ตอนที่ 1031: สู้กับ ซาร์ ไคยุน (1)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1031: สู้กับ ซาร์ ไคยุน (1)

ทันทีที่ซาร์ไคยุนได้ยินที่เจี้ยนเฉินพูด ใบหน้าของนางก็เปลี่ยนไปทันที นางพูดออกมา “เจี้ยนเฉิน ข้าไม่สนว่าเจ้าจะมีความบาดหมางอะไรกับไป่เจี้ยน แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะแก้ปัญหานี้ในอนาคต ข้าไม่สามารถส่งไป่เจี้ยนให้เจ้าได้ในตอนนี้”

“ในเมื่อเจ้าไม่ส่งไป่เจี้ยนมา ข้าก็จะไปเอาตัวมันออกมาเอง” สายตาของเจี้ยนเฉินค่อนข้างเย็นชาในขณะที่จิตสังหารและจิตต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ก็พวยพุ่งออกมาจากร่างของเขา มันพุ่งพรวดขึ้นอย่างเร็วเมื่อยุทธภัณฑ์จักรพรรดิปรากฏขึ้นในมือขวาของเขา พลังบรรพกาลทำลายล้างไหลออกมาช้า ๆ และหมุนวนอยู่รอบอาวุธ

“ช้าก่อน ! ” ในตอนนี้เอง เสียงชราก็ดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ชายชราที่ดูเหมือนจะอายุเจ็ดสิบกว่าพุ่งขึ้นมาจากด้านล่าง และหิ้วคนผู้หนึ่งไว้ในมือ คนที่ถูกหิ้วไว้คือไป่เจี้ยน

ตระกูลซาร์มีเซียนราชา 2 คน หนึ่งในนั้นคือซาร์ ไคยุนในขณะที่อีกคนคือชายชราที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา

“เจี้ยนเฉิน ขอคารวะ” ชายชราคำนับไปที่เจี้ยนเฉินก่อนที่จะพูด “เจี้ยนเฉิน ข้าคือ ซาร์ วีมอส ตระกูลซาร์ของข้าต้องการที่จะมอบไป่เจี้ยนให้เจ้า ข้าหวังว่าพวกเราจะสามารถลืมความไม่เข้าใจและความบาดหมางในอดีตได้ และพวกเราต้องการที่จะขอโทษเรื่องที่พวกเราทำก่อนหน้านี้ ข้าหวังว่าความบาดหมางของพวกเราจะถูกขจัดไป และพวกเราจะเริ่มต้นกันใหม่ได้” ชายชราพูดออกมาอย่างเคารพ เขาไม่ต้องการที่จะให้เจี้ยนเฉินเป็นศัตรูเลยแม้แต่น้อย

ไป่เจี้ยนไม่สามารถขยับได้เมื่อเขาอยู่ในมือของซาร์ วีมอส เมื่อเขาได้คำพูดของชายชรา เขาก็หน้าซีดไปด้วยความกลัว เขารู้แน่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าเขาตกอยู่ในมือของเจี้ยนเฉิน

“ช่วยข้าด้วย ผู้อาวุโสไคยุน ช่วยข้าด้วย ถ้าข้าตาย ผู้อาวุโสไคยุนจะไม่ได้รับการยกโทษจากผู้อาวุโสเฮาหวู่นะ” ไป่เจี้ยนอ้อนวอนออกมาเสียงดัง เขาฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ซาร์ ไคยุน

ตาของซาร์ ไคยุนมืดมนลงในขณะที่ความแน่วแน่ก็ปรากฏขึ้นมา นางเคลื่อนไหวเล็กน้อย นางปรากฎขึ้นอย่างเงียบ ๆ ข้าง ๆ ซาร์ วีมอสและโจมตีออกไปด้วยพลังงานที่ทรงพลัง ในเวลาเดียวกันนางก็เอื้อมไปจับไป่เจี้ยนไว้ด้วยมือซ้าย

“ไคยุน เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ? เจ้ากำลังจะทำอะไรน่ะ ? ” ท่าทางของซาร์ วีมอสเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาไม่คิดว่าจู่ ๆ ซาร์ ไคยุนจะโจมตีเขา เขาเป็นทวดของนางด้วย

แม้ว่าซาร์ ไคยุนจะเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน แต่ซาร์ วีมอสก็ยังเป็นเซียนราชาที่มีประสบการณ์ เขาตอบสนองไปในเวลาอันสั้น เขารวบรวมพลังธรรมชาติเป็นชั้นหนาในมือของเขาและโจมตีออกไปด้วยความเร็วแสง

