บทที่ 984 หลินเป่ยเฉินผู้มีคุณธรรมสูงส่ง

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 984 หลินเป่ยเฉินผู้มีคุณธรรมสูงส่ง

อาณาเขตสนธยา เมืองจันทราขาว

รุ่งเช้า ผู้อาวุโสจู ผู้อาวุโสต่างแซ่เดินทางมาเข้าพบหัวหน้าเผ่าไป๋ไห่เฉาและเหล่าผู้อาวุโสคนอื่น ๆ เพื่ออยากจะพูดคุยเรื่องราวสำคัญเกี่ยวกับอนาคตของเผ่าจันทราขาว

โชคดีที่ชนเผ่าอยู่ในสภาวะอาหารขาดแคลน งานเลี้ยงเมื่อคืนนี้จึงไม่มีเครื่องดื่มของมึนเมา เมื่องานเลี้ยงจบลง ชาวเผ่าจึงไม่มีอาการเมามายเลยสักคน และหลังจากเรียกประชุมไม่นาน ผู้อาวุโสระดับสูงก็มารวมตัวกันที่หอผู้อาวุโสอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

และทันทีที่ผู้อาวุโสทั้งหลายพบหน้าหลินเป่ยเฉิน ทุกคนก็จ้องมองเขาด้วยสายตาที่แปลกประหลาด

ฮื่อ

ทำไมทุกคนถึงมองเขาด้วยสายตาแบบนี้เนี่ย?

ต่อให้เป็นคนหน้าด้านหน้าทนขนาดไหน แต่ขณะนี้ หลินเป่ยเฉินก็เริ่มรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาแล้ว

เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ไป๋ซานเยว่ใช้ดวงตาที่มีอยู่ข้างเดียวนั้นมองหลินเป่ยเฉินขึ้น ๆ ลง ๆ ก่อนจะใช้มือตบไหล่เด็กหนุ่มแผ่วเบา กล่าวว่า “ยังหนุ่มยังแน่นอยู่แท้ ๆ เจ้าน่าจะทำได้นานมากกว่านี้…”

หลินเป่ยเฉินย่อมไม่เข้าใจว่าชายชรากำลังพูดอะไร

แต่เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าน้ำเสียงของไป๋ซานเยว่บ่งบอกความสนิทสนมมากกว่าเดิม

ทันใดนั้น ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งนามว่าไป๋จงเหลียงได้นำขวดหยกขวดเล็ก ๆ ออกมาจากในอกเสื้อและยัดใส่มือหลินเป่ยเฉินพร้อมกับกล่าวว่า “ผู้อาวุโสจู ร่างกายท่านอ่อนแอเกินไปแล้ว เมื่อคืนนี้ใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งก้านธูปเลย จงรับโอสถอสูรสะบัดแส้ขวดนี้จากข้า มันจะช่วยทำให้ท่านสามารถกรำศึกหนักได้นานขึ้น ผู้อาวุโสในเผ่าเราบางคนเมื่อรับประทานยาตัวนี้เข้าไป ก็สามารถสู้ศึกได้ทั้งวันทั้งคืนเลยทีเดียว…”

เมื่อผู้อาวุโสคนอื่น ๆ เห็นเช่นนั้น ก็ต้องเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง

ไม่มีใครรู้ว่าไป๋จงเหลียงมีโอสถอสูรสะบัดแส้อยู่ในการครอบครอง มันเป็นยาปลุกกำหนัดที่หายาก แม้แต่หัวหน้าเผ่าก็ยังไม่มีในการครอบครอง แต่ไป๋จงเหลียงกลับมอบโอสถทั้งขวดนั้นให้แก่ผู้อาวุโสจู?

แน่นอนว่าหลินเป่ยเฉินย่อมไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังพูด

แต่ดูจากสีหน้าท่าทางของผู้อาวุโสแต่ละคน พวกเขาหัวเราะคิกคักขณะจ้องมองหลินเป่ยเฉิน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างยิ่ง

หรือว่าทุกคนเห็นเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกเผ่าเรียบร้อยแล้ว จึงทำตัวกันตามสบายมากกว่าเมื่อวาน?

ให้ตายสิ

แต่มันยังมีเหตุผลอีกหนึ่งข้อ

หลินเป่ยเฉินรู้สึกขนลุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน

โดยเฉพาะเขา ผู้มีหน้าตาหล่อเหลาที่สุดในปฐพี เมื่อบังเอิญมาอยู่ในบ้านป่าเมืองเถื่อนเช่นนี้ ดีไม่ดีผู้อาวุโสเหล่านี้อาจจะเห็นเขาหน้าตางดงามมากกว่าสตรีทั่วไป…

ยิ่งคิดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเสียวสันหลังมากเท่านั้น

‘ผู้อาวุโสจู มีเรื่องอันใดหรือถึงเรียกประชุมพวกเราตั้งแต่เช้า’

หัวหน้าเผ่าไป๋ไห่เฉาใช้หอกเล่มหนึ่งขีดเขียนบนพื้นดิน ‘ไม่ทราบว่ามีอะไรเร่งด่วนหรือไม่?’

