สตรีเฒ่าที่หลิงฮันหมายถึงคือหญิงชราที่คอยคุ้มครองฮูหนิว
เมื่อนึกถึงฮูหนิวแล้ว หลิงฮันก็อดคิดถึงเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน ครอบครัวและบุตรของเขาไม่ได้ นี่ก็ผ่านมาเกินกว่าร้อยปีแล้วสินะ?
บางทีบุตรของเขาอาจจะกลายเป็นพ่อคนแล้วก็ได้!
แต่บางทีบุตรของเขาก็อาจจะฝักใฝ่อยู่เพียงแต่วิถีวรยุทธจนไม่มีเวลาไปยุ่งเกี่ยวกับสตรีเลยก็เป็นได้
“ไปกันเถอะ” จักพรรดินีกล่าวกับหลิงฮัน ยังมียอดเขาลูกอื่นให้ไปสำรวจอยู่อีกแถมยังต้องหาวิธีวางกับดักกู่ต้าวอี้ด้วย
หลิงฮันพยักหน้าและกล่าว “น่าเสียดายที่ราชันวารีสวรรค์ไม่มีเวลาชีวิตเหลือพอให้ทิ้งทักษะบ่มเพาะของราชานิรันดร์เอาไว้ด้วย ไม่เช่นนั้นการเดินทางในครั้งนี้ของพวกเขาคงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวง”
เขาไม่รู้ว่าในดินแดนแห่งเซียนราชานิรันดร์อยู่ในระดับที่สูงเพียงใดแต่จะต้องอยู่สูงกว่าระดับโลกียนิพพานแน่นอน
เพราะงั้นแล้วทักษะบ่มเพาะของราชานิรันดร์จึงมีค่าเป็นอย่างมาก
จักรพรรดินีก้าวเดินสองสามก้าวก่อนจะกล่าว “ก่อนหน้านี้ที่เจ้ากล่าวบทพูดด้วยภาษานิรันดร์ มันบังเอิญไปกระตุ้นสายเลือดของข้าเข้าพอดีและทำให้ความทรงพลังบางส่วนถูกปลุกขึ้นมา บรรพบุรุษเผ่าเก้าอสรพิษของข้า… เป็นตัวตนระดับราชานิรันดร์!”
“ทักษะบ่มเพาะของนางคือทักษะเก้าสวรรค์ดับสูญ มันคือทักษะระดับราชานิรันดร์” หอคอยน้อยเอ่ยแทรก
หลิงฮันประหลาดใจ ไม่คาดคิดว่าหอคอยน้อยจะเป็นฝ่ายกล่าวแทรกเช่นนี้
“เจ้ารู้ระดับพลังบ่มเพาะของดินแดนแห่งเซียนแต่เจ้ากลับรู้จักทักษะเก้าสวรรค์ดับสูญ?”
“ถ้าเช่นนั้นแล้วทักษะบ่มเพาะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ของข้าก็เป็นทักษะระดับราชานิรันดร์?”
“ฮึ่ม ใครบอกเจ้ากันว่าคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์กับเก้าสวรรค์ดับสูญเป็นทักษะระดับเดียวกัน?” หอคอยน้อยกล่าวเหยียดหยาม “คัมภีร์สวรรค์นิรันดร์เป็นทักษะที่มหาปราชสวรรค์นำทักษะระดับราชานิรันดร์จำนวนมากมาผสานรวมกันจนก่อเกิดเป็นทักษะบ่มเพาะที่ทรงพลังขึ้นไปกว่านั้นอีกหลายขั้น!”
หลิงฮันกล่าวด้วยความตื่นเต้น “เช่นนั้นในอนาคตข้าจะทรงพลังยิ่งกว่าราชานิรันดร์?”
“ทักษะก็ยังคงเป็นเพียงทักษะ จะฝึกฝนจนบรรลุถึงจุดสูงสุดเพียงเท่าใดนั้นย่อมขึ้นอยู่กับแต่ละคน” หอคอยน้อยกล่าวเหมือนจะเป็นคนมีเหตุผล แต่สุดท้ายในประโยคต่อมาก็หนีไม่พ้นนิสัยเดิมๆ “ในความคิดของข้า แค่เจ้าจะบรรลุระดับราชานิรันดร์ก็เป็นเรื่องยากแล้ว”
“ไปตายซะ!” หลิงชูนิ้วกลาง “จำคำของเจ้าไว้ ข้าไม่เพียงจะบรรลุระดับราชานิรันดร์แต่ยังจะเหนือไปกว่านั้นให้เจ้าเห็น!”
“ข้าจะรอ” หอคอยน้อยกล่าวก่อนจะค่อยๆหายไป
จักรพรรดินีเผยสีหน้าแปลกใจ “ช่างเป็นวิธีการพูดกระตุ้นเจ้าที่หยาบคายจริงๆ”
“ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องเหนือกว่าราชานิรันดร์ให้ได้ คอยดูว่าสักวันหนึ่งข้าจะโยนหอคอยปากเสียนั่นทิ้งลงหลุมให้ได้!” หลิงฮันสบถ แน่นอนว่าเขาเพียงพูดไปแบบนั้นเอง หากเขาโยนหอคอยทมิฬทิ้งลงหลุมจริงๆแล้วเขาจะมีอะไรให้ใช้เป็นตัวช่วย?
