อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1162 ไม่กลัว
ค่ายกลนี้ดูแล้วธรรมดา ทว่าเพียงแค่จากจุดเล็กๆนิดเดียวก็สามารถส่งผลกระทบลุกลามไปทั่วได้
ในถ้ำมีทางแยกมากมาย ทั้งหมดล้วนเรียงรายเป็นห้าแถวตามธาตุทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน
ไม่ว่าจะเดินไปเส้นไหน ก็จะต้องสัมผัสโดนกลไกทั้งหมด
ทันทีที่สัมผัสโดนกลไก ก็ต้องตายโดยไร้ข้อกังขา แม้แต่ศพก็ไม่เหลือ
เขากำลังรอ รอให้พวกเขาทำลายค่ายกลนี้
ไม่รู้ว่าผู้เฒ่าหนิงกับเจ้าบ้านซ่างกวนและคนอื่นๆมาถึงด้านนอกถ้ำตั้งแต่เมื่อไหร่
คิ้วของพวกเขาล้วนขมวดติดกันเป็นโบ
เนื่องจากพวกกู้ชูหน่วนอยู่ใกล้กับทางเข้าถ้ำมากๆ รูปที่พวกเขาวาดๆเขียนๆ รวมทั้งรูปแผนภูมิภายในถ้ำ พวกเขาล้วนเห็นอยู่ในสายตาทั้งหมด
อยู่มามากกว่าครึ่งชีวิต พวกเขาก็เพิ่งได้เห็นค่ายกลประเภทนี้เป็นครั้งแรก
ค่ายกลนี้ปิดตายเส้นทางทุกเส้น ไม่มีช่องโหว่ให้โจมตีได้โดยแท้จริง
นี่เป็นสิ่งที่คนสามารถทำลายได้หรือ?
ตระกูลไป๋หลี่สมกับเป็นตระกูลแห่งค่ายกลและคุมสัตว์จริงๆ
ตลอดทางที่กู้ชูหน่วนผ่านไป ทำลายค่ายกลของตระกูลไป๋หลี่นับไม่ถ้วน ทำให้พวกเขารู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก
ทุกครั้งพวกเขาคิดว่ากู้ชูหน่วนจะทำลายไม่ได้ แต่ทุกครั้งก็ทำลายได้แล้ว
ครั้งนี้ พวกเขาก็หวังว่ากู้ชูหน่วนจะสามารถสร้างความอัศจรรย์ใจได้อีกครั้ง แต่ว่าความมหัศจรรย์นี้ก็ไม่อาจจะปรากฏขึ้นได้
สายตาของผู้เฒ่าหนิงและเจ้าบ้านซ่างกวนจับจ้องอยู่บนตัวของจอมมาร ในตาล้วนมีแรงสังหาร
มีดวงตาคนละสีเป็นตัวอัปมงคล จำเป็นต้องสังหารโดยไม่ต้องสงสัย
บนภูเขาสูงที่อยู่ห่างออกไป หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งชำเลืองมองไปยังเขตต้องห้ามด้วยดวงตาเฉียบคมดุร้าย มุมปากของนางยกโค้งขึ้น เล่นกับกล่องเล็กๆสีสันสดใสในมือด้วยความสนใจ ราวกับว่าวิญญาณที่อยู่ในเขตต้องห้ามดวงนั้นเป็นของนางแล้ว
ในเขตต้องห้าม
จอมมารเท้าคางด้วยมือทั้งสองค้าง ขมวดคิ้ว และเงียบงันอยู่เป็นเวลานาน
เจ้าสิงโตน้อยถามด้วยความร้อนใจว่า “เป็นอย่างไรบ้าง สามารถทำลายได้หรือไม่?”
กู้ชูหน่วนส่ายหัวด้วยความท้อใจ
เจ้าสิงโตน้อยเอ่ยขึ้นด้วยความโกรธ “มนุษย์แบบพวกท่านมีความคิดระแวงมากไป ทำค่ายกลบ้าอะไรขึ้นมา ยุ่งยากลำบากจะตายอยู่แล้ว เอ่อ…ข้า…..ข้าไม่ได้ว่าพวกท่านนะ ข้าหมายถึงพวกคนชั่วตระกูลไป๋หลี่กลุ่มนั้น”
หมูปีศาจระดับสามตัวหนึ่งโมโหจนก้าวเท้าไปไม่หยุด วิ่งพุ่งไปข้างในพลางและพูดพลางว่า “หมูอย่างข้าไม่เชื่อหรอกว่าค่ายกลบ้าอะไรนี่จะเก่งกาจขนาดนั้น ดูซิว่าข้าจะทำลายมันยังไง”
“เอ๊ะ……”
กู้ชูหน่วนและคนอื่นๆอยากจะห้ามไว้ก็ไม่ทันแล้ว
หลังจากที่สัตว์อสูรระดับสามเข้าไปในค่ายกลแล้ว ก็ตายอย่างน่าอนาถไปตรงนั้นทันที แม้แต่หัวหมูก็ไม่เห็น เห็นเพียงแค่เลือดแอ่งหนึ่ง
เจ้าสิงโตน้อยกระทืบเท้าอย่างต่อเนื่อง
“หัวหมูสมองหมูจริงๆ ก็ไม่ดูบ้างว่าเป็นสถานที่อย่างไรยังจะกล้าวิ่งพุ่งเข้าไปอีก”
กู้ชูหน่วนกล่าว “ทุกคนใจเย็นๆหน่อย อย่าวู่วาม จะได้ไม่ต้องสละชีวิตโดยไม่จำเป็น อาโม่ เจ้าเข้าใจค่ายกลหมื่นลักษณ์หรือไม่?”
