หลิงฮันเก็บเกี่ยวสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำมาได้บ้าง แต่ตัวเขาในตอนนี้ยังไม่สามารถหลอมเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำได้ เพราะงั้นเขาจึงนำพวกมันมาต้มเพื่อดูดซับแก่นพลังของพวกมันก่อน
การทำเช่นนี้ประสิทธิภาพย่อมไม่ยอดเยี่ยมเท่ากับหลอมเป็นเม็ดยาและสิ้นเปลือง แต่ว่าหลิงฮันจำเป็นต้องยกระดับพลังของตนเองให้เร็วที่สุด ต่อให้จะสิ้นเปลืองอย่างไรเขาก็ไม่สน
หากต้มสมุนไพรที่โลกภายนอก แก่นพลังของสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำอาจจะดึงดูดแม้กระทั่งเซียน เพราะงั้นหลิงฮันจึงต้มสมุนไพรอยู่ในหอคอยทมิฬ
สามวันผ่านไปสมุนไพรก็ถูกต้มเป็นซุปอย่างสมบูรณ์ หลิงฮันให้จิ่วเยาไปเรียกจักรพรรดิพิรุณ ติงผิง เซียนหวู่เซียงและคนอื่นๆมาร่วมกินซุปด้วย
หลังจากกินซุปเสร็จ ทุกคนรีบเคลื่อนย้ายไปยังต้นสังสารวัฏเพื่อดูดซับพลังของสมุนไพร สมุนไพรระดับศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำนั้นไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มปริมาณปราณก่อเกิดในร่างกายแต่ยังเสริมความเข้าใจในอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อีกด้วย แต่จะทำความเข้าใจได้มากแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับตัวบุคคล
ภายใต้ต้นสังสารวัฏ ระยะเวลาหนึ่งวันเทียบเท่ากับหนึ่งปี กล่าวได้ว่าต้นสังสารวัฏเป็นตัวช่วยสำหรับดูดซับสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำที่ยอดเยี่ยมที่สุด
หลิงฮันคือคนที่มีกายหยาบไร้เทียมทานที่สุด ด้วยกายหยาบของเขาทำให้สามารถต้านทานฤทธิ์อันรุนแรงของสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำได้และกินซุปไปถึงสามในสี่ส่วน
ทุกคนนั่งลงใต้ต้นสังสารวัฏเพื่อโคจรทักษะบ่มเพาะและเข้าสู่สภาวะฝึกตน
หลิงฮันโคจรทักษะบ่มเพาะดูดซับพลังของสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำ ปราณก่อเกิดจำนวนมหาศาลค่อยๆพรั่งพรูเข้ามาในร่างของเขาอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปสิบเอ็ดวันเขาก็ทำการดูดซับเสร็จสิ้น
“พลัง่บ่มเพาะของข้าเพิ่มจากขั้นต้นขั้นต้นเป็นขั้นต้นชั้นกลาง!” หลิงฮันตื่นเต้น
หลังจากบรรลุระดับวารีนิรันดร์แล้วหากจะเพิ่มชั้นพลังย่อยแต่ละชั้นจำเป็นต้องใช้เวลาบ่มเพาะพลังนานถึงหนึ่งแสนหรือหนึ่งล้านปี
ต่อให้หลิงฮันจะเป็นจักรพรรดิปรุงยาที่สามารถหลอมเม็ดมาเพิ่มพลังให้ตนเองให้อย่างไม่มีขีดจำกัด แต่การยกระดับพลังที่รวดเร็วเช่นนั้น ถึงจะเป็นเขาก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลักพันถึงหมื่นปี
แต่ทว่าเขากลับใช้เวลาเพียงแค่สิบเอ็ดวันเท่านั้น ความเร็วเช่นนี้ถือว่าฝืนสวรรค์อย่างแท้จริง
“น่าเสียที่ข้าได้สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำมาเพียงสามต้นเท่านั้น” หลิงฮันถอนหายใจ “ราชันวารีสวรรค์สมควรมีมากกว่านี้แต่กินเองไปหมดแล้ว ฮึ่มเจ้าจอมยุทธเฒ่านั่น ถ้าอยากให้ข้าล้างแค้นให้ทำใมถึงไม่เหลือทิ้งไว้ให้มากกว่านี้!”
สมุนไพรสามต้นสามารถทำเขาบรรลุระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นชั้นกลางเท่านั้น
“ถ้าข้าอยากยกระดับพลังบ่มเพาะให้สูงขึ้นไวที่สุดคงต้องพึงสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำ แค่สมุนไพรเช่นนั้นไม่ใช่ผักกาดที่จะมีเกลื่อนไปทั่ว!” หลิงฮันส่ายหัว “หากข้ามีเมล็ดพันธุ์ของสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำคงจะที เพียงแค่นำไปปลูกในหอคอยทมิฬจำนวนของมันก็จะเพิ่มพูนอย่างรวดเร็ว”
“ของแบบนั้นไม่จำเป็น” หอคอยน้อยปรากฏตัวแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง “รอให้ต้นสังสารวัฏออกผล แล้วพลังบ่มเพาะของเจ้าจะพุ่งทะยานราวกับเกิดใหม่”
หลิงฮันดวงตาส่องประกาย ต้นสังสารวัฏไม่ใช่สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำ มันคือต้นไม้สมบัติของดินแดนแห่งเซียน “แล้วมันจะออกผลเมื่อไหร่?”
