ภาค 9 หนึ่งกระบี่ปราบโกลาหลในใต้หล้า บทที่ 812 ของวิเศษของวังเทพ

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

แผนภาพมากมายที่โผล่ขึ้นจากในดวงตาของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ประกอบกันกลางอากาศ สุดท้ายก็กลายเป็นภาพสามมิติ

ทิวทัศน์ที่ปรากฏขึ้นในภาพกลับกำลังชี้เส้นทางให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอ

ในหุบเขาที่เร้นลับระหว่างยอดเขาสูงชันที่ยามปกติแทบไม่เห็นเดือนเห็นตะวันสายหนึ่ง มีโพรงหินโดดเดี่ยวแห่งหนึ่ง ถูกหินประหลาดอุดเอาไว้

เสี่ยวอ้ายเข้าใจ “หลังจากได้สร้อยลูกปัดหยกมาจากซุนจ้งต๋านั่น วินาทีสั้นๆ ก่อนที่จะมอบคืนให้กับประมุขตระกูลเซี่ย ร่างแยกของคุณชายไขปริศนาในสร้อยลูกปัดสำเร็จแล้วหรือ?”

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ว่าจะซับซ้อนไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไปนัก

“เจ้าของคนเดิมได้ประสบกับคราเคราะห์หลังออกมาจากเทือกเขาอาทิตย์หยก เสียชีวิตไปอย่างรวดเร็ว สร้อยลูกปัดเดิมทีเป็นคำใบ้ที่เขาตั้งใจทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลัง น่าเสียดายที่คนรุ่นหลังไม่ได้พบความลับของมัน จึงขายให้แก่ตระกูลเซี่ยบนเกาะอาทิตย์ตก”

เขาชี้ภาพเงาแสงนั้น “โพรงแห่งนี้สมควรเป็นสถานที่ที่เจ้าของคนเดิมของสร้อยลูกปัดหยกเจอโอสถเซียน”

เฟิงอวิ๋นเซิงถาม “พวกเราจะออกเดินทางเลยหรือไม่?”

เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ลองสืบหาร่องรอยของท่านแม่ในเมืองตกวาฬอีกสักหน่อย หากไม่ได้ผลลัพธ์อะไร พวกเราก็จะออกจากที่นี้ มุ่งหน้าไปยังยอดเขาหัวใจเดี่ยวบนเทือกเขาอาทิตย์หยก”

ข่าวที่ได้ยินมาก่อนหน้านี้บอกว่า ยอดเขาหัวใจเดี่ยวเป็นสถานที่ไม่กี่ที่ในเขตตะวันอาคเนย์ที่มีต้นอัคคีสวรรค์ขึ้นอยู่

จากการศึกษาเบาะแสที่ฉีเหว่ยเหลือไว้ในบันทึก โอสถทองโอบอุ้มที่เขาได้มา น่าจะเกี่ยวข้องกับที่นี่

ถ้าหากว่าก่อนหน้านี้ยังไม่แน่ใจ เช่นนั้นตอนนี้จากการตอบสนองของซุนจ้งต๋าและข้อมูลที่สร้อยลูกปัดหยกเหลือไว้ เยี่ยนจ้าวเกอก็เชื่อว่า ด้านในยอดเขาหัวใจเดี่ยวบนเทือกเขาอาทิตย์หยก คือที่ที่เป้าหมายของตนอยู่

การวางแผนเดินทางเมื่อก่อนหน้านี้ หลังจากนี้เยี่ยนจ้าวเกอเตรียมตัวมุ่งหน้าไปยังบริเวณยอดเขาหัวใจเดี่ยวบนเทือกเขาอาทิตย์หยกอยู่แล้ว

ปัจจุบันในเมื่อมีแผนภาพนี้แล้ว ก็สามารถประหยัดเวลาตามหาไปได้มาก สามารถไปที่โพรงหินกลางหุบเขานั้นได้โดยตรง

‘กลับเป็นเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับหรือนี่?’ เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดในใจ ความทรงจำอันนานนมที่จับฝุ่นไปแล้วจำนวนหนึ่งโผล่ขึ้นมา

ถึงแม้ว่าจะไม่เคยสัมผัสเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับด้วยตัวเอง แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็ทราบว่านั่นเป็นของวิเศษแห่งมรรคาโอสถ

ก่อนมหาภัยพิบัติ เมื่อมองไปทั่วใต้หล้า มันถือว่าเป็นอุปกรณ์วิเศษสำหรับหลอมโอสถที่จัดอยู่ในระดับสูง

