บทที่ 1234 น้ำกำเนิดไม้?

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร หวังเป่าเล่อรู้สึกได้ว่าตัวเองเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนเป็นสุขุมลุ่มลึก นิ่งมากกว่าเดิม บางที…อาจเป็นตั้งแต่ที่เขาตระหนักรู้เต๋าเป็นอิสระเป็นตัวของตัวเอง

หรือบางทีเป็นนาทีที่เขาย่างเข้าสู่จักรพิภพ แม้สิ่งผูกมัดจะไม่อยู่ แต่เขาก็มองเห็นความหวัง

หรือบางทีเป็นเขาที่ฝึกมาจนถึงตอนนี้และแจ่มแจ้งความหมายของคำว่าไม่สับสนได้อย่างลึกซึ้งแล้ว

การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ หวังเป่าเล่อก็ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี แต่ดีที่เขารู้ตัว…ส่วนคนที่ตนรัก ที่ตนใส่ใจ เขาไม่เคยเปลี่ยน

แต่ในทางตรงกันข้าม…สำหรับคนหรือเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องเขาก็ยิ่งเย็นชาตอบ ความรู้สึกที่แตกต่างกันคนละขั้วเช่นนี้ทำให้หลายครั้งในสายตาคนนอกหวังเป่าเล่อช่างดูเย็นชาอย่างที่สุด

ดั่งเช่นตอนนี้…ก็เป็นเช่นนั้น เมื่อหวังเป่าเล่อยกเท้าไปทางวงแหวนปราณเต๋าเก้ารัฐ วินาทีที่เท้าย่ำลง วงแหวนปราณเต๋าเก้ารัฐสั่นครืนดังสนั่นไปทั่ว โซ่เก้าเส้นในนั้นรวมทั้ง สะเก็ดดาว กระถางสำริดสามขาขนาดใหญ่ ขวานรบและมนุษย์ยักษ์ เงาที่ปรากฏขึ้นของมหาเต๋าทั้งห้านี้สะท้อนก้อง

กระทั่งสะเทือนไปทั่วทั้งดาราจักรเต๋าเก้ารัฐ ทำให้ผู้ฝึกตนและดวงดาราทั้งหมดในนั้นสั่นไหวอย่างรุนแรง ผู้ฝึกตนของห้าสำนักจำนวนมากกระอักเลือด เหตุเพราะจุดยืนของแต่ละคนต่างกันต่างฉายแววอาฆาตแค้นขึ้นในนัยน์ตา

สำหรับสายตาเช่นนี้ หวังเป่าเล่อสัมผัสได้ แต่เขาได้แต่เงียบงัน การลงมือของทั้งห้าสำนักตอนที่เขาเลื่อนขั้น รวมทั้งท่าทางยามที่ตระกูลคงกระพันหนุนหลังในตอนหลังก็ได้ตัดสินชะตาชีวิตของพวกเขาเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

ทว่าท้ายที่สุดหวังเป่าเล่อก็ยังเป็นคนที่มีหลักการและขอบเขต ดังนั้นเวลานี้ขณะที่สาวเท้าก้าวที่สองออกไปก็ไม่ได้แผ่พลังออกไปสั่นคลอนรากฐานของผู้ฝึกตนทั้งห้าสำนัก และได้ประสานพลังทั้งหมดรวมไว้ที่เต๋าของห้าสำนักในวงแหวนปราณ

เพียงพริบตา ทั่วทั้งท้องฟ้าคำรามลั่น สะเก็ดดาวพังทลาย กระถางสำริดสามขาแตกละเอียด ขวานรบกับมนุษย์ยักษ์ก็ยืนหยัดได้อีกไม่นานก่อนระเบิดออก สิ่งสุดท้ายที่ทลายลงก็คือโซ่เก้าเส้นของเต๋าเก้ารัฐ

เมื่อเงามหาเต๋าทั้งห้าสำนักพังทลายลง ภายใต้พลังคลุ้มคลั่งนี้วงแหวนปราณก็ปรากฎลางแตกร้าว รอยแตกขนาดใหญ่ทางหนึ่ง แม้ตัวมันจะไม่ยินยอม แต่ก็ไม่สามารถรักษารอยแตกแยกนี้ได้ เผยขึ้นที่เบื้องหน้าหหวังเป่าเล่อ ทำให้เขามองผ่านรอยแตกเข้าไปเห็นผู้ฝึกตนของทั้งห้าสำนักจำนวนมหาศาลอยู่ด้านใน

ตอนนี้ เวลาเพิ่งผ่านไปสามลมหายใจ!

