดนั้น เส้นหมี่กลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเธอคนนั้นตัวสั่นอย่างรุนแรง

“พี่สาว?”

“ทำไม? ทำไมเมื่อสักครู่พวกคุณไม่ห้ามไว้?!!”

แสงดาวหน้าซีดขาวเหมือนกับคนตาย เธอจ้องมองผู้ชายเหนือศีรษะอย่างไม่ละสายตา

เส้นหมี่อ้าปาก

คิดจะพูด ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นบ้าคลั่ง พวกเขาไม่ได้เตรียมตัวอะไรไว้เลย แต่เมื่อเธอก็มองตามสายตาของเธอไปยังชายคนนั้น

แต่สีหน้าก็เปลี่ยนไปกะทันหัน และก็พูดอะไรไม่ออกด้วยเช่นกัน!

นั่นคือใบหน้าใบหนึ่งที่จำไม่ได้เลย

อวัยวะทั้งห้าบนใบหน้าคือคุ้นเคย แต่คิ้วสีเทาขาว ขมวด บิดงอ……ของเขากำลังจ้องมองค้างอยู่ที่ด้านล่าง เหมือนกับว่าเปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่ง ห่างกันอยู่หนึ่งชั้น–

เธอรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกไปทั่วทั้งร่างกาย!

เธอไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อนเลย

——

สุดท้ายม็อกโกก็ล้มลงไป

เพราะเมื่อวานที่พ่อของเฆ่าตัวตาย ก็อดหลับอดนอนมาแล้วทั้งคืน ตอนนี้แม่ของเขาก็ตายด้วยวิธีน่าเวทนาต่อหน้าต่อตาเขา ในที่สุดเขาก็รับไม่ไหวแล้ว

แสนรักให้คนพาเขาส่งไปยังในห้องพักผู้ป่วย

ส่วนมินตรา

“ที่รัก ให้ฉันไปจัดการเองเถอะ คุณท่านทางนั้นฟื้นขึ้นมาแล้ว คุณจะต้องไปอธิบายให้เขาฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้”

เส้นหมี่ที่เข้าและหลังจากเห็นฉากนี้แล้ว เป็นฝ่ายริเริ่มที่จะรับเรื่องนี้มาจัดการเอง

ความรู้สึกของแสนรักในตอนนี้แย่มาก

เขายืนไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งตรงด้านนอกห้องพักผู้ป่วย สุดท้ายก็ยอมตกลง : “ถ้าหากไม่ไหวแล้ว โทรศัพท์หาผมนะ”

เขาไม่ลืมที่จะกำชับมาหนึ่งประโยค

อันที่จริงจนถึงตอนนี้เส้นหมี่เองก็ยังรู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อย ฉากนั้นที่มินตรากระโดดลงไป มันช่างสยดสยองเกินไป เธอเป็นหมอ แต่ก็ยังตกใจอยู่บ้าง

ได้ยินประโยคกำชับนี้แล้ว หัวใจของเส้นหมี่ก็รู้สึกอบอุ่นขึ้น