คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1738
จักรพรรดิโฮ่วอี้มีนักรบผู้กล้าหาญอยู่สองสามคน ท่านยอดปรมาจารย์เอ้อหลางอยู่ในอันดับที่หนึ่ง และเอ้อไหลอยู่ในอันดับที่สอง แต่ลำดับที่สองจะไม่ค่อยเข้ามาแทรกแซงทางการเมืองเท่าไหร่นัก เขาถูกวางไว้เพื่อเคียงข้างฉางเอ๋อในการปกป้องเธอ
เขาเป็นองครักษ์ส่วนตัวของฉางเอ๋อนั่นเอง
ถึงแม้ว่าเอ้อไหลจะดูร้ายกาจแต่เขาก็เป็นคนที่ห่วงใยเอาใจใส่ เขารู้ว่าฉางเอ๋อและจักรพรรดิโฮ่วอี้รักกันมาก และจักรพรรดินีจะไม่มีวันนอกใจจักรพรรดิโฮ่วอี้ ดังนั้นเขาจึงรับไม่ได้ที่หยางเจียนตั้งข้อสงสัยกับฉางเอ๋ออย่างไร้ความปรานีในที่โจ่งแจ้งเช่นนี้
เอ้อไหลเป็นคนเดียวในทวีปโมอาน่าเหนือที่กล้าท้าทายหยางเจียน
เขาจ้องมองไปที่หยางเจียนพร้อมกับตะโกนว่า “เจ้าสรุปได้อย่างไรว่าพระมเหสีฉางเอ๋อกำลังคบกับจูปาเจี๋ย ด้วยเพียงแค่คำสลักไม่กี่คำ? หยางเจียน เจ้ามันช่างโอหังยิ่งนัก อย่าใส่ร้ายพระมเหสีฉางเอ๋อถ้าหากเจ้าไม่มีหลักฐาน!”
เฮ้อ!
หยางเจียนถอนหายใจแรง ๆ ให้กับความคิดเห็นของเอ้อไหล รูปร่างที่หล่อเหลาของเขายังคงเด่นตระหง่าน เขาพูดเบา ๆ ว่า “ข้าเป็นคนยุติธรรมเสมอ พวกเรากำลังตรวจสอบว่าอะไรเป็นสาเหตุของการสิ้นพระชนม์อย่างกะทันหันของจักรพรรดิอยู่ ดังนั้นเจ้าอย่าพูดอะไรออกมาพล่อย ๆ !”
ใช่แล้ว หยางเจียนเป็นคนยุติธรรม เขาไม่อาจทนต่อเรื่องที่ไม่ยุติธรรมได้
จักรพรรดิโฮ่วอี้ปฏิบัติต่อหยางเจียนเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงเสียใจอย่างมากกับการสิ้นพระชนม์อย่างกะทันหันของจักรพรรดิ หยางเจียนไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่าจักรพรรดิได้ล่วงลับไปแล้วได้ ดังนั้นเขาจึงแอบสาบานว่าเขาจะตามหาฆาตกรให้ได้ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไรก็ตาม แม้ว่าฉางเอ๋อจะเป็นผู้ต้องสงสัย แต่เขาก็จะต้องสอบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
“ยุติธรรมเหรอ?”
เอ้อไหลตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเยาะเย้ย “อย่าทำตัวไร้เดียงสาไปหน่อยเลยหยางเจียน ทุกคนรู้ว่าเจ้ามีอำนาจมากที่สุดรองจากจักรพรรดิ เอาล่ะ บอกข้ามา เจ้าสลักข้อความเหล่านี้เพื่อใส่ร้ายจักรพรรดินีใช่หรือไม่?”