หวังเป่าเล่อสีหน้าเรียบเฉยก้าวที่สามต่อไป เงาร่างก้าวผ่านรอยแตก ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง…ที่ในดาราจักรเต๋าเก้ารัฐ และวินาทีที่เขาก้าวเข้ามา วงแหวนปราณด้านหลังเขา มหาเต๋าห้าสำนักที่พังทลายอยู่ในคราแรก ด้วยแรงฟื้นฟูอย่างสุดพลังของแต่ละสำนักก็ค่อยๆ เกาะรวมกันใหม่และผสานเข้าด้วยกันกลายเป็นฝ่ามือมหาเต๋าข้างนั้นที่เคยปรากฏขึ้นที่นอกระบบสุริยะในตอนนั้น

ฝ่ามือนี้มีพลังมหาศาลเต็มไปด้วยพลังอันน่าสะพรึง เวลานี้เคลื่อนออกมาจากวงแหวนปราณคว้าหมับไปทางหวังเป่าเล่อ ในขณะเดียวกัน เสียงคำรามหลายเสียงสะท้อนก้องไปทั่วฟ้า ผู้ฝึกตนจักรพิภพของห้าสำนักมากกว่ายี่สิบคนปรากฏขึ้นรอบกายหวังเป่าเล่อ แต่ละคนต่างระเบิดพลังปราณออกมาทั้งหมด เผยเคล็ดวิชาลับอันแข็งแกร่งตีโอบไปทางหวังเป่าเล่อ

   หากมองไกลๆ ฉากนี้ช่างอกสั่นขวัญแขวน เหล่าชนชั้นสูงจักรพิภพมากกว่ายี่สิบคน รวมทั้งฝ่ามือมหาเต๋า ราวกับกลายเป็นวงแหวนประหารโอบล้อมหวังเป่าเล่อไว้ภายใน หากเพียงเท่านี้…บางทีอาจรับมือกึ่งจักรวาลได้ แต่ไม่มีทางสามารถจัดการกับระดับจักรพรรดิสวรรค์ที่แท้จริงได้ แต่เห็นได้ชัดว่า…ฉากสังหารไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น

พริบตาต่อมา ด้านหลังเหล่าชนชั้นสูงจักรพิภพกว่ายี่สิบคนนี้ได้ปรากฏผู้เฒ่าขึ้นห้าคน แต่ละคนล้วนแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของกาลเวลา และก็เป็นผู้อาวุโสของทั้งสี่สำนัก แม้พวกเขาจะไม่ใช่ระดับกึ่งจักรวาล แต่ในจักรพิภพก็เป็นผู้แข็งกล้าน่าสะพรึงเช่นกัน อีกทั้งแต่ละคนยังนำของดีของแต่ละสำนักออกมา กลายเป็นแรงสังหารที่น่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง

ส่วนผู้อาวุโสคนที่ห้าก็คือหุ่นเชิดผีดิบที่เต๋าเก้ารัฐหลอมออกมา ที่มาลึกลับ  แต่พลังต่อสู้ที่ระเบิดออกมาก็น่าสะพรึงเช่นกัน ทั้งห้าคนร่วมมือกันกลายเป็นแรงบีบคั้นระลอกสอง ทำให้หวังเป่าเล่อที่ถูกล้อมอยู่ด้านในราวกับ…ถูกจี้ยากจะหนี

แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ เต๋าเก้ารัฐก็ยังไม่รามือ เห็นได้ชัดว่าเตรียมพร้อมมาอย่างดี ในพริบตา ผู้ฝึกตนทั้งห้าสำนักจำนวนมหาศาลนั่งขัดสมาธิลงพลางส่งเสียงท่องบทสวดประหลาดออกมา

บทสวดนี้แฝงด้วยความหลุดพ้น ดูคล้ายเป็นบทวัฏสงสาร แต่ความจริง…กลับเป็นบทสวดให้คนตายอย่างหนึ่ง เป็นวิชาลับของเต๋าเก้ารัฐ สามารถเป็นพลังเปลวธูปขุมหนึ่งได้เพื่อเจตนาฆ่าคน