“เหมือนว่าจะเข้าใจเล็กน้อย”
“ดี ข้าเข้าไป เจ้าดูรูปฝีเท้าของข้า หาวิธีการทำลายค่ายกลออกมา”
ทันทีที่เหล่าสัตว์อสูรได้ยิน ต่างพากันกล่าวด้วยความร้อนใจ “ค่ายกลยังไม่ถูกทำลาย จะเข้าไปได้อย่างไร? ท่านคงไม่ได้ร้อนจนเลอะเลือนไปแล้วหรอกนะ”
“ไม่ว่าจะเป็นค่ายกลใดก็ล้วนมีวิธีการทำลายค่ายกล เพียงแต่เจ้าจะสามารถหาตาของค่ายกลเจอหรือไม่เท่านั้น หากว่าไม่เข้าไป ก็จะหาค่ายกลไม่เจอตลอดไป”
“แต่ว่ายังไม่ทันได้เข้าไปก็กลายเป็นขี้เถ้าแล้ว จะเข้าไปได้อย่างไร”
กู้ชูหน่วนไม่ตอบ แค่ให้ซือโม่เฟยทำตามเท่านั้น
จอมมารกล่าว “ต้องการทำลายค่ายกลก็ต้องเข้าไปในค่ายกลก่อน แต่ว่าค่ายกลนี้แบ่งออกเป็นขั้วบวกขั้วลบสองขั้ว ซึ่งเกี่ยวพันกันทุกเส้นทาง เข้าไปคนเดียวไม่มีประโยชน์ นอกจากว่าจะเข้าไปพร้อมกันสองคน กดกลไกให้เคลื่อนไหวพร้อมกัน”
เจ้าเสือน้อยคำรามกล่าว “นายหญิง ข้าจะเข้าไปกับท่าน”
“อาโม่ เจ้ากลัวหรือไม่?”
“ไม่กลัว”
“เช่นนั้นได้ พวกเราเข้าไปด้วยกันเถอะ พวกเราต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปด้วยกัน”
เมื่อจอมมารได้ยินว่าต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กัน จึงฉีกปากยิ้มทันที และพยักหน้าอย่างสุดแรง
กู้ชูหน่วนจูงมือเขา เดินไปข้างหน้าทีละก้าวอย่างระมัดระวัง
ทุกครั้งที่ก้าวเดิน นางก็นับก้าวหนึ่ง ปากพูดขึ้นว่า
“ข้าก้าวไปข้างหน้าสองก้าว เจ้าขยับไปทางซ้ายสองนิ้ว แล้วเดินอีกหนึ่งก้าว”
“ได้” จอมมารทำตามสิ่งที่นางบอกทีละก้าว โดยไม่มีความกลัวแม้สักนิด บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มตั้งแต่เริ่มจนจบ
แต่กู้ชูหน่วนกลับมีสีหน้าจริงจัง ตามองไปทั่วทั้งสี่ทิศ หูสดับรับฟังทุกทาง
“หยุด เท้าซ้ายถอยไปก้าวหนึ่ง เท้าขวาก้าวไปข้างหน้าสองก้าว”
“หยุด ก้าวไปข้างหน้าด้วยเท้าซ้ายและขวา”
ฟื้ด…..
จากที่จอมมารและกู้ชูหน่วนเหยียบย่ำลงไป เหล่าสัตว์อสูรต่างพากันตื่นเต้น ล้วนคิดจะหยุดยั้ง
ก็คือตรงนี้ เมื่อครู่ปีศาจหมูระดับสามก็วิ่งพุ่งเข้าไปอยู่ตรงนี้ และกลายเป็นแอ่งเลือดในพริบตา
ยังดี…
หลังจากที่พวกเขาเหยียบลงไป ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพียงแต่ถ้ำที่อยู่เบื้องหน้าได้เปลี่ยนแปลงไปไม่หยุด ราวกับการเคลื่อนย้ายมวลสารเช่นนั้น พวกเขาดูจนตาลายไปหมด