บึ้ม ! ฝ่ามือทั้งสองปะทะกัน และเสียงอื้ออึงก็ดังขึ้นในอากาศทันที คลื่นพลังงานที่น่ากลัวเปล่งรัศมีไปทุกทิศทาง และกระแทกเซียนผู้คุมกฎที่รวมตัวกันดูอยู่รอบ ๆ ให้กระเด็นออกไป

แม้ว่าซาร์ วีมอสจะเป็นผู้อาวุโสของซาร์ ไคยุนแล้วยังอายุเยอะกว่านางมาก แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นด้อยกว่านางมาก เขาถูกกระแทกกระเด็นไปจากการโจมตีธรรมดาของซาร์ ไคยุนและบินถอยไปหลายพันกิโลเมตรก่อนที่จะตั้งตัวได้

ในอีกมุมหนึ่ง ซาร์ ไคยุนยืนอยู่นิ่งตรงที่ที่นางอยู่เหมือนภูเขา ร่างของนางไม่แม้แต่สั่นไหวเหมือนว่าการโจมตีก่อนหน้านี้ไม่ได้มีอะไร นางเอาไป่เจี้ยนกลับมาจากซาร์ วีมอสได้ด้วย และขังเขาเอาไว้ตรงหน้านางด้วยพลังงานที่มองไม่เห็น

“ลงไปแล้วอยู่ตรงนั้น” ซาร์ ไคยุนพูอย่างเย็นชาก่อนที่จะเหวี่ยงไป่เจี้ยนลงไปที่อาณาเขตของตระกูลซาร์

ซาร์ วีมอสแค่ได้รับแรงกระแทกจากการโจมตีของซาร์ ไคยุน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เขาเริ่มตระหนกในใจทันทีเมื่อเห็นว่าซาร์ ไคยุนต้องการที่จะปกป้องไป่เจี้ยน ดังนั้นเขาจึงบินมาแต่ไกล เขาอ้อนวอน “ไคยุน เจ้ารู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังทำอะไร? เจ้าไม่คิดหรือว่าเจ้าจะนำหายนะอะไรมายังตระกูลกับสิ่งที่เจ้ากำลังทำ ? เจ้าเคยคิดถึงตระกูลหรือไม่ ? ไคยุน หยุดบ้าเสียที ไป่เจี้ยนไม่ได้เป็นอะไรกับตระกูลซาร์ของพวกเรา ดังนั้นฟังทวดของเจ้า ส่งไป่เจี้ยนไปเพื่อตระกูล มันไม่คุ้มที่จะนำทั้งตระกูลไปสู่อันตรายจากคนนอก”

ซาร์ ไคยุนไม่ได้ทำอะไร นางจ้องไปที่เขาอย่างเย็นชาและในขณะที่ความไม่พอใจปรากฎลึกอยู่ในดวงตาของนาง นางพูดอย่างเย็นชา “ท่านจำเรื่องเมื่อหลายปีก่อนได้หรือไม่ ? มันเป็นเพราะท่านเข้ามายุ่งเมื่อหลายปีก่อนและทำให้ข้าต้องแยกจากเฮาหวู่และข้าก็ทุกข์ทรมานมาทั้งชีวิต ข้าไม่พอใจที่ข้าไม่แข็งแกร่งพอในตอนนั้นที่ข้าจะสามารถต่อต้านคำสั่งจากผู้อาวุโสอย่างท่านได้ ดังนั้นข้าจึงต้องจำยอม แต่ตอนนี้ ข้าไม่ใช่ซาร์ ไคยุนคนก่อนแล้ว เจ้าไม่มีสิทธิ์หรือพลังที่จะมาควบคุมสิ่งที่ข้าจะทำในวันนี้”

ซาร์ วีมอสรู้สึกเหมือนหัวใจของเขาถูกแทงด้วยเข็มในขณะที่เขาฟังคำพูดเย็นชาของซาร์ ไคยุน เขาพูดออกมาอย่างเจ็บปวด “ไคยุน ข้ารู้ว่าข้าผิดในเรื่องเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ ข้าไม่สามารถชดเชยให้กับเจ้าได้ มันเป็นทวดของเจ้าเองที่ทำลายความสุขในชีวิตของเจ้าไป แต่เจ้ายังเป็นคนของตระกูลซาร์ เลือดของตระกูลซาร์ไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า เจ้าปรารถนาที่จะเห็นตระกูลซาร์ต้องตกต่ำงั้นหรือ”