เตาผลึกหินชั้นในที่เยี่ยนจ้าวเกอนำมาหลอมอุปกรณ์ในตอนนี้ ความจริงเป็นการกลายพันธุ์ที่พัฒนามาจากของวิเศษชิ้นนี้ เปลี่ยนจากหลอมโอสถเป็นหลอมอุปกรณ์ โดยการลดประสิทธิภาพเป็นข้อแลกเปลี่ยน เพื่อให้ได้มาซึ่งความง่ายดายในการควบคุมและความแพร่หลายในการสร้างของเตาผลึกหินชั้นใน

สำหรับความคิดของเยี่ยนจ้าวเกอ นี่นับว่าเป็นงานการกุศลที่มอบให้แก่ทุกคน

แน่นอนว่า เตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับเป็นเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับที่มีหนึ่งไม่มีสอง ยากจะทำซ้ำ

ในฐานะของวิเศษของวังเทพ เตานี้ถูกเก็บในตำหนักโอสถมาโดยตลอด ต้องผ่านไปสักระยะก่อน ถึงจะเปิดใช้เตาได้

การหลอมโอสถของมัน มีประสิทธิภาพค่อนข้างสูง ทำให้คนรู้สึกชมเชย

เทียบกับโอสถเซียนที่ยอดเยี่ยมอย่างโอสถทองโอบอุ้มแล้ว บางทีหากหลอมขึ้นมาแล้วอาจจะได้ปริมาณน้อย

แต่ถ้านำมาหลอมโอสถระดับอื่น จะมีจำนวนน่าทึ่งยิ่ง

การสั่งสมโอสถวิเศษปริมาณหาศาลด้านในตำหนักโอสถของวังเทพไม่ใช่ธรรมดา

ยิ่งไปกว่านั้น ที่บอกว่าเป็นระดับอื่น เป็นการเปรียบเทียบกับโอสถทองโอบอุ้มเท่านั้น สำหรับยุคสมัยหลังจากมหาภัยพิบัติเช่นในปัจจุบันนี้ โอสถเหล่านี้เป็นของวิเศษล้ำค่าทั้งสิ้น

หากปรากฏในโลกซ้อนโลกสักเม็ดหนึ่ง ผู้คนยอมช่วงชิงกันจนศีรษะแตกไปข้าง

ถึงแม้จะมีคำพูดว่า หากพึ่งพาโอสถในเส้นทางการฝึกปรือ จะทำให้รากฐานไม่มั่นคง เส้นทางในการพัฒนาจะยิ่งมายิ่งแคบลง แต่นั่นเป็นแค่การเปรียบเทียบเท่านั้น

โอสถวิเศษจำนวนมหาศาลไม่อาจรับประกันได้ว่าสามารถเปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นยอดฝีมือสะท้านโลกได้ กระนั้นกลับรับประกันได้ว่าสามารถทำให้คนที่เป็นอัจฉริยะอยู่แล้วปีนขึ้นสู่จุดสูงสุดของตัวเองได้เร็วกว่าเดิม

ส่วนพื้นฐานจะไม่มั่นคงหรือไม่ ขึ้นอยู่เงื่อนไขของแต่ละคนแล้ว

ขณะที่ใคร่ครวญอยู่ อาหู่ที่เมื่อครู่นี้ออกไปด้านนอก บัดนี้เดินกลับมาอีกครั้ง แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “คุณชาย ประมุขตระกูลเซี่ยเลี่ยงมาหาท่านขอรับ”

เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่ “ไม่มีอะไรต้องมาพบกัน ข้าได้เบาะแสจากสร้อยลูกปัดหยกของเขามาแล้ว แล้วก็คืนสร้อยลูกปัดหยกกลับไปแล้วด้วย จะค้นหาความลับในสร้อยลูกปัดหยกได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาเอง”

“ถ้าไม่เจอ สำหรับเขาแล้วก็เหมือนกับเรื่องในวันนี้ไม่เคยเกิดขึ้น พวกตัวปลอมไม่เคยไปหา ไม่มีได้และไม่มีเสีย เหมือนกับที่ผ่านมา”

ชายหนุ่มว่า “เรื่องตามหาเบาะแสของท่านแม่ พวกเราทำอย่างลับๆ จะดีกว่า ไม่จำเป็นต้องอาศัยการช่วยเหลือจากคนในท้องที่ ไม่เช่นนั้นสุดท้ายอาจเกิดเป็นลมฝนพัดใส่เมือง”

อาหู่ตอบ “ข้าทราบว่าต้องทำอย่างไรขอรับ”

เขาเว้นครู่หนึ่งค่อยตบศีรษะตัวเอง “จริงสิ เด็กน้อยที่ก่อนหน้านี้ถูกคนลักพาภรรยาไปก็มาด้วยเช่นกัน”

