ภาค 9 หนึ่งกระบี่ปราบโกลาหลในใต้หล้า บทที่ 810 ตำหนักโอสถและเตาโอสถของวังเทพ

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

“อาจารย์ปู่หลงหรือ?” เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินก็ยิ้มเล็กน้อย “ดูเหมือนท่านจะได้รับความสำคัญจากสำนักที่ท่านอยู่มากทีเดียว ถึงขั้นรู้เรื่องที่เป็นความลับเช่นนี้ด้วย

“แต่ว่า…” ต่อมาเยี่ยนจ้าวเกอกลับส่ายหน้า “ข้าแตกต่างกับท่าน แตกต่างกับคนผู้นั้น”

อีกฝ่ายมองเยี่ยนจ้าวเกออย่างล้ำลึก

เขาสามารถมาถึงโลกซ้อนโลกและเคลื่อนไหวด้วยตัวคนเดียวได้ ไหนเลยจะไม่ใช่คนที่ระวังคำพูด?

การเผยข้อมูลเหมือนกับโพล่งออกมาเมื่อครู่ ความจริงแล้วเป็นการสืบถามและชี้นำเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง

อาจารย์ปู่ของเขาถ่ายทอดวิชาให้กับลูกศิษย์คนเดียว ในโลกซ้อนโลกมีแค่คนคนเดียวเท่านั้น

นอกจากนั้นยังไม่ใช่การสืบทอดของศิษย์อาจารย์ แต่เป็นการสืบทอดทางสายเลือด หลังจากเหลือลูกหลานไว้ในโลกซ้อนโลกเสร็จ ผู้อาวุโสก็จากไป ไม่รั้งอยู่ที่โลกซ้อนโลกอีก

เขาถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าคนที่อยู่ในโลกซ้อนโลกเป็นใคร สถานะภายนอกเป็นอย่างไร แต่ไม่ใช่เยี่ยนจ้าวเกออย่างแน่นอน

สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอ เขาไม่ค่อยรู้จักมากนัก แต่เขาก็รู้ว่าบิดาของเยี่ยนจ้าวเกอปรากฎตัวขึ้นที่ทะเลหวงเจีย สถานะจึงเป็นที่ประจักษ์แล้ว

ถ้าหากเมื่อครู่เยี่ยนจ้าวเกอยอมรับเพื่อทำให้เขาเข้าใจผิด เขาก็จะทราบในทันทีว่าเยี่ยนจ้าวเกอไม่เข้าใจสถานการณ์

กระนั้นคำปฏิเสธของเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้ทำให้เขาไม่อาจแยกแยะได้อีกแล้ว

เยี่ยนจ้าวเกอมองอีกฝ่าย หัวเราะขึ้น “อย่าวางแผนหลอกข้าจะดีกว่า ตอบข้ามาตามตรงดีๆ เถอะ ข้าไม่เคยรังเกียจการทรมานเพื่อเค้นข้อมูลอยู่แล้ว”

“แม้ท่านจะมีอายุมากกว่าข้า แต่ว่าท่ามกลางจอมยุทธ์ระดับเดียวกันยังคงนับว่าอายุน้อยถึงขีดสุด ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์หรือความทะเยอทะยานล้วนยอดเยี่ยม บางทีอาจจะมั่นใจในพลังใจของตัวเองมากเช่นกัน”

ชายหนุ่มหยิบเข็มทองเล่มหนึ่งออกมาด้วยรอยยิ้ม ส่ายไปมาตรงหน้าอีกฝ่าย “แต่ว่าเข็มแกนน้ำแข็งซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดมหาโทษทัณฑ์ ไม่ทราบว่าท่านจะทนทานได้หรือไม่? ด้วยความเป็นมาของท่าน น่าจะเคยได้ยินเข็มแกนน้ำแข็งอยู่กระมัง?”

“ท่านเป็นลูกศิษย์สายเหนือพิสุทธิ์ มีเบื้องหลังล้ำลึก ทั้งหมดนี้ล้วนไม่แปลกปลอม ทว่าในเมื่อท่านสวมรอยเป็นข้า อีกทั้งยังตกมาอยู่ในมือข้า ข้าจะจัดการท่านอย่างไร ล้วนไม่มีข้อกริ่งเกรง”

“หากพูดอย่างหน้าด้านไร้ยางอาย ต่อให้ข้าถลกหนังดึงเส้นเอ็นท่าน ป่นกระดูกท่านให้กลายเป็นผง ผู้อาวุโสของท่านคิดแก้แค้น เดินทางมายังโลกซ้อนโลกเพื่อตามหาข้า ก็ต้องผ่านด่านกษัตริย์ดินไปก่อน”

ชายหนุ่มผู้นั้นกล่าวด้วยรอยยิ้มขื่นขม “ข้าสวมรอยเป็นท่านเข้ามาในโลกซ้อนโลก เรื่องนี้เป็นข้าเองที่ทำไม่ถูกต้อง แต่ทุกคนนับว่ามาจากแหล่งกำเนิดเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องใช้เจ็ดมหาโทษทัณฑ์อย่างเข็มแกนน้ำแข็งก็ได้กระมัง?”

