บทที่ 948 นายจะฆ่าเขางั้นเหรอ”

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 948 นายจะฆ่าเขางั้นเหรอ?”

ดวงตาของม็อกโกแดงก่ำ

พิมเจ้า ที่เพิ่งจะมาถึงที่นี่ ก็มองเห็นผู้ชายที่ถูกต่อยหนึ่งหมัดกำลังลูบใบหน้าของตัวเองอยู่อย่างจังหลังจากที่ถูกต่อยจนเขียวปั้ด ลุกกระโดด ขึ้นมาจากบนพื้น ทันใดนั้นก็พุ่งกระโจนเข้าไปหาแสนรักที่ต่อยเขาทันที!

นี่เป็นการต่อสู้รุนแรงแบบมืดฟ้ามัวดินจริงๆ !

หลายปีมานี้ สองคนนี้มีความสัมพันธ์แบบพี่แบบน้องที่ช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกันมาโดยตลอด แต่คิดไม่ถึงว่า ในวันหนึ่งพวกเขาจะต่อสู้กันเอง

และเมื่อมีการลงไม้ลงมือ อารมณ์ความรู้สึกในช่วงเวลานี้ที่รวมตัวกันไว้ระหว่างสองคนนี้ หลังจากที่ระเบิดออกมาโดยสิ้นเชิงในเวลานี้ กอดรัดฟัดเหวี่ยงเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนก็ไม่มีใครยอมใคร ต่างก็สู้จนสุดความสามารถ!

ดังนั้นห้องโถงไว้อาลัยแห่งนี้ ก็ได้ยินเพียงแต่เสียง “ปึกๆ ปักๆ” แล้ว ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ แก้วน้ำ……..

หรือแม้แต่กระถางเผากระดาษเงินที่วางอยู่บนพื้น ก็ถูกทั้งสองคนนี้เตะจนเถ้ากระดาษนั้นปลิวว่อนอยู่ทั่วทุกที่!

ถ้าหากไม่ใช่เพราะ พิมเจ้า ตาไวมือไวไปอุ้มโกศกระดูกสองอันนั้นขึ้นมาอย่างทันเวลา เกรงว่าเจ้าของสองสิ่งนี้เองก็ถูกพวกเขาทุบไปด้วย

“เร็วเข้า รีบไปเรียกคนมา คุณชายทั้งสองท่านต่อยกันแล้ว!!”

เธออุ้มโกศกระดูกสองอันนั้นออกมาข้างนอกอย่างล้มลุกคลุกคลาน และตะโกนเรียก

แต่ในห้องโถงไว้อาลัย หลังจากที่ยืดเยื้อเป็นสิบกว่านาที เห็นได้ชัดว่าแสนรักเสียเปรียบแล้ว เดิมทีเขาเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง แม้ว่าจะถูกไปฝึกฝนมาเป็นเวลาสามเดือน

จะสู้กับคู่ต่อสู้อย่างม็อกโกที่อยู่ในค่ายทหารมานานเป็นสิบปีได้อย่างไร

“ตึง–!”

หลังจากที่เขาถูกฟาดกระแทกลงบนพื้นอย่างจัง ท้ายทอยของเขากระทบกับพื้น ความรู้สึกเจ็บปวดบวกกับมึนเวียนศีรษะ ทำให้ทั้งตัวเขาและแม้แต่สติสัมปชัญญะต่างก็พร่ามัวอยู่เกือบนานมาก

ไอ้เวรนี่!!

สีหน้าของเขาขาวซีด

ไม่คิดว่า ม็อกโกที่ต่อสู้จนตาแดงก่ำ ฟาดเขาลงขนาดนี้แล้วก็ยังไม่คิดจะปล่อยเขาไป

หลังจากที่เห็นเขานอนราบอยู่บนพื้นในที่สุดก็ไม่เข้าใจ เขาก็ก้าวเท้ายาวๆ เข้ามา ขาข้างหนึ่งเหยียบไว้บนหน้าอกของเขา มือคู่นั้นก็เหยียดอ้านิ้วทั้งห้าออกและพุ่งตรงเข้าไปบีบคอของเขาไว้แน่น

“หา…..”

แสนรักเพียงแค่ทันได้ส่งเสียงร้องที่แหบแห้งออกมา

ม็อกโกบ้าไปแล้ว : “ฉันพูดอะไรผิดแล้วหรือยัง? หรือว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่นายอยากได้งั้นเหรอ? นายฆ่าพ่อแม่ของฉันตาย เพื่อแก้แค้นให้กับพ่อแม่ของนาย แล้วนั่งในตำแหน่งนี้ที่เดิมทีเป็นของพ่อนาย ฉันพูดผิดหรือเปล่าล่ะ?”

เขาขู่คำรามอย่างเสียการควบคุมอยู่เหนือศีรษะของเขา

ทั้งใบหน้าของแสนรักเปลี่ยนเป็นสีม่วงแดง

เขาคิดอยากจะพูดอะไร แต่ถูกบีบคอไว้แน่น กลับไม่สามารถแม้แต่จะอ้าปาก สุดท้ายก็เหลือเพียงแค่มือคู่นั้นที่ซีดขาวจนน่าตกใจ จับข้อมือของเขาไว้แน่น

“ม็อกโก นายกำลังทำอะไร? นายจะฆ่าเขางั้นเหรอ?”