“ตระกูลซาร์ ตระกูลซาร์ อย่ามาพูดกับข้าเกี่ยวกับตระกูลซาร์ ในสายตาของท่าน มันก็มีแค่ตระกูลซาร์” ซาร์ ไคยุนร้อนรนขึ้นมาทันที นางจ้องไปที่ซาร์ วีมอสด้วยสายตาที่แปลกไป ในขณะที่ความเจ็บปวดและความไม่พอใจปรากฎอยู่ด้านใน นางกัดฟัน “เมื่อท่านกลัวนักว่าข้าจะนำปัญหามาให้ตระกูลซาร์ ข้า ซาร์ ไคยุนจะตัดขาดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับตระกูลซาร์ของท่าน จากวันนี้เป็นต้นไป ทุกอย่างที่ข้าทำจะไม่เกี่ยวกับตระกูลซาร์อีก”

จอมยุทธจากตระกูลซาร์และเซียนผู้คุมกฎจากตระกูลทั้งแปดมีท่าทีเปลี่ยนไปอย่างมากจากประโยคนั้น

“ไม่นะ ท่านหัวหน้าตระกูล ท่านเป็นเสาหลักที่คอยเกื้อหนุนตระกูลซาร์ ท่านทิ้งพวกเราไปไม่ได้” จอมยุทธจากตระกูลซาร์ทั้งหมดคุกเข่าลงกลางอากาศและเศร้าโศก

“ไม่นะ ไคยุน เจ้าทำแบบนั้นไม่ได้ เจ้าทำแบบนั้นไม่ได้ แม้ว่าจะเป็นความผิดพลาดของทวดของเจ้าทั้งหมด เจ้าก็ไม่สามารถปฏิบัติกับตระกูลอย่างนี้ได้ ตระกูลจะเป็นอย่างไรถ้าถ้าไม่มีเจ้า” หัวใจของซาร์ วีมอสเจ็บปวดในขณะที่น้ำตาไหลลงที่ใบหน้าของเขา เขาเต็มไปด้วยความเสียใจ

ประธานและผู้อาวุโสสูงสุดของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงมองหน้ากันและกันหลังจากที่ได้เห็นเช่นนี้ นี่เกินกว่าทุกอย่างที่พวกเขาได้จินตนาการเอาไว้ก่อนที่พวกเขาจะมา พวกเขาไม่คิดว่าจะเกิดความหายนะใหญ่กับตระกูลซาร์แบบนี้ หัวหน้าตระกูลที่ทรงพลังที่สุด ซาร์ ไคยุนได้ประกาศว่านางจะออกจากตระกูล นี่เป็นข่าวที่เป็นหายนะจริง ๆ

ซาร์ ไคยุนหลับตาด้วยความเจ็บปวด นางอยู่ที่ตระกูลซาร์มานาน ดังนั้น นางจึงยึดติดกับมันด้วย อย่างไรก็ตาม นางเห็นว่าความรักนั้นสำคัญกว่าตระกูล

“ในหลายปีที่ผ่านมานี้ มีความบาดหมางที่เกิดขึ้นระหว่างข้ากับเฮาหวู่ เมื่อไป่เจี้ยนพูดว่าเขาสามารถขจัดความบาดหมางนี้ได้ ข้าก็ยอมตายที่นี่ได้เพื่อที่จะขจัดมันไป” ซาร์ ไคยุนคิด จากนั้นนางก็ลืมตาเปิดขึ้น และในตอนนี้เอง พลังแห่งการมีอยู่ของนางก็เปลี่ยนไปอย่างมาก มันไม่ได้อ่อนไปกว่าจิตต่อสู้ที่สุดยอดของเจี้ยนเฉินในขณะที่มันพุ่งพวยขึ้นไปบนท้องฟ้าเลย

ในตอนนี้เอง ความเศร้าเสียใจหายไปจากตาของนาง นางแน่วแน่มาก

“ดูเหมือนเจ้ายืนยันที่จะปกป้องไป่เจี้ยน” เจี้ยนเฉินพ่นลมออกมา พลังแห่งการมีอยู่ของเขาเริ่มพุ่งทะยานขึ้นและเหนือกว่าของซาร์ ไคยุนไปเล็กน้อย

ซาร์ ไคยุนจ้องอย่างเย็นชาในขณะที่ดาบสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นในมือของนาง นางพูด “เจี้ยนเฉิน ถ้าเจ้าต้องการที่จะฆ่าไป่เจี้ยน ทำมันหลังจากฆ่าตายแล้ว” หลังจากนั้น นางก็โจมตีเข้ามาก่อนและแทงออกไปเบา ๆ ในขณะที่ดาบระบำอยู่ในมือของนาง

การโจมตีดูเหมือนธรรมดาแต่มันก็ท้วมท้นไปด้วยความลึกลับ ดาบดูเหมือนช้า แต่มันหลอมรวมกับมิติ มันเคลื่อนไปได้ไกลในทันที และมาถึงเงียบ ๆ ตรงหน้าเจี้ยนเฉิน