เมื่อเยี่ยนจ้าวเกอได้ยินดังนั้น เขาก็หันไปมองประตูของหอสุราที่ตัวหอกั้นไว้ โดยนั่งนิ่งไม่ขยับตัว

สายตาเขาทะลุอาคาร เห็นด้านนอกประตูหอสุรา นอกจากพวกเซี่ยเลี่ยงแล้ว ปรมาจารย์หนุ่มที่ก่อนหน้านี้ถูกตัวปลอมจับภรรยาไป ครั้งนี้กำลังพาภรรยาของตนมายังประตูหอสุรา

ชายหนุ่มที่ก่อนหน้านี้เผชิญกับเยี่ยนจ้าวเกอตัวปลอมที่เป็นยอดฝีมือในขั้นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ แต่กลับไม่ยอมรับความอัปยศ ยามนี้คุกเข่าอยู่บนพื้น ทำท่าคำนับต่อหอสุรา

เขาถึงขั้นไม่รู้ว่าเยี่ยนจ้าวเกออยู่ตรงไหนในหอสุราด้วยซ้ำ

แต่หลังจากสองสามีภรรยาคำนับเสร็จ กลับไม่ได้รั้งอยู่ต่อ และไม่คิดขอพบเยี่ยนจ้าวเกอ หมุนกายผละไปทันที

เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้น ดวงตากลับฉายแววชื่นชมหลายส่วน

เขามองส่งอีกฝ่ายจากไป ก่อนจะพยักหน้า ‘มีความกล้าอยู่หลายส่วนจริงๆ’

ตัวปลอมสวมอาภรณ์ดำที่ลักพาภรรยาของเขา น่าจะเป็นจอมยุทธ์พเนจรที่อยู่ทางเทือกเขาอาทิตย์หยก

แม้ความเป็นไปได้ที่จะมีญาติมิตรจะค่อนข้างต่ำ แต่คนที่สังหารเขากลับต้องเผชิญกับการแก้แค้น

เขาตายเพราะเยี่ยนจ้าวเกอก็จริง กระนั้นกลับเป็นปรมาจารย์หนุ่มที่ถูกลักพาภรรยาผู้นั้นสังหารด้วยตัวเอง

อีกฝ่ายไม่อาจล่วงเกินเยี่ยนจ้าวเกอ แต่อาจจะสังหารชายหนุ่มผู้นี้เพื่อระบายแค้นก็ได้

ในสถานการณ์เช่นนี้ คนผู้นี้ยังคงกล้าฆ่าคน ต่อจากนั้นก็ยังมาขอบคุณเยี่ยนจ้าวเกอ และไม่ได้ขอรับการคุ้มครอง หรืออาศัยการช่วยเหลือจากพวกเยี่ยนจ้าวเกอ

“ความจริงแล้วคุณสมบัติของเขาไม่อ่อนแอ อยู่ระดับกลางค่อนไปทางสูง เพียงแต่เรียนวรยุทธ์ช้าไปหน่อย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่อาจประสบความสำเร็จ” เยี่ยนจ้าวเกอพูดกับอาหู่ว่า “แม้นิสัยจะมุทะลุไปบ้าง แต่มีความแน่วแน่ไม่เลว ให้โอกาสเขาสักครั้ง จะอยู่หรือจะไปขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง”

อาหู่เข้าใจ “ข้าได้ชี้ทางสว่างให้เขาแล้ว ยังได้มอบค่าเดินทางให้แก่เขาด้วยเล็กน้อย จะยอมไปยังทะเลหวงเจียเพื่อลองกราบเข้าสำนักหรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง”

เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า อาหู่ถอยออกไป เพื่อพูดกับพวกเซี่ยเลี่ยงทันที

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกออกจากหอสุรา ค้นหาที่อยู่ของเสวี่ยชูฉิงต่อ

น่าเสียดายที่เมืองตกวาฬดูเหมือนจะไม่ได้มอบผลลัพธ์อะไรให้จริงๆ

พวกเยี่ยนจ้าวเกอจึงบอกลาเพียงเท่านี้ ผละออกจากเมือง มุ่งหน้าสู่เทือกเขาอาทิตย์หยก

เซี่ยเลี่ยงประมุขตระกูลเซี่ยสุดท้ายก็ไม่ได้พบเยี่ยนจ้าวเกอ อาหู่แม้มีท่าทีเกรงใจ แต่เขากลับหวั่นวิตก ไม่รู้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะเอาเรื่องก่อนหน้ามาใส่ใจจริงๆ หรือไม่

ตามเหตุผลแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้เคลื่อนไหวในเกาะอาทิตย์ตก แต่พลาดไปไม่มีอะไรใหญ่โต

ทว่าเซี่ยเลี่ยงรู้สึกเหมือนกับตนและครอบครัวพลาดของสำคัญอะไรไป

………………..