หลินเป่ยเฉินมองข้อความบนพื้นดินอย่างพูดอะไรไม่ออก

ผู้อาวุโสจูบ้านท่านสิ!

เขาแซ่หลินต่างหาก

แต่หลินเป่ยเฉินขี้เกียจที่จะแก้ไขแล้ว

เด็กหนุ่มนำกิ่งไม้เขียนข้อความตอบกลับว่า ‘ข้าพบวิธีชุบชีวิตต้นกวนเจี๋ยเหล่านั้นแล้ว นับจากนี้ไป พวกเราจะทำให้มันออกผลสุกพร้อมรับประทานได้เสมอ ทุกท่านไม่ต้องเป็นกังวล’

หลินเป่ยเฉินเลือกที่จะบอกข่าวดีก่อนเป็นลำดับแรก

เช้าวันนี้ เขาตื่นขึ้นมาเพื่อสั่งปุ๋ยสำหรับการเกษตรจากแอป Taobao และยินดีจ่ายค่าส่งด่วนพิเศษเป็นศิลาบูชาถึง 100 ก้อน และนั่นก็ทำให้หนึ่งชั่วยามต่อมา ปุ๋ยการเกษตร 100 ถุงแรกจึงมาถึงมือหลินเป่ยเฉินเป็นที่เรียบร้อย

เมื่อรวมกับค่าปุ๋ย เช้านี้เขาต้องจ่ายศิลาบูชาไปแล้วถึง 3,000 ก้อน

นับเป็นเงินจำนวนไม่น้อย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น… เป้าหมายของหลินเป่ยเฉินอยู่ที่การสร้างความประทับใจให้แก่ชาวเผ่าจันทราขาว เด็กหนุ่มจึงถือว่านี่เป็นการลงทุนหวังผลในระยะยาว

“จริงหรือ?”

“ถ้าอย่างนั้นก็ประเสริฐ”

“ผู้อาวุโสจูช่างเก่งกาจมากความสามารถจริง ๆ”

ผู้อาวุโสของเผ่าจันทราขาวส่งเสียงชื่นชมเด็กหนุ่มไม่ขาดปาก

ข่าวดีที่เพิ่งได้สดับรับฟังนี้ ทำให้บรรดาผู้อาวุโสรู้สึกว่าชีวิตนี้ ความฝันได้กลายเป็นความจริงแล้ว

ปฏิกิริยาตอบรับของทุกคนอยู่ภายใต้การคาดการณ์ของหลินเป่ยเฉิน

“ข้าจะนำพาทุกท่านไปรับชมปาฏิหาริย์เดี๋ยวนี้”

หลินเป่ยเฉินนำหัวหน้าเผ่าและเหล่าผู้อาวุโสออกมาจากหอประชุมและมุ่งหน้าตรงไปยังพื้นที่เพาะปลูกประจำเมือง

ชาวเผ่าจำนวนไม่น้อยรับทราบข่าวนี้ และรีบจับกลุ่มกันมารับชมเหตุการณ์ด้วยความตื่นเต้น

ในจำนวนนั้น ย่อมต้องมีไป๋เสี่ยวเซียวผู้เป็นหญิงงามประจำเผ่า

เมื่อเห็นหน้าหลินเป่ยเฉิน ดวงตาของเด็กสาวก็แสดงออกถึงความเศร้าโศกเสียใจและตัดพ้อต่ออย่างไม่ปิดบัง

เพียงแต่หลินเป่ยเฉินไม่ทันสังเกตเท่านั้น

เขาสั่งให้คนนำถังรดน้ำผักมาให้ตนเอง จากนั้นจึงได้นำปุ๋ยที่สั่งซื้อออกมาจากแอปไป่ตู้ เน็ตดิสก์ หลังจากผสมปุ๋ยลงไปในน้ำในปริมาณที่เหมาะสม เด็กหนุ่มก็นำน้ำที่ได้ออกมาไปราดรดบนต้นกวนเจี๋ยที่ตายแล้ว

แน่นอนว่าเมื่อผ่านไปชั่วต้มน้ำเดือด ต้นไม้ที่ตายซากก็ค่อย ๆ มีใบสีเขียวสดงอกงามออกดอกออกผลเต็มต้น…