ในช่วงเวลาสำคัญนี้พิมเจ้า ก็กลับมาในที่สุด

หลังจากที่เธอมองเห็นฉากนี้แล้ว จนแทบวิญญาณหลุดออกไปจากร่าง ในที่สุด เธอก็หยิบกระถางเผากระดาษเงินนั้นขึ้นจากบนพื้น และทุบลงไปบนหลังของชายผู้เสียการควบคุมคนนี้

“แกร๊ก–!”

เสียงเครื่องใช้โลหะที่ดังฟังชัด ยังมีความเจ็บปวดตรงท้ายทอยที่มีขึ้นมาอย่างกะทันหัน

คนคนนี้ที่ยังบีบคอของผู้ชายในมือเขา ในที่สุด เขาก็ค่อยๆ ได้สติขึ้นมา

เมื่อได้สติ และเขาเห็นสภาพตรงหน้าอย่างชัดเจนแล้ว ทันใดนั้น หลังจากที่เห็นเพียงแค่รูม่านตาเขาหดลงอย่างรุนแรง เขาก็ปล่อยมือออกเหมือนกับโดนไฟฟ้าช๊อต และล้มลงไปอีกทางหนึ่ง

“รัก รัก เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม? เธอเป็นยังไงบ้าง?”

พิมเจ้า เห็นแล้วก็รีบวิ่งมาข้างกายของแสนรักทันที

แต่แสนรักแทบจะไม่มีการเคลื่นไหวใดๆ แล้ว

เขานอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น ตัวเย็นเฉียบ ใบหน้าหล่อเหลาที่เปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำทั้งหน้า เหมือนกับว่าคนที่ไม่มีลมหายใจแล้ว หลายวินาทีผ่านไป เขาก็ยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ เลย

สีเลือดของม็อกโกเองก็หายไปอย่างหมดจด!

เขารีบปีนลุก “พรึ่บ” ขึ้นมาหาทันที และหลังจากที่ผลัก พิมเจ้า ออกไปอย่างรุนแรงแล้ว เขาก็พุ่งเข้าไปยังด้านหน้าของคนคนนี้และจับชีพจรของเขาอย่างแรง ตลอดกระบวนการเขาสั่นเหมือนกับใบไม้ที่ร่วมหล่นท่ามกลางลมที่พัดแรง

โชคดี หลังจากนั้นอีกไม่กี่วินาที ในที่สุดชีพจรของแสนรักก็กลับมาแล้ว

“เฮือก–”

จู่ ๆ เขาลืมดวงตาทั้งคู่ขึ้น ในที่สุดก็มีเสียงหายใจออกมาจากลำคอของเขา เหมือนกับปลาที่กำลังจะสิ้นใจ และในที่สุดก็ได้กลับสู่ในน้ำ

พิมเจ้า ยิ้มจนน้ำตาไหล

และม็อกโก หลังจากที่เห็นฉากนี้แล้ว ก็ยิ่งสั่นระรัวไปทั้งตัว เขาเหมือนกับถูกกระตุกเส้นไหมออกไป นั่งนิ่งอยู่ด้านข้างเหมือนกับอัมพาตไปโดยสิ้นเชิง

นี่คือความกลัวที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน

บางที นี่อาจเป็นความรู้สึกของการหนีจากความตาย ไม่ใช่เฉพาะเขา ยังมีตัวเขาเองด้วย

ในที่สุดในห้องโถงไว้อาลัยก็เงียบลง ในเวลานี้ หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดน่ากลัว และยังมีสถานการณ์อันตรายจนแทบเอาชีวิตไม่รอดเช่นนี้ ผู้ชายทั้งสองคนก็นอนราบอยู่บนพื้นที่เพ่นพ่านแห่งนี้

ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เป็นเวลานานมาก

พิมเจ้า เห็นเล้ว ก็ปาดน้ำตาแล้วออกไปอย่างเงียบๆ

“คุณป้า ได้ยินว่าข้างในเกิดเรื่องขึ้น? ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

พอดีกับว่าในเวลานี้คนที่เธอเรียกก็มาถึงแล้ว เห็นว่าเธอออกมา ก็เลยถามอยู่ที่ด้านนอกทันที

พิมเจ้าส่ายๆ หน้า : “ไม่เป็นไร เดี๋ยวสักครู่เธอนำผลไม้และดอกไม้สดชุดใหม่มาก็พอแล้ว อีกอย่าง จัดคนสักสองคนเข้าไปทำความสะอาด”

“ได้ค่ะ คุณป้า”

คนคนนั้นตกลงรับปาก แล้วไปจัดการทันที

สิบกว่านาทีต่อมา ในที่สุดแสนรักที่อยู่ในห้องโถงไว้อาลัยรู้สึกว่าตัวเองฟื้นตัวพอประมาณหนึ่งแล้ว เขาก็ลุกขึ้นมานั่งบนพื้น

อันที่จริงเขาไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดนั้น เพียงแต่ม็อกโกผู้ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการต่อสู้มามากมายอย่างนี้ ตอนที่จะจับอีกฝ่าย ขาข้างนั้นของเขารู้ว่ากดทับไว้ที่ตำแหน่งนั้นบนหน้าอกของศัตรูก็สามารถทำให้เขาหายใจไม่ออกและตายเร็วขึ้น