เอ้อไหลรวบรวมความกล้าขึ้นมาพร้อมกับตะโกน “เจ้าโทษจักรพรรดินีเพื่อที่จะได้ใส่ร้ายพระองค์และไม่ให้ใครในทวีปโมอาน่าเหนือควบคุมสั่งการเจ้าได้ จากนั้นเจ้าก็จะสามารถขึ้นครองบัลลังก์และแทนที่จักรพรรดิได้ใช่ไหมล่ะ? ข้ากำลังสงสัยว่าเป็นเจ้านั่นแหละที่ปลงพระชนม์ฝ่าบาท นี่คงเป็นการสมรู้ร่วมคิดของเจ้า-”
ฉางเอ๋อไม่พูดอะไร เธอกัดริมฝีปากแน่นในขณะที่เธอสั่นด้วยความโกรธ
เธอก็มีความคิดแบบนั้นเช่นเดียวกัน
หยางเจียนมีตำแหน่งที่น่านับถือในพระราชวัง ดังนั้นหากจักรพรรดิโฮ่วอี้สิ้นพระชนม์ เขาจะเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในการเป็นจักรพรรดิองค์ต่อไป ดังนั้นเขาอาจทำร้ายจักรพรรดิโฮ่วอี้และใส่ร้ายฉางเอ๋อ นั่นเป็นสิ่งที่น่าเป็นไปได้
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหยางเจียนจะห่างเหินแค่ไหน แต่เขาก็ภักดีต่อจักรพรรดิโฮ่วอี้ ทำไมเขาถึงทำอย่างนั้นล่ะ?
ถ้าไม่ใช่หยางเจียนแล้วใครกันล่ะที่จะเป็นฆาตกรตัวจริงได้?
“ไร้สาระ!”
หยางเจียนขมวดคิ้ว เขาโกรธมาก เขามองไปที่เอ้อไหลอย่างเย็นชา “ฝ่าบาทมีเมตตาต่อข้ามาก ข้าจะทำร้ายพระองค์ไปทำไม? อย่าบังอาจมาใส่ร้ายข้า!”
เอ้อไหลหัวเราะในขณะที่ความโกรธก็เพิ่มพูนขึ้นในใจของเขา “หยางเจียน เจ้าบอกว่าเรื่องนี้ข้าใส่ร้ายเจ้า? แล้วการที่เจ้าใส่ร้ายพระมเหสีฉางเอ๋อกับจูปาเจี๋ย ล่ะจะว่าอย่างไร?”
ชายคนนั้นยืนอยู่ตรงหน้าฉางเอ๋อพร้อมกับพูดว่า “ไม่ว่าวันนี้เจ้าจะทำอะไร เจ้าอย่าได้บังอาจกล้าทำร้ายพระมเหสีฉางเอ๋อเด็ดขาด เว้นเสียแต่ว่า เจ้าจะข้ามศพของข้าไปก่อน”
น้ำเสียงของเขาหนักแน่น
เฮ้อ!
หยางเจียนหายใจเข้าลึก ๆ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาชี้ไปที่คำบนแท่นหยกและพูดว่า “เจ้าขอหลักฐานจากข้า มันก็อยู่ตรงนี้นี่ไง เอ้อไหล เจ้าอาจจะพูดได้ว่าข้าสลักคำเหล่านี้หรือข้าใส่ร้ายจักรพรรดินี แต่วันนี้พระมเหสีฉางเอ๋อจะต้องอธิบายกับพวกเราให้ได้!”
หยางเจียนดูหนักแน่นเมื่อเขาพูดเช่นนั้น!
ทันใดนั้นทุกคนก็มองไปที่ฉางเอ๋อ
“หยางเจียน!”
ฉางเอ๋อกัดริมฝีปากของเธอแรงจนเลือดออก เธอพูดว่า “ก็ได้ ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าก็จะทำตามที่เจ้าบอก”
ฉางเอ๋อมองไปรอบ ๆ ห้อง “ข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับจูปาเจี๋ย ข้าไม่เห็นไม่ได้พบเจอเขาเลยตั้งแต่เขาหนีออกจากวังไป!”
เธอเหลือบมองไปที่หยางเจียน “ตอนนี้เจ้าพอใจรึยัง?” เธอฟังดูสงบ แต่ความโกรธที่ควบคุมไม่ได้ยังคงก่อตัวขึ้น
หยางเจียนยังคงยืนกรานที่จะทำให้ฉางเอ๋อเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในที่โจ่งแจ้งเช่นนี้ เขาช่างเป็นคนที่น่ารังเกียจเสียจริง