เยี่ยนจ้าวเกอโบกมือตัดบทเขา “จะมาจากแหล่งเดียวกันหรือไม่ ต้องดูว่าท่านรู้ความหรือไม่แล้ว”

ชายหนุ่มพลันสำลัก คิดไม่ถึงว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะไร้เหตุผลขนาดนี้

“จริงด้วย คุยกันมาตั้งนาน ข้ายังไม่รู้ชื่อของท่านเลย” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างสบายอารมณ์

อีกฝ่ายเกือบน้ำตานองหน้า

ผ่านมาตั้งนาน ท่านไม่รู้จักถามชื่อแซ่หรือ?

ชายหนุ่มตอบอย่างจริงจัง “ลูกศิษย์สายเหนือพิสุทธิ์ ซุนจ้งต๋า”

เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ประเสริฐ เรื่องภายในสำนักท่าน ข้าไม่ต้องการให้ท่านพูด แต่เหตุผลที่ท่านมายังโลกซ้อนโลก ท่านต้องบอกข้ามา”

ซุนจ้งต๋าถอนใจคำหนึ่ง

หากเป็นคำถามเกี่ยวกับสำนักเขา เขายินดีท้าทายเจ็ดมหาโทษทัณฑ์ แต่ไม่ยอมเผยความลับเด็ดขาด

แต่เยี่ยนจ้าวเกอไม่ถามเรื่องนี้กับเขา แค่ถามเหตุผลในการมายังโลกซ้อนโลก เขาไม่จำเป็นต้องแข็งขืนแล้ว

ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็มีมีดกับเขียง ส่วนเขาก็แค่เนื้อสัตว์ การปิดปากเงียบรังแต่จะทำให้ตัวเองเสียเปรียบ

ซุนจ้งต๋าแม้ว่าจะฝึกมรรคากระบี่ แต่มีนิสัยร่าเริง เชี่ยวชาญการเปลี่ยนแปลง ในสถานการณ์ที่ไม่เกี่ยวพันถึงเบื้องหลัง เขาสามารถยืดได้หดได้

เขาเงียบงันอยู่ครู่หนึ่งค่อยเอ่ยปากถามว่า “สร้อยลูกปัดหยกเกี่ยวข้องกับของวิเศษชิ้นหนึ่ง ถึงแม้ว่าข้าจะเกิดความคิดชั่ววูบขึ้นหลังจากได้ยินข่าว แต่ครั้งนี้ที่ข้ามาถึงโลกซ้อนโลก กลับเพื่อของวิเศษชิ้นนั้น เนื่องจากทราบว่าสร้อยลูกปัดหยกเกี่ยวกับของวิเศษ ดังนั้นจึงมายังเมืองตกวาฬ”

เยี่ยนจ้าวเกอเหลือบมองเขาผ่านหางตา “ของวิเศษประเภทใดกัน ถึงทำให้ท่านยอมแบกรับความเสี่ยงใหญ่เช่นนี้”

ซุนจ้งต๋าตอบ “เกี่ยวกับวังเทพในอดีต ถ้าหากเบาะแสไม่ผิด สมควรเป็นตำหนักโอสถที่เก็บโอสถเซียนของวังเทพไว้หลายชนิด”

เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ในใจกลับจับสังเกตได้ “ท่านหลอกข้าหรือ? ยังไม่ต้องพูดถึงว่าตำหนักโอสถของวังเทพจะยังอยู่หลังจากมหาภัยพิบัติหรือไม่ ต่อให้ยังอยู่ ถ้าหากเป็นตัวตนเช่นนั้นจริงๆ ยอดฝีมือระดับสูงสายเหนือพิสุทธิ์จะต้องระดมกำลังทั้งหมด จะมีแค่ท่านมายังโลกซ้อนโลกคนเดียวได้อย่างไร?”

“ขอโทษที่ข้ากล่าวตรงๆ ท่านยังไม่มีคุณสมบัติสำหรับการสืบหาความจริงในแนวหน้าด้วยซ้ำ”

ซุนจ้งต๋าได้ยินดังนั้น แต่ก็ยังมีสีหน้าเรียบเฉย “เจ้าชายพระอาทิตย์พูดถูกต้อง ข้าเพียงแค่มาแสวงโชค ไม่ได้คิดว่าต้องหาตำหนักโอสถของวังเทพให้เจอ”

เขาพูดตรงไปตรงมา “เบาะแสมีจำกัดยิ่ง นอกจากนี้ยังไม่ได้ชี้ไปที่ตำหนักโอสถวังเทพ แต่ชี้ไปยังเตาโอสถเตาหนึ่งที่เคยอยู่ในตำหนัก