ครั้งนี้ การฟื้นคืนชีวิตของต้นกวนเจี๋ยเชื่องช้ามากกว่าตอนที่ใช้น้ำยาเร่งผลผลิตครั้งที่แล้วหลายเท่า

แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ถือว่าพอใช้ได้

“แม้ว่าอานุภาพของปุ๋ยชนิดนี้จะไม่ดีเท่ากับน้ำยาวิเศษ แต่ผลที่ออกมาก็ยังถือว่าพอรับได้ อีกอย่าง ต้นกวนเจี๋ยถือเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ตราบใดที่มีสารอาหารเพียงพอ มันก็จะออกดอกออกผลอย่างอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง ดังนั้น การใช้ปุ๋ยเหล่านี้เพิ่มสารอาหารให้แก่พื้นดินจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด”

หลินเป่ยเฉินเฝ้าสังเกตปฏิกิริยาตอบรับจากชาวเผ่า

และชาวเผ่าที่ยืนอยู่ข้างกายเขาก็เริ่มส่งเสียงโห่ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น

หากเมื่อวานนี้ หลินเป่ยเฉินนำความหวังมาให้แก่ชาวเผ่าจันทราขาว เช้าวันนี้ เขาก็ได้นำอนาคตที่สดใสมามอบให้แก่ชาวเผ่า

ปัญหาเรื่องการล้มตายของต้นกวนเจี๋ยหมดไป

หลินเป่ยเฉินนำปุ๋ยออกมาส่งมอบให้ชาวเผ่าจันทราขาวเป็นจำนวน 50 ถุง พร้อมกันนั้น เขาก็สอนวิธีผสมปุ๋ยให้ได้ตามสัดส่วนที่ต้องการ

หลังจากรับฟังคำแนะนำจากเด็กหนุ่มจนเข้าใจดีแล้ว ชาวเผ่าก็เริ่มทำการผสมปุ๋ยและรดน้ำพรวนดินด้วยตนเอง

เสียงอุทานด้วยความดีใจดังขึ้นไม่หยุดยั้ง

‘ผู้อาวุโสจู ไม่ทราบว่าปุ๋ยที่ใช้ชุบชีวิตต้นกวนเจี๋ยเหล่านี้ มีราคาแพงหรือไม่?’

ไป๋ไห่เฉาเขียนข้อความสอบถามบนพื้นดิน

หลินเป่ยเฉินพยักหน้าและชักกระบี่ออกมาเขียนข้อความตอบว่า ‘ข้าต้องใช้เงินเก็บแทบทั้งชีวิตหาซื้อปุ๋ยเหล่านี้ แต่พวกท่านไม่ต้องคิดมากไปหรอก แค่ต้นกวนเจี๋ยเหล่านี้กลับมาออกดอกออกผลได้ ข้าก็พอใจแล้ว’

“พวกเราจะยอมได้อย่างไร?”

“เผ่าจันทราขาวของเราหาใช่ตัวชั่วร้ายที่ไม่รู้จักทดแทนบุญคุณ”

“ต่อให้ท่านจะมีสถานะเป็นผู้อาวุโสต่างแซ่ของเผ่าเรา แต่พวกเราจะให้ท่านเสียสละแต่เพียงผู้เดียวได้อย่างไร?”

“ถูกแล้ว เดิมทีเมืองของเรามีต้นกวนเจี๋ยอยู่ประมาณ 8,000 ต้น พวกมันจะออกผลสุกงอมปีละครั้ง แต่บัดนี้ ด้วยความช่วยเหลือของผู้อาวุโสจู พวกเราจึงสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากกว่าเดิมนับสิบเท่า…”

“ไม่เพียงแต่จำนวนผลผลิตจะเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่สรรพคุณหลังจากรับประทานผลกวนเจี๋ยไปแล้วยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย เมื่อวานนี้ บิดาของข้ารับประทานผลกวนเจี๋ยไปสองลูก ท่านทายสิว่าเกิดอะไรขึ้น? อาการบาดเจ็บที่บิดาข้าต้องทนทุกข์ทรมานนานนับสิบปีได้หายขาดโดยสิ้นเชิง…”

“ข้าก็เช่นกัน เมื่อรับประทานผลกวนเจี๋ยไปแล้ว ข้าก็รู้สึกว่าตนเองอ่อนเยาว์ขึ้นหลายปี…”

“ข้าได้ยินว่านักรบหนุ่มคนหนึ่งเมื่อวานนี้หลังรับประทานผลกวนเจี๋ย เขาก็สามารถเลื่อนระดับพลังได้สำเร็จ…”

ยิ่งบรรดาผู้อาวุโสกล่าวถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ดวงตาของพวกเขาก็ยิ่งเป็นประกายแวววาวด้วยความตื่นเต้นมากเท่านั้น