หลักการของมันก็คือรวบรวมเจตนาสังหารของทุกคนเปลี่ยนเป็นความเชื่อ และใช้มันฆ่าสยบทุกสิ่ง เวลานี้เมื่อบทสวดจากผู้ฝึกตนทั้งห้าสำนักลอยล่อง ไอหมอกสีเทาหลายสายจากทั้งสี่ทิศมารวมกัน ทำให้จุดที่หวังเป่าเล่อถูกโอบล้อมเกิดเป็นน้ำวนขนาดยักษ์จากไอหมอกจำนวนมหาศาลนี้

เสียงดังสนั่นไม่หยุดหย่อน ขณะที่สะท้อนไปทั่วฟ้า ในประตูบรรพชนเต๋าเก้ารัฐ ผู้อาวุโสเต๋าเก้ารัฐที่หว่างคิ้วมีผนึกหยดน้ำจับจ้องศึกนี้ได้ก้าวออกจากสถานที่ถือสันโดษ เวลานี้หรี่ตาลง มือขวาพลันเคลื่อนสูง เพียงพริบตาก็มีสายน้ำจำนวนมากออกมาจากอากาศ ก่อนกลายเป็นหอกน้ำแข็งเล่มหนึ่งตรงเบื้องหน้าเขาในทันที

หอกนี้เป็นสีฟ้าทั้งเล่ม แวววาวโปร่งใส ประกอบขึ้นจากน้ำแข็งเต๋า แฝงไว้ด้วยพลังมหาเต๋าของผู้อาวุโสเต๋าเก้ารัฐรวมทั้งผู้ฝึกตน แม้จะยังไม่ขว้างออกไป แต่จากกระแสคลื่นและกลิ่นอายของมันก็น่าสะพรึง หากเป็นเยาถงอยู่ที่นี่นอกจะเสียจากจะทุ่มสุดตัว ไม่เช่นนั้นก็เกรงว่าจะต้านทานไม่ไหวเช่นกัน

ถึงอย่างไร…ผู้อาวุโสเต๋าเก้ารัฐที่ในประตูใหญ่เต๋าเก้ารัฐ เขาก็เป็นระดับจักรวาล!

ซึ่งในเวลานี้ทำเพียงผสานรวมหอกน้ำแข็งตั้งท่าเตรียมพร้อม ยังไม่ลงมือในทันที แต่ยิ่งเป็นแบบนี้แรงกดดันก็ยิ่งมาก ราวกับมีผนึกพลังปราณ หากถูกเขาคว้าโอกาสได้ก็จะต้องสะเทือนเลื่อนลั่นอย่างแน่นอน!

ถึงตอนนี้ เวลาได้ผ่านไปแล้วสิบลมหายใจ เมื่อเห็นการสังหารกำลังจะระเบิดออก ทว่าในเวลานั้นเอง…หวังเป่าเล่อที่ถูกล้อมไว้หลายชั้น นัยน์ตาวาววับ พลังเมล็ดพันธุ์เต๋าธาตุไม้ในร่างพลันระเบิดออก พริบตา…ผู้ฝึกตนทั้งห้าสำนักจำนวนมหาศาลในสนามรบนี้ จำนวนไม่ต่ำกว่าเจ็ดส่วนร่างกายล้วนสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง

ในร่างของพวกเขา จะมากจะน้อยอย่างไรก็ต้องมีพลังเต๋าธาตุไม้ และทึ่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็มีประมาณสองส่วน ในดวงตาของผู้ฝึกตนเหล่านี้ไร้การขัดขืนใดๆ เพียงพริบตาก็ขบถขึ้น ถึงขนาดมีผู้ฝึกตนจักรพิภพสี่คนและผู้อาวุโสจากห้าสำนักหนึ่งคน

การขบถของพวกเขา ช่างเหนือความคาดหมายจนพวกเขาก็รู้สึกเหลือเชื่อ แต่วินาทีนี้ราวกับไม่สามารถควบคุมความคิดและร่างกายได้ เพียงพริบตาเสียงดังสนั่นก้องไปทั่วทุกสารทิศ และนาทีนี้ทั่วทั้งท้องฟ้าก็เกิดความมืดมิดขึ้นในการรับรู้