จักรพรรดินียิ้ม นางจับมือหลิงฮันและออกมาจากหอคอยทมิฬ
ทั้งสองคนขึ้นมาจากตำหนักอย่างระมัดระวังเนื่องจากแรงกดดันจากกรงเล็บมหึมาไม่ได้หายไปไหน ทั้งคู่มองไปยังยอดเขาอื่นๆที่ห่างออกไป ยอดเขาในเขตแดนลี้ลับนี้มีทั้งหมดสิบสี่ยอดเขาซึ่งแต่ละยอดเขาล้วนแต่มีตำหนักตั้งอยู่
จากการวิเคราะห์ของพวกเขา ยอดเขาที่เหลือสมควรเป็นที่พักของผู้ติดตามทั้งสิบสองและราชาไค่หยุน
“ไปเก็บเกี่ยวทุกอย่างให้หมด!” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่หวั่นเกรง ตอนนี้เขาทั้งม้วนคำสั่งและหยดโลหิตของราชาเซียนจึงไม่แปลกที่เขาจะมั่นใจว่าไม่แพ้ใคร แต่แน่นอนว่าแค่จัดการกับจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ไม่กี่คนนั้น ไม่มีความจำเป็นใดที่เขาจะต้องใช้หยดโลหิตเซียนอย่างเสียของ
“นี่มัน!”
เมื่อทั้งสองไปยังเขาอีกลูก ทางเดินขึ้นเขาก็ถูกสร้างขึ้นจากแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน ทว่ามันไม่ใช่แร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบหกแต่เป็นระดับสิบห้า นี่สมควรเป็นภูเขาของราชาไค่หยุนเนื่องจากมันด้อยกว่าภูเขาหลักเพียงเล็กน้อย
เก็บเกี่ยวไม่ให้เหลือ!
หลิงฮันไม่มีความเกรงใจใดๆและเก็บเกี่ยวแร่โลหะไปจนถึงยอดเขา
ในระหว่างนี้ พวกฮูช่านเองก็เห็นว่าทั้งสองลงมาจากภูเขาหลักแล้ว เพียงแต่ว่าทั้งเจ็ดคนไม่ผลีผลามบุกโจมตี
“ที่คนพวกนั้นไม่รีบจัดการกับพวกเขาคงเพราะจงใจให้พวกเรารวบรวมสมบัติให้หมดก่อนแล้วค่อยลงมือทีเดียวเพื่อประหยัดเวลาและพลัง” หลิงฮันคาดเดา
เขากับจักรพรรดินีเผยรอยยิ้มออกมาพร้อมกัน
ใครจะเป็นฝ่ายปล้นใครกันแน่?
“พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องรีบ” หลิงฮันเห็นพวกฮูช่านกำลังขุดทางเดินเช่นกัน
ที่ตำหนักยอดเขานี้ไม่ได้มีสมบัติมากมาย หลิงฮันพบเพียงผ้าทอจำนวนหนึ่งที่สานขึ้นจากวัสดุและแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบเจ็ด มันเป็นผ้าชั้นเลิศที่ทนทานอย่างมาก
ที่จริงผ้าทอนี้ถูกใช้เป็นเพียงผ้าปูเตียงเท่านั้น
“ภรรยาข้า ผ้าทอเช่นนี้สามารถนำไปทำอะไรได้บ้าง?” หลิงฮันหัวเราะ
จักรพรรดินีครุ่นคิดก่อนจะกล่าว “คงนำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้มาก การจะนำไปสร้างเป็นอุปกรณ์สมบัตินั้นสิ้นเปลืองวัสดุล้ำค่าอื่นๆมากเกินไป”
น่าเสียดายที่ตำหนักแห่งนี้ไม่ได้สร้างขึ้นด้วยวัสดุเซียนแต่เป็นแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบหก แต่โครงสร้างของมันก็ยังทนทานมากจนหลิงฮันไม่สามารถแยกชิ้นส่วนออกมาได้ พอเป็นเช่นนี้เขาเริ่มรู้สึกขอบคุณกรงเล็บมหึมาเสียแล้วที่ทำให้กำแพงตำหนักพังทลาย ไม่เช่นนั้นหลิงฮันก็คงไม่สามารถเก็บเกี่ยวหยกครามต้นกำเนิดและค้นพบห้องสมบัติใต้ดิน
พวกเขาเปลี่ยนไปยังสำรวจภูเขาอีกลูก เส้นทางของภูเขาลูกนี้มีระดับต่ำยิ่งกว่าเดิม มันถูกสร้างขึ้นมาแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบสี่เท่านั้นเอง
ดูเหมือนว่าภูเขาลูกนี้จะเป็นของหนึ่งในผู้ติดตามทั้งสิบสอง ภูเขาอื่นๆอีกสิบเอ็ดลูกก็คงเป็นแบบเดียวกัน
สองฝ่ายที่เข้ามาในเขตแดนลี้ลับต่างเก็บเกี่ยวสมบัติกันอย่างจริงจัง หลิงฮันกับจักรพรรดินีสำรวจภูเขาไปได้ห้าลูก ในขณะที่พวกฮูช่านสำรวจไปแล้วเก้าลูก เพราะอย่างไรอีกฝ่ายก็มีจำนวนคนเยอะกว่า ยิ่งกว่านั้นนอกจากภูเขาหลักแล้วภูเขาลูกอื่นก็ไม่มีแรงกดดันที่รุนแรงจากสายลม
และในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็มาพบบรรจบกันที่ใต้ภูเขาลูกที่หก