“ข้าตั้งใจจะหาเตาโอสถนี้ให้พบ จากนั้นบางทีอาจจะมีความหวังในการตามหาตำหนักโอสถ”

“แต่ความจริงจะเจอเตาโอสถได้หรือ? ต่อให้เจอเตาโอสถแล้วจะหากตำหนักโอสถได้หรือไม่? เหมือนกับคำพูดของใต้เท้าเมื่อครู่ ตำหนักโอสถใช่คงอยู่หรือไม่? โอสถเซียนที่อยู่ด้านในถูกเก็บไว้เท่าไร? เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นปริศนา สำนักของข้าย่อมไม่ทุ่มเทกำลังมากเกินไป”

ซุนจ้งต๋าว่า “ข้าศึกษาเบาะแส รู้สึกว่าในโลกซ้อนโลกอาจจะมีทางออก หลังจากวางแผนและเตรียมตัวเสร็จ ก็มายังที่นี่ ปลอมตัวเป็นท่าน เพื่อต้องการเดินทางในเขตตะวันอาคเนย์ได้อย่างสะดวก”

เยี่ยนจ้าวเกอถาม “สถานที่อันเป็นเป้าหมายของท่านในเขตหยางเทียนตะวันออกคือที่ใด?”

ซุนจ้งต๋าตอบ “เทือกเขาอาทิตย์หยก ยอดเขาหัวใจเดี่ยว”

พวกเฟิงอวิ๋นเซิง อาหู่ และเสี่ยวอ้ายที่อยู่ด้านข้างแลกเปลี่ยนสายตากันโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง

ต้นไม้อัคคีสวรรค์ที่เยี่ยนจ้าวเกอคิดตรวจสอบตามเบาแสะจากโอสถทองโอบอุ้ม ก็เติบโตและแพร่พันธุ์ในบริเวณของยอดเขาหัวใจเดี่ยวบนเทือกเขาอาทิตย์หยกนี่เอง

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวถาม “สร้อยลูกปัดหยกนี้ มีความเกี่ยวข้องอะไรกับที่นั่น?”

ซุนจ้งต๋าอธิบาย “ว่ากันว่าของสิ่งนี้ไม่ใช่ของวิเศษที่ตระกูลเซี่ยมีอยู่แล้ว แต่เป็นประมุขตระกูลเซี่ยเลี่ยงซื้อมาจากคนใกล้ตัว”

เจ้าของคนเดิมเคยไปยังยอดเขาหัวใจเดี่ยวบนเทือกเขาอาทิตย์หยก และได้โอสถวิญญาณที่ในโลกซ้อนโลกเรียกได้ว่าล้ำค่ามาจากที่นั่นสองเม็ด

ครั้นข่าวแพร่กระจายออกไป ก็มีคนอื่นคิดไปที่นั่นเพื่อแสวงโชค แต่สุดท้ายก็กลับมามือเปล่า

เจ้าของคนเดิมเสียชีวิตไปแล้ว ไม่ได้ทิ้งของอะไรไว้ แต่มีคนเล็งสร้อยลูกปัดหยกชิ้นนี้อยู่

ข่าวนี้ในบริเวณเทือกเขาอาทิตย์หยก ก็มีแค่ไม่กี่คนที่รู้ ยังไม่ทันแพร่กระจายมาถึงหมู่เกาะอาทิตย์ตก

เซี่ยเลี่ยงแม้จะซื้อสร้อยลูกปัดหยกมาได้ แต่กลับไม่ทราบความลับที่อยู่ด้านใน

เยี่ยนจ้าวเกอคร่นคิดครู่หนึ่ง กล่าวว่า “เบาะแสแรกสุดที่ท่านได้มาให้ข้าดูได้หรือไม่?”

ซุนจ้งต๋ายิ้มอย่างขมขื่น “ไม่ใช่ข้าไม่ยอม แต่ทำไม่ได้ นั่นเป็นแค่ข่าวจากในยันต์หยก หลังจากดูเสร็จ ยันต์หยกก็ไม่มีอะไรอยู่แล้ว”

เยี่ยนจ้าวเกอมองเขาครู่หนึ่ง พลันหัวเราะขึ้น “ข้าชอบคนที่ไม่จริงใจอย่างท่านนัก”

ครั้นกล่าวพูดจบ เข็มทองก็แทงไปบนจุดลมปราณบนร่างซุนจ้งต๋า สีหน้าของอีกฝ่ายเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ขณะมองซุนจ้งต๋าที่ร่างสั่นเทาเบื้องหน้า เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างราบเรียบว่า “ของยังอยู่ แต่ไม่ได้อยู่บนมือท่านเท่านั้น ท่านยังมีสหายในสำนักคนอื่นที่ออกมาตามหาของวิเศษชิ้นนั้นเช่นกัน แต่ไม่อาจเข้ามาในโลกซ้อนโลกได้ ใช่หรือไม่?”