“คืนพินาศ!” ”ผู้อาวุโสเต๋าเก้ารัฐรู้เคล็ดวิชาลับนี้ของหวังเป่าเล่ออยู่แล้ว ในเวลานี้ไร้ความลังเล ขว้างหอกน้ำแข็งในมือออกไปอย่างสุดแรง ฉับพลันเสียงแหวกท้องฟ้าดังลั่นเป็นทาง หอกน้ำแข็งนี้ได้กลายเป็นสายสีฟ้ายาวเส้นหนึ่ง แผ่กลิ่นอายมหาเต๋า และกระแสระดับจักรวาล ราวกับสามารถทะลุผ่านทุกสิ่งอย่าง พุ่งไปหาหวังเป่าเล่อ

เพียงพริบตา ขณะที่ท้องฟ้ากลายเป็นสีดำ ขณะที่หอกน้ำแข็งไม่ผ่านเข้ามาด้านใน อาทิตย์แรกเปล่งกระจายออกมาจากตัวหวังเป่าเล่อกลายเป็นแสงจำนวนนับไม่ถ้วนระเบิดกระจายไปทั่วทั้งสี่ทิศในทันทีดุจทะเลแสงที่ทะยานซัด

ฝ่ามือยักษ์ที่เกิดจากมหาเต๋าห้าสำนักไม่สามารถยืนหยัดต่อได้ในทะเลแสงนี้ ก่อนแยกออกจากกันใหม่ ในเวลานี้ได้พังทลายลงอีกครั้ง เหล่าชนชั้นสูงระดับจักรพิภพยี่สิบกว่าคนนั้นก็มีคนขบถ ภายใต้ความวุ่นวายนี้ต่างกระอักเลือดไปตามๆ กัน ถึงขั้นที่มีหกคนถูกทะเลแสงกลืนหายไป

และผู้อาวุโสห้าสำนักผู้นั้นก็เป็นเช่นเดียวกัน หนึ่งขบถ หนึ่งมอดม้วย สามคนที่เหลือต่างกระอักเลือด ถอยหลังอย่างบ้าคลั่ง ส่วนผู้ฝึกตนห้าสำนักที่สวดท่องทั้งหมดก็เป็นเช่นเดียวกัน ภายใต้ทะเลแสงนี้ราวกับวันสิ้นโลกกำลังมาเยือนก็มิปาน

มีเพียงหอกน้ำแข็งที่กลายเป็นทางสีฟ้าเส้นนั้น ในเวลานี้เคลื่อนไหวในความมืดมิดก่อนระเบิดไอสังหารรุนแรง ปรากฏขึ้นที่…หน้าหวังเป่าเล่อ

นี่…ที่จริงแล้วก็คือโอกาศที่ผู้อาวุโสเต๋าเก้ารัฐกำลังรออยู่ การเตรียมการทั้งหมดก่อนหน้า การลงมือทั้งหมด ก็เพื่อเป็นการหักล้างเคล็ดวิชาลับของหวังเป่าเล่อทั้งสิ้น เพื่อสร้างจังหวะให้การลงมือของตน

“น้ำกำเนิดไม้ น้ำเป็นมารดาของไม้ หวังเป่าเล่อ แม้เจ้าจะมีเต๋าธาตุไม้ แต่ตัวผู้เฒ่าเช่นข้าอยากจะเห็นนักว่าเจ้าจะใช้อะไรสยบข้าชิงของไป! ”ผู้อาวุโสเต๋าเก้ารัฐหัวเราะลั่น นัยน์ตาฉายรังสีฆ่าฟันอย่างรุนแรง เขาอยากฆ่าหวังเป่าเล่อไม่ใช่แค่วันสองวันแล้ว

ความจริงแล้ว เขาสามารถรับรู้ได้ หากตนฆ่าหวังเป่าเล่อจริงๆ และกลืนเต๋าของเขา เช่นนั้นตนก็จะสามารถกลายเป็นระดับจักรวาลอย่างแท้จริงได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นทั้งในสำนักหรือนอกสำนัก!

และระดับจักรวาลเช่นนี้ยังไม่ธรรมดาอีกด้วย!

………………………