การฟื้นคืนชีพของต้นกวนเจี๋ย นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหารของชาวเผ่าจันทราขาวได้แล้ว มันยังสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ชาวเผ่าได้อีกด้วย

หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป รับประกันได้ว่าเพียงครึ่งปีเท่านั้น ชาวเผ่าจะแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมสามถึงสี่เท่า

เมื่อถึงตอนนั้น อย่าว่าแต่การออกไปล่าสัตว์อสูรเลย แม้แต่การแย่งชิงอีกสองเมืองในอาณาเขตแห่งนี้กลับคืนมาเป็นดินแดนของตนเอง ก็ไม่ใช่ความฝันที่อยู่ไกลเกินเอื้อมอีกแล้ว

เมื่อหัวหน้าเผ่าไป๋ไห่เฉาเห็นว่าหลินเป่ยเฉินจะปฏิเสธไม่ขอรับการตอบแทน เขาก็เขียนข้อความลงบนพื้นดินด้วยความมุ่งมั่นว่า ‘ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็สมควรตอบแทนท่าน เสียดายที่ว่าชาวเผ่าจันทราขาวแร้นแค้นมากเกินไป พวกเราจึงมีสมบัติล้ำค่าแค่สามอย่างเท่านั้น ไม่ว่าผู้อาวุโสจูต้องการสิ่งใด ก็สามารถเลือกได้เลยตามที่ต้องการ’

หลินเป่ยเฉินรีบเขียนข้อความตอบกลับไปอย่างเร็วไวว่า ‘สมบัติประจำเผ่าของพวกท่าน ข้าจะเอามาทำอันใด? พวกท่านเห็นข้าเป็นบุคคลละโมบโลภมากขนาดนั้นเชียวหรือ…ข้าขอแค่ผลกวนเจี๋ย 10,000 ลูกก็พอแล้ว’

หัวหน้าเผ่าและเหล่าผู้อาวุโสซาบซึ้งใจยิ่งนัก

นี่คือคุณธรรมอันสูงส่ง

เด็กหนุ่มจะต้องการผลกวนเจี๋ย 10,000 ลูกไปเพื่ออะไร?

มันเปลี่ยนเป็นเงินไม่ได้ด้วยซ้ำ

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเพราะผู้อาวุโสจู ไม่ต้องการรบกวนให้ชาวเผ่าเกิดความยากลำบากในการตอบแทนบุญคุณ

นับว่าคุณชายท่านนี้ช่างสูงส่งเหลือเกิน

นับว่าคุณชายท่านนี้ช่างเป็นคนดีเหลือเกิน

ไป๋ซานเยว่ลูบหนวดเคราของตนเองและถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก พร้อมกับคิดว่า… ‘หลานสาวของข้าได้คู่ครองที่ดีจริง ๆ’

ไป๋เสี่ยวเซียวที่ยืนอยู่ด้านข้างไม่ได้มีแววตาตัดพ้อหลินเป่ยเฉินอีกต่อไป

เขาเป็นคนดีมีคุณธรรมถึงขนาดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุไฉนเมื่อคืน…

เขาคงไม่เข้าใจวัฒนธรรมของชาวเผ่า และอยากให้นางคิดให้ดี ๆ มิใช่ทำไปเพียงอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น

“พี่เสี่ยวเซียว อย่าเป็นกังวลไปเลย”

ไป๋หลิงเอ๋อร์ผู้เป็นน้องสาวเดินเข้ามากระซิบกระซาบที่ข้างหู “ต่อให้เมื่อคืนนี้ เขาจะใช้เวลาน้อยไปสักหน่อย แต่ผู้อาวุโสจูมีใบหน้าหล่อเหลาและเป็นคนดี เมื่อได้รับประทานอาหารผสมต้นหางจระเข้ กำลังวังชาของเขาก็จะต้องฟื้นคืนกลับมา และสามารถทำศึกสวาทได้นานมากขึ้น…”

ไป๋เสี่ยวเซียวเบิกตาโต

เมื่อคืนนี้?

ใช้เวลาสั้นเกินไป?

นี่หมายความว่าอย่างไร?

หรือว่า… เมื่อคืนนี้ผู้อาวุโสจูไปขึ้นเตียงกับผู้อื่นมาแล้ว?

ถ้าอ่าน “เซียนกระบี่มาแล้ว” ถึงบทนี้แล้วยังไม่จุใจ งั้นไปอ่านกันต่อได้ที่เว็บ Enjoybook.co เพราะที่นั่นลงนำไปแล้วกว่า 70 ตอน !! อ่านก่อนใครได้ที่เว็บเอนจอย