“คงอีกราวๆ ร้อยล้านปี” หอคอยน้อยคาดเดา
“ไสหัวไปให้พ้น!” หลิงฮันอยากจะโยนหอคอยบัดซบนี้ลงหลุมเหลือเกิน
“แต่…” หอคอยน้อยเน้นเสียง “ข้าสามารถใช้พลังทำให้เวลาที่ว่าลดลงได้หลายเท่าตัว”
หลิงฮันตื่นเต้นอีกครั้ง หากหอคอยน้อยบอกว่าหลายเท่าล่ะก็ มันต้องไม่ใช่เพียงแค่สิบเท่า แต่ต้องเป็นพันเท่าหรือล้านเท่า
“แต่!” หอคอยน้อยกล่าวเน้นเสียงอีกครั้ง
หลิงฮันอดไม่ได้ที่จะตำหนิ “เจ้าพูดทีเดียวให้มันดีๆเลยไม่ได้รึไง?”
“นี่เจ้าอยากจะฟังรึเปล่า?” หอคอยน้อยกล่าวอย่างหยิ่งยโสพร้อมกันหันหลังเตรียมจากไป
“เดี๋ยว พูดให้จบก่อน!” หลิงฮันรีบรั้งเอาไว้
หอคอน้อยกล่าว “ข้าจะเร่งเวลาการเติบโตของมัน แต่หอคอยทมิฬในตอนนี้ไม่สามารถกระตุ้นอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของดินแดนแห่งเซียนไปให้กับต้นสังสารวัฏได้ ประสิทธิภาพของต้นสังสารวัฏจึงไม่อาจถูกรีดเค้นให้ถึงจุดสูงสุดที่มันควรจะเป็น แม้แต่หนึ่งในพันล้านก็คงไม่ถึง”
หลิงฮันรู้สึกรันทด ที่ต้นสังสารวัฏสมควรจะถูกเอาไว้ในโลกภายนอกอย่างอิสระ แต่กว่ามันจะเติบโตจำเป็นต้องใช้เวลาถึงสิบสองล้านล้านปี ใครจะไปรอไหว?
ได้เท่านี้ก็ถือว่าดีแล้ว
“ข้าจะรอ” หลิงฮันพยักหน้า ตอนนี้สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำสามารถเพิ่มระดับพลังให้เขาได้เพียงหนึ่งชั้นย่อยเท่านั้น หากเขากลายเป็นเซียนไปแล้วประสิทธิภาพของมันคงจะลดลงยิ่งไปกว่านี้อีก
ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาจะไปหาสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำมาจากไหนเยอะแยะในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้?
อืม จะไปแย่งชิงมาจากพวกดินแดนต้องห้ามก็เป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน ขุมอำนาจเหล่านั้นมีต้นกำเนิดจากดินแดนแห่งเซียนและมีรากฐานที่ทรงพลัง พวกเขาก่อตั้งขุมอำนาจมาเป็นเวลานานหลายร้อนหลายพันล้านปีแล้ว ดินแดนต้องห้ามแต่ละแห่งจะต้องมีสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำปลูกเอาไว้อย่างน้อยต้นสองต้นแน่นอน
หลิงฮันรีบล้มเลิกความคิดในหัวทันที ตัวเขาในตอนนี้บุกไปยังดินแดนต้องห้ามก็ไม่ต่างอะไรกับการแส่หาความตายให้ตัวเอง ณ เวลานี้เขาต้องตั้งสมาธิไปกับการจัดการกู่ต้าวอี้และแย่งชิงแก่นกำเนิดนิรันดร์มาให้ภรรยาของเขาเพื่อให้นางบรรลุเป็นเซียนให้เร็วที่สุด
วันแห่งความสุขของเขาใกล้จะมาถึงแล้ว!
ทันทีออกจากหอคอยทมิฬและเดินไปนอกที่พักเขาก็ได้ยินผู้คนกำลังพูดคุยกันอย่างตื่นเต้นเรื่องสัตว์อสูรทรงพลังที่กำลังลากรถเกวียน
นกอมตะสวรรค์ทั้งสามตัวนั้นตอนนี้พวกเขาโอบล้อมเข้าหากันและปลดปล่อยเปลวเพลิงที่น่าสะพรึงกลัวออกมาทำให้ผู้ที่พบเห็นมันไม่สามารถบอกได้ว่ามันคือสัตว์อสูรอะไร พวกเขาต่างคิดกันไปว่ามันคือสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่เคยมีใครพบเห็นมาก่อน
และสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังที่ว่า ตอนนี้กำลังลากรถเกวียนที่บรรทุกกล่องลึกลับบางอย่างเอาไว้
“นี่ เจ้าได้ยินรึไม่ ที่ดวงดาวรกร้างมีสัตว์อสูรลึกลับที่กำลังลากรถเกวียนปรากฏตัวออกมา แถมบนรถเกวียนเก่าๆนั่นยังมีกล่องที่ไม่มีใครสามารถเปิดได้ถูกบรรทุกเอาไว้!”
“ใครบ้างจะยังไม่รับรู้ข่าวนี้ สัตว์อสูรที่ลากเกวียนอยู่นั่นทรงพลังเป็นอย่างมากและไม่มีใครรู้ว่ามันคือสัตว์อสูรประเภทใด!”
“ในกล่องนั่นจะต้องซ่อนสมบัติล้ำค่าเอาไว้แน่!”
“ถูกแล้ว ตอนนี้ศิษย์พี่จำนวนมากกำลังมุ่งหน้าไปแย่งชิงกล่องใบนั้นกันอยู่”
“เห็นว่าบนกล่องมีอักษรโบราณเขียนเอาไว้ด้วย มันเขียนเอาไว้ว่าข้างในมีคำชี้แนะของราชานิรันดร์ถูกซ่อนเอาไว้”
“แล้วคำชี้แนะของราชานิรันดร์ที่ว่าคืออะไร?”
“ข้าก็ไม่รู้ แต่ฟังแล้วมันดูทรงพลังเป็นอย่างมาก”